Eternal Reverence เทพบุตรฟ้าประทาน - ตอนที่ 303
บทที่ 303
เจตจำนงเทคนิคร่างกายเร้นโลหิต
‘เทคนิคลับระดับ 4 ดาวนี้ช่วยลดจำนวนข้อบกพร่องลงได้แต่ก็ช่างน่าเสียดาย’
หลี่ฟู่เฉินไม่ได้สนใจแม้ว่าเงาสังหารเพลิงปีศาจจะไม่สามารถทำลายการป้องกันของเซี่ยฮัวชวนได้ กระบวนท่านี้ไม่ได้อาศัยการรับรู้ของเขาและมีเพียงกระบวนท่าที่อาศัยการรับรู้ของเขาเท่านั้นถึงจะยากที่จะป้องกันอย่างแท้จริง เช่นเดียวกับท่าเขาเพลิงปีศาจ
หลังจากที่คิดได้แล้ว หลี่ฟู่เฉินก็โจมตีอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่เงาสังหารเพลิงปีศาจโจมตีไม่สำเร็จเขาก็เปลี่ยนเป็นเขาเพลิงปีศาจ เขาสีแดงแทงทะลุช่องว่างและพุ่งเข้าหาเซี่ยฮัวชวน
“ฝ่ามือเขย่าภูผา”
เซี่ยฮัวชวนเองก็ค่อนข้างเหลือเชื่อเช่นกัน ขณะที่เขากระแทกฝ่ามือลงไปบนเขาสีแดงเข้มทันที
มันเป็นท่าสังหารระดับลึกลับขั้นสูงที่เซี่ยฮัวชวนได้พัฒนาขึ้น ฝ่ามือเขย่าภูผา
บูม!
ฝ่ามือเขย่าภูผาคล้ายกับเขาเพลิงปีศาจ มันมีพลังเข้มข้น ไม่เช่นนั้นแล้ว มันก็คงไม่สามารถเขย่าภูเขาได้
เมื่อกระบวนท่าทั้งสองปะทะกัน คลื่นพลังฉีที่น่ากลัวก็ระเบิดออกมา
“นั้นคือการรับรู้ของเขา?”
ในที่สุดเซี่ยฮัวชวนก็รู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างการแลกเปลี่ยนกระบวนท่าครั้งสุดท้ายในการต่อสู้ระหว่างหลี่ฟู่เฉินและมู่หรงตี๋
การรับรู้ของหลี่ฟู่เฉินนั้นทรงพลังอย่างมากและสามารถมองทะลุข้อบกพร่องของท่าสังหารมู่หรงตี๋ได้ทันที จากนั้นเขาก็ใช้มันเป็นเครื่องมือ เพื่อเจาะร่างของมู่หรงตี๋ด้วยดาบเดียว ในตอนแรก เซี่ยฮัวชวนสันนิษฐานว่าท่าสังหารของมู่หรงตี๋หลังจากไม่เสถียรหลังจากที่ความสามารถของเขาเพิ่มขึ้นมาก ซึ่งทำให้หลี่ฟู่เฉินมีโอกาส แต่เมื่อเซี่ยฮัวชวนนึกถึงเรื่องนี้เขาก็เข้าใจได้แล้วว่านั่นคือการรับรู้ของหลี่ฟู่เฉิน ซึ่งทรงพลังมากเกินไป
หากไม่เช่นนั้นแล้ว หลี่ฟู่เฉินก็คงไม่สามารถทำลายทักษะฝ่ามือพลิกขุนเขาของเขาและใช้ประโยชน์จากช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้ได้ ต่อมาก็ยังต่อสู้กับฝ่ามือเขย่าภูผาของเขาได้ด้วยดาบเดียวอีก
การต่อสู้ระหว่างพวกเขาสองคนทำให้โลกสั่นสะเทือน
ทักษะฝ่ามือของเซี่ยฮัวชวนอาจจะแข็งแกร่งมากและยังส่งแรงกดดันออกมา แต่มันก็ไม่สามารถจัดการกับทักษะดาบที่ออกมาจากมือของหลี่ฟู่เฉินได้ เขามักจะหาข้อบกพร่องของเซี่ยฮัวชวนอยู่เสมอ เซี่ยฮัวชวนไม่สามารถใช้พลังฝ่ามือของเขาได้อย่างเต็มที่ และอย่างดีที่สุดก็จะสามารถส่งพลังออกมาได้ประมาณ 70% จากความแข็งแกร่งดั้งเดิมของเขา ในทางตรงกันข้าม เขากำลังถูกหลี่ฟู่เฉินกดดัน
“นี่คือ?”
