Eternal Reverence เทพบุตรฟ้าประทาน - ตอนที่ 292

บทที่ 292

 

การแข่งขันเพื่อชิงเสาหิน

 

 

ทีละคนๆ ผู้เข้าร่วมมาถึงจุดสูงสุดของภูเขามากขึ้น เพียงไม่นานา 90% ของเสาหิน 108 ต้น ก็ถูกครอบครองไป

 

 

ฟึบ ฟึบ ฟึบ…

 

 

มีผู้เข้าร่วมมากขึ้นและเมื่อพวกเขาเห็นว่าที่ว่างมีจำนวนจำกัด พวกเขาเริ่มบ้าคลั่ง ขณะที่พวกเขากระโดดขึ้นสูงและต้องการที่จะแย่งชิงหนึ่งในเสาหินชุบสวรรค์ไป

 

 

“ไปให้พ้น!”

 

 

ในระหว่างการแย่งเสาหิน การต่อสู้เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ทุกคนรู้เรื่องนี้มาตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้วว่าพวกเขาต้องขึ้นไปบนเสาหินชุบสวรรค์ แต่ทว่าพวกเขากลับรู้สึกสบายใจ เพราะเมื่อเสาหินชุบเต็มแล้ว พวกเขาก็จะถูกจัดอันดับอยู่ในอันดับดารา หากไม่เป็นเช่นนี้ และหากการแย่งชิงถูกลากยาวออกไป คนจำนวนมากจะต้องขึ้นมาเพื่อชิงตำแหน่งเหล่านั้นแน่นอน

 

 

ท่ามกลางการต่อสู้ หลี่ฟู่เฉินเห็นหลี่เซียงหรู เฉินหยวนหู และเซี่ยเฟิง

 

 

หลังจากใช้ความพยายามอยู่ซักพัก หลี่เซียงหรูก็สามารถหาเสาหินชุบสวรรค์ที่ว่างเปล่าเจอ แต่เฉินหยวนหูและเซี่ยเฟิงไม่แม้แต่จะเข้าใกล้เสาได้ เนื่องจากพวกเขาจะถูกใครบางคนขับไล่หรือขัดขวางตลอด

 

 

ปั้ง!

 

 

หนึ่งในพลังที่โจมตีมา ฝ่ามือนั้นพุ่งเข้ามาและตีทะลุเกราะพลังฉีเซี่ยเฟิง มันเข้ามากระแทกที่หน้าอกของเขา

 

 

เซี่ยเฟิงกระเด็นกลับหลังไปและกระอักเลือด

 

 

“เสาหินชุบสวรรค์นี้เป็นของข้า” ผู้เข้าร่วมคนหนึ่งบินไปที่เสาหินชุบสวรรค์

 

 

“อย่าแม้แต่จะคิด!” ผู้เข้าร่วมอีกสี่คนเข้าไปรุมเขา

 

 

“ไปให้พ้น!”

 

 

บุคคลผู้นั้นราวกับว่าเขามีสามหัวและหกแขน เขาส่งฝ่ามือออกไป

 

(หมายเหตุ TL: สามหัวและหกแขนอาจหมายถึงความสามารถที่โดดเด่น)

 

 

ปิส ปิส ปิส…

 

 

ผู้เข้าร่วมทั้งสี่คนนี้มาเร็วและก็ออกไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน เป็นไปตามที่คาด พวกเขากระอักเลือดขณะที่ถูกส่งบินออกไป

 

 

“ผู้ชายคนนั้นคือหวางซิน ซึ่งอยู่ในอันดับที่ 44 ในการแข่งขันจัดอันดับดาราครั้งก่อน”

 

 

“เขาคู่ควรกับอันดับที่ 44 อย่างแท้จริง ความสามารถของเขาเหนือกว่าเรามาก เราไม่ควรต่อสู้กับเขา”

 

 

พวกเขาไม่กลัวใครก็ตามที่อยู่อันดับต่ำกว่า 70 ขึ้นไป (ขึ้นไปหา 100 นะ555)

