Eternal Reverence เทพบุตรฟ้าประทาน - ตอนที่ 255
บทที่ 255
คืนสู่รูปลักษณ์ที่แท้จริง
(แอดแปลพลาดไป จื่อหยูเย่ยังไม่เคยเข้าไปในเขตแดนเทพยุทธ์เร้นลับมาก่อน)
“น่าสนใจ”
จื่อหยูเย่จ้องไปที่เงาว่างเปล่าและสัมผัสได้ถึงพลังของมัน
หากเจตจำนงเต๋าต่อสู้มีพลังของเต๋าสวรรค์ มันก็จะเป็นเต๋าต่อสู้ระดับปฐพีได้โดยธรรมชาติ เป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นเจตจำนงเต๋าต่อสู้ระดับสวรรค์
เต๋าต่อสู้ระดับสวรรค์เป็นพลังที่คล้ายกับพระเจ้า
มันไม่จำเป็นต้องเคลื่อนไหวใดๆ ก็กำจัดนักสู้ในขอบเขตหวนคืนต้นกำเนิดได้
“เนื่องจากเขตแดนเทพยุทธ์เร้นลับกำลังจะเปิดขึ้น ข้าก็คงไม่จำเป็นที่จะต้องปลอมตัวอีกต่อไป” หลี่ฟู่เฉินเอื้อมมือมาทาบที่หน้า ฟื้นฟูรูปลักษณ์ที่แท้จริงของเขากลับมา
“บุคคลผู้นี้ปลอมตัวมา?” มีคนสังเกตเห็นพฤติกรรมที่ผิดปกติของหลี่ฟู่เฉินและร้องอุทาน
“มันเป็นเขา?”
มีหลายคนที่จำหลี่ฟู่เฉินได้
ในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา หลี่ฟู่เฉินเป็นที่ต้องการของนิกายสวรรค์ปีศาจ และหลายเมืองก็มีใบประกาศจับของหลี่ฟู่เฉิน
“บุคคลผู้นี้เป็นที่ต้องการของนิกายสวรรค์ปีศาจ และนิกายสวรรค์ปีศาจจะต้องไม่ตัวเขาออกไปอย่างแน่นอน ข้าไม่ได้คาดหวังว่าเขาจะเปิดเผยตัวตนเช่นนี้”
“หากข้าเดาไม่ผิด เขาคงต้องการเป็นศิษย์ส่วนตัวของผู้เชี่ยวชาญเทพยุทธ์เร้นลับ หากมันเกิดขึ้น นิกายสวรรค์ปีศาจก็คงจะไม่กล้าแตะต้องเขาอีกต่อไป”
“ฝันไปเถอะ การเป็นศิษย์ส่วนตัวจะไปง่ายขนาดนั้นได้อย่างไร? หากมันง่ายขนาดนั้น โลกทั้งโลกก็คงจะเต็มไปด้วยศิษย์หลักของผู้เชี่ยวชาญเทพยุทธ์เร้นลับ ข้าคิดว่าเขากำลังหลงระเริงไปกับจินตนาการของตนเอง และเขาก็มีความมั่นใจมากเกินไป ข้าอยากเห็นว่าเขาจะทำอะไรหลังจากที่ล้มเหลวไปแล้ว”
“บางที เขาอาจจะถูกจับโดยผู้เชี่ยวชาญของนิกายสวรรค์ปีศาจ เมื่อตอนที่เขาออกมา” ทุกคนหัวเราะอย่างเย็นชา
“มันคือหลี่ฟู่เฉิน การตายของนายน้อยผู้นั้นเกี่ยวข้องกับเขาอย่างแน่นอน”
มีศิษย์หลักระดับทองจากนิกายสวรรค์ปีศาจอยู่ทีนี่ด้วยเช่นกัน เมื่อพวกเขาได้ยินคำกล่าวของคนเหล่านั้น พวกเขาทั้งหมดมองตามไป
