Eternal Reverence เทพบุตรฟ้าประทาน - ตอนที่ 264
บทที่ 264
ภูเขาลูกแรก
มีความสามารถมากเกินพอที่จะเป็นศิษย์ส่วนตัวของผู้เชี่ยวชาญเทพยุทธ์เร้นลับคนแรก?
ทุกคนรู้สึกไร้เรี่ยวแรง
มันเป็นความจริงที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าจื่อหยูเย่ได้ผ่านประตูเทพยุทธ์เร้นลับบานที่หกเช่นกัน แต่เขาก็แทบจะไม่สามารถเป็นศิษย์ส่วนตัวของเทพยุทธ์เร้นลับคนที่สองได้
ในขณะที่หลี่ฟู่เฉินที่ผ่านประตูเทพยุทธ์เร้นลับบานที่หกได้ในทำนองเดียวกัน แต่เขากลับมีสิทธิ์เกินพอที่จะเป็นศิษย์ส่วนตัวของผู้เชี่ยวชาญเทพยุทธ์เร้นลับคนแรก
เกี่ยวกับการที่หลี่ฟู่เฉินผ่านประตูเทพยุทธ์เร้นลับบานที่เจ็ด ประตูโลก ไม่มีใครคิดว่ามันจะเป็นไปได้
ในความคิดของพวกเขา นั่นเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้
เพราะไม่เคยมีใครทำมาก่อน
“ข้าคิดว่าเขาจะต้องทำผลลัพธ์ที่ท้าทายสวรรค์ได้ในประตูซักบานหนึ่ง ด้วยเหตุนี้เขาจึงได้รับเลือกจากผู้เชี่ยวชาญเทพยุทธ์เร้นลับคนแรก” มีบางคนสันนิษฐาน
“บางทีความสามารถของเขาอาจจะเหมาะสมกับผู้เชี่ยวชาญเทพยุทธ์เร้นลับคนแรกมากก็เป็นไปได้”
“ข้าเกรงว่ามันจะไม่ได้มีแค่เหตุผลนี้เหตุผลเดียวนะสิ ผู้เชี่ยวชาญเทพยุทธ์เร้นลับคนแรกกล่าวไว้ว่าความสามารถของเขามีมากเกินพอ ดังนั้นจึงไม่ง่ายนัก จากสิ่งที่ข้าเห็น เขาต้องมีผลงานที่โดดเด่นในประตูบานที่สองหรือประตูบานที่สามประตูจากหกประตู”
ทุกคนตั้งสมมติฐาน
กึ๋ด!
จื่อหยูเย่กำหมัดแน่น ความโกรธอัดแน่นอยู่ในดวงตาของเขา
เขาเป็นคนแรกที่ผ่านประตูเทพยุทธ์เร้นลับบานที่หกได้ แต่ท้ายที่สุดแล้วเขากลับถูกเลือกโดยผู้เชี่ยวชาญเทพยุทธ์คนที่สอง และเขาก็แทบจะไม่ผ่านเกณฑ์เสียด้วยซ้ำ
หลี่ฟู่เฉินออกมาทีหลัง แต่เขาก็ถูกเลือกโดยผู้เชี่ยวชาญเทพยุทธ์เร้นลับคนแรก และเขายังมีความสามารถมากเกินพอ
ผู้ที่เย่อหยิ่งประดุจราชาเช่นเขาจะสามารถยอมรับการปฏิบัติเช่นนั้นได้อย่างไร
“ข้าไม่เข้าใจ” จื่อหยูเย่กล่าวด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นและดุดัน
ชายผู้โดดเด่นมองมา “ทำไมเจ้าไม่เข้าใจอะไร?”
