Eternal Reverence เทพบุตรฟ้าประทาน - ตอนที่ 261
บทที่ 261
จิตวิญญาณที่ท้าทายสวรรค์
“เด็กคนนี้ไม่เลว” ผู้อาวุโสผมขาวมีความสนใจต่อจื่อหยูเย่
“เขาค่อนข้างดี” ชายผู้โดดเด่นพยักหน้า
“ท่านจะไม่ฉกฉวยไปจากข้าอีกใช่หรือไม่!?” ผู้อาวุโสผมขาวถามด้วยน้ำเสียงที่กระวนกระวาย
ชายผู้โดดเด่นตอบว่า “ไม่ต้องกังวล ข้าจะไม่ฉกฉวยเขาไปจากเจ้า เขายังคงห่างจากมาตรฐานของข้า”
“นั้นก็จริง” ผู้เฒ่าผมขาวพยักหน้า ในความเป็นจริง จื่อหยูเย่ยังคงห่างจากมาตรฐานของเขาเล็กน้อย และแทบจะไม่มีคุณสมบัติเป็นศิษย์ส่วนตัวของเขา แต่เงื่อนไขเบื้องต้นคือการที่เขาสามารถผ่านประตูเทพยุทธ์เร้นลับบานที่หกได้ ไม่เช่นนั้นแล้ว การพูดคุยทั้งหมดนี่ก็จะเปล่าประโยชน์
สาวงามวัยกลางคนกล่าว “ประตูเทพยุทธ์เร้นลับบานที่หกต้องรักษาความมุ่งมั่นได้โดยไม่สลายไปชั่วระยะเวลาหนึ่ง ตราบเท่าที่พวกเขาสามารถทนได้ในช่วงเวลานี้ พวกเขาก็จะผ่านได้ ข้าสงสัยว่าสองคนนี้จะผ่านไปได้จริงๆ หรือ”
อาจมีโอกาสเพียงเล็กน้อยเท่านั้นที่หลี่ฟู่เฉินจะมาเป็นศิษย์ส่วนตัวของเธอ แต่ผู้เชี่ยวชาญเทพยุทธ์เร้นลับต่างก็อัจฉริยะกันทุกคน
“หากอยู่ในอดีตพวกเขาอาจจะทำได้ แต่หลังจากผ่านมานานข้าก็เริ่มไม่แน่ใจ” ผู้เชี่ยวชาญเทพยุทธ์เร้นลับอีกคนหนึ่งที่มีผมหงอกวิเคราะห์
เมื่อเวลาผ่านไปอย่างช้าๆ เจตจำนงของพวกเขาทั้งสองได้รับการดูแลและยังคงไม่สลายไป
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านของหลี่ฟู่เฉิน ซึ่งไม่กระจัดกระจายและในทางกลับกัน มันกลับเริ่มกลั่นตัวแทน
“จิตวิญญาณที่น่ากลัวอะไรเช่นนี้!” ผู้เฒ่าผมขาวเคลื่อนไหว
มันเป็นเรื่องยากมากแล้วสำหรับการรักษาความมุ่งมั่นของคนๆ หนึ่งไว้ในคมวายุ และมันก็ไม่ควรมีพลังงานเหลืออีกสำหรับการรวมพลังใจของคนผู้หนึ่ง อย่างน้อยที่สุดมันก็ต้องไม่ใช่การทำทั้งสองอย่างไปพร้อมกันเช่นนี้
แต่หลี่ฟู่เฉินกลับทำได้จริงๆ
นั่นหมายความว่าเขายังมี ‘พลังงานเหลืออยู่’
จิตวิญญาณที่มุ่งมั่นของเขามีพลังเพิ่มมากขึ้น และดูเหมือนว่าคมวายุจะเริ่มสงบลง
“เขาพยายามจะฟื้นพลังด้วยตัวเอง?”
