Eternal Reverence เทพบุตรฟ้าประทาน - ตอนที่ 288
บทที่ 288
ออร่าเผด็จการ
เทพธิดาไตรสิกขา เจียงหรัวหลิวมีรูปลักษณ์ที่งดงามและมีออร่าที่ดูสูงส่ง จากสิ่งนี้เธอทำให้เธอดูเหมือนเทพธิดาเดินดิน
สำหรับตอนนี้แล้ว ท่ามกลางเทพธิดาทั้งสี่ เทพธิดาไตรสิกขานั้นดูยอดเยี่ยมกว่าเล็กน้อย
แต่มันก็สำหรับตอนนี้เท่านั้น
ในแง่ของรูปลักษณ์ที่ดูบริสุทธิ์ เทพธิดาอีกสามคนไม่ได้ด้อยไปกว่า เจียงหรัวหลิว เลย พวกเธอก็แค่พ่ายแพ้ในแง่ของพลังฝึกฝนและรากฐานเท่านั้น
แม้ว่าหญิงสามผู้นั้นจะหน้าตาธรรมดาๆ แต่ถ้าหากเธอสามารถฝึกฝนไปยังขอบเขตที่สูงขึ้นได้ เธอก็จะปลดปล่อยออร่าที่ไม่ธรรมดาเช่นนี้ออกมาได้โดยธรรมชาติ อาจะกล่าวได้ว่าเมื่อพลังฝึกฝนเพิ่มขึ้น ออร่าของพวกเธอาก็จะเพิ่มคุณภาพด้วยเช่นกัน ทั้งมันยังเพิ่มขึ้นอย่างมาก
ด้วยพลังฝึกฝนครึ่งก้าวสวรรค์ ออร่าของเจียงหรัวหลิวจึงใกล้เคียงกับนักสู้ขอบเขตสวรรค์มากนัก ดังนั้นแล้วมันจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่เธอถึงดูยอดเยี่ยมกว่าอีกสามคน
แน่นอนว่ารูปลักษณ์และออร่าไม่ได้เป็นทั้งหมดของเทพธิดาไตรสิกขา
สิ่งแรกที่เป็นของจริงก็คือเทคนิคตัวเบาของเจียงหรัวหลิว อย่างที่สองคือทักษะฝ่ามือของเธอ และอย่างที่สามคือทักษะภาพลวงตาของเธอ
ในระหว่างการแข่งขันการจัดอันดับดาราก่อนหน้านี้ แม้แต่กระทั้งราชาดาราอัสนี สือตูเหล่ย ก็ไม่สามารถต้านทักษะภาพลวงตาของเจียงหรัวหลิวได้อย่างสมบูรณ์ แต่โชคดีที่มันส่งผลกระทบต่อเขาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ราชาดาราแส้ทอง จินซูตง ได้อันดับสามในการแข่งขันการจัดอันดับดาราก่อนหน้านี้
เขาผู้ที่เป็นหนึ่งในสามราชาดารา มีรูปร่างที่ดูกำยำและสวมมงกุฎไว้บนหัว จากสิ่งนี้ทำให้รู้ได้เลยว่าเขาผู้เป็นราชาดารามีจิตวิญญาณของวีรบุรุษที่ถึงช่วงจุดสูงของชีวิต เขามีออร่าและแรงกดดันที่ไม่อาต้านทานได้ ทุกคนที่มองมาจะให้ความรู้สึกราวกับว่าพวกเขาถูกเหยี่ยวที่มีดวงตาก้าวร้าวมองดู
หากราชาดาราไร้เคลื่อนไหว ฉีเหิง เป็นเหมือนกับภูเขาขนาดมหึมา เช่นนั้นแล้วราชาดาราแส้ทองคำ จินซูตงก็เป็นเหมือนกับดวงอาทิตย์ที่สว่างไสวซึ่งเปล่งประกายโชตช่วง
“คู่ควรกับที่เป็นสามราชาดารา!”
