Eternal Reverence เทพบุตรฟ้าประทาน - ตอนที่ 273
บทที่ 273
รางวัลเป็นหินดวงดาว
เพียงไม่นาน ก็ถึงตาของหลี่ฟู่เฉิน
หลังจากเข้าหอคอยสือทอด หลี่ฟู่เฉินก็มาถึงชั้นที่สาม
เมื่อค่ายกลเปิดใช้งาน เสือดำลายครามก็ถูกควบแน่นและกลายเป็นรูปร่าง
เสือดำน้ำแข็งฟ้า นักฆ่าท่ามกลางสัตว์ปีศาจระดับ 3 ขั้นสูงด้วยกันเอง มันมีความเร็วสูงมากและยังสามารถสังหารสัตว์ปีศาจระดับ 3 ขั้นสูงธรรมดาด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว
ช่วงเวลาที่สัตว์ปีศาจเสือดำน้ำแข็งฟ้าถูกสร้างขึ้น มันก็โจมตีหลี่ฟู่เฉินทันที
ทันใดนั้นร่างของมันก็ระเบิดสภาวะพลังฉีเยือกแข็งออกมา และก็นำมันเข้าไปหอหุ้มหลี่ฟู่เฉิน เขารู้สึกได้ถึงเจตจำนงเยือกแข็งได้อย่างชัดเจต ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น เสือดำน้ำแข็งฟ้าก็พุ่งเข้าหาหลี่ฟู่เฉินด้วยความเร็วดุจสายฟ้าฟาด
“สมกับชื่อเสือดำน้ำแข็งฟ้า!”
เลือดของหลี่ฟู่เฉินเกือบจะแข็งตัว และในช่วงเวลาสำคัญ หลี่ฟู่เฉินก็เปิดใช้งานเทคนิคลับมังกรเร้นลับ ความแข็งแกร่งในการต่อสู้ของเขาเพิ่มขึ้นทันที ขณะที่เทคนิคเพลิงโลกันต์ขั้นที่ 16 ถูกโคจรเพื่อระเหยสภาวะพลังฉีเยือกแข็งของเสือดำน้ำแข็งฟ้า”
“ดาบหลั่งไหล!”
ในขณะที่ท่าสังหารระดับลึกลับขั้นกลางท่าแรก ‘ดาบหลั่งไหล’ ถูกใช้ออกมา แสงดาบสิบดวงก็พุ่งออกไป
ปิส ปิส ปิส ปิส ปิส…
รอยแผลจากดาบถูกปรากฏทั่วร่างกายของเสือดำน้ำแข็งฟ้า
ด้วยร่างกายที่ขยับเคลื่อนไหว หลี่ฟู่เฉินหลบเลี่ยงการโจมตีครั้งแรกของเสือดำน้ำแข็งฟ้า ในขณะที่ดาบทองดำของเขาถูกตวัดออกไปอีกครั้ง “ดาบระเบิด!”
ปั๊ง!
เสือดำน้ำแข็งฟ้าถูกระเบิดออกเป็นชิ้นๆ ทันที
ด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของหลี่ฟู่เฉิน แม้ว่าเขาจะใช้พละกำลังเพียง 30% หรือ 50% ก็ตามที มันก็เพียงพอที่จะสังหารเสือดำน้ำแข็งฟ้าได้ในทันทีแล้ว
“ให้ข้าขึ้นไปดูที่ชั้นสี่”
หลี่ฟู่เฉินมาถึงชั้นสี่
พลังของค่ายกลควบแน่นก่อตัวอย่างบ้าคลั่ง ซึ่งส่งผลทำให้สัตว์ปีศษจขนาดใหญ่ยักษ์เริ่มปรากฏรูปลักษณ์ขึ้นมา
มอออ!
