Eternal Reverence เทพบุตรฟ้าประทาน - ตอนที่ 275
บทที่ 275
การเปลี่ยนแปลงของสภาพจิตใจ
ในบรรดาศิษย์หลักที่เข้าร่วม มีสองคนที่จับจ้องไปยังหลี่ฟู่เฉิน
หนึ่งในนั้นคือ หยูเหวินเทียน และอีกคนคือ หลิวหวูหวง
เมื่อตอนที่หลี่ฟู่เฉินมายังนิกายวารีครามเป็นครั้งแรก หยูเหวินเทียนเป็นศิษย์ชั้นนอกอันดับที่ 1 แต่หลังจากนั้นเขาก็ถูกหลี่ฟู่เฉินแซงหน้าไป
เมื่อตอนที่หลี่ฟู่เฉินเป็นศิษย์ชั้นใน หลิวหวูหวงที่อยู่ในจุดสูงสุดของศิษย์ชั้นใน เขาเองก็ถูกหลี่ฟู่เฉินแซงหน้าไปด้วยเช่นกัน
พวกเขาสองคนเป็นโครงกระดูกระดับ 5 ดาวและจะต้องมีอนาคตที่รุ่งโรจน์ที่คนอื่นไม่อาจมีได้ แต่ใครจะคาดคิดว่าหลี่ฟู่เฉินจะเหนือกว่าพวกเขา และบดบังความสามารถของพวกเขาให้ตกลงไป
ความกดดันและความอัปยศอดสูทำให้หยูเหวินเทียนและหลิวหวูหวงพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว
พวกเขาทั้งคู่มาถึงระดับที่ 6 ขอบเขตปฐพี
แน่นอนว่าหยูเหวินเทียนสามารถก้าวขึ้นสู่ระดับที่ 6 ขอบเขตปฐพีได้ส่วนใหญ่ก็เป็นเพราะเขาได้รับหินดวงดาว และดื่มยาอายุวัฒนะระดับลึกลับขั้นกลางซึ่งเพิ่มพลังบ่มเพาะปลูกเข้าไป
หลิวหวูหวงไม่มีหินดวงดาว แต่เขาก็ดื่มยาอายุวัฒนะระดับลึกลับขั้นกลางซึ่งช่วยเพิ่มพลังบ่มเพาะของเขาเข้าไปเช่นกัน
ยาอายุวัฒนะที่สามารถเพิ่มระดับบ่มเพาะได้หนึ่งระดับนั้นมีค่ามาก และยาอายุวัฒนะระดับลึกลับขั้นกลางที่สามารถเพิ่มพลังบ่มเพาะในขอบเขตปฐพีได้ก็ยิ่งมีค่ามากขึ้นไปอีก แต่ทว่าทุกอย่างย่อมมีราคาของมัน ก็ในเมื่อพวกเขาสองคนต้องใช้เวลาในการรักษาสภาวะและดูดซับผลกระทบของยาอายุวัฒนะอยู่นานสองนาน นั่นหมายความว่ามันจะส่งผลต่อเวลาการบ่มเพาะพลังในอนาคตของพวกเขา
แต่เพื่อให้ตนมีคุณสมบัติในการเข้าร่วมการแข่งขันคัดเลือกในนิกาย ทุกสิ่งก็ย่อมคุ้มค่า
‘ข้าต้องได้สี่อันดับแรก’
หยูเหวินเทียนและหลิวหวูหวงไม่เต็มใจที่จะอยู่ภายใต้เงามืดของหลี่ฟู่เฉิน ตลอดสองปีที่ผ่านมา พวกเขาทุ่มเทเวลาทั้งหมดให้กับการฝึกฝน ซึ่งพวกเขาเองก็ฝึกหนักมากกว่าปกติ และยังขยันกว่าเดิมหลายเท่า