หลี่ฟู่เฉินไม่สนใจสายตาของทุกคน ขณะที่เดินไปหาดาบคลั่ง หลี่เซียงหรูและคนอื่นๆ เขาป้องกำปั้นและทักทาย “ชิเซียงทั้งหลาย ข้าหลี่ฟู่เฉิน”
“ข้าเคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับเจ้า” หลี่เซียงหรูพยักหน้าทักทาย
เฉินหยวนหูเองก็พยักหน้าเช่นกัน “เจ้าทำได้ดีมากเมื่อตอนเขตแดนร้อยสมุนไพรเร้นลับ”
เขาเคยได้ยินเรื่องของหลี่ฟู่เฉินที่รับหน้าที่เป็นผู้นำในเขตแดนร้อยสมุนไพรเร้นลับ ก่อนที่หลี่ฟู่เฉินจะประสบความสำเร็จเช่นนี้ ก็มีเพียงเฉพาะดาบคลั่งหลี่เซียงหรูเท่านั้นที่สามารถทำได้
“เราพบกันอีกครั้งแล้ว” เซี่ยเฟองรู้จักหลี่ฟู่เฉิน
สาเหตุที่เขาตรวจหาไม่พบหลี่ฟู่เฉิน ส่วนใหญ่เป็นเพราะเขาไม่ได้มีเจตนาที่จะทำเช่นนั้น หากเขาตั้งใจที่จะทำ แม้ว่าหลี่ฟู่เฉินจะปลอมตัวมา เขาก็คงจะยังจำเขาได้
“ข้าได้ยินมาว่าเจ้าเอาชนะเสี่ยวไบ๋และหรันเฉียนฉิวได้ เป็นเช่นนั้นหรือ?” เซี่ยเฟิงสอบถาม
เมื่อเขาผ่านเมืองฝนใบไม้ เขาจึงได้รับรู้เกี่ยวกับความสามารถของหลี่ฟู่เฉินในงานเลี้ยงน้ำชาฝนใบไม้ได้โดยไม่ได้ตั้งใจ การเอาชนะอันดับดาราที่มีชื่อเสียง เสี่ยวไบ๋และหรันเฉียนฉิวได้ทำให้เขาประหลาดใจ
“โอ้! เป็นเรื่องจริงหรือไม่?” ดวงตาของเฉินหยวนหูสว่างขึ้น
เสี่ยวไบ๋และหรันเฉียนฉิวไม่ใช่หัวหลักหัวตอ แต่หลี่ฟู่เฉินอยู่ในระดับที่ 5 ของขอบเขตปฐพีกลับสามารถเอาชนะทั้งสองคนได้ ความสามารถนี้เพียงพอที่จะส่งผลต่ออารมณ์ของเขา
“ข้าก็แต่โชคดี” หลี่ฟู่เฉินหัวเราะ
หลี่เซียงหรูสำรวจหลี่ฟู่เฉิน “ถ้ามีโอกาส ไว้ค่อยมาพบกันดีๆ อีกครั้ง”
หากหลี่ฟู่เฉินสามารถเอาชนะเสี่ยวไบ๋และหรันเฉียนฉิวได้ ความสามารถของเขาก็คงจะไม่ด้อยไปกว่าเฉินหยวนหู
ประเด็นที่สำคัญคือหลี่ฟู่เฉินอายุน้อยกว่าเฉินหยวนหู
“แน่นอน” หลี่ฟู่เฉินพยักหน้า
ในขณะนี้เขาไม่จำเป็นต้องเจียมเนื้อเจียมตัวมากเกินไปนัก บางครั้ง การเจียมเนื้อเจียมตัวเกินไปก็จะดูคล้ายกับว่าเขาเป็นคนที่เจ้าเล่ห์และหยิ่งผยอง
“เจ้าไม่ควรเปิดเผยตัวตนของเจ้าในเวลานี้” เฉินหยวนหูขมวดคิ้ว
หลี่ฟู่เฉินกล่าว “หากข้าเป็นศิษย์ส่วนตัวภายใต้ผู้เชี่ยวชาญเทพยุทธ์เร้นลับ นิกายสวรรค์ปีศาจจะยังกล้าแตะต้องข้าอยู่อีกหรือ?”