หลี่ฟู่เฉินสามารถสัมผัสได้ถึงออร่าที่รุนแรงจากร่างกายของจินซูตง
เนื่องจากบุคลิกที่แตกต่างกัน ทุกคนจึงปลดปล่อยสภาวะพลังฉีที่แตกต่างกันออกมา
บางคนมีสภาวะพลังฉีที่ดูสงบเงียบ บางคนมีสภาวะพลังฉีที่ดูแปลกประหลาด บางคนมีสภาวะพลังที่แข็งแกร่ง ขณะที่บางคนมีสภาวะพลังฉีที่ดูอ่อนโยน
สภาวะพลังฉีที่ปลดปล่อยออกมาจากตัวจินซูตงเป็นเหมือนกับดวงอาทิตย์ที่กำลังส่องแสง ซึ่งได้ปลดปล่อยออร่าความเผด็จการออกมาอย่างต่อเนื่อง
หากต้องต่อต้านกับการดำรงอยู่เช่นนี้ ผู้ที่มีจิตใจอ่อนแอจะไม่สามารถสร้างความต้องการต่อสู้ออกมาได้
ทั้งกลางวันและกลางคืนไม่สามารถอยู่ร่วมกันได้ ทันทีที่ดวงอาทิตย์ขึ้น ดวงดาวทุกดวงต้องหลีกทาง สำหรับดวงอาทิตย์ทุกสิ่งต้องหลีกทาง
ในตอนนี้ ในที่สุดหลี่ฟู่เฉินก็เข้าใจว่าทำไมจึงมีเพียงแค่สามราชาดารา และทำไมฉีเหิงและจินซูตงถึงได้รับตำแหน่งราชาดารา
ไม่ใช่เพราะศักยภาพโดยกำเนิด
ในแง่ของศักยภาพโดยกำเนิด คนอื่นๆ ไม่ได้ด้อยไปกว่าสามราชาดาราเลย
มันเป็นเพราะออร่าความเผด็จการ
ราชาดาราทั้งสามมีออร่าเผด็จการในแบบที่คนรุ่นใหม่ไม่มีใครมี
อ่อร่าเผด็จการนี้ไม่ใช่อ่อร่าในแบบของทรราช มันเป็นออร่าแบบหนึ่งที่คนผู้นั้นคิดว่าตัวเองเป็นราชา ซึ่งดูหมิ่นทุกสิ่งด้วยความมั่นใจอย่างสุดแสน
มีบางคนที่สามารถปลดปล่อยออร่าแห่งความชั่วร้ายออกมาได้ ซึ่งมันถูกสร้างขึ้นโดยสภาพแวดล้อมและอารมณ์ที่เป็นเอกลักษณ์ แต่สามราชาดาราเป็นเสมือนราชาที่แท้จริง และออร่าเผด็จการก็เป็นเหมือนส่วนหนึ่งของพวกเขา
นอกเหนือจากสามราชาดาราแล้ว นายน้อยดาบมังกรเองก็มีออร่าความเผด็จการ แต่นายน้อยดาบมังกร จื่อหยูเย่ มีออร่าเผด็จการในรูปแบบของทรราชย์ ซึ่งเป็นออร่าของราชาที่ไม่เหมือนกับใคร
ออร่าราชาเช่นนี้จะคิดว่าตัวเองยิ่งใหญ่และมีอำนาจสูงสุด ซึ่งมันรุนแรงกว่าปกติไปมาก
ในตำนาน ในยุคที่ผู้เชี่ยวชาญอย่างแท้จริงมุ่งมั่นเพื่อไปยังจุดสูงสุด มีผู้ที่มีเต๋าจักรพรรดิแห่งดาบ เต๋าดังกล่าวเป็นเต๋าที่เผด็จการอย่างยิ่ง แต่น่าเสียดายที่มันจะพบกับทางตันได้อย่างง่ายดาย
ทวีปยูนิคอร์นตะวันออกเคยมีอาณาจักร แต่เนื่องจากจักรพรรดิยกย่องตัวเองว่าเป็นผู้ที่อยู่จุดสูงสุด ดังนั้นเขาจึงล้มลงได้อย่างง่ายดาย หลังจากนั้น เมื่อนิกายเริ่มเพิ่มจำนวนขึ้น ก็ไม่มีอาณาจักรใดปรากฏอีกเลย