ทุกคนกลายเป็นโง่งม
มันคงไม่เป็นไรหากหลี่ฟู่เฉินกดดันมู่หรงตี๋ได้ แต่ตอนนี้แม้แต่กระทั้งเซี่ยฮัวชวนก็ยังถูกสะกดข่ม อย่างไรก็ตามมันก็เห็นได้ชัดว่าทักษะฝ่ามือของเซี่ยฮัวชวนนั้นมีพลังอำนาจมากกว่ามาก
“ฮี่ฮี่ เซี่ยฮัวชาน ดูเหมือนว่าผู้สืบทอดตระกูลของเจ้ากำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้าย!” มู่หรงบาเทียนเยาะเย้ยเซี่ยฮัวชาน
เซี่ยฮัวชานตอบด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา “อะไร อย่าเพิ่งรีบร้อนไป การแสดงเพิ่งเริ่มต้น”
“ทักษะฝ่ามือวารีทมิฬ!”
ขณะที่เซี่ยฮัวชานพูดจบ เซี่ยฮัวชวนก็เปลี่ยนท่าทางฝ่ามือของเขาจากฝ่ามือเขย่าภูผาที่เน้นโจมตีหนักหน่วงเป็นแบบที่ยืดหยุ่นและพลิกแพลงได้แทน ทักษะฝ่ามือวารีทมิฬ
ตามชื่อของมัน ทักษะฝ่ามือวารีทมิฬเป็นฝ่ามือที่ดูพร่ามัวซึ่งมองผ่านได้ยาก มันสร้างพลังฝ่ามือที่ทั้งนุ่มนวลและสะกดข่มขึ้นมา ทั้งยังเชี่ยวชาญในการซึมผ่าน
‘เปลี่ยนทักษะฝ่ามือ?’
หลี่ฟู่เฉินรู้สึกอิจฉาเล็กน้อย
ในปีนี้เซี่ยฮัวชวนอายุ 26 ปีแล้ว และเขาก็มีเวลาฝึกฝนมากกว่าหลี่ฟู่เฉินถึงหกปี ด้วยเหตุนี้เขาจึงสามารถฝึกฝนทักษะฝ่ามือระดับลึกลับขั้นสูงอีกทักษะได้โดยธรรมชาติ
‘น่าเสียดายที่มันไร้ผล’
การรับรู้ของหลี่ฟู่เฉินจะไม่สามารถมองผ่านทักษะฝ่ามือระดับลึกลับขั้นสูงได้อย่างไร? นอกจากนี้ ทักษะฝ่ามือของเซี่ยฮัวชวนก็ยังไม่ถึงขั้นสมบรูณ์แบบ
“มังกรเพลิง!”
ฟาดฟันด้วยดาบของเขา มังกรสีแดงบินออกไปและกลายเป็นคลื่นที่ทะลุน้ำสีขุ่นดำ ไปถึงตรงหน้าของเซี่ยฮัวชวน
ไม่มีทางเลือก เซี่ยฮัวชวนโจมตีด้วยฝ่ามือเขย่าภูผาอีกครั้งเพื่อทำลายมังกรสีแดง
“ข้าจะต้องทำให้เขาหมดแรงแบบไปทั้งๆ แบบนี้หรือ?” เซี่ยฮัวชวนขมวดคิ้ว
เขามาถึงระดับสูงสุดของขอบเขตปฐพีตั้งแต่เมื่อสองปีก่อน ดังนั้นแล้วพลังฉีของเขาจึงต้องมากกว่าปกติ ในขณะที่หลี่ฟู่เฉินอยู่ในระดับ 8 ของขอบเขตปฐพีเท่านั้น ความจุพลังฉีของหลี่ฟู่เฉินสมควรน้อยกว่าของเขาสองเท่า และหากเป็นการต่อสู้ที่ยืดเยื้อ หลี่ฟู่เฉินก็คงจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา
‘คนจากตระกูลต้วนหลินเป็นผู้เชี่ยวชาญการต่อสู้ เซี่ยฮัวชวนผู้นี้ไม่เพียงแต่แข็งแกร่งกว่ามู่หรงตี๋อย่างเดียวเท่านั้น ทักษะการต่อสู้ของเขาเองก็ยอดเยี่ยมเช่นกัน หากใช้ความตระหนักรู้ในด้านการต่อสู้ที่ข้ามีกับเซี่ยฮัวชวน แม้ว่าจะผ่านไป 1000 กระบวนท่าก็คงจะยังไม่มีผู้ชนะ นั้นเองก็จะเป็นการเผาผลาญพลังเกินไปด้วย’
