Eternal Reverence เทพบุตรฟ้าประทาน - ตอนที่ 259
บทที่ 259
นิกายปีศาจสวรรค์ที่ไม่ยอมแพ้
‘มันสมควรเป็นการทดสอบทักษะต่อสู้!’
ขณะที่หลี่ฟู่เฉินคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาชักดาบทองดำและแสดงทักษดาบเพลิงปีศาจออกมา
แต่ก็ไม่มีคำตอบใดๆ
‘ทักษะต่อสู้ของข้ายังไม่ลึกซึ้งพอหรือ?’
หลี่ฟู่เฉินแสดงท่าสังหารของเขาออกมา แต่ก็ยังไม่มีการตอบสนองใดๆ
‘ทำไมไม่ดึงสายฟ้าฟาดลงมาสักที’ หลี่ฟู่เฉินฟาดดาบของเขาเข้าหาสายฟ้าอันหนึ่ง
บึม!
หลังจากตวัดดาบไปหาสายฟ้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว มันก็พุ่งเข้าใส่หลี่ฟู่เฉินทันที
แก่นแท้ของทักษะต่อสู้ปรากฏขึ้นในความคิดของหลี่ฟู่เฉิน
“ได้ผล”
หลี่ฟู่เฉินลืมตาขึ้นมาอย่างค่อนข้างประหลาดใจ
สายฟ้านี้มีแก่นแท้ของทักษะต่อสู้
‘สร้างท่าเคลื่อนไหวตามสาระสำคัญของทักษะต่อสู้?’
หลี่ฟู่เฉินสันนิษฐานไปในลักษณะนี้
ลงมือทำทันทีที่เขาคิดถึงเรื่องนี้ หลี่ฟู่เฉินเริ่มศึกษาแก่นแท้ของทักษะต่อสู้เหล่านี้
แก่นแท้ขอทักษะต่อสู้ภายในสายฟ้านี้เป็นแก่นแท้ของทักษะลูกเตะ หลังจากได้รับแก่นแท้ของทักษะลูกเตะนี้แล้ว หลี่ฟู่เฉินรู้สึกได้ว่าระดับทักษะลูกเตะของเขาเพิ่มขึ้นไม่น้อย
มันเกือบจะใกล้เคียงกับระดับของทักษะดาบ
‘มันควรจะเป็นแก่นแท้ของทักษะลูกเตะชั้นสูงทีเดียว’
หลี่ฟู่เฉินรู้สึกว่ามันค่อนข้างเป็นประโยชน์ที่จะอยู่ที่นี่ต่อไปอีกหน่อย
การได้รับแก่นแท้ทักษะเท้านั้นแตกต่างจากการฝึกฝนวิชาทักษะลูกเตะด้วยตัวเอง ก็ในมันเป็นการอัดข้อมูลเข้าสู่จิตใจโดยตรง กับอย่างหลังที่มันต้องค่อยฝึกฝนขึ้นมาอย่างช้าๆ
หลังจากศึกษาเรื่องนี้สักครู่หลี่ฟู่เฉินก็เริ่มสร้างทักษะลูกเตะเป็นของตัวเอง
บูม!
เสียงระเบิดพลังฉีสะท้อนออกมาด้วยการเตะเพียงครั้งเดียว
บูม บูม บูม บูม…
ราวกับเสียงของฟ้าร้อง หลี่ฟู่เฉินทำการเตะหลายร้อยครั้งและการเตะแต่ละครั้งเป็นก็สร้างแรงกดดันได้มากกว่าการเตะครั้งก่อน การเตะแต่ละครั้งมีความประณีตมากขึ้นขณะที่เขาดำเนินการเตะต่อไป ในที่สุดลูกเตะนี้ก็ไม่แพ้ทักษะลูกเตะระดับลึกลับขั้นต่ำ ขณะที่เขาเริ่มสร้างเจตจำนงทักษะลูกเตะต่อ
แต่ก็ยังไม่มีการตอบสนองใดๆ
หลี่ฟู่เฉินไม่ได้รู้สึกท้อแท้และยังคงศึกษาต่อไป
หลังจากช่วงเวลาที่ผ่านไปนานเท่าใดก็ไม่อาจทราบ ในที่สุดลูกเตะของหลี่ฟู่เฉินก็เกิดฟ้าผ่าและความเร็วในการเตะของเขาก็รวดเร็วปานสายฟ้าฟาด มันรวดเร็วและคาดเดาไม่ได้อย่างน่าเหลือเชื่อ หากเขาต้องต่อสู้กับอัจฉริยะทั่วไป พวกเขาจะไม่สามารถมองเห็นวิถีของการเตะได้และจะเห็นเพียงแค่แสงวาบของสายฟ้า
หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมงสายฟ้าก็แลบออกมาจากการเตะของหลี่ฟู่เฉินซึ่งสอดคล้องกับฟ้าแลบบนท้องฟ้า
ในเวลาเดียวกันประตูสายฟ้าก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าหลี่ฟู่เฉิน
‘อย่างที่คาดไว้ ตราบใดที่ข้าสร้าทักษะต่อสู้ระดับลึกลับขั้นกลางตามแก่นแท้ของทักษะต่อสู้ได้ ข้าก็จะสามารถออกจากพื้นที่แห่งสายฟ้านี้ได้’
‘ข้าสงสัยว่าข้าจะดูดซับสายฟ้าได้มากกว่านี้หรือเปล่า’
หลี่ฟู่เฉินฟันดาบของเขาเข้าหาสายฟ้าอีกครั้ง แต่คราวนี้ ไม่มีการตอบสนองใดๆ
‘ดูเหมือนว่าทุกคนจะสามารถดูดซับสายฟ้าได้เพียงครั้งเดียว เราไม่ควรโลภ’
เมื่อคิดได้เช่นนั้น หลี่ฟู่เฉินก็ก้าวเข้าไปในประตูสายฟ้า
“การรับรู้ของเด็กคนนี้ยอดเยี่ยมมาก ข้าจะเอาตัวเขามาเอง” ผู้เฒ่าผมขาวกล่าว
โดยที่รู้สึกไม่เต็มใจ ชายผู้มีดวงตาอินทผลัมกล่าว “พี่สอง ท่านให้เขากับข้าได้ไหม?”
ผู้เฒ่าผมขาวหัวเราะและตอบว่า “เหลาซาน เจ้ามีศิษย์ส่วนตัวอยู่แล้ว เจ้าจำแย่งจากข้าไปทำไม?”
(หมายเหตุ TL: เหลาซาน หมายถึง ผู้เฒ่าที่สาม)
ชายผู้มีดวงตาผลอินทผลัมกล่าวว่า “อย่างมากที่สุดข้าจะแลกเปลี่ยนศิษย์ส่วนตัวของข้ากับท่าน”
ผู้อาวุโสผมขาวกล่าว “เจ้าคิดว่าข้าโง่? ข้าไม่ได้สนใจในตัวศิษย์ส่วนตัวของเจ้าเลย”
“พี่สอง ถ้าเขาเลือกข้า ท่านก็ไม่ควรสร้างปัญหาใด ตกลงหรือไม่” ชายผู้มีดวงตาผลอินทผลัมกล่าวตอบ
ผู้เฒ่าผมขาวโต้กลับ “สร้างปัญหาเจ้าหมายถึงอะไร? แต่เจ้าสบายใจได้ หากเขาเลือกเจ้าแม้ว่าเขาจะรู้เกี่ยวกับข้อมูลของเราแล้วก็ตาม ข้าก็จะไม่ฉกฉวยเขาไปจากเจ้า” เขาสันนิษฐานว่าความเป็นไปได้ดังกล่าวแทบจะไม่มี ใครเลือกผู้เชี่ยวชาญเทพยุทธ์เร้นลับอันดับ 3 และละทิ้งผู้เชี่ยวชาญเทพยุทธ์เร้นลับอันดับ 2 ไปได้? เว้นแต่เขาจะเป็นคนโง่ที่ปัญญาอ่อนด้อยปัญญา
“พวกเจ้าทุกคนหยุดเถียงกัน สำหรับเขา ข้าจะรับเขาไปเอง” ชายที่โดดเด่นกล่าว
“พี่ใหญ่ เขาเป็นไปตามที่ท่านคาดหวัง?” ผู้เฒ่าผมขาวค่อนข้างไม่สงบ
ชายที่โดดเด่นคือผู้เชี่ยวชาญเทพยุทธ์เร้นลับอันดับ 1 และเขาก็ยังเป็นพี่ใหญ่ของทุกคนอีกด้วย
อันที่จริง พวกเขาไม่ได้สาบานเป็นพี่น้องกัน และพวกเขาก็ไม่เกี่ยวข้องกันทางสายเลือดด้วย แต่พวกเขาพูดถึงกันและกันในฐานะพี่น้องเพราะทุกคนที่นี่เป็นผู้เชี่ยวชาญเทพยุทธ์เร้นลับ
ในความเป็นจริง ผู้เฒ่าผมขาวคนนี้อายุยังไม่มากแต่เขาก็ดูแก่แล้ว แน่นอนว่าอายุของเขาแก่กว่าผู้ชายที่โดดเด่น แต่ชายที่โดดเด่นคนนี้แข็งแกร่งกว่าเขาในด้านความสามารถ ดังนั้นเขาจึงสามารถอยู่ได้แค่ในอันดับที่สองเท่านั้น
ชายที่โดดเด่นกล่าว “ข้ามีศิษย์ในสายอยู่บ้าง แต่มีเพียงเขาเท่านั้นที่มีคุณสมบัติพอที่จะเป็นศิษย์ส่วนตัวของข้า ข้าจะพลาดโอกาสนี้ไปได้อย่างไร?”
เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญเทพยุทธ์เร้นลับอันดับ 1 และการยอมรับศิษย์ส่วนตัวนั้นยากเกินไป
ไม่ใช่ว่าเขาไม่ต้องการยอมรับใดๆ แต่คนเหล่านั้นขาดอะไรบางอย่างไป
หลังจากทั้งหมดแล้วการสร้างศิษย์ส่วนตัวที่น่าเกรงขามนั้นค่อนข้างเป็นประโยชน์สำหรับพวกเขา
ยกเว้นเขาและน้องสอง คนอื่นๆ ต่างก็มีศิษย์ส่วนตัวของตัวเองอยู่แล้ว
ผู้อาวุโสผมขาวกล่าวอย่างหมดหนทาง “ข้าคิดว่าในที่สุดข้าก็จะได้ศิษย์ส่วนตัว เฮ้อ…”
เหลาซานไม่ได้โต้เถียงกับเขาและเห็นด้วย เขาไม่มีทางสู้กับพี่ใหญ่ได้ เว้นแต่หลี่ฟู่เฉินจะเป็นคนโง่จริงๆ
“น้องสอง รออีกสักครู่ แน่นอนว่าเจ้าสามารถหาศิษย์ส่วนตัวได้ก่อนการแข่งขันการจัดอันดับดารา ตามการคำนวณของข้า คนรุ่นนี้น่าจะเป็นรุ่งที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่การหายตัวไปของผู้เชี่ยวชาญที่น่าเกรงขามทั้งหมด เจ้ายังมีโอกาสที่ดีในการรับศิษย์ส่วนตัว” ชายที่โดดเด่นพยายามปลอบโยนน้องสองของเขา
ผู้เฒ่าผมขาวพยักหน้า “ข้าก็หวังไว้เช่นนั้น!”
เขารู้สึกได้เช่นกันว่าคนรุ่นนี้ค่อนข้างพิเศษ ไม่เช่นนั้นแล้ว พวกเขาก็คงจะไม่มาปรากฏตัวที่นี่
***
นอกเขตแดนเทพยุทธ์เร้นลับ
“เขาผ่านประตูเทพยุทธ์เร้นลับบานที่ห้า!”
“หลังจากผ่านประตูเทพยุทธ์เร้นลับบานที่ห้าแล้ว ก็มีโอกาสอย่างน้อย 90% ที่จะเป็นศิษย์ส่วนตัวภายใต้ผู้เชี่ยวชาญเทพยุทธ์เร้นลับ ซี๊ด!”
ทุกคนต่างก็หวาดกลัว ในขณะที่ศิษย์หลักระดับทองของนิกายสวรรค์ปีศาจการแสดงออกที่ดูซีดเซียว
หลี่ฟู่เฉินที่ได้รับการยอมรับให้เป็นศิษย์ส่วนตัวภายใต้ผู้เชี่ยวชาญเทพยุทธ์เร้นลับนั้นก็เป็นคนที่มีเบื้องหลังเรียบร้อยแล้ว นิกายสวรรค์ปีศาจของพวกเขาจะไม่สามารถจัดการกับหลี่ฟู่เฉินได้ในอนาคต เว้นแต่จะมีคนในกลุ่มรุ่นหลังของพวกเขาเท่านั้นที่สามารถฆ่าหลี่ฟู่เฉินได้
ผู้เชี่ยวชาญเทพยุทธ์เคยกล่าวไว้ว่าพวกเขาจะไม่เข้าไปยุ่งหากเป็นการต่อสู้ภายในคนรุ่นเดียวกัน พวกเขาห้ามไม่ให้ผู้อาวุโสเข้าไปเกี่ยวข้องเท่านั้น
ไม่ควรมีใครคิดว่าพวกเขาสามารถปกปิดมันจากผู้เชี่ยวชาญเทพยุทธ์เร้นลับได้
บางทีผู้เชี่ยวชาญเทพยุทธ์เร้นลับอาจพบว่าเป็นการยากที่จะตรวจสอบความจริง แต่เงาที่ว่างเปล่าซึ่งปกป้องเขตแดนเทพยุทธ์เร้นลับอยู่สามารถทำได้
มีข่าวลือว่าเงาที่ว่างเปล่าซึ่งปกป้องเขตแดนเทพยุทธ์เร้นลับนี้เป็นวิญญาณของเขตแดนเร้นลับและมีพลังลึกลับที่ทรงพลัง หากผู้เชี่ยวชาญเทพยุทธ์เร้นลับจ่ายราคาออกไป พวกเขาก็จะสามารถให้วิญญาณของเขตแดนเทพยุทธ์เร้นลับสืบหาความจริงให้ได้
ไม่เช่นนั้นแล้ว ผู้ร้ายที่สังหารศิษย์ส่วนตัวภายใต้ผู้เชี่ยวชาญเทพยุทธ์จะถูกเปิดเผยอย่างรวดเร็วได้อย่างไร?