นี่เป็นโอกาสสุดท้ายของพวกเขาแล้ว และแม้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถเหนือกว่าหลี่ฟู่เฉินได้ พวกเขาก็จะต้องไล่ตามหลี่ฟู่เฉินให้ทัน
มีศิษย์หลักเข้าร่วม 30 คน 80% ของพวกเขาเป็นศิษย์หลักระดับทอง และที่เหลือก็เป็นศิษย์หลักระดับเงิน
20% ที่เป็นศิษย์หลักระดับเงินเหล่านี้แทบจะไม่นับว่าเป็นระดับที่ 6 ขอบเขตปฐพี และพวกเขาก็มาที่นี่เพื่อทำให้จำนวนมันมากกว่าเดิมก็เท่านั้น
การแข่งขันจัดอันดับดารากำหนดไว้ว่าผู้เข้าร่วมต้องมีอายุต่ำกว่า 35 ปี สำหรับศิษย์หลักระดับเงินที่จะตัดผ่านระดับที่ 6 ของขอบเขตปฐพีได้ก่อนอายุ 35 ปีนั้นเป็นสิ่งที่ท้าทายมาก พวกเขาบางคนต้องพึ่งพายาอายุวัฒนะ และใช้วิธีการต่างๆ เพื่อเพิ่มพลังเพียงเพราะต้องการเข้าร่วมการประลองคัดเลือกในนิกาย
เมื่อเห็นว่าผู้เข้าร่วมทั้งหมดมาถึงแล้ว จ้าวหวูจินยืนขึ้นและกล่าวด้วยน้ำเสียงอันดัง “การประลองคัดเลือกในนิกายเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ การประลองครั้งนี้มีกฎคือแพ้คัดออกและผู้ที่แพ้ครบสี่แต้มก็จะถูกตัดสิทธิ์ ข้าหวังว่าพวกเจ้าจะทุ่มเทอย่างเต็มที่ในทุกๆ การประลอง เพื่อที่จะไม่ต้องเสียใจใดๆ ในภายหลัง”
นิกายวารีครามมีเพียงสี่ที่ ที่จะพาคนไปเข้าร่วมการแข่งขันจัดอันดับดาราได้ หากพวกเขาแพ้ครบสี่ครั้ง อันดับของพวกเขาก็จะต่ำกว่าอันดับที่สี่โดยธรรมชาติ และก็จะไม่มีทางเป็นไปไม่ได้ที่จะขึ้นไปติดอันดับสี่นับจากนั้น
คู่ต่อสู้ในการแข่งขันถูกตัดสินโดยการจับฉลาก ด้านล่างเวทีการแข่งขัน ผู้ตัดสินดึงไม้สองอันออกมาและกล่าวเสียงดัง “นัดแรก หยูเหวินเทียนปะทะตั๋นโม”
“หยูเหวินเทียน? หือ” หลี่ฟู่เฉินสำรวจหยูเหวินเทียน
หลี่ฟู่เฉินไม่ได้เห็นเขามาสองปีแล้ว และดูเหมือนว่าสภาวะพลังฉีของหยูเหวินเทียนเข้มข้นกว่าเดิมมาก เขาจินตนาการได้เลยว่าหยูเหวินเยนจะต้องพยายามมามากในช่วงสองปีนี้ หลังจากทั้งหมดแล้วเขาก็เป็นโครงกระดูกระดับ 5 ดาวและศักยภาพโดยกำเนิดของเขาก็ไม่ควรด้อยไปกว่าดาบพยัคฆ์และดาบไร้อารมณ์
ในการแข่งขันครั้งนี้ หยูเหวินเทียนและตั๋นโมกำลังแลกเปลี่ยนกระบวนท่ากัน