 

 

ในความเป็นจริงแล้ว อันดับดาราที่มีอันดับต่ำจำนวนมากได้พ่ายแพ้ไปแล้ว นอกจากนี้ พวกเขาทั้งหมดก็ได้พ่ายแพ้ให้กับเหล่าอัจฉริยะที่มีเพิ่มขึ้นและยังไม่เคยเข้าสู่การจัดอันดับดารา

 

 

แต่ผู้ที่ติดอันดับ 50 อันดับแรกในการแข่งขันก่อนหน้านี้ล้วนแล้วแต่น่าหวั่งเกรงเกินไป มันเป็นความท้าทายอย่างแท้จริงสำหรับการที่จะเอาชนะพวกเขา

 

 

แทนที่จะทำให้ตัวเองเหนื่อย ทำไมไม่ลองแข่งขันเพื่อเสาหินชุบสวรรค์ต้นอื่นๆ ดูก่อนละ

 

 

ปิส! ปิส!

 

 

หรันเฉียนฉิวและเซี่ยวไบ๋ที่ต่างก็พ่ายแพ้ให้กับหลี่ฟู่เฉิน รู้สึกปวดร้าวยิ่ง

 

 

พวกเขาทั้งคู่เป็นอันดับดาราก่อนหน้านี้ และแต่เดิมพวกเขาก็คิดว่ามันคงจะยากไม่มากนักสำหรับการที่พวกเขาจะคว้าเสาหินชุบสวรรค์ที่ว่างอยู่ แต่อัจฉริยะก็มีเพิ่มขึ้นและปรากฏตัวอย่างกระทันหัน ซึ่งสิ่งนี้ได้ผลักดันให้ทั้งสองเข้าสู้วังวนที่น่าเจ็บใจ พวกเขาเข้าใกล้เสาไม่ได้ด้วยซ้ำ

 

 

“บ้าเอ้ย!”

 

 

ใบหน้าของหรันเฉียนฉิวดูไม่สบอารมณ์ ใบหน้าของเสี่ยวไบ๋ก็เช่นกัน

 

 

แตกต่างจากหรันเฉียนฉิวและเสี่ยวไบ๋ ฉินเค่อชือได้รับตำแหน่งมาตำแหน่งนึง และ ‘เจ้ากรรมนายเวร’ ของเธอ สตรีศักดิ์สิทธิ์แส้ปีศาจ ถังชือฉีก็มีตำแหน่งที่ว่างเช่นกัน

 

 

ทั้งสองมีศักยภาพโดยกำเนิดค่อนข้างดี ไม่เหมือนกับหรันเฉียนฉิวและเสี่ยวไบ๋ที่อาจจะมีความสามารถในการเป็นอันดับดาราในการแข่งขันครั้งก่อน แต่ครั้งนี้กลับไม่ใช่

 

 

แน่นอนว่าแม้ว่าพวกเขาจะสามารถหาที่ว่างของเสาหินชุบสวรรค์เจอ แต่พวกเขาก็ไม่อาจปกป้องมันได้

 

 

ตราบใดที่เสาหินชุบสวรรค์ยังไม่เต็ม ทุกคนก็สามารถแข่งขันเพื่อชิงเสาหินได้

 

 

“หรันเฉียนฉิวและเสี่ยวไบ๋น่าจะอ่อนแอกว่าดาบพยัคฆ์ เฉินหยวนหู โดยพื้นฐานแล้วเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะเข้าสู่การจัดอันดับดารา” หลี่ฟู่เฉินยืนอยู่บนเสาหินชุบสวรรค์และส่ายหัว

 

 

มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เสมอในทุกการแข่งขันการจัดอันดับดารา มันคงเป็นเรื่องที่น่ายกย่องแล้ว หากอันดับดาราก่อนหน้านี้มากกว่าครึ่งหนึ่งสามารถอยู่ในอันดับดาราได้คงเดิม แน่นอนว่าสาเหตุหลักมาจากการที่พวกเขาบางคนก้าวขึ้นไปสู่ขอบเขตสวรรค์

