Eternal Reverence เทพบุตรฟ้าประทาน - ตอนที่ 251
บทที่ 251
ดาบหมาป่าสังหาร
ชื่อของดาบคลั่งค่อนข้างโด่งดังในทวีปยูนิคอร์นตะวันออก
โครงกระดูก 4 ดาวที่สามารถมาถึงระดับนี้ได้เช่นดาบคลั่งนั้นต้องเหลือเชื่ออย่างไม่ต้องสงสัย
การกล่าวว่าเขาเป็นโครงกระดูก 4 ดาวระดับท้าทายสวรรค์ก็ไม่เกินเลยไปนัก
เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าโครงกระดูกดาว 4 ดวงไม่ได้ถือว่าเป็นโครงกระดูกระดับสูงในนิกายเสียด้วยซ้ำ นับประสาอะไรกับทวีปยูนิคอร์นตะวันออก จากศิษย์ระดับทอง 31 คนในนิกายวารีคราม 90% เป็นโครงกระดูกโครงระดับ 5 ดาวส่วนที่เหลือเป็นโครงกระดูก 4 ดาว ซึ่งถือเป็นพวกระดับล่างๆ
แต่ทว่าดาบคลั่งยึดตำแหน่งศิษย์หลักระดับทองอันดับ 1 ในนิกายวารีครามได้อย่างมั่นคง ระดับการรับรู้ของเขาเหนือกว่าเฉินหยวนหูและเซี่ยเฟิง
หากเป็นเพียงความสำเร็จแค่นี้ก็ไม่ถือว่าเป็นอะไร ในการแข่งขันจัดอันดับดาวก่อนหน้านี้ ดาบคลั่งนักดาบมือใหม่ผู้นี้อาศัยความตระหนักรู้และทักษะในการต่อสู้ที่น่าประหลาดใจของเขาเพื่อเอาชนะคู่ต่อสู้ที่มีพื้นฐานแข็งแกร่งกว่าเขาและในที่สุดก็ได้อันดับที่ 105
แน่นอนว่านี่ไม่นับรวมหลี่ฟู่เฉิน
หากโครงกระดูก 4 ดาวของดาบคลั่งถือว่าต่ำ เช่นนั้นแล้วโครงกระดูก 1 ดาวของหลี่ฟู่เฉินก็คงจะถูกมองว่าเป็นขยะ
ด้วยระดับโครงกระดูกเช่นนี้ โดยทั่วไปแล้วจะพบว่ายากที่จะก้าวไปสู่ขอบเขตปฐพีและจะติดอยู่ในฐานะนักสู้ขอบเขตต้นกำเนิดไปตลอดชีวิต
หลี่ฟู่เฉินเป็นเพียงแค่คนไร้ตัวตน แต่เมื่อการแข่งขันการจัดอันดับดดาราเริ่มขึ้น และหากเขาต้องการคว้าอันดับหนึ่ง โครงกระดูกของเขาก็จะถูกเปิดเผย และแน่นอนว่ามันจะทำให้ทั้งทวีปตกใจ
เพราะถ้าโครงกระดูก 1 ดาวสามารถต่อสู้โครงกระดูก 5 ดาวได้ ไม่ใช่สิ่งที่จะนิยามได้ง่ายๆ อย่างคำว่าเป็นโครงกระดูก 1 ดาวระดับท้าทายสวรรค์
บางทีการท้าทายสวรรค์แบบนี้อาจเป็นการท้าทายสวรรค์ที่แท้จริง ซึ่งเกินความหมายของโครงกระดูก
“ดาบคลั่ง หลี่เซียงหรู”
ลู่หยุนมีความประทับใจอย่างมากต่อดาบคลั่ง
ในระหว่างการแข่งขันการจัดอันดับดาราก่อนหน้านี้ เขาได้ต่อสู้กับดาบคลั่งและได้รับชัยชนะอย่างหมดจด เพราะปัจจัยพื้นฐานที่เหนือกว่าของเขา แต่จริงๆ แล้วเขากลับด้อยกว่าในแง่ของการรับรู้และทักษะการต่อสู้