ผู้เชี่ยวชาญเทพยุทธ์เร้นลับตกใจ
ชายผู้โดดเด่นกำลังจ้องมองไปยังหลี่ฟู่เฉินที่อยู่ภายในพื้นที่คมวายุอย่างหวงแหน
การอดทนไปตามเวลาที่กำหนดและการฟื้นพลังด้วยตัวเองเป็นสองแนวคิดที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
มันเหมือนกับเวลาที่อยู่ในพื้นที่เปลวเพลิง ความสามารถในการสร้างพลังระเบิดระดับมังกรในตำนานและระดับมังกรธรรมดานั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ไม่ เมื่อเทียบกับสิ่งนี้ ความแตกต่างมากกว่าสิบเท่า
จิตวิญญาณมุ่งมั่นของคนๆ หนึ่งอาจถูกทำให้สงบอารมณ์ลงได้ แต่มันไม่มีวิธีใดที่จะทำให้วิญญาณดั่งเดิมของพวกเขาสงบลงได้อย่างสมบรูณ์ อย่างน้อยในผู้เชี่ยวชาญเทพยุทธ์เร้นลับเองก็ไม่มีใครทำได้
เราสามารถพึ่งพาได้แต่ตัวเองเท่านั้น
เราสามารถกำหนดมันได้จากโชคชะตาแต่เพียงเท่านั้น
“พี่ใหญ่ ท่านให้เขากับข้าได้” ผู้อาวุโสผมขาวถูกล่อลวงสุดๆ
การให้คำปรึกษาลูกศิษย์ส่วนตัวเช่นนี้เป็นสิ่งที่จะให้ความรู้สึกถึงความสำเร็จและการบรรลุเป้าหมาย
“ในฝันเจ้าเถอะ” ชายผู้โดดเด่นตอบ
ยึดจากจุดเล็กๆ เป็นศูนย์กลาง ลมในระยะไกลนับจากจุดหยุดลง
ใช่แล้ว ลมหยุดลงแล้ว
มันไม่สามารถผลิตคมวายุได้อีกต่อไป
จุดแห่งความกระจ่างใสกำลังเบ่งบาน
“เด็กคนนี้กำลังเดินไปในเส้นทางที่ท้าทายสวรรค์หรือไม่?” สาวงามวัยกลางคนบ่นพึมพำ
“เขาไม่ใช่ว่ากำลังท้าทายสวรรค์อยู่แล้วหรอกหรือ?” ชายร่างสูงและแข็งแกร็งมีความเศร้าเกิดขึ้นในใจ
“เมื่อเทียบกับเขาแล้ว ศิษย์ส่วนตัวที่ข้ายอมรับก่อนหน้านี้ช่างดูอ่อนแอมากเกินไปจริงๆ” ชายชราผมหงอกส่ายหัว
เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญเทพยุทธ์เร้นลับอันดับ 4 และดูมีอายุมาก เขาเป็นคนที่ยอมรับเซี่ยฮัวชือจากตระกูลต้วนหลินเป็นศิษย์ส่วนตัวของเขา
ในอีกด้านหนึ่ง วิญญาณดั่งเดิมของจื่อหยูเย่เข้มข้นมากและไม่มีทีท่าว่าจะสลายไป แต่ก็ไม่มีสัญญาณของการกลั่นตัวเช่นกัน
เขาช่างดูพากเพียร
ในฐานะที่เป็นยอดนักสู้ที่เป็นอัจฉริยะเต๋าแห่งดาบในทวีปยูนิคอร์นตะวันออก เขาสาบานว่าจะขึ้นไปสู่จุดสูงสุดของเต๋าแห่งดาบ และกลายเป็นราชาแห่งดาบ
ฮอง ฮอง ฮอง!
ลมพุ่งวนไปมา ตัดความมุ่งมั่นของเขาอย่างรุนแรง
เขารู้สึกราวกับว่าเขาจะไม่สามารถอดทนได้อีกต่อไป แต่เขาไม่ต้องการที่จะยอมจำนน
เป้าหมายของเขาคือการเป็นศิษย์ส่วนตัวของผู้เชี่ยวชาญเทพยุทธ์เร้นลับอันดับ 1 หรือ 2 และบรรลุในสิ่งที่ไม่มีใครสามารถทำได้
นี่คือภารกิจของเขา
“อดทน”
วิญญาณดั่งเดิมที่สลายไปเล็กน้อยก็เหมือนกับเปลวเทียนที่พยายามอย่างเต็มที่ที่จะยืดหยัดให้ได้อย่างมั่นคง
***
“ข้าจะสู้กับชะตากรรมของฉันด้วยชีวิตของข้า! ควบแน่น!”
รัศมีสว่างไสวไปทั่วทุกทิศทาง ทันใดนั้นเสียงของหลี่ฟู่เฉินก็ดังขึ้น
ในช่วงเวลาถัดไป นับจากจุดที่กระจ่างใสเป็นแกนกลาง ร่างกายที่แตกสลายเริ่มฟื้นคืนกลับมา
หลังจากใช้ความพยายามเล็กน้อย ร่างกายที่สมบูรณ์ก็ถูกสร้างขึ้น
ลืมตาขึ้น หลี่ฟู่เฉินมองเห็นพื้นที่คมวายุอีกครั้ง
แต่คราวนี้ ไม่มีพื้นที่คมวายุอีกต่อไป คมวายุสลาย ดูเหมือนมันจะไม่สามารถทนต่อการจ้องมองของเขาได้
พื้นที่คมวายุเป็นพื้นที่แห่งความมุ่งมั่น
ตราบใดที่ความมุ่งมั่นของเจ้าแข็งแกร่งเพียงพอ คมวายุก็จะไม่กล้าเข้ามาปะทะเจ้า
“เขา ทำสำเร็จแล้ว?”