“ข้าเชื่อว่าข้าไม่ได้ด้อยไปกว่าเขา นอกจากนี้ข้ายังเป็นคนแรกที่ผ่านประตูเทพยุทธ์เร้นลับบานที่หก” จื่อหยูเย่ชั่งใจ
“เขาเข้าประตูเทพยุทธ์เร้นลับบานที่เจ็ด ประตูแห่งโลก”
ชายผู้โดดเด่นไม่ได้กล่าวว่าหลี่ฟู่เฉินผ่านประตูแห่งโลกหรือไม่ เขากล่าวอย่างง่ายๆ ว่าหลี่ฟู่เฉินเข้าไป
หลี่ฟู่เฉินรู้สึกแปลกๆ อยู่ในใจของเขา ก็ในเมื่อเขาคิดว่าชายที่โดดเด่นจะกล่าวผลลัพธ์ของเขา เขาอาจจะเตรียมใจไว้แล้ว แต่ส่วนลึกในใจของเขาแท้จริงแล้วไม่ต้องการเปิดเผย
เขาไม่ได้คาดหวังว่าชายที่โดดเด่นจะช่วยเขาปกปิดผลลัพธ์ที่แท้จริง และเพียงแค่บอกว่าเขาเข้าสู่ประตูแห่งโลก
“เขาเข้าไปในประตูเทพยุทธ์เร้นลับบานที่เจ็ด ประตูแห่งโลก?” ดวงตาของจื่อหยูเย่หดตัวลง
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ทุกคนกลายเป็นตื่นตะลึง
ปรากฎว่าผลของจื่อหยูเย่ไม่ได้เป็นที่ 1
หลี่ฟู่เฉินเป็นอันดับ 1
สาเหตุที่หลี่ฟู่เฉินออกมาช้ากว่าจื่อหยูเย่ เป็นเพราะเขาเข้าไปในประตูโลก ด้วยเหตุนี้เขาจึงล่าช้า
“คนแรกที่เข้าสู่ประตูโลก?” ทุกคนหายใจเข้าลึก
ผลลัพธ์นี้ไม่เพียง แต่เหนือกว่าจื่อหยูเย่ มันกระทั้งเหนือกว่าสามคนก่อนหน้านี้ที่ผ่านประตูเทพยุทธ์เร้นลับบานที่หก ในแง่ของศักยภาพโดยกำเนิด เขาอยู่เหนือสามราชาดาราและยืนอยู่ที่จุดสูงสุดของทวีปยูนิคอร์นตะวันออก ไม่มีใครเทียบเขาได้อย่างแท้จริง
“เขาเป็นศิษย์นิกายวารีครามเรา?”
เฉินหยวนหูและเซี่ยเฟิงจ้องมองอย่างว่างเปล่า
ก่อนที่พวกเขาจะเข้าสู่เขตแดนเทพยุทธ์เร้นลับ พวกเขาสองคนรู้สึกว่าหลี่ฟู่เฉินมีความมั่นใจมากเกินไปทั้งยังโฉดเขลา
แต่ข้อเท็จจริงบอกพวกเขาแล้วว่าหลี่ฟู่เฉินเป็นเพียงแค่คนที่รักษาตัวตนอันต่ำต้อยเอาไว้
การเป็นศิษย์ส่วนตัวของผู้เชี่ยวชาญเทพยุทธ์เร้นลับ และการเป็นศิษย์ส่วนตัวของผู้เชี่ยวชาญเทพยุทธ์เร้นลับอันดับหนึ่ง เป็นแนวคิดสองอย่างที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
สามคนก่อนหน้านี้ที่ผ่านประตูเทพยุทธ์เร้นลับบานที่หก ไม่มีใครสามารถเป็นศิษย์ส่วนตัวของผู้เชี่ยวชาญเทพยุทธ์เร้นลับคนแรกและคนที่สองได้
“นี่คือผู้ท้าทายสวรรค์ที่แท้จริง?”
เซี่ยเฟิงพูดไม่ออก
ในฐานะศิษย์ของนิกายสารีคราม เขารู้เกี่ยวกับรากฐานของหลี่ฟู่เฉิน
หลี่ฟู่เฉินเป็นเพียงโครงกระดูก 1 ดาว และเขาก็ได้ทำลายกฎแล้วเหตุผลไปนับไม่ถ้วน มันได้สร้างความตกตะลึงให้กับผู้คนนับไม่ถ้วนตลอดเส้นทาง
เขาไม่ได้คาดคิดเลยว่าหลังจากที่มาถึงแคว้นร้อยเทพยุทธ์แล้ว มันก็ยังคงเหมือนเดิม
“น่าสนใจ ข้าคาดหวังการจัดอันดับดาราครั้งต่อไปมากกว่าเดิมอีก” ชูมู่หยูจ้องไปที่ร่างของหลี่ฟู่เฉิน ขณะที่รอยยิ้มจางๆ ปรากฏบนใบหน้าของเธอ
ในฐานะที่เป็นโครงกระดูก 6 ดาว การพึ่งพาที่ดีที่สุดก็คือการพึ่งพาตัวเธอเอง