 

 

หลังจากทั้งหมดแล้ว แม้ว่าพวกเขาจะไม่เลื่อนขอบเขต พวกเขาก็ไม่สามารถเอาชนะสามราชาดาราได้อยู่ดี ดังนั้น พวกเขาจึงเลือกเดินหน้าต่อและเลือกที่จะลืมมันไปด้วยเช่นกัน

 

 

โดยไม่รู้ตัว ก็มีผู้เข้าร่วมราวๆ 400 คนมารวมตัวกันที่จุดสูงสุดของภูเขาแล้ว

 

 

เซี่ยฉัวชือเป็นหนึ่งในกลุ่มคนสุดท้ายที่มาถึงจุดสูงสุดของภูเขา

 

 

เขาโชคไม่ดีนัก เนื่องจากเส้นทางที่เขาเลือกนั้นเต็มไปด้วยต้นไม้ที่ดุร้าย ไม่เช่นนั้นแล้ว เขาคงจะมาเร็วกว่านี้

 

 

ปั้ง ปั้ง ปั้ง ปั้ง ปั้ง…

 

 

ความสามารถของเซี่ยฮัวชือนั้นน่ากลัว และเขาก็อยู่ในกลุ่มอัจฉริยะที่ถูกเพิ่มเข้ามาด้วยเช่นกัน ทั้งยังเป็นหนึ่งในผู้ที่แข็งแกร่งที่สุด หลังจากทั้งหมดแล้ว เขาก็เป็นโครงกระดูก 5 ดาวระดับท้าทายสวรรค์

 

 

เมื่อเขาทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า เซี่ยฮัวชือดูเหมือนสัตว์ปีศาจที่ดุร้ายขณะที่เขาพุ่งเข้ามา ไม่มีใครสามารถต้านทานหมัดจากเขาได้แม้แต่หมัดเดียวและหากรับได้พวกเขาก็บาดเจ็บสาหัส ไม่ก็กระเด็นออกไปคล้ายกับข้าวฟางที่ถูกคนโยน

 

 

“มันคือเซี่ยฮีวชือ ถอยออกไปเร็ว”

 

 

เซี่ยฮีวชือมีชื่อเสียงที่ค่อนข้างฉาวโฉ่จากในโลกภายนอก ทุกคนรู้ว่าเขาเป็นคนที่อำมหิตและแข็งแกร่ง ในบรรดาสิบต้วนหลิน เขาเป็นรองแค่เซี่ยฮัวชวนเท่านั้น

 

 

หลังจากได้ยืนอยู่บนหนึ่งในเสาหินชุบสวรรค์แล้ว เซี่ยฮัวชือยืนเอามือไพล่หลัง และเผยสีหน้าของความไม่สนใจออกมา

 

 

อัจฉริยะส่วนใหญ่ถอยกลับทันทีที่เห็นเขา

 

 

พึบ พึบ พึบ พึบ พึบ พึบ…

 

 

ร่างสีดำปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า

 

 

ไม่ว่าภูเขาโชคชะตาดาราจะสูงซักเพียงใด แต่มันก็ยังไม่สามารถหยุดยั้งนักสู้ขอบเขตหวนคืนต้นกำเนิดได้ ก็ในเมื่อพวกเขากำลังลงมาจากเบื้องบน

 

 

แน่นอนว่านี่เป็นเพราะภูเขาโชคชะตาดาราถูกเปิดออกแล้ว หากมันเป็นวันที่ภูเขาโชคชะตาดารายังถูกปิดอยู่ แม้แต่กระทั้งนักสู้ขอบเขตหวนคืนต้นกำเนิดก็ไม่สามารถขึ้นไปบนภูเขาได้ พวกเขาจะถูกขับไล่โดยสภาวะพลังฉีของภูเขาโชคชะตาดารา บางคนอาจได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แต่หากมีคนตกจากสถานที่แห่งนี้ นั้นก็นับว่าเป็นเรื่องที่ค่อนข้างร้ายแรง