ตั๋นโมอายุ 28 ปีในปีนี้ และเป็นศิษย์หลักระดับทองที่มีโครงกระดูก 4 ดาวชั้นยอด
ปั้ง ปั้ง ปั้ง ปั้ง…
ทุกคนคิดว่าหยูเหวินเทียนไม่น่าจะเป็นคู่ต่อสู้ของตั๋นโมได้ แต่ก็เกิดเรื่องไม่คาดคิดหลังจากที่แลกเปลี่ยนกระบวนท่าไปกว่าร้อยกระบวนท่า หยูเหวินเทียนไม่ได้เสียเปรียบ กลับกันเสียอีก เขาเป็นฝ่ายเหนือกว่าแทน
“เด็กคนนี้ไม่เลว ความเร็วในการพัฒนาเช่นนี้ดูเหมือนจะแข็งแกร่งกว่าของเฉินหยวนหูในสมัยก่อนมาก”
ผู้อาวุโสชั้นในหลายคนพยักหน้า
หลังจากผ่านมากว่าร้อยกระบวนท่า หยูเหวินเทียนก็เอาชนะตั๋นโมในนัดแรกได้
การแข่งขันครั้งที่สองคือหลี่ฟู่เฉิน และคู่ต่อสู้ของเขาก็คือศิษย์หลักระดับเงิน
บางทีเขาอาจต้องการเป็นสักขีพยานในความสามารถของหลี่ฟู่เฉิน ก็เนื่องเพราะศิษย์หลักระดับเงินผู้นี้ไม่ได้ยอมแพ้ในการแข่งขัน
“หลี่ชิตี๋ โปรดให้คำแนะนำแก่ข้าด้วย” ดวงตาของชายหนุ่มวูบไหว
“ย่อมได้” หลี่ฟู่เฉินพยักหน้า
ชี่ ชี่ ชี่ ชี่ ชี่ ชี่…
เงาดาบปรากฏขึ้นและดาบพลังฉีก็กระจายอยู่หนาแน่นราวกับฝนในฤดูใบไม้ร่วงที่หนาวเหน็บยะเยือกเย็น ซึ่งมันทั้งรุนแรงและเต็มไปด้วยเจตนาสังหาร
ศิษย์หลักทั้งหมดไม่ใช่คนธรรมดาและในสายตาของศิษย์ชั้นในหลายคนเหลานั้น ทักษะดาบของชายหนุ่มคนนี้อยู่ในระดับที่พวกเขาไม่อาจคาดคิดถึงมันได้ พวกเขารู้สึกว่าเพียงแค่ดาบพลังฉีที่พุ่งเข้ามาเฉียดๆ ก็สามารถทำให้พวกเขากลายเป็นหมอกเลือดได้
ทั้งๆ ที่หลี่ฟู่เฉินไม่ได้ดึงดาบออกมาจากฝัก แต่แสงดาบวูบนึงได้พุ่งเข้าหาเงาดาบ และชายหนุ่มคนนั้นก็ถูกบังคับให้ถอยหลังกลับไปหลายก้าว ในขณะที่มีรอยเลือดปรากฏอยู่ที่คอของเขา
“ขอบคุณท่านมากสำหรับความเมตตา หลี่ชิตี๋” ชายหนุ่มเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ
หลี่ฟู่เฉินพยักหน้าและไม่กล่าวอะไร
“หลี่ฟู่เฉินชิเซียงเกินหยั่งถึงไปแล้ว ดาบธรรมดาๆ จากเขาก็เพียงพอที่จะเอาชนะคู่ต่อสู้ของเขาได้”
ทุกคนกลายเป็นชุลมุน
การแข่งขันครั้งที่สามคือหลิวหวูหวง และคู่ต่อสู้ของเขาก็เป็นศิษย์หลักระดับเงินเช่นกัน
ดูเหมือนเขาจะพยายามคล้ายๆ กับรอบของหลี่ฟู่เฉิน และหลิวหวูหวงเองก็ใช้ดาบเดียวเอาชนะคู่ต่อสู้ของเขาได้ในทำนองเดียวกัน
