Eternal Reverence เทพบุตรฟ้าประทาน - ตอนที่ 309
บทที่ 309
ทักษะดาบมังกรฟ้า
“เธอฝึกฝนทักษะต่อสู้แบบลวงตาจริงๆ!”
การแสดงออกของซูหลินเปลี่ยนไป
ทักษะต่อสู้มีพลังทำลายล้างซึ่งสามารถทำร้ายร่างกายของนักสู้ได้
ในขณะที่ทักษะภาพลวงตาก็มีพลังวิญญาณซึ่งทำให้จิตวิญญาณของนักสู้สับสน
เมื่อนำทั้งสองปัจจัยมารวมกัน มันก็ไม่ง่ายอย่างแค่ 1 + 1 = 2
ระดับต่ำที่สุดของักษะต่อสู้ภาพลวงตาอย่างน้อยๆ ก็อยู่ในระดับลึกลับขั้นสูง ทุกทักษะฝึกฝนได้ยากมาก มันถึงขนาดกล่าวกันว่าความยากของมันอยู่เหนือความเป็นจริงไปแล้ว ในบรรดานักสู้ขอบเขตสวรรค์ของวิหารไตรสิกขา มีน้อยกว่า 10% เท่านั้นที่สามารถฝึกฝนทักษะต่อสู้ภาพลวงตาระดับลึกลับขั้นสูงได้สำเร็จ
แต่เมื่อฝึกฝนสำเร็จแล้ว ความแข็งแกร่งของคนผู้นั้นก็จะเหนือกว่านักสู้ในขอบเขตเดียวกันส่วนใหญ่
“ด้วยระบำนภาสวรรค์ คู่ต่อสู้ของหรั่วหลิวก็มีเหลืออยู่เพียงไม่กี่คนเท่านั้น และนั้นก็คือสือตูเหล่ยและฉีเหิง” ผู้เชี่ยวชาญของวิหารไตรสิกขาหัวเราะเบาๆ
ด้านข้าง ผู้อาวุโสสูงสุดที่มีผมหงอกจากวิหารไตรสิกขากล่าว“ความสามารถของสือตูเหล่ยนั้นไม่ต้องพูดก็รู้ได้ พลังป้องกันของฉีเหิงเองก็ทรงพลังเกินไป และถ้าหรั่วหลิวไม่สามารถทำลายแนวป้องกันของเขาได้ มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่เธอจะได้รับชัยชนะ”
หลังจากเปิดเผยทักษะต่อสู้ภาพลวงตาของเธอไปแล้ว ชื่อเสียงของเจียงหรั่วหลิวก็เหนือกว่าหลี่ฟู่เฉินในทันที ในความเห็นของทุกคน เจียงหรั่วหลิวเป็นตัวตนที่อยู่ในระดับเดียวกับราชาดาราแล้ว และนอกเหนือจากราชาดาราก็ไม่มีใครเป็นคู่ต่อสู้ของเธอได้อีก
“จิ จิ การแข่งขันจัดอันดับดาราในปีนี้ถือเป็นรุ่นที่แข็งแกร่งที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย ตั้งแต่ผู้เชี่ยวชาญเหล่านั้นได้หายไปก็ไม่มีใครเลยที่ทำให้มั่นใจกับการจัดอันดับรอบท้ายๆ เช่นนี้ได้”
“ด้วยทักษะต่อสู้ภาพลวงตา แม้แต่กระทั้งราชาดาราอัสนีสือตูเหล่ยก็คงไม่สามารถรักษาอันดับของเขาไว้ได้!”