 

 

ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตหวนคืนต้นกำเนิดจากนิกายต่างๆ ได้นำอัจฉริยะจากนิกายของพวกเขามาด้วยและร่อนลงอยู่ด้านบน ในขณะที่สังเกตจากระยะไกล นั่นรวมถึงโอหยางเหวินเทียนและคนอื่นๆ จากนิกายวารีครามด้วยเช่นกัน

 

 

“ฟู่เฉินและเซียงหรูแย่งตำแหน่งบนเสาหินชุบสวรรค์มาได้!”

 

 

ดวงตาของจ้าวหวูจินตวัดมองไปรวดเร็วราวกับสายฟ้าฟาด เมื่อเขาเห็นหลี่ฟู่เฉินและหลี่เซียงหรูยืนอยู่บนเสา เขาอดไม่ได้ที่จะเผยรอยยิ้ม

 

 

โอหยางเหวินเทียนพยักหน้าและกล่าว “เฉินหยวนหูและเซี่ยเฟิงด้อยกว่าเล็กน้อย มันขึ้นอยู่กับโชคของพวกเขาว่าในท้ายที่สุดแล้วพวกเขาจะสามารถยืนอยู่บนเสาหินชุบสวรรค์ได้หรือไม่”

 

 

การแย่งชิงเสาหินชุบสวรรค์เองก็ต้องใช้โชคเช่นกัน หากเจ้าสามารถยืนอยู่บนเสาสุดท้ายซึ่งจะทำให้ที่เสาหินชุบสวรรค์ทั้งหมดเต็มได้ เสา 108 ต้นก็จะก่อตัวเป็นค่ายกลชุบสวรรค์ เมื่อเป็นเช่นนั้นมันจะป้องกันไม่ให้คนอื่นที่ต้องการแย่งชิงเสาหินชุบสวรรค์เข้ามาใกล้ มันจะขับไล่ผู้อื่นออกไปภายนอก

 

 

แต่ผู้ที่มีพละกำลังอย่างแท้จริงไม่จำเป็นต้องพึ่งพาโชค

 

 

ดั่งเช่นสามราชาดารา หกนายน้อย หรือแม้แต่กระทั้งสี่เทพธิดา เทพธิดาไตรสิกขาและเทพธิดาวายุเหมันต์

 

 

มันคงจะเหมือนกับการถามหาความตาย หากพวกเขาต้องการต่อสู้เพื่อที่ยืนบนเสาของคนพวกนั้น คงไม่มีใครโง่ขนาดที่จะวิ่งเข้าหาพวกเขาทั้งๆ แบบนั้น

 

 

แต่เห็นได้ชัดว่า ชูมู่หยูและหยานฉิงหวูไม่ได้รวมอยู่ในคนพวกนั้น

 

 

พวกเธออาจจะเป็นอัจฉริยะชั้นยอด แต่พวกเธอก็ยังเด็กอยู่ และมันก็ย่อมมีคนที่ต้องการท้าทายพวกเธออยู่เสมอ

 

 

“ไปให้พ้น!”

 

 

เคียวของชูมู่หยูเหวี่ยงราวกับกำลังเก็บเกี่ยวฟางข้าว ขณะที่เธอกวาดต้อนผู้เข้าร่วมทั้งสี่คนออกไป ด้วยการแสดงความสามารถที่ดูเรียบง่ายของเธอครั้งนี้ออกมา ดูเหมือนว่าเธอจะอยู่เหนือกว่าเซี่ยฮัวชือ

 

 

