Eternal Reverence เทพบุตรฟ้าประทาน - ตอนที่ 304
บทที่ 304
ฝนดาบ
คนๆ นึงย่อมมีพลังอยู่อย่างจำกัดและมันแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเก่งในทุกๆ ด้าน
ตาถ้าหากมันเป็นไปได้ โดยธรรมชาติแล้วคนผู้นั้นย่อมโดดเด่นกว่าอย่างมากสำหรับคนที่อยู่ในขอบเขตฝึกฝนเดียวกัน
เทคนิคปรับแต่งร่างกายไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มการป้องกันทางกายภาพของนักสู้ผู้นึงเท่านั้น แต่มันยังสามารถเพิ่มความสามารถโดยรวมได้อีกด้วยเช่นกัน บางทีความแข็งแกร่งทางกายภาพหมื่นกิโลอาจจะสู้กับคนที่มีพลังฉีอยู่ในระดับที่ 8 ของขอบเขตปฐพีไม่ได้ แต่ความแข็งแกร่งทางกายภาพทำให้ร่างกายของหลี่ฟู่เฉินตอบสนองได้เร็วมากขึ้น พลังที่จะระเบิดออกมาจากร่างกายของเขาก็จะมีเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน และสิ่งเหล่านี้ก็ช่วยเพิ่มความสามารถในการต่อสู้ของเขา
แต่เมื่อนักสู้เข้าใจเจตจำนงเทคนิคปรับแต่งร่างกาย ความสามารถที่เพิ่มมาก็จะน่ากลัวยิ่งขึ้นไปอีก
เมื่อเจตจำนงเทคนิคปรับแต่งร่างกายถูกนำออกมาใช้ มันก็เพียงพอแล้วที่จะเพิ่มการป้องกันทางกายภาพของนักสู้ไปสู่อีกระดับ หากฝ่ายตรงข้ามมีความสามารถในระดับใกล้เคียงกัน พวกเขาจะไม่สามารถทำลายการป้องกันของผู้ที่ฝึกฝนวิชาได้เลย
นอกเหนือจากนี้ ปฏิกิริยาทางร่างกายและความแข็งแกร่งในการระเบิดพลังก็จะถูกกระตุ้นโดยเจตจำนงเทคนิคปรับแต่งร่างกาย ทั้งมันเองก็จะถูกยกขึ้นไปอีกระดับเช่นกัน
เจตจำนงเทคนิคปรับแต่งร่างกายนั้นเป็นการผสมผสานระหว่างแก่นแท้ของร่างกายและความลึกลับของเทคนิคการปรับแต่งร่างกาย
เดิมทีหลี่ฟู่เฉินนั้นก็ดูทรงพลังมากอยู่ก่อนแล้วและเมื่อเขาใช้เทคนิคการปรับแต่งร่างกายของเขา ความสามารถโดยรวมของเขาเพิ่มขึ้นประมาณ 30%
ถ้าหลี่ฟู่เฉินเปิดใช้เทคนิคปรับแต่งร่างกายระหว่างการต่อสู้กับมู่หรงตี๋ เขาอาจจะต้องการเพียงหนึ่งดาบหรือไม่ก็สองดาบเพื่อเอาชนะมู่หรงตี๋
ดวงตาของมู่หรงตี๋หดตัว เขาไม่รู้ว่าควรจะดีใจกับความโชคร้ายของเซี่ยฮัวชวนดีหรือเขาควรจะเสียใจกับตัวเขาเองดี
“เซี่ยฮัวชาน เจ้ากล่าวว่าอะไรนะเมื่อครู่นี้?” กล่าวตามจริง มู่หรงบ๋าเทียนเองก็รู้สึกประหลาดใจกับความสามารถรอบด้านของหลี่ฟู่เฉินมาก แต่เขาก็ยังคงเป็นนักสู้ในขอบเขตหวนคืนต้นกำเนิดและไม่ว่าหลี่ฟู่เฉินจะยอดเยี่ยมเพียงใด เขายังเป็นแค่คนรุ่นเยาว์ สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือการล้อเลียนเซี่ยฮัวชาร
