Eternal Reverence เทพบุตรฟ้าประทาน - ตอนที่ 287
บทที่ 287
นิกายสิบอันดับแรก
แน่นอนว่าทุกอย่างย่อมมีความกดดันอยู่เสมอ แต่สำหรับหลี่ฟู่เฉิน ความกดดันดังกล่าวไม่คุ้มค่าที่จะกล่าวถึง
ไม่เว้นแม้แต่กระทั้งราชาดราไร้เคลื่อนไหว ฉีเหิง ก็ไม่สามารถทำให้หลี่ฟู่เฉินรู้สึกถึงความกลัวได้
ด้วยพลังฝึกฝนขอบเขตปฐพีระดับที่ 8 ของเขา เขาก็เชื่อว่าเขาสามารถต่อสู้กับใครก็ได้ ยิ่งไปกว่านั้น เขาเองก็ต้องการคู่ต่อสู้ที่ทำให้เขาพอใจได้เช่นกัน
เพียงไม่นาน นิกายชั้นยอดอื่นก็มาถึง คราวนี้เป็นนิกายวายุเหมันต์
คล้ายกับหุบเขานิรันดร์ นิกายวายุเหมันต์มีสองอัจฉริยะชั้นยอดอาศัยอยู่
พวกเขาคือนายน้อยวายุและเทพธิดาเหมันต์เยือกแข็ง
นายน้อยวายุ ฮันยี่หมิ๋ง ระดับสูงสุดของขอบเขตปฐพีและเขาก็อยู่อันดับที่ 12 ของการแข่งขันครั้งก่อน
เทพธิดาเหมันต์เยือกแข็ง ซูหลิน ก็อยู่ในระดับสูงสุดของขอบเขตปฐพีเช่นกัน เธออยู่ในอันดับที่ 15 ของการแข่งขันอันดับดาราก่อนหน้านี้
นานน้อยวายุ ฮันยี่หมิ๋งปรากฏตัวตามฉายานามของเขา เพียงแค่เขายืนอยู่เฉยๆ ก็เหมือนยืนอยู่ท่ามกลางสายลม และแม้แต่กระทั้งเจตจำนงพลังฉีก็ไม่สามารถโอบล้อมเขาได้ หากนักสู้ทั่วไปต้องมาเผชิญหน้ากับเขา พวกเขาอาจสูญเสียความตั้งใจในการต่อสู้ก่อนที่จะได้สู้ หลังจากทั้งหมดแล้ว หากเจตจำนงพลังฉีของเจ้าไม่สามารถจับตัวเขาได้ แล้วมันจะต่อสู้ได้อย่างไร?
เทพธิดาเหมันต์เยือกแข็ง ซูหลินมีสภาวะพลังฉีที่เหมือนกับสมยานาม เธออาจจะไม่ได้ปลดปล่อยพลังฉีที่ดูเยือกเย็นออกมา แต่ผู้ที่มีประสาทสัมผัสอ่อนไหวสมควรจะรู้สึกได้ว่าร่างกายของเธอมีพลังที่ดูยะเยือกเย็น
ฟานเฉียนสงแนะนำ “นายน้อยวายุมีเทคนิคตัวเบาเป็นอันดับ 1 ในบรรดาเหล่าคนรุ่นเยาว์ทุกคน ในการแข่งขันก่อนหน้านี้ เขาเข้าใจเจตจำนงเทคนิคตัวเบาระดับลึกลับขั้นกลาง แต่ในครั้งนี้ เขาต้องก้าวขึ้นไปถึงระดับใหม่แน่นอน เขาอาจจะเข้าใจถึงเจตจำนงเทคนิคตัวเบาระดับลึกลับขั้นสูงแล้วด้วยซ้ำ”
“สำหรับเทพธิดาเหมันต์เยือกแข็ง ซูหลิน… ในการแข่งขันก่อนหน้านี้ เธอได้ฝึกฝนเทคนิคบ่มเพาะระดับลึกลับขั้นสูงสุดของนิกายวายุเหมันต์ เทคนิควิญญาณเยือกแข็งแท้จริง ฝึกไปถึงขั้นที่ 16 แม้แต่กระทั้งสามราชาดาราก็ยังด้อยกว่าเธอ ว่ากันว่านอกจากจะมีโครงกระดูกเหมันต์เยือกแข็งระดับ 6 ดาวแล้ว แก่นแท้ร่างกายของเธอก็เหมือนจะยะเยือกเย็นอย่างไม่น่าเชื่อ ดังนั้น เธอจึงแค่ต้องใช้ความพยายามเพียงครึ่งเดียวเพื่อการฝึกฝนเทคนิคเยือกแข็ง เธอได้รับพรจากสวรรค์อย่างแท้จริง”
หลังจากได้รับฟังข้อมูล หลี่ฟู่เฉินเลิกคิ้ว
นายน้อยวายุผู้นี้ไม่ควรประมาท
ตามสิ่งที่เขารู้ นักสู้ส่วนใหญ่มีเทคนิคตัวเบาอยู่ที่ระดับลึกลับขั้นต่ำเท่านั้น มีเพียงไม่กี่คนที่เท่านั้นที่สามารถฝึกฝนเทคนิคตัวเบาระดับลึกลับขั้นกลางจนสำเร็จได้
ทุกคนมีพลังงานอยู่อย่างจำกัด และเจ้าต้องไม่ใช้พลังงานที่มีอยู่อย่างจำกัดนี้ทำสิ่งต่างๆ มากเกินไป ไม่เช่นนั้นแล้ว เจ้าจะไม่สามารถทำอะไรออกมาดีได้เลย
‘ข้าสงสัยว่าระดับทักษะต่อของเขาจะเป็นเช่นไร?’