เขตแดนเส้นทางดวงดาวและเขตแดนเทพยุทธ์เร้นลับเป็นเพียงการพบกันตามโชคชะตาแต่เพียงเท่านั้น
แม้จะไม่มีการเผชิญหน้าในโชคชะตาเช่นนี้ เธอก็เชื่อว่าตัวเธอเองก็สามารถยืนอยู่บนจุดสูงสุดในทวีปยูนิคอร์นตะวันออกได้ แต่ในตอนนี้ การพบกันด้วยโชคชะตาครั้งนี้งเธอด้อยกว่าเล็กน้อย และสำหรับเธอ มันก็ไม่ได้มีอิทธิพลต่อเธอมากนัก
“น่าสนใจ” เซี่ยฮัวชือยิ้มเย็นชา
มันเป็นคำอธิบายเดียวกัน แต่เมื่อกล่าวโดยบุคคลสองคนที่แตกต่างกัน มันมีความหมายที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
เมื่อชูมู่หยูกล่าว มันเป็นจิตวิญญาณสู้รบอย่างหนึ่งที่ถูกปลุกขึ้นมา
แต่เมื่อถูกกล่าวโดยเซี่ยฮัวชือ มันมีเจตนาสังหารที่น่าสยดสยองผุดขึ้นมา
“ถ้าชื่อเสียงของใครคนหนึ่งยิ่งใหญ่เกินไป มันก็จะเหมือนกับการขุดหลุมฝังศพตัวเอง” เซี่ยฮัวชือกระซิบ
หลังจากได้รับคำตอบจากผู้เชี่ยวชาญเทพยุทธ์เร้นลับคนแรกแล้ว จื่อหยูเย่ก็ไม่ได้กล่าวอีกต่อไป
เขาจะกล่าวอะไรได้อีก? เขาเพียงแค่ผ่านประตูเทพยุทธ์เร้นลับบานที่หก แต่หลี่ฟู่เฉินไม่เพียงสามารถผ่านประตูเทพยุทธ์เร้นลับบานที่หกได้เท่านั้น แต่เขายังมีคุณสมบัติที่จะเข้าสู่ประตูเทพยุทธ์เร้นลับบานที่เจ็ดด้วยเช่นกัน เข้าสู้ประตูแห่งโลก
แต่ผู้ที่หยิ่งผยอง จะไม่ยอมรับความล้มเหลว
เขาแค่ยอมรับว่าเขาไม่ได้ไร้ที่ติ แต่เขาจะแข็งแกร่งขึ้นได้อย่างแน่นอน
อย่างน้อย หลี่ฟู่เฉินในปัจจุบันก็ไม่ได้แข็งแกร่งไปกว่าเขาแน่นอน
ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เขาจะรักษาความได้เปรียบนี้ต่อไป และเขาจะไม่ยอมให้หลี่ฟู่เฉินมีโอกาสแซงหน้า หรือแม้แต่กระทั้งไล่ตามเขาทัน
หลังจากหายใจออกช้าๆ จื่อหยูเย่หยุดกล่าว ในขณะที่สายตาของเขาดูดุดันยิ่งขึ้น จากนั้นก็ปลดปล่อยสภาวะพลังฉีที่โดดเด่นออกมา
ผู้อาวุโสผมขาวพยักหน้าด้วยความเห็นชอบ
ผู้ที่สามารถผ่านประตูเทพยุทธ์เร้นลับบานที่หกได้นั้นไม่ใช่คนที่บ้าบิ่น หากจื่อหยูเย่ยังคงยืนกรานต่อไป ผู้อาวุโสผมขาวก็จะดูถูกจื่อหยูเย่แทน แต่จื่อหยูเย่ไม่ได้ยืนกรานที่จะคัดค้านต่อ แต่เขาก็ไม่ท้อถอยเช่นกัน จิตวิญญาณของเขายังคงดูเผด็จการผิดธรรมดา
ดอกไม้สีแดงมีหลายชนิด มนุษย์เองก็มีหลายประเภทเช่นกัน
บางคนมีนิสัยเย็นชาและเฉยเมย
บางคนก็มีอารมณ์ร้อนแรง
บางคนก็เผด็จการ
บางคนก็โหดเหี้ยม
บางคนก็ซื่อสัตย์และใจกว้าง
ไม่มีความเหนือกว่าในด้านอารมณ์ ความเหนือกว่าที่แท้จริงอยู่ในความคิดของคนๆ หนึ่ง
เห็นได้ชัดว่านิสัยใจคอของจื่อหยูเย่เย่ออหยิ่งและเผด็จการ มองตัวเองว่ามีอำนาจสูงสุดแต่เพียงผู้เดียว ขณะที่ดูถูกคนอื่นๆ รอบข้างไปด้วย แต่ความคิดของเขาค่อนข้างดีและเขาจะไม่ทำในสิ่งที่ไร้เหตุผล
หลังจากที่ศิษย์ในสายและศิษย์ส่วนตัวทั้งหมดได้รับการคัดเลือกแล้ว ส่วนที่เหลือทั้งหมดก็ถูกเคลื่อนย้ายออกจากเขตแดนเทพยุทธ์เร้นลับ
“ตามข้ามา!”