“หลี่ฟู่เฉินเองก็ดูแข็งแกร่งเช่นกัน นอกเหนือจากสามราชาดาราและเจียงหรั่วหลิวแล้ว ก็ไม่มีใครเอาชนะเขาได้อีก”
ทุกคนสนทนากันอย่างดุเดือดและเต็มไปด้วยอารมณ์
ในนัดที่ 4320 หลี่ฟู่เฉินเองก็ได้รับชัยชนะเช่นกัน
ด้วยชัยชนะครั้งนี้ หลี่ฟู่เฉินก็ชนะ 80 นัดติดต่อกันแล้ว พลังฉีเทพยุทธ์ชุบสวรรค์ใต้ขาของเขาค่อยๆ เปลี่ยนจากงูหลามยักษ์เป็นมังกรน้ำแล้ว (มังกรตามตำนานของจีน)
ไม่ได้มีเพียงแค่เขาที่งอกออกมาเท่านั้น มันยังงอกกรงเล็บและเขี้ยวอันแหลมคมออกมาเช่นกัน เกล็ดบนตัวมันทั้งมันวาวและเป็นระเบียบเรียบร้อย มันราวกับชิ้นทองแดงที่ถูกขัดเงาอย่างพิถีพิถัน ทั้งยังส่งแรงกดดันและสภาวะพลังที่น่ากลัวออกมาอีกด้วย
ในทำนองเดียวกัน สามราชาดารา เจียงหรั่วหลิว และจื่อหยูเย่ เองก็ได้รับชัยชนะติดต่อกัน 80 ครั้งเช่นกัน
พลังฉีเทพยุทธ์ชุบสวรรค์ที่อยู่ใต้ขาของพวกเขาก็เปลี่ยนเป็นมังกรน้ำและเพียงครู่นึง มังกรน้ำก็คำรามลั่นสั่นสะเทือนไปยังสรวงสวรรค์ ทำให้มันดูเหมือนกับนักสู้ที่ปลดปล่อยสภาวะพลังฉีออกมา
ในนัดที่ 4500 จื่อหยูเย่พบกับเถิงฉิงหยุน
บนเวที จื่อหยูเย่มีมงกุฎทองคำอยู่บนศีรษะของเขา ซึ่งสิ่งนี้มันก็ได้ไปเสริมให้ใบหน้าอันหล่อเหล่าของเขาดูดียิ่งขึ้นไปอีก มีดาบอยู่ที่เอวด้านซ้ายและมีขลุ่ยอยู่ที่เอวด้านขวาของเขา ตอนนี้เขาก็กำลังยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน เขาปลด
ปล่อยสภาวะพลังฉีที่ชัดเจนที่ให้ความรู้สึกว่าเขาเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดแต่เพียงผู้เดียว ราวกับว่าเขาเป็นราชาในบรรดานักดาบทั้งหมด เขายิ้มและกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ขบขันตนเอง แต่ก็ดูมั่นใจไปในเวลาเดียวกัน “ดูเหมือนว่าทุกคนจะคิดว่าข้าไม่ได้เป็นคู่ต่อสู้ของหลี่ฟู่เฉิน คนส่วนใหญ่คิดว่าความสามารถของข้าอยู่ในระดับเดียวกับเจ้า”
เถิงชิงหยุนขมวดคิ้ว ขณะที่เขาเองก็ไม่รู้ว่าจื่อหยูเย่พยายามจะกล่าวอะไร
“ข้า จื่อหยูเย่ไม่ใช่ตัวประกอบใดๆ เถิงฉิงหยุน ข้าจะเริ่มจากเจ้า!” ลมพัดผ่าน ซึ่งทำให้เสื้อคลุมที่มีตะเข็บสีทองยาวของจื่อหยูเย่พลิ้วไหว
เช้ง!
ดาบยาวถูกชักออกจากฝัก และแสงสีทองสะท้อนออกมาก่อนที่จะกระจายตัวออกไปซึ่งให้ทำดวงตาของผู้คนพร่ามัวราวกับว่าตัวมันคือดวงอาทิตย์เสียเอง
“ทักษะดาบมังกรฟ้า เจตจำนงมังกรฟ้า”
ฟึบ!
ดาบที่น่ากลัวนี้ถูกตวัดออกไป และในช่วงเวลาต่อจากนั้น ก็เกิดแสงสีทองพร่างพราว ภาพของมังกรทองปรากฏขึ้นทันทีและมันก็ว่ายไปหาเถิงฉิงหยุน เจตจำนงอันเผด็จการและดาบพลังฉีที่รุนแรงแผ่ซ่านออกมาอย่างจงใจ ราวกับว่าตัวมันนั้นปกครองได้ทั้งสวรรค์และโลก ปกครองด้วยดาบเพียงเล่มเดียวนี้
ดาบนี้ทั้งเผด็จการและทรงพลังอย่างยิ่ง
เมื่อเผชิญหน้ากับดาบนี้ ก็ดูเหมือนว่าทักษะอื่นๆ ทั้งหมดดูเหมือนจะสูญเสียจุดประสงค์ของตนเองไป
“อะไรนะ? ทักษะดาบมังกรฟ้า?”