มันเป็นสัตว์ปีศาจวัวยักษ์ที่มีเขาคู่หนึ่งซึ่งดูเหมือนว่าพร้อมที่จะแทงทะลุหอคอย
ขณะที่มันส่งเสียงร้อง คลื่นเสียงที่น่ากลัวโจมตีหลี่ฟู่เฉิน ส่งผลทำให้ทวารทั้งเจ็ดของเขามีเลือดไหลออกมา
“สัตว์ปีศาจระดับ 4 ขั้นต่ำ” ดวงตาของหลี่ฟู่เฉินหดตัวลง
สัตว์ปีศาจระดับ 4 ขั้นต่ำเปรียบได้กับนักต่อสู้ขอบเขตสวรรต์ขั้นต่ำ
บางทีนักสู้ขอบเขตปฐพีระดับสูงสุดที่มีการรับรู้ที่น่าประหลาดใจอาจมีพลังโจมตีที่สามารถบรรลุความแข็งแกร่งของนักสู้ขอบเขตสวรรค์ขั้นต่ำก็ได้ แต่ในแง่ของการโจมตีปกติ มันย่อมนำมาเปรียบเทียบกันไม่ได้
ระเบิดสภาวะพลังฉีของนักสู้ขอบเขตสวรรค์ขั้นต่ำที่ถูกปล่อยออกมาอย่างไม่ตั้งใจก็นับว่าน่ากลัวแล้ว
นอกเหนือจากนี้ ความสามารถในการป้องกันของคนผู้หนึ่งย่อมด้อยกว่าเมื่อยืนอยู่ต่อหน้านักสู้ขอบเขตสวรรค์
หากมันเป็นนักสู้ขอบเขตสวรรค์ขั้นต่ำที่มายืนอยู่ที่นี่ เขาก็จะสามารถต้านทานการโจมตีคลื่นเสียงของวัวยักษ์ได้
“จันทร์เต็มดวง!”
เงาพระจันทร์เต็มดวงสีแดงเพลิงปรากฏขึ้น ซึ่งนี้ก็คือท่าสังหารระดับลึกลับขั้นกลางท่าที่สามของหลี่ฟู่เฉิน
แคร็ก!
มีบาดแผลตื้นๆ ถูกทิ้งไว้บนร่างกายของสัตว์ปีศาจวัวยักษ์
“พลังป้องกันน่ากลัวอะไรเช่นนี้!”
ดวงตาของหลี่ฟู่เฉินหดตัวลงอีกครั้ง
ท่าสังหารของเขา จันทร์เต็มดวงไม่ได้ด้อยเลยเมื่อเทียบกับเจตจำนงแห่งดาบระดับลึกลับขั้นสูง และมันเองก็ยังมีพลังเฉือดเฉือนที่ยอดเยี่ยม
วัวยักษ์กำลังกระแทกขาลงพื้นด้วยความบ้าคลั่ง ในขณะที่เกราะพลังฉีปรากฏขึ้นบนร่างกายของมันราวกับคลื่นที่ถูกซ้อนกันเป็นชั้นๆ มันพุ่งเข้าหาหลี่ฟู่เฉิน
โดยใช้การรับรู้ที่ยอดเยี่ยมของเขา หลี่ฟู่เฉินหลบเลี่ยงมันได้ล่วงหน้า แต่ก็ยังได้รับผลกระทบเล็กน้อยจากการโจมตี
“เงาสังหารเพลิงปีศาจ!”
หลี่ฟู่เฉินใช้กระบวนท่าหลักของทักษะดาบเพลิงปีศาจ ห่อหุ้มเงาสีแดงสดไว้เหนือสัตว์ปีศาจวัวยักษ์
ปิส ปิส ปิส!
บาดแผลจากดาบถูกเปิดขึ้นทั่วตัวของวัวยักษ์ ราวกับว่ามันถูกฟันด้วยคมมีดนับพัน
แต่การโจมตีครั้งนี้ไม่สามารถทำให้สัตว์ปีศาจวัวยักษ์ล้มลงได้
ปุ!
หางของวัวยักษ์มีความยาวอย่างน้อยสิบฟุต มันกวาดไปทั่วราวกับแส้ยาวที่พุ่งสบัดเข้าหาหลี่ฟู่เฉิน
ความเร็วในการกวาดเร็วเกินไป หลี่ฟู่เฉินเองก็ตระหนักถึงมันดี แต่ร่างกายของเขาตอบสนองช้ากว่าความคิดและถูกฟาดด้วยหางซึ่งมีพลังฉีถูกห่อหุ้มเอาไว้ ส่งผลทำให้เขาอาเจียนออกมาเป็นเลือดสดๆ
เมื่อเขาอยู่กลางอากาศ หลี่ฟู่เฉินเปิดใช้งานบทดาบไร้สมบรูณ์บทดาบเหล็กดำ และใช้ท่าสังหารที่แข็งแกร่งที่สุดของเขาทันที
“มังกรเพลิง!”
ดาบทองดำถูกยกขึ้นสูงซึ่งมีแสงสีแดงมาบรรจบกัน มันเหมือนกับมังกรสีแดงเข้มที่มีขนาดใหญ่และกำลังเปลี่ยนแปลงตัวเองตลอดเวลา
ฟู้!