ความสามารถของหยานฉิงหวูก็ยอดเยี่ยมเช่นกัน กระบี่โค้งของเธอกระพริบวูบวาบ ซึ่งมันก็ได้ส่งแสงกระบี่ออกไปไปรอบๆ อย่างรวดเร็วประดุจดั่งนกนางแอ่น เธอส่งหนึ่งในผู้เข้าร่วมบินออกไปอย่างง่ายดาย ขณะนั้นเองที่ร่างของเธอขยับอีกครั้ง มีร่างหลายร่างปรากฏขึ้นแต่ก็ถูกเธอส่งออกไปอย่างรวดเร็ว

 

 

หลังจากดูความสามารถที่เธอแสดงออกมาแล้ว อย่างน้อยๆ เธอก็น่าจะอยู่ในอันดับกลางๆ ของการจัดอันดับดารา

 

 

“เอาเด็กนั่นลงมา”

 

 

ในบรรดาผู้เข้าร่วม 400 คนบนยอดเขา มี 100 คนอยู่บนเสาหินชุบสวรรค์ ในขณะที่คนที่เหลือเปลี่ยนเป้าหมายไปเรื่อยๆ

 

 

ไม่จำเป็นต้องกล่าว หลี่ฟู่เฉินเอวก็เป็นหนึ่งในเป้าหมาย

 

 

“ไม่ดีแล้ว หลี่ฟู่เฉินตกเป็นเป้าหมาย” จ้าวหมิ๋งเยว่กลั้นหายใจ

 

 

มีอัจฉริยะอยู่บนยอดเขามากเกินไป แม้ว่าเธอจะมีความเชื่อมั่นในตัวหลี่ฟู่เฉิน เธอก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกกังวล

 

 

จ้าวหวูจิน โอหยางเหวินเทียนและคนอื่นๆ เองก็ขมวดคิ้ว ขณะที่พวกเขาสังเกตอยู่อย่างเงียบๆ

 

 

“สารเลวเอ้ย ลงมาเดี๋ยวนี้!”

 

 

ร่างห้าร่างพุ่งเข้าหาหลี่ฟู่เฉินและมีสองคนเป็นอันดับดาราในการแข่งขันครั้งก่อน

 

 

หลี่ฟู่เฉินชักดาบออกมาและใช้ท่าสังหารระดับลึกลับขั้นกลางท่าแรกของเขา ดาบหลั่งไหล ซึ่งมันได้ระเบิดแสงดาบสิบเล่มออกไป

 

 

ปิส ปิส ปิส!

 

 

เมื่อแสงดาบกวาดออกไป พวกเขาทั้งห้ามีเลือดไหล ขณะที่พวกเขาตกลงมาจากท้องฟ้า

 

 

“ฮ่าๆ ดูเหมือนว่าเราไม่จำเป็นต้องกังวลแต่อย่างใด”

 

 

เมื่อเห็นว่าหลี่ฟู่เฉินสามารถแก้ไขอันตรายได้ยังไง จ้าวหวูจินหัวเราะออกมาอย่างร่าเริง

 

 

“เข้าไป ทุกคนเข้าไปสู้พร้อมกัน!”

 

 

เมื่อเห็นทุกจุดบนเสาหินชุบสวรรค์ใกล้เต็มหมดแล้ว คนที่เหลือเริ่มกระวนกระวายใจ ก่อนหน้านี้ มันเป็นการต่อสู้ที่วุ่นวายเพื่อแย่งชิงเสาหิน ตอนนี้มันเปลี่ยนไปเป็นสถานการณ์ที่ผู้เข้าร่วมหลายสิบคนโจมตีไปยังคนที่อยู่บนเสาหินชุบสวรรค์ ขณะที่พวกเขาต้องการจะโค่นใครก็ตามที่อยู่บนเสานั้นๆ

 

 

ในช่วงเวลาสั้นๆ ผู้คนจำนวนหลายคน หลี่เซียงหรูและฉินเค่อชือเองก็รวมอยู่ด้วย ถูกบังคับให้ออกจากเสา โชคยังดีที่พวกเขาสามารถเอาที่บนเสากลับมาได้