“โดยธรรมชาติแล้วก็ไม่” เซี่ยเฟิงตอบกลับ “แม้ว่านิกายสวรรค์ปีศาจจะมีสามความกล้าและหนึ่งบ้าบิ่น พวกเขาก็คงจะไม่กล้าทำ ความโกรธเกรี้ยวของผู้เชี่ยวชาญเทพยุทธ์เร้นลับไม่ใช่สิ่งที่นิกายทั่วไปจะทนได้ แต่การเป็นศิษย์ส่วนตัวภายใต้ผู้เชี่ยวชาญเทพยุทธิ์เร้นลับไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่พูด”
เฉินหยวนหู่ขมวดคิ้วและไม่ได้แสดงความคิดเห็น เขารู้สึกว่าหลี่ฟู่เฉินมีความมั่นใจมากเกินไป
เพื่อที่จะเป็นศิษย์ส่วนตัวภายใต้ผู้เชี่ยวชาญเทพยุทธ์เร้นลับ เขาจะต้องผ่านประตูเทพยุทธ์เร้นลับบานที่ห้าเป็นอย่างน้อย
แม้ว่าหลี่ฟู่เฉินจะสามารถเอาชนะเสี่ยวไบ๋และหรันเฉียนฉิวได้ มันก็ยังคงยากอยู่ดีที่จะผ่านประตูเทพยุทธ์เร้นลับบานที่ห้า
มีบางสิ่งที่แม้ว่าเจ้าจะมั่นใจ เจ้าไม่ก็ควรโอ้อวดเกินไป
หลังจากทั้งหมดแล้ว แม้แต่กระทั้งโครงกระดูก 6 ดาวก็ยังไม่กล้าบอกว่าพวกเขาจะสามารถผ่านประตูเทพยุทธ์เร้นลับบานที่ห้าได้อย่างแน่นอน
หากหลี่ฟู่เฉินไม่ใช่ศิษย์หลักของนิกายวารีคราม เฉินหยวนหูก็คงจะเย้ยหยันเขาไปแล้ว
“ไปแจ้งพวกระดับบน บอกพวกเขาว่าหลี่ฟู่เฉินอยู่ที่นี่” ศิษย์หลักระดับทองสองสามคนจากนิกายสวรรค์ปีศาจใช้พลังฉีของพวกเขาเพื่อส่งข้อความ เพียงไม่กี่ลมหายใจ แต่ละคนก็ลงจากภูเขาและมุ่งหน้าไปยังเมืองเมฆเขียว“มันเป็นเขา?” เซี่ยฮัวชือจำหลี่ฟู่เฉินได้
เขาคล้ายกับเซี่ยเฟิง เพราะเขาไม่สนใจการดำรงอยู่ของหลี่ฟู่เฉินมากนัก ไม่เช่นนั้น เขาก็คงพบหลี่ฟู่เฉินไปแล้ว
รูปลักษณ์อาจหลอกลวงผู้คนได้ แต่สภาวะพลังฉีของเขาก็ยังคงเป็นของจริง ถึงยังไงเขาก็คือขอบเขตปฐพี มีเพียงไม่กี่คนที่สามารถปกปิดการคงอยู่ของพวกเขาได้
“ข้าสงสัยว่าเขาผ่านด่านที่ห้าของเขตแดนเส้นทางดวงดาวไปได้หรือไม่”
นี่เป็นสิ่งที่เซี่ยฮัวชือกังวลมาก
หากหลี่ฟู่เฉินผ่านด่านที่ห้าไปได้จริงๆ เขาก็คงต้องสังหารหลี่ฟู่เฉินด้วยทุกอย่างที่เขามี
“หากมีโอกาส ข้าต้องกำจัดเขา ข้าสมควรจะมีพลังแห่งโชคเพิ่มขึ้นหลังจากที่ข้าสังหารเขาได้”
เซี่ยฮัวชือกลอกตาและซ่อนเจตนาสังหารของเขาลงไป
ฮังเฟิงเป็นอีกคนที่จำหลี่ฟู่เฉินได้ ซึ่งตอนนี้เขามีสีหน้าที่ซีดเซียว
เมื่อเทียบกับเซี่ยฮัวชือ เขาถูกหลี่ฟู่เฉินหยอกล้อได้อย่างสมบูรณ์ในเขตแดนเส้นทางดวงดาว
“ฮึ่ม ข้าไม่คิดเคลื่อนไหวด้วยตัวเองแน่ ศิษย์หลักของนิกายสวรรค์ปีศาจได้ไปแจ้งใครบางคนแล้ว”
เมื่อหลี่ฟู่เฉินกลับมาใช้รูปลักษณ์ที่แท้จริงของเขาแล้ว มันก็ทำให้เกิดความปั่นป่วนบนยอดเขาไม่น้อย
แต่ในไม่ช้า ความตื่นเต้นก็ลดลง ก็ในเมื่อความสนใจของทุกคนกลับมาที่ประตูห้องโถงของพระราชวังอีกครั้ง
“ไป เข้าไป”
บรรดาผู้ที่มีคุณสมบัติในการเข้าสู่เขตแดนเทพยุทธ์เร้นลับทั้งหมดได้เข้าไปในประตูโถงพระราชวังทีละประตู
ในพริบตา ก็มีเพียงไม่กี่เท่านั้นที่เหลืออยู่บนยอดเขา