นับจากนั้นเป็นต้นมา ทุกคนรู้ดีว่าเต๋าของราชานั้นไม่ใช่เรื่องง่ายและอาจจะไม่มีเส้นทางที่สมบูรณ์ปรากฏอยู่เสียด้วยซ้ำ
หลังจากตรวจพบดวงตาของหลี่ฟู่เฉินแล้ว จินซูตงก็หันศีรษะไปมองด้วยสายตาแข็งกร้าว รุนแรง
‘เป็นจิตวิญญาณที่เผด็จการอะไรเช่นนี้’ หลี่ฟู่เฉินรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
เจตจำนงของคนๆ หนึ่งเกี่ยวข้องกับบุคลิกภาพของคนๆ หนึ่ง มีบุคลิกบางอย่างที่ทำให้จิตวิญญาณมีความเข้มข้นและแข็งแกร่งมากขึ้น ในขณะที่มีบุคลิกบางอย่างที่ทำให้วิญญาณมีความก้าวร้าวเช่นนี้
จิตวิญญาณของจินซูตงเป็นเหมือนกับดวงอาทิตย์ที่ส่องแสง ซึ่งทั้งแผดเผาและเผด็จการ
แน่นอนว่าหลี่ฟู่เฉินเองก็รู้สึกประหลาดใจแค่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
เขารู้สึกประหลาดใจที่จิตวิญญาณของจินซูตงแข็งแกร่งที่สุดในบรรดาคนรุ่นใหม่ที่เขาเคยพบเจอมา
น่าเสียดายที่ยังทำให้เขาตกใจไม่พอ
หลี่ฟู่เฉินรู้สึกประหลาดใจ แต่จินซูตงรู้สึกมากกว่านั้น
เขาเคยได้ยินชื่อของหลี่ฟู่เฉินและยังเคยได้เห็นภาพเหมือนของหลี่ฟู่เฉินด้วยเช่นกัน ด้วยเหตุนี้เขาจึงใช้เวลาเพียงกระพริบตาถึงจำหลี่ฟู่เฉินได้
เขารู้ว่าหลี่ฟู่เฉินเป็นผู้มีพรสวรรค์ที่น่าประหลาดใจที่สุดในทวีปยูนิคอร์นตะวันออกในช่วงปีนี้
หลังจากทั้งหมดแล้ว แม้ว่าพวกเขาจะเป็นสามราชาดารา แต่ก็ไม่มีใครถูกยอมรับให้เป็นศิษย์ส่วนตัวของผู้เชี่ยวชาญเทพยุทธ์เร้นลับคนแรกหรือคนที่สองเลย หลี่ฟู่เฉินเป็นคนแรกที่ได้รับการยอมรับให้เป็นศิษย์ส่วนตัวภายใต้ผู้เชี่ยวชาญเทพยุทธ์คนแรก
ดังนั้น ด้วยการกวาดตามองในครั้งแรก เขาจึงตั้งใจและต้องการทดสอบหลี่ฟู่เฉิน ผลที่ตามมาทำให้เขาประหลาดใจมาก
หากจิตวิญญาณของเขาเป็นเหมือนกับดวงอาทิตย์ที่กำลังส่องแสง เช่นนั้นแล้วจิตวิญญาณของหลี่ฟู่เฉินก็เหมือนกับท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว มันทั้งลึกซึ้งและกว้างใหญ่ไพศาล
ไม่ว่าดวงอาทิตย์จะแผดแสงเพียงใด มันก็เทียบไม่ได้กับท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว ดวงอาทิตย์เองก็เป็นส่วนหนึ่งของท้องฟ้า
“น่าสนใจ” จิตซูตงเผยรอยยิ้ม
จิตวิญญาณของหลี่ฟู่เฉินอาจจะทำให้เขาประหลาดใจ แต่ในโลกนี้ ความแข็งแกร่งของนักสู้มีหลายแง่มุม จิตวิญญาณเองก็เป็นเพียงแง่นึงและตราบเท่าที่มันไม่อ่อนแอเกินไป ทุกอย่างก็สามารถปรับเปลี่ยนได้
“30 อันดับแรก? หรือ 20 อันดับแรก?”