เซี่ยฮัวชานมีสีหน้าที่มืดมนและดูกระอักกระอ่วน
ผลลัพธ์เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย แต่ความลำบากใจเป็นเรื่องสำคัญ
หลังจากที่เอาชนะเซี่ยฮัวชวนได้แล้ว หลี่ฟู่เฉินก็ชนะติดต่อกันได้ 40 ครั้งแล้ว
ช่วงเวลาที่หลี่ฟู่เฉินกลับไปยังเสาหินชุบสวรรค์ พลังฉีเทพยุทธ์ชุบสวรรค์ที่หมุนวนอยู่รอบเสาได้กลายเป็นงูหลามยักษ์อย่างสมบูรณ์แบบ เกล็ดบนตัวของมันส่องแสงเป็นประกายและดูเหมือนของจริงยิ่งขึ้น ดวงตาขนาดเท่ากำปั้นคู่นั้นแวววาวกระจ่างใส
ชนะติดต่อกัน 40 ครั้งเป็นผลงานที่โดดเด่นมาก
ณ ตอนนี้ มีเพียงสิบคนเท่านั้นที่ชนะติดต่อกัน 40 ครั้ง พวกเขาคือสามราชาดารา สี่ในหกนายน้อย สองในสี่เทพธิดา และก็หลี่ฟู่เฉิน
ชนะ 41 นัดติดต่อกัน 42 นัด…
ชนะติดต่อกัน 45 ครั้ง
สถิติการชนะของหลี่ฟู่เฉินนั้นดูป่าเถื่อนมากและก็แทบไม่มีใครสามารถทนเขาได้แม้แต่ดาบเดียว
ในความเห็นของทุกคน ความสามารถของหลี่ฟู่เฉินเป็นหนึ่งในสิบอันดับแรกของการแข่งขันครั้งนี้แล้ว
คำถามเดียวก็คือ เขาจะไปถึงอันดับไหนกันแน่?
มันเป็นอันดับที่ 9 หรืออันดับที่ 10? หรืออาจจะเป็นอันดับที่สูงมากไปกว่านั้น?
แน่นอนว่าอันดับที่สูงกว่านี้ แม้ว่าจะเป็นแต่อันดับเดียว ความยากเองก็ต้องเพิ่มขึ้นอย่างมากเช่นกัน
ในบรรดาหกนายน้อย มู่หรงตี๋และเซี่ยฮัวชวนไม่ถือว่าแข็งแกร่งมากจนเกินไป
ในนัดที่ 2500 …
ครืน!
หลี่ฟู่เฉิน และนายน้อยดาบทยาน หลั่วเฟ่ยหยุน เสาหินของทั้งสองจมลงมาในเวลาเดียวกัน
“มันถึงตาของหลั่วเฟ่ยหยุนแล้ว!”
“หากแม้แต่กระทั้งหลั่วเฟ่ยหยุนก็ยังพ่ายแพ้ นายน้อยคนที่เหลือก็อาจจะแพ้ได้เช่นกัน ยกเว้นเพียงแต่เถิงฉิงหยุนที่อยู่ในอันดับต้นๆ ของหกนายน้อย”
“ข้าไม่คิดเช่นนั้น! นายน้อยดาบมังกร จื่อหยูเย่ คงจะไม่พ่ายแพ้ไปง่ายๆ เช่นนั้น”
“เทคนิคตัวเบาของนายน้อยวายุ ฮั่นยี๋หมิง เองก็น่ากลัวมากเช่นกัน มีเพียงคนเดียวน่าจะสามารถเทียบกับเขาได้ นั้นก็คือราชาดาราอัสนี สือตูเหล่ย และเทพธิดาไตรสิกขา เจียงหรั่วหลิว”
“รอดูกันเถอะ!”
ทุกคนต่างก็กลั้นหายใจและจับจ้องไปที่หลั่วเฟ่ยหยุนและหลี่ฟู่เฉิน
ฟึบ!