ชายที่โดดเด่นกล่าวกับหลี่ฟู่เฉินและชายหนุ่มอีกคน
ชายหนุ่มคนนี้เป็นศิษย์ในสายที่ชายที่โดดเด่นรับเข้ามา
“ขอรับ” พวกเขาสองคนพยักหน้าและเดินตามผู้ชายที่โดดเด่นไป
ด้วยเคลื่อนที่แผ่ออกมาจากมือ แสงก็เข้ามาปกคลุมหลี่ฟู่เฉินและชายหนุ่ม ขณะที่ทั้งสามคนปรากฏตัวขึ้นบนภูเขาทันที
ภูเขาแห่งนี้เป็นที่ที่ชายผู้ที่โดดเด่นไว้ใช่บ่มเพาะ… ภูเขาลูกแรก
***
ภายนอกเขตแดนเร้นลับ
“พวกเขาออกมาแล้ว! พวกเขาออกมาแล้ว!”
ทันทีที่ผู้ที่พลาดการคัดเลือกถูกเคลื่อนย้ายออกมาจากเขตแดนเร้นลับ ก็เริ่มมีการสนทนากันอย่างดุเดือด
“สถานการณ์ข้างในเป็นอย่างไร” มีคนถาม
หนึ่งในคนที่ล้มเหลวกล่าวด้วยความเจ็บปวด “จื่อหยูเย่ถูกเลือกเป็นศิษย์ส่วนตัวโดยผู้เชี่ยวชาญเทพยุทธ์เร้นลับคนที่สอง หลี่ฟู่เฉินถูกผู้เชี่ยวชาญเทพยุทธ์เร้นลับคนแรกรับเข้าไปเป็นศิษย์ส่วนตัวของเขา ตามที่ผู้เชี่ยวชาญเทพยุทธ์เร้นลับคนแรกกล่าวว่า หลี่ฟู่เฉินไม่เพียงแค่ผ่านประตูเทพยุทธ์เร้นลับบานที่หกเท่านั้น เขาแม้แต่กระทั้งเข้าไปยังประตูเทพยุทธ์เร้นลับบานที่เจ็ด ประตูแห่งโลก…”
คนนี้อธิบายง่ายๆ นี้ทำให้ทุกคนตะลึง
เขาเข้าไปในประตูแห่งโลก?
เขากลายเป็นศิษย์ส่วนตัวของผู้เชี่ยวชาญเทพยุทธ์เร้นลับคนแรก?
นี่มันเกินจริงไปแล้ว!
แม้แต่กระทั้งสามราชาดาราก็ไม่สามารถบรรลุได้!
ทำไมเขาถึงทำได้?
ผู้คนจากนิกายสวรรค์ปีศาจต่างก็ตกตะลึง
พวกเขาไม่ได้คาดหวังว่าหลี่ฟู่เฉินจะได้ผลลัพธ์ที่น่าประหลาดใจเช่นนี้
นิกายสวรรค์ปีศาจจะไม่มีทางจัดการเขาได้จริงๆ หรือ?
เป็นความจริงที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าผู้เชี่ยวชาญเทพยุทธ์เร้นลับคนแรกและคนที่สองเป็นผู้เชี่ยวชาญที่แท้จริงในทวีปยูนิคอร์นตะวันออก และความแข็งแกร่งของพวกเขาก็เป็นสิ่งที่ไม่มีผู้ใดจะเทียบเคียงได้ นิกายสวรรค์ปีศาจสามารถทำให้หลี่ฟู่เฉินขุ่นเคืองได้จริงหรือ?
จะเป็นอย่างไรหากผู้เชี่ยวชาญเทพยุทธ์เร้นลับมุ่งมั่นที่จะกำจัดนิกายสวรรค์ปีศาจโดยการทุ่มหมดหน้าตัก? ใครจะช่วยพวกเขาได้?
“เรื่องนี้ต้องได้รับการพิจารณาใหม่ ให้พวกเรากลับไปรายงานยังท่านเจ้านิกายก่อน”
หนึ่งในผู้อาวุโสของนิกายสวรรค์ปีศาจกล่าวด้วยสีหน้าขมขื่นและรวดร้าว
ประตูของพระราชวังค่อยๆ ปิดลง และในครั้งต่อไปที่เปิด มันจะเป็นอีกสามเดือนนับจากตอนนี้
บนยอดเขา ทุกคนเริ่มจากไปและกระจัดกระจายไปทุกทิศทาง
ปากต่อปาก เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับหลี่ฟู่เฉิน ไม่ได้ใช้เวลานานมากนัก ก่อนที่มันจะแพร่กระจายไปยังนิกายต่างๆ ในทวีปยูนิคอร์นตะวันออก