เมื่อดาบถูกตวัดลง มีแสงสีแดงระเบิดออก เขาของวัวยักษ์ข้างหนึ่งถูกตัดขาดและมีรอยดาบจากส่วนบนของกะโหลกลากยาวไปจนถึงไหล่ของมัน
มอออ!
สัตว์ปีศาจวัวยักษ์ส่งเสียงคำรามออกมาอย่างบ้าคลั่ง ในขณะที่มีสภาวะพลังฉีปรากฏขึ้นบนร่างของมัน สภาวะพลังฉีที่ไร้ขอบเขตนั้นราวกับดวงอาทิตย์
แม้ว่าหลี่ฟู่เฉินจะใช้สามวายุทมิฬลอกเลียน และสร้างร่างออกมาสามร่าง เขาก็ยังคงได้รับความเสียหายจากสภาวะพลังฉีที่น่ากลัวนี้ และชนเข้ากับผนังของหอคอย
“ข้าทำไม่ได้ มีความสามารถที่แตกต่างกันมากเกินไป”
หลี่ฟู่เฉินถอยออกมาจากค่ายกล
สาเหตุที่เขาอดทนได้นานขนาดนี้ไม่ใช่เพราะความสามารถของเขา ส่วนใหญ่เป็นเพราะการรับรู้ที่น่าทึ่งของเขาที่ทำให้เขาสามารถหลบเลี่ยงล่วงหน้าได้ ไม่เช่นนั้นแล้ว เขาจะพ่ายแพ้ตั้งแต่ถูกโจมตีครั้งแรกๆ
“เขาออกมาแล้ว”
“ดูเหมือนว่าเขาจะใช้เวลานานอยู่บ้าง”
“นั่นเป็นเรื่องปกติ เนื่องจากหลี่ชิเซียงอยู่ในระดับที่ 6 ของขอบเขตปฐพี และต่ำกว่ามากในแง่ของระดับการฝึกฝน เมื่อเทียบกับดาบคลั่งและดาบพยัคฆ์ชิเซียง”
“ยังเหลือเวลาอีกครึ่งเดือน และการแข่งขันคัดเลือกในนิกายก็กำลังจะเริ่มขึ้นในไม่ช้า ดาบคล่ะงและดาบพยัคฆ์ชิเซียงมีแนวโน้มว่าจะอันดับสูงที่สุด หลี่ชิเซียงและเซี่ยชิเซียงอาจจะต้องการความท้าทายอยู่บ้าง”
“อืม อืม สองปีก่อนหน้านี้ มีเพียงแค่สี่คนที่ผ่านชั้นสามของหอคอยแห่งสืบทอด ตอนนี้ มีศิษย์มากกว่าสิบคนที่ผ่านชั้นสามของหอคอยไปแล้ว”
มีหลายคนกำลังสนทนากันนอกหอคอยสืบทอด
พวกเขาไม่ได้พิจารณาว่าหลี่ฟู่เฉินไปพยายามในชั้นสี่ของหอคอยสืบทอด
หลังจากทั้งหมดแล้ว สัตว์ปีศาจชั้นที่สี่ก็ทรงพลังมากเกินไป มันเป็นสัตว์ปีศาจขอบเขตสวรรค์ที่ไม่มีใครสามารถเอาชนะได้
แม้ว่าหลี่ฟู่เฉินจะเข้าไปพยายาม เขาก็อาจจะถูกขับไล่ในไม่ช้า และไม่ควรใช้เวลามากนัก
ข่าวของหลี่ฟู่เฉินที่พยายามในหอคอยสืบทอดส่งไปถึงหูของศิษย์หลักอันดับ 1 โดยตรง
“แม้ว่าศักยภาพโดยกำเนิดของเขาจะน่าเหลือเชื่อ ในที่สุดเขายังคงอ่อนเยาว์และยังไม่บรรลุนิติภาวะดี เซี่ยชิตี๋เองก็เช่นกัน” ชายหนุ่มคนนึงกำลังหัวเราะอย่างครุมเคลืออยู่ในลานบ้าน
เขาคือ บูฉิงสง และครั้งหนึ่งเขาก็เคยเป็นศิษย์หลักอันดับ 1 ของนิกายวารีคราม
ยิ่งไปกว่านั้น เขาเป็นศิษย์คนแรกในบรรดาศิษย์หลักปัจจุบันของนิกายวารีครามที่ผ่านชั้นสามของหอคอย เขาทำได้เร็วกว่าดาบคลั่ง หลี่เซียงหรู และ ดาบพยัคฆ์ เฉินหยวนหู ย้อนกลับไปเมื่อตอนที่ เซี่ยเฟิงผ่านชั้นสามของหอคอยสืบทอด เขาเป็นคนแรกจากสามคนที่ทำได้