ภาพติดตัวพุ่งผ่านไปและหลั่วเฟ่ยหยุนก็ปรากฏตัวขึ้นบนเวทีวงกลม
จริงๆ แล้วเทคนิคตัวเบาเป็นหนึ่งในสิ่งความสามารถที่ดีที่สุดของหลั่วเฟ่ยหยุน และในแง่ของเทคนิคตัวเบา อย่างน้อยๆ เขาก็อยู่ในห้าอันดับแรกของการแข่งขันครั้งนี้
มองไปที่หลี่ฟู่เฉินในอีกด้านหนึ่ง หลั่วเฟ่ยหยุนกล่าวด้วยความชื่นชม “หลี่ฟู่เฉิน มีเพียงไม่กี่คนที่ได้รับความชื่นชมจากข้าและเจ้าก็เป็นหนึ่งในนั้น ไม่าข้าจะชนะหรือแพ้ในนัดนี้ นั้นก็เป็นเกียรติของข้าแล้ว”
ในแง่ของทักษะดาบ เขารู้ว่าเขาไม่ดีเท่ากับหลี่ฟู่เฉิน ดังนั้นเขาจึงต้องพึ่งพาเทคนิคลับดาบบินของเขา
เทคนิคลับดาบบินเป็นหนึ่งในเทคนิคลับระดับ 4 ดาวที่ดีที่สุดของนิกายดาบเลิศสวรรค์ มันต้องการพลังรับรู้ของผู้ที่ฝึกฝนอย่างมากและจิตวิญญาณของพวกเขาเองก็เช่นกัน ในบรรดาคนรุ่นเยาว์ของนิกายดาบเลิศสวรรค์ มีเพียงหลั่วเฟ่ยหยุนเท่านั้นที่สามารถฝึกฝนได้จนถึงระดับนี้
บางที เขาอาจจะอยู่ในระดับที่เกินขั้นสมบูรณ์แบบไปเล็กน้อยแล้ว และเริ่มมีความเข้าใจเฉพาะตัว เพื่อหาทางเข้าสู่เส้นทางใหม่
“ข้าก็รู้สึกเป็นเกียรติมากเช่นกัน” หลี่ฟู่เฉินพยักหน้า
“ตอนนี้ก็ระวังตัวได้แล้ว” ในทันทีหลั่วเฟ่ยหยุนก็หยิบดาบเล็กของเขาออกมา
เขาไม่เคยตั้งใจที่จะแข่งขันกับหลี่ฟู่เฉินด้วยวิชาดาบ หากเขาทำก็คงไม่ต้องสงสัยเลยว่าคงจะเป็นทำให้ตัวเองขายหน้าสำหรับหลี่ฟู่เฉินซะเปล่าๆ
ฟึบ!
กลางอากาศ มีแสงเย็กยะเยือกวูบผ่าน
หลั่วเฟ่ยหยุนซัดดาบบินออกไป
หลี่ฟู่เฉินเอียงศีรษะหลบการโจมตีได้อย่างง่ายดาย
“เป็นพลังรับรู้ที่น่ากลัวเสียจริง!”
หลั่วเฟ่ยหยุนหรี่ตาของตัวเอง
หากไม่ได้ต่อสู้กับหลี่ฟู่เฉิน มันก็คงยากที่จะเข้าใจได้อย่างแท้จริงว่าการรับรู้ของหลี่ฟู่เฉินนั้นน่ากลัวเพียงใด
ในระหว่างการแข่งขันการจัดอันดับดาราครั้งล่าสุด มีเพียงราชาดาราอัสนี สือตูเหล่ย เท่านั้นที่สามารถหลบดาบบินได้โดยตรง แม้ว่าความเร็วของดาบบินจะรวดเร็วอย่างมากก็ตาม ในการแข่งขันครั้งนี้ หลั่วเฟ่ยหยุนเชื่อว่ามีเพียงไม่กี่คนที่สามารถหลบดาบบินของเขาได้ และเขาก็ไม่ได้คาดหวังว่าเลยว่าหลี่ฟู่เฉินจะทำมันได้อย่างง่ายดายเช่นนี้
ฟึบ ฟึบ ฟึบ ฟึบ ฟึบ ฟึบ…
ร่างของหลั่วเฟ่ยหยุนกระพริบ ขณะที่ดาบบินถูกซัดออกไปด้วยความเร็วที่ยากจะจินตนาการ เพียงชั่วพริบตา ดาบขนาดเล็กมากกว่าหนึ่งโหลก็ถูกซัดออกไป และดาบแต่ละเล่มก็รวดเร็วยิ่ง บางทีอาจเร็วกว่าประกายไฟเสียด้วยซ้ำ
ในความเป็นจริงแล้ว เมื่อดาบเล็กบางเล่มปะทะกัน พวกมันก็จะเปลี่ยนทิศทางโจมตีทันที ส่งผลทำให้การที่จะหลบหลีกดาบทำได้ยากขึ้น
ฉึบ!