จินซูตงทำการประเมินผลไว้ค่อนข้างต่ำก็เนื่องจากพลังบ่มเพาะของหลี่ฟู่เฉิน เขาคิดว่าขีดจำกัดของหลี่ฟู่เฉินจะอยู่ที่ 20 อันดับแรก
หลี่ฟู่เฉินไม่รู้เกี่ยวกับความคิดของจินซูตง แม้ว่าเขาจะรู้ เขาก็ไม่ได้ใส่ใจมันมากนัก หลี่ฟู่เฉินเปลี่ยนสายตาจากจินซูตง และหันไปหาอัจฉริยะชั้นยอดคนสุดท้าย… ราชาดาราอันดับ 1 ราชาดาราอัสนี สือตูเหล่ย
สมยานามราชาดาราอันดับ 1 นั้นน่ายกย่องอย่างยิ่ง
ในระดับหนึ่ง ราชาดาราอันดับ 1 ยังหมายถึงว่าเขาเป็นอัจฉริยะอันดับ 1 ด้วยเช่นกัน นั่นหมายความว่าเขาเป็นราชาแห่งอัจฉริยะ
ราชาดาราอัสนี สือตูเหล่ย มีรูปร่างที่กำยำและสูงกว่าจินซูตง เขาเตี้ยกว่าฉีเหิงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
เขาราวกับผู้ที่ถูกรังสรรค์ขึ้นมาเป็นอย่างดี ช่วงบนดูเหมือนกับภูเขาขนาดเล็ก ซึ่งส่วนนี้ยังถูกขับเน้นด้วยขาที่ยาวของเขา ทั้งร่างของเขาให้ความรู้สึกราวกับว่าเขาเป็นสายฟ้า เมื่อตอนที่เขาไม่เคลื่อนไหว เขาดูมั่นคงประดุจภูเขา แต่เมื่อเขาเคลื่อนไหว มันราวกับว่าฟ้ากำลังร้องคำราม
เมื่อพูดถึงสือตูเหล่ย เราก็ต้องพูดถึงนิกายเทพอัสนีด้วยเช่นกัน
นิกายเทพอัสนีเป็นนิกายอันดับ 1 ในทวีปยูนิคอร์นตะวันออก พวกเขามีนักสู้ในขอบเขตหวนคืนต้นกำเนิดมากที่สุดและยังมีผู้ที่ทรงพลังที่สุดอาศัยอยู่
นิกายเทพอัสนีไม่ได้เต๋าต่อสู้หลากหลายนักและเอนเอียงไปยังคุณลักษณะของสายฟ้าเป็นพิเศษ
ไม่ว่าจะเป็นเทคนิคบ่มเพาะของพวกเขา เทคนิคลับ หรือทักษะต่อสู้ต่างๆ พวกมันทั้งหมดมีคุณลักษณะเป็นสายฟ้า สิ่งที่มีชื่อเสียงที่สุดในหมู่พวกมันก็คือเทคนิคบ่มเพาะอันดับ 1 ของนิกายเทพอัสนี “เทคนิคอัสนีบาตรศักดิ์สิทธิ์”
เทคนิคลับระดับ 5 ดาว “หัวใจแห่งสายฟ้า” และทักษะต่อสู้อันดับ 1 “อัสนีสวรรค์ดับสูญ”
ทักษะต่อสู้ประเภทสายฟ้าเผด็จการและรุนแรงอย่างมาก กับผู้ที่อยู่ในขอบเขตและพลังฝึกฝนระดับเดียวกัน ศิษย์ของนิกายเทพอัสนีจะสามารถข่มเหงศิษย์ของนิกายอื่นได้อย่างสมบูรณ์ ในแง่ของความเร็วและพลังโจมตี พวกมันอยู่ในระดับสูงสุด มีเพียงความสามารถในการป้องกันเท่านั้นที่ด้อยกว่าเล็กน้อย
แต่เมื่อเผชิญหน้ากับพลังโจมตีที่แท้จริง มันไม่มีความแตกต่างมากนักกับอีแค่ความด้อยกว่าเล็กน้อยในด้านการป้องกัน
มีคำกล่าวว่า ‘การป้องกันที่ดีที่สุดคือการโจมตี’ และมันสมเหตุสมผลมากนักที่จะมาใช้ในกรณีแบบนี้
ในฐานะอัจฉริยะรุ่นของนิกายเทพอัสนี สือตูเหล่ยมีโครงกระดูกสายฟ้าระดับ 6 ดาวและเป็นที่โปรดปรานของสวรรค์ในตอนที่เขาฝึกฝนทักษะต่อสู้ประเภทสายฟ้า ตราบใดที่มันเป็นทักษะต่อสู้ประเภทสายฟ้า เขาจะสามารถเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว
ความสามารถของเขาสามารถอธิบายได้ว่าเป็นพลังที่สมบูรณ์ที่สุดของผู้เยาว์รุ่นนี้และแทบไม่มีข้อบกพร่องใดๆ
เขามีข้อได้เปรียบในทุกปัจจัย
ในการแข่งขันการจัดอันดับดาราก่อนหน้านี้ แม้แต่กระทั่งราชาดาราไร้เคลื่อนไหว ฉีเหิง และราชาดาราแส้ทองคำ จิตซูตง ก็ไม่สามารถผู้ยอดเยี่ยมที่สุดอย่างสือตูเหล่ยได้
ความสามารถที่น่ากลัวของสือตูเหล่ยนั้นไม่อาจหยั่งรู้ได้ เช่นเดียวกับเมฆดำบนท้องฟ้า ไม่มีใครรู้ว่ามันสามารถเกิดฟ้าร้องและฟ้าผ่าได้มากแค่ไหนกัน