Eternal Reverence เทพบุตรฟ้าประทาน - ตอนที่ 312
บทที่ 312
แสงดาบเหล็กดำ
บทดาบไร้สมบรูณ์บทดาบเหล็กดำนั้นแตกต่างจากเทคนิคลับอื่นๆ
มันไม่จำเป็นต้องเปิดใช้งานบทดาบไร้สมบรูณ์หรืออะไร แต่มันเหมือนกับอาวุธที่อยู่ในกระดูกและสามารถเปลี่ยนพลังฉีให้เป็นพลังฉีแห่งดาบได้
เนื่องจากไม่จำเป็นต้องเปิดใช้งาน มันจึงสามารถใช้ร่วมกับเทคนิคลับอื่นๆได้
เช่นเดียวกับตอนนี้ หลี่ฟู่เฉินได้เปิดใช้งานพลังฉีหยางบริสุทธิ์ และเมื่อพลังฉีไหลผ่านกระดูกของเขา มันก็ถูกเปลี่ยนเป็นพลังฉีดาบเหล็กดำทันที ซึ่งพลังฉีอันนี้ก็ถูกเสริมระดับจากดาบดำเข้าไปอีก
ในกรณีนี้ บทดาบไร้สมบรูณ์บทดาบเหล็กดำทำให้เกิดความแตกต่างอย่างมีนัยยะสำคัญ บทดาบเหล็กดำแต่เดิมก็เทียบเท่ากับเทคนิคลับระดับ 4 ดาวอยู่ก่อนแล้ว แต่หลังจากที่มันซ้อนทับกับพลังฉีหยางบริสุทธิ์แล้ว มันก็มาถึงขอบเขตของเทคนิคลับระดับ 5 ดาวแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้น ไพ่ตายที่แท้จริงของหลี่ฟู่เฉินก็อยู่ที่บทดาบทองแดง
โครงกระดูกทั้งหมดของเขาถูกปกคลุมด้วยบทดาบเหล็กดำ 70% และบทดาบทองแดง 30%
มันอาจมีเพียงแค่ 30% แต่พลังนั้นก็แตกต่างกันคนละโลก เว้นแต่จะจำเป็นจริงๆ หลี่ฟู่เฉินเองก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะใช้มัน หากไม่เป็นเช่นนั้น มันก็จะน่าตกใจเกินไป เขามั่นใจว่าแม้แต่กระทั่งราชาดาราอัสนี สือตูเหล่ย ก็จะถูกสังหารในทันทีที่เขาลงมือด้วยบทดาบทองแดงของเขา
“เจ้าเหนื่อยกับการมีชีวิตอยู่แล้ว!”
จินซูตงเกรี้ยวโกรธ เขาระเบิดพลังฝึกฝนและเทคนิคลับของเขาออกมา ขณะที่แส้สีทองคำในมือของเขากลายเป็นสายรุ้งสีทองและพุ่งเข้าฟาดใส่หลี่ฟู่เฉิน
พลังโจมตีนี้ถึงขีดจำกัดของเขาแล้ว ในนัดซักนัดที่เขาแข่งขัน จินซูตงใช้แส้เพียงครั้งเดียวเพื่อส่งเถิงฉิงหยุนบินออกไป และท้ายที่สุดเขาก็เอาชนะเถิงฉิงหยุนก็ด้วยการลงแส้สามครั้ง
ในความคิดของเขา หลี่ฟู่เฉินอาจจะสามารถหลบแส้แรกของเขาได้ด้วยการรับรู้ที่ทรงพลัง แต่หลังจากนั้นแส้ที่ตามไปติดก็จะลดพื้นที่ที่หลี่ฟู่เฉินสามารถหลบได้ลงไปอย่างช้าๆ ท้ายที่สุดแล้วหลี่ฟู่เฉินก็จะต้องเข้าปะทะกับเขา และเมื่อเป็นเช่นนั้น ความสามารถทั้งหมดของเขาก็จะต้องลดลงอย่างแน่นอน แล้วมันก็จะต้องทำให้เขาพ่ายแพ้ไปอย่างน่าสังเวช
‘ห้ะ? เขาไม่ได้ตั้งใจที่จะหลบ?’
ในวิสัยทัศน์ของจินซูตง หลี่ฟู่เฉินชักดาบยาวออกมาและเฉือนออกไปทันที
หลี่ฟู่เฉินไม่ได้ตั้งใจที่จะหลบหลีก ในการต่อสู้กับเถิงฉิงหยุน เขาใช้ความตระหนักรู้เพื่อเอาชนะคู่ต่อสู้ แต่ในการต่อสู้กับจินซูตงครั้งนี้ การใช้ความตระหนักรู้เพื่อให้ได้ชัยชนะเป็นเรื่องที่ท้าทายมากเกินไปและเขาก็ไม่จำเป็นต้องทำถึงขนาดนั้น
ในร่างกายของเขา พลังฉีเพลิงโลกันต์ที่แท้จริงถูกเปลี่ยนเป็นพลังฉีหยางบริสุทธ์และจากนั้นก็ถูกเปลี่ยนเป็นพลังฉีดาบเหล็กดำ ทั้งยังถูกส่งต่อเข้าไปยังดาบดำอีกทอดนึง เมื่อเขาใช้ทักษะดาบเพลิงปีศาจ มันก็เปลี่ยนเป็นคลื่นดาบเหล็กดำเคลือบที่น่ากลัวอย่างยิ่ง มันเป็นสีดำอมแดง เห็นได้ชัดว่ามันรุนแรงและน่ากลัวมาก เราสามารถมองเห็นแสงของดาบดำได้ในความว่างเปล่า และในช่วงเวลาถัดไป แสงดาบสีดำแดงก็ฉีกสายรุ้งสีทองออกจากกันด้วยพลังที่ไม่อาจต่อต้านได้ และมันก็เข้าไประเบิดใส่จินซูตง
“อะไรนะ?”