หากให้สรุปจริงๆ ทวีปยูนิคอร์นตะวันออกมีขนาดใหญ่มากและมีผู้เชี่ยวชาญมากมาย ใครจะไปรู้ว่าใครคือผู้ร้าย? หากไม่ใช่คนที่มีพลังมากๆ
ฟึบ ฟึบ ฟึบ ฟึบ
ร่างสองสามร่างปรากฏตัวขึ้นมาเหนือท้องฟ้า และพวกเขาทั้งหมดก็เป็นนักสู้ขอบเขตสวรรค์
“เจ้าแน่ใจหรือว่าเขาอยู่ในเขตแดนเทพยุทธ์เร้นลับ?” หนึ่งในนักสู้ขอบเขตสวรรค์ได้ถามศิษย์หลักระดับทองของนิกายสวรรค์ปีศาจ
ศิษย์หลักระดับทองจากนิกายสวรรค์ปีศาจตอบเขาด้วยสีหน้าที่เจ็บปวด “ผู้อาวุโส เขาได้ผ่านประตูเทพยุทธ์เร้นลับบานที่ห้าไปแล้ว ข้าเกรงว่าเขาอาจจะกลายเป็นศิษย์ส่วนตัวของผู้เชี่ยวชาญเทพยุทธ์เร้นลับไปแล้ว”
“อะไรนะ? เขาผ่านประตูเทพยุทธ์เร้นลับบานที่ห้า?”
นักสู้ขอบเขตสวรรค์เหล่านี้ล้วนเป็นผู้อาวุโสของนิกายสวรรค์ปีศาจและหลังจากได้ยินข้อมูลนี้ พวกเขาทั้งหมดตกตะลึง
พวกเขารู้ดีว่าศักยภาพโดยกำเนิดของหลี่ฟู่เฉินนั้นสูงมาก แต่พวกเขาไม่ได้คาดคิดว่ามันจะอยู่ในระดับนี้
เป็นความจริงที่ทราบกันดีว่าผู้ที่ผ่านประตูเทพยุทธ์เร้นลับบานที่ห้าได้ล้วนแล้วแต่เป็นอัจฉริยะชั้นยอดของทวีป และล้วนเป็นโครงกระดูกระดับ 6 ดาวหรือเป็นโครงกระดูก 5 ดาวระดับท้าทายสวรรค์ แต่ทว่าหลี่ฟู่เฉินเป็นเพียงแค่โครงกระดูก 1 ดาวเท่านั้น
“เวรเอ้ย ทำไมเขาถึงมีศักยภาพที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้”
“เราไม่สามารถยุติเรื่องเช่นนี้ได้ เจ้านิกายกล่าวว่าให้จับหลี่ฟู่เฉินเดินไม่ต้องคำนึงถึงค่าตอบแทน”
“ถูกแล้ว จับเขา ผู้เชี่ยวชาญเทพยุทธ์เร้นลับไม่สามารถออกจากเขตแดนเทพยุทธ์เร้นลับได้ตามต้องการ ทุกครั้งที่ออกมา พวกเขาจะต้องจ่ายราคามหาศาล เราแค่จับเขาไว้ เราจะให้เจ้านิกายเป็นผู้ตัดสินใจขั้นสุดท้ายหลังจากที่เรานำเขากลับไป”
คนเหล่านี้ไม่ต้องการกลับมือเปล่า ในความเห็นของพวกเขา ตราบใดที่พวกเขาไม่ฆ่าหลี่ฟู่เฉิน ก็ไม่ควรมีปัญหาใดๆ
พวกเขาไม่มีทางที่จะเข้าใจได้ว่าเจ้านิกายกำลังจะทำอะไร
เขาอาจปล่อยหลี่ฟู่เฉินไป หรือเขาอาจฆ่าหลี่ฟู่เฉินเนื่องจากความโกรธ
พวกเขาต้องทำในสิ่งที่จำเป็นสำหรับพวกเขาเท่านั้น