แต่ผู้ที่สามารถมองได้ลึกซึ้งไปกว่านั้นก็จะรู้ว่าทักษะดาบของหลิวหวูหวงไม่ได้ล้ำลึกเกินหยุ่งเหมือนกับกระบวนดาบดาบของหลี่ฟู่เฉิน ซึ่งบดขยี้คู่ต่อสู้ของเขาด้วยความแข็งแกร่งเพียวๆ
หลังจากการแข่งขันนัดที่สี่และห้า ในไม่ช้าก็เหลือการแข่งขันอีกเพียงนัดเดียวในรอบแรก
สำหรับการแข่งขันสิบสี่นัดแรก ครึ่งแรกของการแข่งขันดำเนินไปอย่างรวดเร็ว
ในหมู่พวกเขา ดาบคลั่ง หลี่เซียงหรู ดาบพยัคฆ์ เฉินหยวนหู และดาบไร้อารมณ์ เซี่ยเฟิง ทั้งหมดเอาชนะคู่ต่อสู้ด้วยการลงดาบเพียงครั้งเดียว ความแตกต่างระหว่างทั้งสองฝ่ายรุนแรงมากจนไม่สามารถกำหนดอะไรได้
การแข่งขันครั้งที่สิบห้าคือบูฉิงสงปะทะกับศิษย์หลักระดับทอง
บนเวทีการแข่งขัน มีแสงดาบสุกใสซึ่งเหมือนกับดวงอาทิตย์ส่องแสงอยู่ คู่ต่อสู้ของบูฉิงสงพ่ายแพ้ทันทีเมื่อเผชิญหน้ากับมัน แม้แต่กระทั้งดาบทองดำของเขาก็ถูกปลด และเสื้อผ้าของเขาเองก็ขาดรุ่งริ่ง
ด้วยระดับสูงสุดของขอบเขตปฐพี บูฉิงสงไม่จำเป็นต้องใช้ทักษะดาบที่ลึกซึ้งอะไร ก็เอาชนะคู่ต่อสู้ของเขาได้ เขาเพียงแค่ต้องปล่อยพลังฉีของเขา และใช้ดาบโจมตีก็แค่นั้น
“ทรงพลังอะไรเช่นนี้ นอกเหนือจากดาบคลั่งชิเซียง และดาบพยัคฆ์ชิเซียงแล้ว ก็ไม่มีใครเทียบกับบูชิเซียงได้แล้ว”
“ไม่เสมอไป การฝึกฝนของเซี่ยชิเซียงอยู่ที่ระดับ 8 ของขอบเขตปฐพี และเขาก็อาจจะไม่ได้ด้อยไปกว่าบูชิเซียง”
“เซี่ยชิเซียงและบูชิเซียงอาจสู้กันได้ดีก็ได้ ผู้ชนะจะได้รับการตัดสิน หลังจากที่พวกเขาต่อสู้กันแล้วเท่านั้น”
คนส่วนใหญ่คิดว่าหลี่ฟู่เฉินไม่ใช่คู่ของบูฉิงสง เนื่องจากระดับพลังของพวกเขาห่างกันเกินไป
การแข่งขันรอบสองกำลังจะเริ่มขึ้น
“นัดแรก หลี่ฟู่เฉินปะทะหยูเหวินเทียน”
ระหว่างตอนที่อยู่ในนิกายชั้นนอก อัจฉริยะทั้งสองนี้เป็นคู่ที่น่าชื่นชมที่สุดและพวกเขาจะมาเผชิญหน้ากันในนัดแรกของรอบสองนี้แล้ว
เวลาต่างกันและสภาพจิตใจก็ต่างกันเช่นกัน
ในสายตาของหลี่ฟู่เฉินตอนนี้ หยูเหวินเทียนไม่ได้แตกต่างไปจากศิษย์หลักทั่วไป