บนเสาหินชุบสวรรค์ ทุกคนรู้สึกตกตะลึง
เช่นเดียวกับเข็มศักดิ์สิทธิ์พลังฉีม่วงของเถิงฉิงหยุน ทักษะดาบมังกรฟ้าของจื่อหยูเย่เป็นทักษะดาบระดับลึกลับขั้นสูงสุดเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ มันเป็นหนึ่งในทักษะดาบระดับลึกลับขั้นสูงสุดที่น่ากลัวที่สุด และยังเป็นทักษะต่อสู้ที่เป็นความลับของนิกายดาบมังกรฟ้า ศิษย์หลักระดับทองทั่วไปไม่มีคุณสมบัติเพียงพอสำหรับการฝึกฝนมัน มีเพียงอัจฉริยะเต๋าแห่งดาบอย่างจื่อหยูเย่เท่านั้นที่จะได้รับข้อยกเว้นและได้ฝึกฝน
ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อตอนที่จื่อหยูเย่ได้ฝึกฝนทักษะดาบมังกรฟ้า นั่นก็หมายความว่าเขาได้กลายเป็นหนึ่งในผู้สมัครเป็นผู้สืบทอดของตำแหน่งเจ้านิกายแล้ว เขามีโอกาสที่จะต่อสู้เพื่อเป็นเจ้านิกายของนิกายมังกรฟ้า
ในนิกายดาบมังกรฟ้าทั้งหมด มีไม่ถึงสิบคนที่อยู่ในขอบเขตสวรรค์และมีคุณสมบัติเพียงพอในการฝึกฝนทักษะดาบมังกรฟ้า แต่ทว่าจื่อหยูเย่ที่เป็นศิษย์ขอบเขตปฐพีเพียงคนเดียวกลับมีคุณสมบัติในการฝึกฝน
ภายนอกค่ายกลชุบสวรรค์ เจ้านิกายดาบมังกรฟ้ามีแววตาที่มั่นใจ จื่อหยูเย่ไม่ได้เป็นเพียงอัจฉริยะเต๋าแห่งดาบในแบบธรรมดาๆ เขาเป็นถึงอัจฉริยะรุ่นที่นิกายดาบมังกรฟ้าเคยเห็นในรอบสหัสวรรษ(พันปี) เพียงไม่กี่ปีสั้นๆ จื่อหยูเย่ได้ฝึกฝนทักษะดาบเร้นมังกรจนถึงขั้นภวังค์ได้ และก็ฝึกทักษะดาบมังกรฟ้าจนถึงขั้นดีเลิศ
“หือ ทักษะดาบระดับลึกลับขั้นสูงสุด?”
หลี่ฟู่เฉินต้องยอมรับว่าจื่อหยูเย่เป็นอัจฉริยะที่มีศักยภาพโดยกำเนิดมากที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็นมา
“ทักษะดาบมังกรฟ้า?” การแสดงออกของเถิงฉิงหยุนเปลี่ยนไป
เข็มศักดิ์สิทธิ์พลังฉีม่วงของเขาเป็นเพียงทักษะต่อสู้ระดับลึกลับขั้นสูงสุดธรรมดาๆ แต่ทักษะดาบมังกรฟ้าเป็นถึงทักษะระดับลึกลับขั้นสูงสุดที่อยู่ระดับบนๆ
มังกรทองพุ่งไปทั่วท้องฟ้าและกลืนกินทุกสิ่งด้วยแรงกดดันและดาบพลังฉี
ด้วยการตวัดไม้ ไม้ไผ่ยาวสีเขียวเข้มของเถิงฉิงหยุนก็ถูกปกคลุมด้วยพลังฉีสีม่วงทันที
ในขณะนี้เอง เถิงฉิงหยุนได้ใช้เข็มศักดิ์สิทธิ์พลังฉีม่วงจนถึงขีดสุดแล้ว
“ทำลาย!”
ไม้ไผ่ยาวสีเขียวเข้มสร้างเงาสีม่วงนับไม่ถ้วนออกมา ซึ่งทั้งหมดรวมตัวกันเป็นกระแสของแสงสีม่วงและถูกยิงไปที่มังกรทอง
บูมม!
เมื่อแสงสีทองและแสงสีม่วงปะทะกัน ทั้งเวทีก็สั่นสะท้าน
ในช่วงเวลาต่อมา มังกรทองที่สบัดตัวก็ได้ฉีกขุมพลังฉีสีม่วงออกและพุ่งไปที่เถิงฉิงหยุน
ปืส ปืส!