หลังจากผ่านไปหนึ่งปีครึ่ง การฝึกฝนของดาบคลั่งจะต้องได้รับการปรับปรุงอย่างก้าวกระโดด ดังนั้นความสามารถของเขาสมควรจะดีขึ้นกว่าเดิม
“หลี่เซียงหรู” สายตาของหลี่ฟู่เฉินจับจ้องไปที่ดาบคลั่ง
ดาบคลั่ง หลี่เซี่ยงหรู มีนามสกุลเดียวกับเขา
เมื่อตอนที่หลี่ฟู่เฉินเข้าสู่นิกายวารีคราม เขาเคยได้ยินชื่อของหลี่เซียงหรูอยู่บ่อยๆ
มีคนคาดเดากันไว้ว่าถ้าดาบคลั่ง หลี่เซียงหรูมีโครงกระดูกระดับ 5 ดาว ศักยภาพโดยกำเนิดของเขาจะอยู่ที่จุดสุดยอดของทวีปยูนิคอร์นตะวันออกอย่างแน่นอน คงจะมีเพียงไม่กี่คนที่สามารถต่อกรกับเขาได้
น่าเสียดายที่เขาเป็นแค่โครงกระดูก 4 ดาว
แต่แน่นอนว่าเขาประสบความสำเร็จอย่างมากและเป็นอันดับดาราแล้ว
‘ในอดีตที่ผ่านมา มีการกล่าวกันไว้ว่า ดาบคลั่ง ดาบพยัคฆ์ และดาบไร้อารมณ์ทั้งสามคนมีศักยภาพโดยกำเนิดที่คล้ายคลึงกัน แต่เมื่อพลังบ่มเพาะของพวกเขาก้าวหน้าและก้าวหน้าขึ้น พร้อมกับประสบการณ์ที่เพิ่มขึ้น แม้แต่กระทั้งอัจฉริยะที่มีศักยภาพใกล้เคียงกันก็ค่อยๆ ถูกเว้นระยะห่างออกไป ในสามคนนั้น ดาบคลั่ง ความสามารถและศักยภาพของหลี่เซียงหรูนั้นแข็งแกร่งที่สุดอย่างแน่นอน’ หลี่ฟู่เฉินคิดในใจ
ดูจากสภาวะพลังฉีที่ปรากฏขึ้นมาเป็นหลัก หลี่ฟู่เฉินสามารถตัดสินได้ว่าความสามารถของหลี่เซียงหรูนั้นเหนือกว่าเฉินหยวนหูมากนัก
หากศักยภาพโดยกำเนิดเป็นปัจจัยพื้นฐาน ก็คงจะมีปัจจัยอื่นๆ อีกมากมายที่ตัดสินความเร็วของการพัฒนา
บางคนมีการรับรู้ที่ยอดเยี่ยม
บางคนมีบุคลิกแข็งกร้าว
บางคนมีอารมณ์ที่ยืดหยุ่นอ่อนโยน
บางคนก็ดูหนักแน่น
จากความเห็นของหลี่ฟู่เฉิน หลี่เซียงหรูไม่ได้มีเพียงแค่การรับรู้ที่โดดเด่น แต่เขาก็เป็นคนที่หนักแน่และมุ่งมั่นมากๆ ด้วยเช่นกัน นี่คือเหตุผลที่เขาได้รับฉายาว่าดาบคลั่ง
“มันคือหลี่เซียงหรูชิเซียง”
“หลี่ชิเซียงอยู่ที่นี่ หากมีเขาอยู่ ลู่หยุนก็ไม่เหนือกว่าอีกต่อไป”
การมาถึงของดาบคลั่ง ฟื้นฟูกำลังใจผู้คนจากนิกายวารีคราม
หลี่เซียงหรูเป็นตำนานในหมู่ศิษย์นิกายวารีคราม และเขาก็ไม่เคยทำให้พวกเขาผิดหวังตลอดทศวรรษที่ผ่านมา
พวกเขาเชื่อว่าครั้งนี้ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้นเช่นกัน
“มันคือดาบคลั่ง หลี่เซียงหรู นี่จะเป็นการแสดงที่ยอดเยี่ยม”
“หนึ่งในนั้นคืออันดับที่ 72 ของอันดับดารา อีกคนอยู่ในอันดับที่ 105 ของอันดับดารา ผลลัพธ์น่าจะชัดเจนใช่หรือไม่?”