นอกเหนือจากผู้ชายที่โดดเด่น ผู้เชี่ยวชาญเทพยุทธ์เร้นลับอีกเจ็ดคนต่างก็สูดลมหายใจเข้าลึก
นี่เป็นคนประเภทใดกัน!?
เขาต้องอดทนได้ถึงช่วงเวลาที่กำหนดเพื่อผ่านประตูเทพยุทธ์เร้นลับบานที่หก แต่เขาเอาชนะกฎและฟื้นตัวได้ด้วยตัวเอง ทำลายข้อจำกัดของพื้นที่คมวายุ
“การสร้างความแข็งแกร่งในการระเบิดพลังระดับมังกรเพลิงหลั่งไหล และอาศัยวิญญาณดั้งเดิมของตนเองเพื่อฟื้นฟูร่างกาย อัจฉริยะเช่นนี้เป็นอัจฉริยะที่ถือกำเนิดในทวีปยูนิคอร์นตะวันออกอยู่หรือไม่?” ผู้เฒ่าผมขาวรู้สึกงุนงงชายผู้โดดเด่นมีสีหน้าเคร่งเครียดขณะที่เขากล่าว “เขาผิดปกติ แต่ข้าจะไม่เห็นด้วยกับคำพูดที่เจ้ากล่าวอย่างสุ่มสี่สุ่มห้า ทวีปยูนิคอร์นตะวันออกอาจมีขนาดเล็ก แต่ก็ยังคงมีความเป็นไปได้ที่จะสร้างอัจฉริยะที่ท้าทายสวรรค์เช่นนี้ออกมา มังกรที่แท้จริงก็อาจจะโผล่ออกมาจากแผ่นดินที่มีขนาดเท่าเม็ดยาได้”
ผู้เชี่ยวชาญเทพยุทธ์เร้นลับเหล่านี้ไม่ใช่นักสู้ขอบเขตหวนคืนต้นกำเนิด แต่เป็นตัวตนที่อยู่ที่เหนือกว่าขอบเขตหวนคืนต้นกำเนิด พวกเขาถูกจำกัดโดยกฎของเขตแดนเทพยุทธ์เร้นลับและไม่สามารถออกไปโดยไม่ได้รับอนุญาตได้ แม้ว่าพวกเขาจะจ่ายราคาเพื่อออกไป ความสามารถของพวกเขาก็จะถูกระงับและจะสามารถแสดงพลังได้แค่ในขอบเขตนักสู้หวนคืนต้นกำเนิดเท่านั้น ดังนั้นขอบเขตความรู้ของพวกเขาจึงกว้างกว่าใครๆ ในทวีปยูนิคอร์นตะวันออก แต่อัจฉริยะอย่างหลี่ฟู่เฉินก็ยังเป็นสิ่งที่เกินจินตนาการของพวกเขา
“ปรากฏ”
หลี่ฟู่เฉินชี้ไปข้างหน้า ทำให้สายลมมารวมตัวกัน กลายเป็นประตูแห่งลม
ก้าวไปข้างหน้า หลี่ฟู่เฉินเดินเข้าไปในประตูแห่งสายลม
โลกภายนอกทั้งหมดตกอยู่ในความบ้าคลั่ง
“ผ่านประตูเทพยุทธืเร้นลับบานที่หก? เขายังเป็นมนุษย์อยู่หรือเปล่า?”
“ในรุ่นนี้ มีเพียงสามคนเท่านั้นที่ผ่านประตูเทพยุทธ์เร้นลับบานที่หก เขากลับทำได้จริงๆ!”