ในความคิดของเขา ดาบคลั่ง และ ดาบพยัคฆ์ยากที่จะจัดการ แต่เขาค่อนข้างมั่นใจกับหลี่ฟู่เฉินและเซี่ยเฟิง
แม้ว่าความมั่นใจนี้จะมาจากเวลาที่เขาใช้ในการบ่มเพาะและระดับการฝึกฝนเองก็ตามที
***
หลังจากพยายามในหอคอยสืบทอด หลี่ฟู่เฉินก็ไปที่หุบเขาอนุสาวรีย์แห่งดาบทันที
เจตจำนงดาบเพลิงปีศาจของเขาอยู่ในช่วงเริ่มต้น และยังมีช่องว่างให้ปรับปรุงอีกมาก เขาอาจสามารถยกระดับเจตจำนงดาบเพลิงปีศาจขึ้นไปอีกระดับ หลังจากที่ได้ทำความเข้าใจเจตจำนงแห่งดาบของอนุสาวรีย์แห่งดาบแล้ว ยกระดับเป็นระยะเติบโตเต็มที่
สำหรับคะแนนสนับสนุน หลี่ฟู่เฉินไม่ขาดอะไรเลย เขามีคะแนนสนับสนุนหลายล้านซึ่งเพียงพอสำหรับเขาที่จะทำความเข้าใจที่นี่เป็นเวลาหนึ่งหรือสองเดือน
เมื่อเวลาผ่านไป วันของการประลองคัดเลือกในนิกายก็ใกล้เข้ามา
ประกาศรางวัลของการประลองคัดเลือกในนิกายแล้ว
สำหรับการแข่งขันคัดเลือกในนิกายนี้ ศิษย์สี่อันดับแรกจะมีโอกาสเข้าร่วมการแข่งขันจัดอันดับดารา
นอกเหนือจากนี้ อันดับที่หนึ่งและสองจะได้รับหินดวงดาวเป็นรางวัล
หินดวงดาวอาจไม่มีประโยชน์สำหรับคนอื่น แต่มันก็เป็นประโยชน์สำหรับอัจฉริยะในขอบเขตปฐพี
นิกายทำงานอย่างหนักเพื่อที่จะได้รับหินดวงดาวทั้งสองนี้มา
ไม่ว่าเจ้าจะมีทรัพยากรและเหรียญทองมากแค่ไหน หากเจ้าไม่พบหินดวงดาว เจ้าก็จะไม่มีทางที่จะได้มันมา
เมื่อประกาศรางวัลเป็นหินดวงดาว หลี่เซียงหรู เฉินหยวนหู และเซี่ยเฟิงต่างก็ถูกล่อลวง
หลี่เซียงหรู และเฉินหยวนหูอาจอยู่ในระดับที่ 9 ของขอบเขตปฐพี แต่เหนือกว่านั้นคือระดับสูงสุดของขอบเขตปฐพี และครึ่งก้าวสวรรค์ ด้วยหินดวงดาวที่ได้มา มันจะช่วยทดแทนการฝึกฝนอย่างหนักไปได้อย่างน้อยก็หนึ่งปี
แต่เห็นได้ชัดว่าการมุ่งมั่นเพื่อคว้าตำแหน่ง 2 อันดับแรกนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย มีเพียงดาบคลั่ง หลี่เซียงหรูเท่านั้นก็มีโอกาสมากที่สุด ในขณะที่คนอื่นที่เหลือไม่มีใครที่มีความมั่นใจเช่นนั้น
“หินดวงดาว? หือ”
ดวงตาของบูฉิงสงเป็นประกาย เขาเคยได้รับหินดวงดาวมาด้วยโชคลาภ แต่เป็นเรื่องน่าเสียใจที่เขาไม่ได้รับชิ้นที่สองอีกเลย หากเขามีหินดวงดาวนี้อยู่ เขาอาจจะสามารถก้าวไปสู่ขอบเขตครึ่งก้าวสวรรค์ได้ เนื่องจากตอนนี้เขาอยู่ในระดับสูงสุดของขอบเขตปฐพี
ติดตามก่อนใครได้ที่เพจ indynovels