เทคนิคตัวเบาที่เขามีอาจจะดูน่าเหลือเชื่อ แต่ถ้าไม่มีทักษะต่อสู้ที่มีความสามารถมากพอ มันก็ไร้ประโยชน์
ทักษะต่อสู้เป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดสำหรับนักสู้
ย้ายสายตาจากฮันยี่หมิ๋งไปหาเทพธิดาเหมันต์เยือกแข็ง ชูหลิน หลี่ฟู่เฉินแสดงความชื่นชมออกมาผ่านทางสายตา
เธอได้ฝึกฝนเทคนิคบ่มเพาะระดับลึกลับขั้นสูงสุด เทคนิควิญญาณเยือกแข็งขึ้นสู่ขั้นที่ 16 ได้ตั้งแต่เมื่อสามปีก่อน ความสามารถในการฝึกฝนเช่นนี้น่ากลัวอย่างแท้จริง เทคนิคบ่มเพาะในปัจจุบันของเขาอยู่ในระดับสูงสุดของขั้นที่ 16 เท่านั้น และเขายังขาดบางสิ่งก่อนที่จะขึ้นไปถึงขั้นที่ 17 อยู่
‘บางทีเธออาจอยู่ในขั้นที่ 17 แล้ว!’
หลี่ฟู่เฉินพบว่ามันยากที่จะจินตนาการถึงพลังของเทคนิคระดับลึกลับขั้นสูงสุดขั้นที่ 17 สำหรับเทคนิคระดับลึกลับขั้นสูงสุด หลังจากมาถึงขั้นที่ 15 ทุกขั้นต่อจากนี้นับว่าแตกต่างกันอย่างมาก ขั้นที่ 16 และ 17 อาจจะแตกต่างกันเพียงขั้นเดียว แต่ในการต่อสู้จริงๆ อย่างหลังจะสามารถสร้างแรงกดดันได้ดีกว่า แน่นอนว่านั่นเป็นเพียงเมื่อพวกเขาเปรียบเทียบในแง่ของเทคนิคบ่มเพาะ ในขณะที่คุณสมบัติอื่นๆ นั้นเท่าๆ กัน
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วและนิกายสวรรค์ปีศาจก็มาถึง
ในฐานะที่เป็นหนึ่งในสี่เทพธิดา เทพธิดาระบำแสง หยานฉิงหวู เธอย่อมกลายเป็นศูนย์กลางความสนใจของทุกคนโดยธรรมชาติ
ในการแข่งขันการจัดอันดับดาราของปีนี้ หยานฉิงหวูเป็นเด็กที่อายุน้อยที่สุด
แม้แต่กระทั้งในประวัติศาสตร์ของการแข่งขันการจัดอันดับดารา หยานฉิงหวูก็ยังอายุน้อยที่สุด
การเข้าร่วมการแข่งขันการจัดอันดับดาราในฐานะมีอายุ 18 ปีเป็นสิ่งที่โครงกระดูกระดับ 6 ดาวเองก็พบว่ามันยากที่จะทำได้
มีคนทำนายไว้ว่าในการแข่งขันจัดอันดับดาราครั้งต่อไป หยานฉิงหวูจะเป็นการดำรงอยู่ที่ไร้พ่าย แม้แต่กระทั้งการแข่งขันในปีนี้ เธอก็อาจจะอยู่ในอันดับที่ค่อนข้างสูง
จากระยะไกล หยานฉิงหวูจ้องไปที่หลี่ฟู่เฉิน
ทุกคนต่างอิจฉาโครงกระดูก 6 ดาวของเธอ แต่สำหรับเธอนั้น หลี่ฟู่เฉินเป็นตัวตนที่ผิดปกติ
โครงกระดูกระดับ 1 ดาวกลับสามารถมาถึงจุดๆ นี้ได้
ในตอนแรก เธอคิดว่าเธอคงไม่มีโอกาสที่จะได้พบกับหลี่ฟู่เฉินมากมายอะไรนัก บางสิ่งควรถูกลืมเธอก็ลืมมันไปเมื่อมันจบลง