หลี่ฟู่เฉินไม่ต้องการเปิดเผยความสามารถในการรับรู้ของเขามากเกินไป ยิ่งไปกว่านั้น ปฏิกิริยาร่างกายของเขาก็มาถึงขีดจำกัดแล้ว แม้ว่าการรับรู้ของเขาจะแข็งแกร่งขึ้นไปกว่านี้ ร่างกายของเขาก็จะไม่สามารถตอบสนองได้ทันเวลา ซึ่งนี้ก็เป็นการจำกัดความสามารถในการรับรู้ของเขา
ถังไม้บรรจุน้ำได้เท่าไร มันก็ตัดสินจากขนาดของถังไม้นั้นอยู่ดี
‘ตอนนี้ขึ้นอยู่กับเจ้าแล้ว’ หลี่ฟู่เฉินตัดสินใจ
หายใจเข้าลึกๆ ผิวของหลี่ฟู่เฉินแตกออกเป็นชั้นๆ เรืองแสงสีแดงเข้มออกมา แสงนี้ดูน่ากลัวอย่างผิดปกติและมันก็เคลือบร่างกายของหลี่ฟู่เฉินเอาไว้ ส่งผลทำให้ร่างกายของเขาปลดปล่อยความรู้สึกที่ไม่สามารถอธิบายได้ออกมา
“ทำลาย!”
ความเร็วของหลี่ฟู่เฉินเพิ่มขึ้นอย่างมาก ความเร็วดาบของเขาก็เช่นกัน เขาดาบเพลิงปีศาจท่าเดิมนี้เองก็ได้รับพลังเพิ่มขึ้นกว่าเดิมถึง 30% ด้วยการสนับสนุนจากพลังกายที่น่ากลัว เขาสีแดงเข้มแทงทะลุช่องว่างเข้าไปและไปถึงด้านหน้าของเซี่ยฮัวชวนได้ในทันที
“เจตจำนงเทคนิคปรับแต่งร่างกายระดับลึกลับขั้นสูง!” เซี่ยฮัวชวนรู้สึกตกใจ
ปั๊ง!
ครั้งนี้ เซี่ยฮัวชวนไม่สามารถป้องกันการโจมตีของหลี่ฟู่เฉินได้อย่างสมบูรณ์แบบอีกต่อไป เขาถูกส่งออกไป ในขณะที่พลังฉีและเลือดของเขาสั่นสะเทือน และเขาก็แทบจะกระอักเลือดออกมา
“เจตจำนงเทคนิคปรับแต่งร่างกายระดับลึกลับขั้นสูง”
ทุกคนบนเสาหินชุบสวรรค์ต่างตกตะลึง
หลี่ฟู่เฉินผู้นี้ฝึกฝนมาอย่างไร? ทำไมเขาถึงเก่งในทุกด้าน? ทักษะดาบ การรับรู้ เทคนิคตัวเบา เทคนิคบ่มเพาะ เทคนิคลับ… ตอนนี้แม้แต่กระทั้งเทคนิคปรับแต่งร่างกายของเขาเองก็น่ากลัว เขาไม่มีข้อบกพร่องใดๆ เลย
ในแง่ของความสมบูรณ์แบบ แม้แต่กระทั้งสามราชาดาราก็ไม่สามารถเปรียบเทียบกับหลี่ฟู่เฉินได้
“เจตจำนงเทคนิค ร่างกายเร้นโลหิต?” (คือเกือบจำไม่ได้ นานมาก 555)
โอหยางเหวินเทียนและจ้าวหวูจินมองหน้ากัน
เทคนิคร่างกายเร้นโลหิตเป็นหนึ่งในเทคนิคปรับแต่งร่างกายที่แข็งแกร่งที่สุดในนิกายวารีคราม แต่แม้แต่กระทั้งนักสู้ขอบเขตสวรรค์ส่วนใหญ่ก็ไม่สามารถเข้าใจเจตจำนงเทคนิคได้
“สัตว์ประหลาด” อันดับที่ 48 ในการแข่งขันครั้งก่อน หยุนเยว่ บ่นพึมพำ
ย้อนกลับไปตอนที่พวกเขากำลังดิ้นรนเพื่อหาที่วาสงบนเสาหินชุบสวรรค์ เขาแม้แต่กระทั่งท้าทายหลี่ฟู่เฉิน คิดว่าเขามีข้อได้เปรียบจากการมีเจตจำนงเทคนิคปรับแต่งร่างกายระดับลึกลับขั้นสูง ในตอนนั้นเขาค่อนข้างมั่นใจ แต่ตอนนี้… หลี่ฟู่เฉินไม่ได้รู้สึกอะไรกับการลดความสามารถลดเพื่อต่อสู้ ไม่เช่นนั้นแล้ว หยุนเยว่ก็คงจะพ่ายแพ้ทีเดียว
“น่าสนใจ!”