เถิงฉิงหยุนทุบไม้ไผ่ยาวของเขาลงและใช้กำลังทั้งหมดเพื่อปิดกั้น
เมื่อมังกรทองแตกออกเป็นเสี่ยงๆ เถิงฉิงหยุนก็เปียกโชกไปด้วยเหงื่ออันเย็นเยียบ
“ทักษะดาบมังกรฟ้า มังกรฟ้าทะยาน!”
ฟึด!
เสียงดาบดังก้องสะท้อนขึ้นมาอีกครั้งขณะที่มังกรทองพุ่งไปทั่วท้องฟ้าราวกับสายรุ้งสีทอง มันโจมตีด้วยพลังที่ทั้งรุนแรง รวดเร็ว และดุร้ายเป็นอย่างยิ่ง
หลังจากสกัดกั้นกระบวนท่าแรกไป เถิงฉิงหยุดก็ไม่สามารถปิดกั้นมันได้อีกแล้ว มังกรทองทำลายการป้องกันของเขาทำให้ร่างกายของเขาต้องเต็มไปด้วยเลือด เพียงครู่นึง ก็เกิดหมอกเลือดขึ้นมา
เถิงฉิงหยุนพ่ายแพ้ภายในสองกระบวนท่า
ความสามารถที่แท้จริงของเถิงฉิงหยุนทำให้ทุกคนต้องตกใจ
“เราทุกคนประเมินจื่อหยูเย่ต่ำเกินไป ความสามารถของเขาใกล้เคียงกับระดับราชาดาราแล้ว แต่มันแตกต่างจากเจียงหรั่วหลิว ความสามารถของจื่อหยูเย่คือความสามารถที่แท้จริงของเขา ในขณะที่เจียงหรั่วหลิวต้องพึ่งพาทักษะภาพลวงตาเพื่อส่งอิทธิพลต่อจิตวิญญาณของคู่ต่อสู้อขงเธอ”
“สถานการณ์เริ่มวุ่นวายอีกแล้ว มันยากมากที่จะบอกว่าผลลัพธ์ที่ปรากฏออกมาสุดท้ายแล้วจะเป็นอย่างไร”
หลังจากหายใจเข้าลึกๆ ทุกคนก็มีอารมณ์เล็กน้อย แม้ว่าพวกเขาจะไม่ใช่คนที่มีพลัง แต่มันก็ยังคงเป็นเรื่องน่ายินดีและพวกเขาก็ได้เปิดหูเปิดตาเป็นอย่างมากที่ได้เห็นการต่อสู้ระหว่างอัจฉริยะชั้นยอด ในอีกสามปีข้างหน้า การแข่งขันครั้งถัดไปอาจจะไม่ได้ยิ่งใหญ่เท่าครั้งนี้
หลังจากเอาชนะเถิงฉิงหยุนได้แล้ว จื่อหยูเย่ก็ยังคงชนะอย่างต่อเนื่อง และได้รับชัยชนะติดต่อกัน 82 ครั้ง
ในนัดที่ 83 ของจื่อหยูเย่ ในที่สุดเขาก็ได้พบกับสุดยอดอัจฉริยะ… ราชาดาราแส้ทองคำ จินซูตง
ไม่มีใครคาดคิดว่าจื่อหยูเย่จะได้ต่อสู้กับสามราชาดารารวดเร็วเช่นนี้
จากเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ โดยทั่วไปแล้วค่ายกลชุบสวรรค์จะให้ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดได้ประลองกันในช่วงหลังๆ ของการแข่งขัน
ราชาดาราแส้ทองคำ จินซูตง มีสีหน้าที่มืดมน มีความไม่แน่นอนมากเกินไปการแข่งขันครั้งนี้ อย่างเช่นเจียงหรั่วหลิวและจื่อหยูเย่นี้ก็เป็นตัวอย่างที่ดี เขาเองก็ไม่แน่ใจว่าจะเอาชนะทั้งสองคนได้หรือไม่
“จินซูตง ลงมือ!”
บนเวที จื่อหยูเย่ยังคงมีสีหน้าสงบ มันราวกับว่าเขาไม่ได้เผชิญหน้ากับหนึ่งในสามราชาดารา แต่เป็นเพียงการพบกับอัจฉริยะชั้นยอดทั่วไป