“นั่นอาจไม่เป็นเช่นนั้น หลังจากผ่านไปกว่าหนึ่งปี ย่อมมีอะไรเกิดขึ้นมากมายกับหลี่เซียงหรู หลินเถิง และเฉินหยวนหูที่มีความสามารถในการเป็นอันดับดาราอยู่แล้ว เป็นไปได้ว่าคนอื่นๆ ก็จะยังคงอยู่ในสภาพเดิม”
ผู้ชมทุกคนมีสีหน้าอยากรู้อยากเห็น
ลู่หยุนและหลี่เซียงหรูอาจไม่ได้รับการจัดอันดับสูงนัก แต่ทั้งคู่ก็มีชื่อเสียง การต่อสู้ระหว่างพวกเขาสองคนสมควรเป็นการเปิดหูเปิดตาให้เขา
“เจ้าอยู่ที่นี่”
เช็ดเลือดที่มุมปาก เฉินหยวนหูกล่าวกับหลี่เซียงหรู
แม้ว่าเฉินหยวนหู่จะไม่เต็มใจนัก เขาก็ต้องยอมรับว่าตอนนี้เขาเทียบไม่ได้กับลู่หยุน และทักษะการต่อสู้ของเขาก็ด้อยเกินไป
หลี่เซียงหรูเหลือบมองไปที่เฉินหยวนหูและเซี่ยเฟิง “พวกเจ้าสองคนช่างน่าขายหน้า!”
เซี่ยเฟิงกำหมัดแน่น ท่าทางการพูดของหลี่เซียงหรูดูเอาแต่ใจ แต่เขาไม่สามารถหาคำมาหักล้างได้
เขาอยากเป็นเหมือนดาบคลั่ง ที่หมกหมุ่นอยู่กับเต๋าแห่งดาบ และจดจ่ออยู่กับเต๋าแห่งดาบ นี่คือเหตุผลหลักว่าทำไมเขาถึงไม่ยอมออกมาฝึกสภาวะจิตตัวเอง เพราะเขากลัวว่าเขาจะถูกรบกวนจากเรื่องทางโลก
แต่เมื่อเขามาถึงแคว้นร้อยเทพยุทธ์ เขารู้ตัวว่าตนนั้นคิดผิด
เขาไม่ใช่ดาบคลั่ง หลี่เซียงหรู และเขาก็ไม่สามารถเป็นเหมือนเขาได้ ที่บรรลุความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ได้ด้วยตัวเองและฝึกฝนอย่างขยันขันแข็ง
หลี่เซียงหรูเหมือนจะเกิดมาเพื่อเต๋าแห่งดาบ แม้ว่าเขาจะไม่มีประสบการณ์ในการต่อสู้มากนัก ความตระหนักรู้ และทักษะในการต่อสู้ของเขาก็ยังคงน่าเกรงขามอย่างหาที่เปรียบมิได้
เขาต้องเดินไปตามทางของเขาเอง
ถ้าเขาสามารถเดินบนเส้นทางของตัวเองได้ก่อนหน้านี้ เขาอาจจะแข็งแกร่งกว่าตัวเองในปัจจุบันอย่างแน่นอน อย่างน้อยเขาก็จะไม่อ่อนแอไปกว่าเฉินหยวนหู
ความผิดพลาดเพียงครั้งเดียวทำให้เสียเวลาไปอย่างน้อยหนึ่งปี
ส่ายหัว เซี่ยเฟิงยังคงนิ่งเงียบ
“หลี่เซียงหรูผู้นี้แน่นอนว่าดูไม่เป็นมิตรมากนัก” หลี่ฟู่เฉินหัวเราะ
เขารู้สึกได้ว่าหลี่เซียงหรูไม่ได้มีเจตนาที่จะดูถูกทั้งสองคน เขาระบุข้อเท็จจริงได้อย่างหมดจด
“บางทีอาจมีเพียงคนเช่นนี้เท่านั้น ที่สามารถละทิ้งอารมณ์และมุ่งเน้นไปที่การต่อสู้ของพวกเขาเองได้”
มีอยู่หลายหมื่นเส้นทาง การทำให้ตัวเองสงบเองก็เป็นเส้นทางนึง และการฝึกฝนอย่างขยันขันแข็งเองก็เป็นอีกเส้นทางเช่นกัน ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของตัวเอง
ตึก กึก!