ราชาดาราไร้เคลื่อนไหว ฉีเหิง ดวงตาของเขาเปล่งประกายออกมาด้วยความสดใส
เขาไม่ได้กังวลเหมือนกับหยุนเยว่ แต่เขารู้สึกประหลาดใจมากกว่าที่ได้เห็นหลี่ฟู่เฉินเข้าใจเจตจำนงเทคนิคปรับแต่งร่างกายระดับลึกลับขั้นสูง
หลี่ฟู่เฉินได้ฝึกฝนเทคนิคร่างกายเร้นโลหิตไปจนถึงจุดสูงสุดเมื่อนานมาแล้ว แต่ในตอนนั้น เขายังไม่เข้าใจเจตจำนงเทคนิค
หลังจากเข้าใจเจตจำนงเทคนิคแล้ว คุณสมบัติทางกายภาพของหลี่ฟู่เฉินก็ดีขึ้นมาก
หากพลังฉีเป็นน้ำ เช่นนั้นแล้วร่างกายของผู้คนก็เป็นถังไม้
ถ้าถังไม้แข็งแกร่ง มันก็สามารถทนต่อแรงกระแทกของน้ำจากภายในได้
นอกเหนือจากนี้ เมื่อเปิดใช้งานเทคนิคร่างกายเร้นโลหิต หลี่ฟู่เฉินรู้สึกว่าร่างกายของเขาพลุ่งพล่านไปด้วยพละกำลังความเร็วท่าร่างเองก็เพิ่มขึ้น และความเร็วของดาบเองก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน
ในระดับหนึ่ง คุณสมบัติของร่างกายสามารถนับได้ว่าเป็นหนึ่งในการฝึกฝนการต่อสู้
หลังจากทั้งหมดแล้ว กระบวนท่าของแต่ละบุคคลก็มีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับคุณลักษณะทางร่างกายของแต่ละบุคคล มันแข็งแกร่งหรือไม่ก็เนื่องจากเรื่องของของพลังฉี
ด้วยคุณสมบัติทางกายภาพของเขาที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก เซี่ยฮัวชวนจะยังเป็นคู่ต่อสู้ของหลี่ฟู่เฉินอยู่ได้อย่างไร? เพียงดาบเดียวก็เพียงพอที่จะส่งให้เซี่ยฮัวชวนบินออกไปแล้ว
เหยียบลงบนพื้น ความเร็วของหลี่ฟู่เฉินเพิ่มขึ้นอีกครั้ง ขณะที่เขาพุ่งไปยังเซี่ยฮัวชวน
“อ๊ากก!!”
เซี่ยฮัวชวนส่งเสียงคำรามออกมาดังกังวาน และพยายามยกฝ่ามือขึ้นเพื่อสกัดกั้นเขาสีแดงเข้ม
ปิสส!
ไม่สามารถห้ามให้เลือดสดออกมาจากปากได้ เซี่ยฮัวชวนเปิดปากของตัวเอง เพื่อพ่นเลือดทั้งหมดออกมา
“แพ้แล้ว!”
หลังจากโจมตีติดต่อกัน พลังฉีของเซี่ยฮัวชวนก็เกือบจะกระจัดกระจายอยู่ร่อมร่อ และเขาสีแดงสดอีกอันก็พุ่งไปข้างหน้าเพื่อเจาะร่างกายของเขา
ผลลัพธ์ก็เหมือนกับมู่หรงตี๋
“แข็งแกร่งเกินไปแล้ว”
บนเสาหินชุบสวรรค์ทุกคนเงียบลงไป