วันเวลาที่พวกเขาต่อสู้เพื่อตำแหน่งศิษย์ชั้นนอกอันดับ 1 มันก็เป็นเวลานานมากแล้ว มันดูเหมือนเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในชีวิตก่อนหน้านี้ได้เลยด้วยซ้ำ
กระบวนดาบเดียว มันก็ยังคงใช้แค่กระบวนดาบเดียว
ยอดอัจฉริยะหยูเหวินเทียนพ่ายแพ้ให้แก่หลี่ฟู่เฉินในดาบเดียว
เมื่อทุกคนได้เห็นฉากนี้ พวกเขาถึงกับพูดไม่ออก
ไม่ใช่เพราะหยูเหวินเทียนไม่แข็งแกร่งพอ มันเป็นเพราะหลี่ฟู่เฉินเก่งขึ้นเร็วมากเกินไป เพียงไม่กี่ปีสั้นๆ เขาได้ก้าวข้ามอัจฉริยะทั้งหมดที่ครั้งหนึ่งเคยอยู่ในระดับเดียวกับเขาไปแล้ว
การแข่งขันจัดอันดับดาราจัดขึ้นเพียงหนึ่งครั้งในทุกๆ สามปี
ในกรณีปกติ อายุ 25 ปีเป็นช่วงอายุที่ดีที่สุดในการเข้าร่วม
แต่หลี่ฟู่เฉินอายุเพียง 20 ปี และการเข้าร่วมการแข่งขันจัดอันดับดาราด้วยอายุ 20 ปีนั้นไม่ต้องสงสัยเลยว่ามีระยะห่างระหว่างคนอื่นๆ มากเกินไป
และสถานการณ์เช่นนี้เองก็มักจะเกิดขึ้นกับโครงกระดูก 5 ดาวระดับท้าทายสวรรค์หรือไม่ก็โครงกระดูก 6 ดาวเท่านั้น
บางทีในการแข่งขันการจัดอันดับดาราครั้งถัดไป หยูเหวินเทียนอาจมีโอกาสเข้าสู่การจัดอันดับดารา… ทว่า มันต้องไม่ใช่ตอนนี้
“เขาไม่ได้อยู่โลกเดียวกับเราอีกต่อไปแล้ว” หนึ่งในสิบอันดับแรกของศิษย์ชั้นนอก เกาฉางเทียนถอนหายใจ
หวูฉิงเหม่ยพยักหน้าและรู้สึกซับซ้อนมาก
แม้ว่าเขาจะไม่เต็มใจที่จะยอมรับผลลัพธ์นี้ก็ตาม แต่หยูเหวินเทียนก็ได้เตรียมใจมาแล้ว
ก่อนหน้านี้เขาไม่เต็มใจที่จะเชื่อเลย แต่ตอนนี้เขามีแต่ต้องยอมรับเท่านั้น ปัจจุบันเขาอยู่ห่างจากหลี่ฟู่เฉินมากเกินไป และไม่เพียงแต่เขาไม่สามารถย่นระยะห่างระหว่างกันเข้ามาได้ กลับกันมันมากขึ้นกว่าเดิมเสียด้วยซ้ำ
ในรอบที่สามของการแข่งขัน หลิวหวูหวงพ่ายแพ้ด้วยดาบของดาบไร้อารมณ์ เซี่ยเฟิง
เมื่อเทียบกับเซี่ยเฟิงแล้ว หลิวหวูหวงมีความสามารถไม่เพียงพอ เนื่องจากเซี่ยเฟิงเป็นโครงกระดูกระดับ 5 ดาวด้วยเหมือนกัน
หลังจากการแข่งขันรอบที่สี่สิ้นสุดลง ศิษย์หลักระดับเงินทั้งหมดก็ถูกกำจัดออก และยังมีศิษย์หลักระดับทองอีกสองคนที่ถูกกำจัดออกไปเช่นกัน
ดังนั้นแล้ว จากผู้เข้าร่วม 30 คน จึงเหลือเพียง 22 คนเท่านั้น
ติดตามก่อนใครได้ที่เพจ indynovels/