แต่เธอไม่ได้คาดหวังเลยว่าจะได้เห็นความเร็วในการฝึกฝนของหลี่ฟู่เฉินเพิ่มขึ้น แทนที่มันจะช้าลงหลังจากที่เขาเลื่อนขอบเขตขึ้นมาแล้ว เขาฝึกฝนได้เร็วกว่าโครงกระดูกระดับ 6 ดาวด้วยซ้ำไป
โดยทั่วไป เมื่อมีคนที่มีโครงกระดูกไม่ดีทะลุขอบเขตบ่มเพาะใหม่ได้โดยบังเอิญ ตามปกติแล้วพลังบ่มเพาะของเขาจะต้องหยุดชงักหลังจากชั่วระยะเวลานึง
ตัวอย่างเช่น โครงกระดูก 2 ดาวมีโอกาส 20% ในการก้าวไปสู่ขอบเขตปฐพี แต่ถึงแม้จะข้ามขอบเขตมาได้ โดยปกติแล้วพวกเขาก็จะต้องใช้เวลาหลายปีก่อนที่จะเพิ่มระดับพลังบ่มเพาะต่อไป โครงกระดูกระดับ 2 ดาวบางส่วนจะตายเนื่องจากวัยชรา และพลังบ่มเพาะจะหยุดอยู่ในระดับที่ 4 หรือระดับที่ 5 ของขอบเขตปฐพี มันเป็นเหตุการณ์ที่หาได้ยากอย่างแท้จริงสำหรับการที่คนเหล่านั้นจะสามารถไปถึงระดับที่ 7 หรือ 8 ของขอบเขตปฐพีได้
กล่าวอีกนัยหนึ่ง ด้วยโครงกระดูกของหลี่ฟู่เฉิน หลังจากที่ก้าวไปสู่ขอบเขตปฐพีแล้ว เขาไม่น่าจะสามารถพัฒนาตนเองต่อได้อย่างน้อยก็นับสิบปี แต่มันนานแค่ไหนกันที่หลี่ฟู่เฉินมาถึงขอบเขตปฐพี? ตอนนี้เขาอยู่ระดับที่ 8 ของขอบเขตปฐพีแล้ว
แม้ว่าอาจจะมีการสนับสนุนจากเขตแดนเส้นทางแห่งดวงดาวและยาอายุวัฒนะ หลี่ฟู่เฉินก็ยังคงต้องเพิ่มระดับย่อยขึ้นด้วยตัวเองอยู่ดี
‘การรับรู้ของเขาไกลเกินกว่ามนุษย์ทั่วไป นั่นเป็นจุดสำคัญหรือไม่?’ หยานฉิงหวูครุ่นคิด
ถ้าหลี่ฟู่เฉินรู้ว่าหยานฉิงหวู่คิดอะไร โดยพื้นฐานแล้วเขาจะเห็นด้วยกับมัน แต่ก็เป็นเพียงเงื่อนไขพื้นฐานเท่านั้น
เหตุผลที่ความเร็วในการบ่มเพาะของเขาทำได้รวดเร็วมาก ไม่ใช่เพียงเพราะการรับรู้ มันยังมีปัจจัยสำคัญอื่นๆ อีกมากมาย
อย่างเช่นจิตวิญญาณก็คือการรับรู้
ยิ่งจิตวิญญาณแข็งแกร่ง มันก็จะช่วยให้เขาก้าวหน้าขึ้นได้อย่างมั่นคงและแน่ชัด ทั้งยังไม่มีทางเกิดความคิดที่ไม่มั่นคงหรือสัญญาณของการสูญเสียการควบคุมพลังของตัวเอง
การรับรู้ที่ทรงพลังทำให้เขาเข้าใจร่างกายของตัวเอง ส่งผลทำให้มันง่ายขึ้นสำหรับเขา ในการโคจรพลังฉีและทำการตัดผ่าน
ถ้าเขาแค่อาศัยการรับรู้ ความเร็วในการบ่มเพาะในปัจจุบันของหลี่ฟู่เฉินก็ยังคงเทียบไม่ได้กับโครงกระดูกระดับ 6 ดาวอยู่ดี