ร่างหลายร่างปรากฏตัว มันราวกับว่าตัวของหลี่ฟู่เฉินมีอยู่หลายคน เขาหลบการโจมตีด้วยจากดาบบินของหลั่วเฟ่นหยุนได้อีกครั้ง
“เอาเถอะ ข้าเองก็อยากจะรู้ว่าเจ้าจะหลบมันไปได้นานอีกซักเท่าใดกัน”
หลังจากที่หลบดาบบินของเขาได้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า หลั่วเฟ่ยหยุนเองก็รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาเหมือนกัน
“มนุษย์สวรรค์ร้อยฝ่ามือ”
ร่างที่ไม่ชัดเจนปรากฏขึ้นที่ด้านหลังของหลั่วเฟ่ยหยุน มันเป็นร่างที่มีแขนหลายสิบแขน และแขนแต่ละมือก็จับดาบขนาดเล็กเอาไว้
ขณะที่หลั่วเฟ่ยหยุนสบัดมือขวา ดาบขนาดเล็กหลายสิบเล่มก็ถูกซัดเข้าไปหาหลี่ฟู่เฉิน
ชั่วขณะหนึ่ง มันดูราวกับว่ามีนกยูงปรากฏขึ้นอยู่กลางอากาศ มันกำลังแผ่หางของมันขณะที่ครอบคลุมไปถึงครึ่งเวทีวงกลม
‘ไม่แปลกใจเลยที่เขาถูกเรียกว่านายน้อยดาบทยาน’
หลี่ฟู่เฉินผลักดันสามวายุทมิฬลอกเลียนไปจนถึงขีดสุดและเมื่อเสริมด้วยการรับรู้อันทรงพลังของเขา ร่างของเขาก็กระพริบไปมาตลอดเวลา และเนื่องจากความเร็วที่เกินขีดจำกัด ครึ่งหนึ่งของเวทีจึงเต็มไปด้วยภาพติดตาของหลี่ฟู่เฉิน เมื่อมองผ่านๆ มันก็ดูเหมือนว่ามีหลี่ฟู่เฉินหลายสิบคนปรากฏตัวในเวลาเดียวกัน
เ
ช้ง เช้ง เช้ง เช้ง เช้ง เช้ง…
ดาบเล่มเล็กตกลงไปบนเวที บางอันก็หายไป ในขณะที่บางอันก็กระเด็นออกจากเวทีราวกับว่ามันเป็นดาบจริงๆ
“แม้แต่กระทั้งมนุษย์สวรรค์ร้อยฝ่ามือของข้าก็ถูกหลบได้?” หลั่วเฟ่ยหยุนตกใจ
มนุษย์สวรรค์ร้อยฝ่ามือของหลั่วเฟ่ยหยุนได้คำนวณการหลบหนีและวิถีการหลบหลีกของหลี่ฟู่เฉินไว้แล้ว ตามเหตุผล มันก็ควรจะไร้ข้อบกพร่อง เขาพบว่ามันยากที่จะเข้าใจว่าหลี่ฟู่เฉินสามารถหลบเลี่ยงมันได้อย่างไร
น่าเสียดายที่หลั่วเฟ่ยหยุนไม่รู้ว่าดวงตาของหลี่ฟู่เฉินเห็นอะไร วิถีของดาบบินนั้นชัดเจนสำหรับเขา และเขาก็สามารถมองเห็นอย่างชัดเจนว่าดาบใดจะบินมาถึงก่อน ดังนั้นแล้ว ในชั่วพริบตา หลี่ฟู่เฉินก็คาดคะเนทิศทางที่ต้องหลบหลีกและตัดสินใจแล้วได้ว่าจะหลบดาบที่อันตรายที่สุดได้อย่างไร ทั้งยังรวมถึงวิธีหลีกเลี่ยงทางตัน ตราบใดที่เขายังไม่จบลงด้วยการหยุดชะงัก ดาบบินก็จะไม่สามารถทำร้ายเขาได้
หลี่ฟู่เฉินรู้สึกว่าถึงเวลาแล้วและพร้อมที่จะเปิดฉากโต้กลับ
“หากเจ้าสามารถรับการะบวนท่าสุดท้ายของข้าได้ ข้าจะยอมแพ้อย่างสมัครใจ”
สภาวะพลังฉีของหลั่วเฟ่ยหยุนระเบิดออกมาจนถึงขีดจำกัด ในขณะที่ภาพด้านหลังของเขาดูเหมือนจะชัดเจนขึ้นอีกเล็กน้อย
ในช่วงเวลาต่อมา หลั่วเฟ่ยหยุนก็กดฝ่ามือทั้งสองเข้าหากัน และผลักไปทางหลี่ฟู่เฉิน
“มนุษย์สวรรค์ร้อยฝ่ามือ ฝนดาบ!”
ฟึบ ฟึบ ฟึบ ฟึบ ฟึบ ฟึบ…
ไม่มีทางนับจำนวนดาบบินที่หลั่วเฟ่ยหยุนซัดออกไปได้ ดาบบินบางเล่มก็เป็นภาพลวงตาและบางเล่นก็เป็นของจริง แต่พวกมันทั้งหมดดูแหลมคมถึงขีดสุดและก็ให้ความรู้สึกเหมือนกับฝนแห่งดาบจริงๆ
มันเป็นฝนดาบที่ทั้งสง่างามและรุนแรง จะไปป้องกันมันได้อย่างไร?