ทุกคนมีความรู้สึกที่หลากหลาย
การผ่านประตูเทพยุทธืเร้นลับบานที่หกเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ หากเมื่อก่อนหลี่ฟู่เฉินเป็นคนที่ไม่มีใครเคยรู้จักมาก่อน เช่นนั้นแล้วตอนนี้ ชื่อเสียงของเขาก็จะคงจะขึ้นอยู่กับเวลาและแพร่กระจายไปทั่วทั้งทวีปยูนิคอร์นตะวันออก
การแข่งขันจัดอันดับดาราซึ่งกำลังจะจัดขึ้นในอีกหนึ่งปีต่อไปนับจากนี้ จะต้องจองที่นั่งไว้ให้เขาแน่นอน
ความสำเร็จของหลี่ฟู่เฉินที่สามารถผ่านประตูเทพยุทธ์เร้นลับบานที่หกนั้นทำให้ผู้คนจากนิกายสวรรค์ปีศาจรู้สึกไม่พอใจอย่างแน่นอน
ประตูเทพยุทธ์เร้นลับที่หลี่ฟู่เฉินผ่านไป ยิ่งสูงเท่าไหร่นิกายสวรรค์ปีศาจก็ยิ่งต้องจ่ายมากขึ้นเท่านั้น
หากก่อนหน้านี้พวกเขายังมีโอกาสเล็กน้อยที่หลี่ฟู่เฉินอาจจะไม่ได้เป็นศิษย์ส่วนตัวภายใต้ผู้เชี่ยวชาญเทพยุทธ์เร้นลับ เช่นนั้นแล้วโอกาสที่ว่านั้นตอนนี้ก็ไม่มีอีกแล้ว
ใครก็ตามที่ผ่านประตูเทพยุทธ์เร้นลับบานที่หกจะกลายเป็นศิษย์ส่วนตัวภายใต้ผู้เชี่ยวชาญเทพยุทธ์เร้นลับ นี่คือกฎเหล็ก
***
บนเส้นทางหลัก ประตูหินบานที่เจ็ดปรากฏขึ้นต่อหน้าหลี่ฟู่เฉิน
ทันใดนั้นชายผู้โดดเด่นก็กล่าวเสียงดัง “เงาที่ว่างเปล่าจะช่วยผนึกประตูฉายภาพในประตูหินที่เจ็ดและแปดได้หรือไม่ ได้โปรด”
เขารู้สึกว่าหลี่ฟู่เฉินมีโอกาสที่จะผ่านประตูเทพยุทธ์เร้นลับบานที่เจ็ดไปได้ แต่เมื่อข้อมูลนี้ถูกเผยแพร่ออกไป แน่นอนว่ามันจะทำให้หลี่ฟู่เฉินเป็นอันตรายมากกว่าจะมีผลลัพธ์ที่ดี เพื่อผลประโยชน์ของตน บางนิกายก็ยังคงยอมเสี่ยงทั้งๆ ที่สิ้นหวัง
นอกจากนี้ ก็มีนักสู้ขอบเขตหวนคืนต้นกำเนิดที่ทรงพลังหลายคนในทวีปยูนิคอร์นตะวันออก หากผู้เชี่ยวชาญเทพยุทธ์เร้นลับไม่ต้องจ่ายราคาเพื่ออกจากเขตแดนเทพยุทธ์เร้นลับแล้ว โดยธรรมชาติ พวกเขาก็ไม่มีอะไรต้องกลัว แต่หลังจากจ่ายราคาแล้ว พวกเขาก็ไม่มีความมั่นใจที่จะชนะได้อย่างร้อยเปอร์เซ็นหากต้องสู้กับคนเหล่านั้นจริงๆ
กล่าวโดยสรุปแล้ว มันไม่ใช่เรื่องดีที่จะรักษาตัวตนไว้ต่ำเกินไป แต่ก็ไม่ใช่เรื่องดีที่จะมีตัวตนที่สูงส่งเกินไปด้วยเช่นกัน
เขาไม่ปรารถนาให้หลี่ฟู่เฉินต้องเจอกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด
เงาที่ว่างเปล่าซึ่งกำลังปกป้องเขตแดนเทพยุทธ์เร้นลับ ดูเหมือนจะได้ยินเสียงของชายที่โดดเด่น มันโบกมือขวา ในขณะที่เงาว่างเปล่ากลับปรากฏขึ้นมา และยืนอยู่บนเสาหินด้านซ้ายของประตูหินที่เจ็ดและแปด จากนั้นภาพก็เริ่มหายไป
“เกิดอะไรขึ้น?” ทุกคนรู้สึกสับสน
“ให้มันหายไปนะดีแล้ว อย่างไรก็ตาม ก็ยังไม่มีใครสามารถผ่านประตูเทพยุทธ์เร้นลับบานที่เจ็ดได้อยู่ดีนั้นแหละ” แม้ว่าพวกเขาจะไม่เข้าใจ แต่ทุกคนก็ไม่ได้กังวลอะไรเช่นกัน