คนทั้งหมดนี้เป็นคนที่สูญเสียคุณสมบัติ
“เฮ้อ ช่างน่าเสียดาย ทำไมเราถึงมีโอกาสอีกไม่ได้? ตราบเท่าที่ข้าสามารถผ่านประตูเทพยุทธ์เร้นลับบานแรกได้ ข้าก็คงมีความหวังที่จะได้เป็นศิษย์ในสายภายใต้ผู้เชี่ยวชาญเทพยุทธ์เร้นลับ นี่คือสถานะที่น่ากลัวยิ่งกว่าสถานะของผู้อาวุโสสูงสุด”
“ตอนนั้นข้ารีบมากเกินไป ข้าต้องการแข็งแกร่งให้เร็วขึ้นและสุดท้ายก็ลงเอยเช่นนี้”
มองคนอื่นๆ ที่เข้าประตูวังไปอย่างไม่สามารถทำอะไรได้ ทุกคนที่ถูกทิ้งต่างก็สำนึกผิด หากเงาที่ว่างเปล่าไม่ได้ยืนเฝ้า พวกเขาอาจต้องพยายามลองดู
แน่นอนว่านี่เป็นเพียงความตั้งใจของพวกเขา แม้จะไม่มีเงาที่ว่างเปล่ายืนเฝ้าอยู่ พวกเขาไม่กล้าเข้าไปจริงๆ อยู่ดี
พวกเขาเป็นเพียงนักสู้ขอบเขตปฐพีแต่เพียงเท่านั้น
***
หลังจากเข้าประตูวังแล้ว ทุกคนเดินทางไปตามทางยาว
เส้นทางนี้ดูเหมือนจะมีไว้สำหรับยักษ์ เนื่องจากมันกว้างกว่าหลายร้อยเมตรและยาวมากกว่าหนึ่งร้อยไมล์
ทุกๆ ส่วนของระยะทางบนเส้นทาง จะมีประตูหินซึ่งดูเหมือนว่าจะสามารถให้คนมากกว่าร้อยคนผ่านไปได้ในเวลาเดียวกันตั้งอยู่ มีทั้งหมดแปดประตู
“ดังนั้น นั้นก็คือประตูเทพยุทธ์เร้นลับทั้งแปดบาน?”
หลี่ฟู่เฉินตรวจสอบประตูหินแปดประตูและภูเขาทั้งสองด้านของเส้นทาง
เส้นทางนี้วิ่งผ่านเทือกเขาและในบรรดาภูเขาเหล่านี้มียอดเขาหลักแปดยอด
ยอดเขาหลักทุกแห่งมีที่พำนัก
หกที่พำนักที่ใกล้กับผู้ที่เข้ามาทำการทดสอบมากที่สุด มีหกคนในที่ๆ แตกต่างกันลืมตา
“สามเดือนผ่านไปแล้ว ข้าสงสัยว่าครั้งนี้จะมีต้นกล้าที่ดีหรือไม่” ชายชราผมหงอกผู้ที่มีดวงตาลึกล้ำพึมพำ และหลับตาลงไม่นานหลังจากนั้น
“ครั้งก่อน เหลาสือรับศิษย์ส่วนตัวที่มีความสามารถมากมา ข้าหวังว่าจะมีคนที่ตรงตามความคาดหวังของข้ามาบ้าง” ชายผู้มีนัยน์ตาคล้ายผลอินทผลัมหัวเราะเบาๆ และค่อนข้างสนใจ
(หมายเหตุ TL: เหลาสือหมายถึง ผู้เฒ่าอันดับสี่ ซึ่งอยู่ในอันดับที่สี่)
สาวงามวัยกลางคนที่ดูสง่างามกล่าว “ข้าจะรับเฉพาะศิษย์ที่เป็นผู้หญิงเท่านั้น ข้าสงสัยว่าจะมีศิษย์ผู้หญิงคนใดที่จะทำให้ตาของข้าเบิกกว้างขั้นได้”
บุคคลทั้งหกนี้มักรับลูกศิษย์เป็นประจำ บางคนก็เป็นศิษย์ในสาย ในขณะที่มีศิษย์ส่วนตัวด้วยเช่นกัน
แน่นอนว่ามีศิษย์ส่วนตัวเพียงไม่กี่คนเท่านั้น เว้นเสียแต่จะมีนักสู้ที่ผ่านประตูเทพยุทธ์เร้นลับบานที่ห้าอยู่ด้วย โดยทั่วไปแล้วพวกเขาจะไม่รับพวกเขาในฐานะศิษย์ส่วนตัว เว้นแต่บุคคลผู้นั้นจะมีความพิเศษมากหรือมีคุณลักษณะบางอย่างที่ผิดปกติ
แต่ถ้าใครสักคนสามารถผ่านประตูเทพยุทธ์เร้นลับบานที่หกได้ แน่นอนว่าพวกเขาจะรับบุคคลผู้นั้นมาเป็นศิษย์ส่วนตัว
คนที่สามารถผ่านประตูเทพยุทธ์เร้นลับบานที่หกได้มีน้อยเกินไป มันคงจะน่าเสียดายที่จะพลาดพวกเขาไป
ติดตามก่อนใครได้ที่เพจ indynovels