ก็จริงที่ส่วนใหญ่เป็นเพราะเขายังเด็ก
แต่ชูมู่หยูเองก็อายุ 20 ปีเช่นกัน แต่เธอก็มีระดับการฝึกฝนที่มากกว่าหลี่ฟู่เฉินแล้ว
แต่หลังจากก้าวไปสู่ขอบเขตสวรรค์แล้ว หลี่ฟู่เฉินก็จะตามทัน และเมื่อเทคนิคเพลิงโลกันต์แท้จริงของเขาทะลุไปถึงขั้นที่ 17 หรือ 18 ความเร็วในการฝึกฝนของเขาก็จะอยู่ในระดับที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
***
เมื่อรวมหยานชิงหวูไปด้วยแล้ว สามในสี่เทพธิดาอยู่ที่นี่แล้วส่วนใหญ่ หนึ่งในสามราชาดาราเองก็อยู่ที่นี่
หลังจากนับพวกเขาแล้ว ยังมีสามอัจฉริยะชั้นยอดที่ยังมาไม่ถึง
อัจฉริยะชั้นยอดทั้งสามนี้ หนึ่งเป็นที่หนึ่งของสี่เทพธิดา เทพธิดาไตรสิกขา สองเป็นหัวหน้าของสามราชาดารา ราชาดาราอัสนี และสามราชาดาราที่อ่อนแอ่ที่สุด ราชาดาราแส้ทองคำ
เทพธิดาไตรสิกขาอยู่ในอันดับที่ 7 ในการแข่งขันครั้งก่อน
ราชาดาราอัสนีติดอันดับที่ 1 ในการแข่งขันครั้งก่อน
ราชาดาราแส้ทองคำอยู่ในอันดับที่ 3 ในการแข่งขันก่อนหน้านี้
มันเป็นตัวเลขระดับที่มีความเป็นพิเศษทั้งหมด
“วิหารไตรสิกขามาถึงแล้ว”
“นิกายเทพอัสนีเองก็มาถึงแล้วเช่นกัน”
“และก็โถงทองคำดับสูญ”
ดูเหมือนว่าที่พวกเขาคุยกันก่อนหน้านี้ ด้วยเวลาเพียง 15 นาที สมาชิกของสามนิกายชั้นยอดก็มาถึงแล้ว
สำหรับตอนนี้ สิบอันดับแรกของนิกายชั้นยอดทั้งหมดมาอยู่ที่นี่แล้ว
พวกมันคือ… นิกายนภาดารา ตระกูลต้วนหลิน นิกายอุปกรณ์ลึกลับ หุบเขานิรันดร์ นิกายดาบมังกรฟ้า นิกายดาบเลิศสวรรค์ นิกายวายุเหมันต์ วัดไตรสิกขา นิกายเทพอัสนี และโถงทองคำดับสูญ
ในบรรดานิกายทั้งหลาย นิกายเทพอัสนีนั้นแข็งแกร่งที่สุดในด้านของความแข็งแกร่ง และยังเป็นที่รู้จักกันในนามนิกายอันดับ 1 ของทวีป
ผู้คนกล่าวว่านิกายอุปกรณ์ลึกลับนั้นน่ากลัวที่สุด นั่นส่วนใหญ่ก็เป็นเพราะประวัติศาสตร์อันยาวนานของพวกเขา ซึ่งนานกว่านิกายเทพอัสนีเสียด้วยซ้ำ ไม่มีใครสามารถเห็นได้อย่างแท้จริงว่ารากฐานของพวกเขานั้นลึกซึ้งและมั่นคงเพียงใด แต่โดนผิวเผิน นิกายเทพอัสนีเป็นหมายเลข 1 อย่างไม่มีใครโต้แย้งได้ นิกายที่มีจำนวนนักสู้ขอบเขตหวนคืนต้นกำเนิดมากที่สุดและนอกจากนี้ยังมีนักสู้ในขอบเขตหวนคืนต้นกำเนิดที่แข็งแกร่งที่สุดอาศัยอยู่ด้วยเช่นกัน
ติดตามได้ก่อนใครที่เพจ indynovels