สภาวะพลังฉีของหลี่เซียงหรูดูคล้ายกับกายุแห่งดาบ ซึ่งใกล้เคียงกับสภาวะพลังฉีของลู่หยุน
เมื่อพลังฉีของพวกเขาทั้งสองปะทะกัน มันมีเสียงระเบิดในอากาศเกิดขึ้น
“หลี่เซียงหรู เมื่อครั้งก่อนเจ้าไม่สามารถรับกระบวนท่าของข้าได้สามเสียด้วยซ้ำ เจ้าคิดว่าเจ้าสามารถเอาชนะข้าได้หลังจากผ่านไปแค่ปีกว่าๆ เช่นนั้นหรือ?” ลู่หยุนพยายามที่จะให้ตัวเองได้เปรียบโดยการข่มขู่เขา เขาได้ใช้ข้อเท็จจริงเพื่อจัดการกับขวัญกำลังใจของหลี่เซียงหรู
หลี่เซียงหรูตอบ “มาสู้กันเถอะ!”
เขาไม่ได้เป็นคนที่ชอบถกเถียง จากมุมมองของเขา มันไร้ประโยชน์สำหรับเรื่องไร้สาระทั้งหมดนั้น
ลู่หยุนหยุดไปชั่วขณะนึง ก็ในเมื่อเขาไม่รู้จักนิสัยใจคอของหลี่เซียงหรูมากนัก ซึ่งเขาเองก็เงียบไปในทันที
“หากเจ้าต้องการจะสู้ เช่นนั้นก็ช่างมัน!”
ท่าทางที่ดูสง่างามของลู่หยุนหาย ในขณะที่ดาบของเขาถูกดึงออกมาทีละนิ้วๆ อย่างช้าๆ
“ร้อยดาบสังหาร!”
โดยไม่คาดคิด หลี่เซียงหรูไม่ได้มีความตั้งใจที่จะสร้างเจตจำนงสู้รบของเขา และตวัดดาบของเขาออกไปทันที
อากาศอัดแน่นไปด้วยพลังฉีแห่งดาบเช่นเดียวกับที่หลี่เซียงหรูตวัดดาบจำนวนนับไม้ถ้วนออกไป ดาบทุกดาบมีความแม่นยำเป็นพิเศษ ในขณะที่พวกมันพุ่งโค้งไปมาอย่างน่าทึ่งกลางอากาศ
“ทักษะต่อสู้ที่น่ากลัวอะไรเช่นนี้!” ดวงตาของหลี่ฟู่เฉินสว่างขึ้น
ในแง่ของความตระหนักรู้ด้านการต่อสู้ ไม่มีใครเทียบได้กับเขา แต่มันก็ไม่ใช่กรณีเดียวกันกับทักษะต่อสู้
สองเดือนที่แล้ว หลี่ฟู่เฉินอายุ 20 ปี ในขณะที่หลี่เซียงหรูได้เข้านิกายวารีครามเมื่อตอนที่เขาอายุ 13 และตอนนี้ก็อายุ 26 ในปีนี้
หลังจากการฝึกฝนอย่างพากเพียรมาหลายปี มันก็พิสูจน์แล้วว่าการพัฒนาทักษะต่อสู้ของเขาย่อมไปสู่ระดับที่น่าตกใจ
ขณะที่เขาขมวดคิ้ว ลู่หยุนสูดหายใจเข้าลึกๆ และปล่อยท่าสังหารของเขาออกไปในเวลาเดียวกัน
ในอากาศ เงาดาบทอดยาวไร้ขีดจำกัด กวาดไปมาในอากาศ
ปิส ปิส ปิส ปิส!
ดาบของหลี่เซียงหรูถูกทำให้เป็นกลางทั้งหมด
“ดาบหมาป่าสังหาร!”
หลังจากที่ทำให้ท่าสังหารของหลี่เซียงหรูเป็นกลางแล้ว ลู่หยุนระเบิดท่สังหารแบบที่สองออกมา
ด้วยการใช้ท่าสังหารครั้งนี้ เงาดาบอีกอันก็พุ่งออกมาซึ่งเป็นรูปร่างของหมาป่า
‘ท่าสังหารสองประเภท?’
หลี่ฟู่เฉินเต็มไปด้วยความประหลาดใจ ดูเหมือนว่าอันดับดาราจำนวนมากได้พัฒนาท่าสังหารอย่างน้อยสองหรือสามประเภท
ติดตามได้ก่อนใครที่เพจ indynovels