จินซูตงไม่กล้าเชื่อสายตาตัวเอง เขาอาจไม่ได้ใช้พละกำลังทั้งหมดของเขาในกระบวนท่าก่อนหน้านี้ แต่เขาก็ได้ใช้ความสามารถในการต่อสู้ตามปกติทุกอย่างไปแล้ว แต่มันก็ยังถูกทำลายโดยหลี่ฟู่เฉินได้อย่างง่ายดาย
ด้วยการตวัดแส้ทองคำ จินซูตงทำให้แสงดาบเหล็กดำเป็นกลางและก็เซถอยหลังไปหลายสิบก้าว
จินซูตงไม่ใช่คนเดียวที่ตกใจ ทุกคนก็เช่นกัน!!
แม้แต่กระทั้งดวงตาของจื่อหยูเย่เองก็ดูเย็นชาโดยไม่ได้ตั้งใจ
หลี่ฟู่เฉินยังคงซ่อนความสามารถที่แท้จริงของเขาไว้? เขาซ่อนมันไว้มากแค่ไหน?
“หลี่ฟู่เฉินผู้นี้ เขาจะเอาชนะราชาดาราแส้ทองคำ จินซูตง ได้จริงๆ?”
“นั่นเป็นไปไม่ได้!”
ในตอนนี้ ทุกคนไม่กล้าเดาอีกต่อไป
ทุกครั้งที่พวกเขาคิดว่าหลี่ฟู่เฉินใช้ความสามารถทั้งหมดของตนเองออกมาแล้ว เขาจะแสดงให้เห็นถึงบางสิ่งที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นกว่าเดิม ราวกับว่ามันไม่มีขีดจำกัด
“นี่คือ?”
โอหยางเหวินเทียนมีแววตาลังเล
“มันเป็นเทคนิคลับพิเศษชนิดหนึ่ง” ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายวารีครามที่อยู่ข้างๆ โอหยางเหวินเทียนกล่าว
“ถูกแล้ว มันสมควรเป็นเทคนิคลับพิเศษที่สามารถใช้ร่วมกับเทคนิคลับอื่นๆ ได้ หากข้าเดาไม่ผิดเขาสมควรได้รับมาจากผู้เชี่ยวชาญเทพยุทธ์เร้นลับอันดับที่ 1 ไม่มีใครคาดคิดว่าเขาจะเรียนรู้มันได้เร็วขนาดนี้และดูเหมือนว่าเขาจะมีความเชี่ยวชาญอยู่ในระดับสูงทีเดียว” ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายวารีครามอรกคนกล่าว
ในฐานะที่เป็นผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายวารีคราม พวกเขาย่อมมีความรู้มากกว่าโอหยางเหวินเทียนมากและก็ใช้เวลาเพียงแวบเดียวเพื่อวิเคราะห์มัน
แต่ทั้งสองคนคิดว่เทคนิคอันนี้ของหลี่ฟู่เฉินถูกมอบให้โดยผู้เชี่ยวชาญเทพยุทธ์เร้นลับคนแรก
ผู้เชี่ยวชาญจากโถงทองคำดับสูญมีสีหน้าที่ดูมืดมนอย่างยิ่ง
จินซูตงประสบกับการพ่ายแพ้ติดต่อกันและหากเขาต้องพ่ายแพ้อีกครั้ง โถงทองคำดับสูญก็ย่อมต้องเป็นที่น่าหัวร่ออย่างแน่นอน
จินซูตงที่ถูกบังคับให้ก้าวถอยหลังกว่าสิบก้าวส่งเสียงคำรามออกมาจากส่วนลึกๆ ของลำคอ เขาระเบิดพลังออกมาพร้อมกับความสามารถที่ถูกดันจนไปถึงขีดสุดและพุ่งเข้าใส่หลี่ฟู่เฉินโดยแส้อย่างไม่สงวนพลังใดๆ
เงาของแส้สีทองแพรงพราวราวกับน้ำตกทองคำ ซึ่งน้ำตกนี้ก็ได้หลั่งไหลไปยังหลี่ฟู่เฉินโดยก็ไม่มีสิ่งใดฉุดรั้งเอาไว้ หากบุคคลทั่วไปถูกเงาแส้นี้ฟาด พวกเขาจะถูกทุบเหมือนกับค้อนทุบเหล็กแน่นอน
แต่คนที่จะถูกทุบย่อมไม่ใช่หลี่ฟู่เฉิน
ดาบก่อนหน้านี้ของหลี่ฟู่เฉิน เขายังไม่ได้ใช้ความสามารถทั้งหมดของเขาเสียด้วยซ้ำ
หลังจากทั้งหมดแล้ว เทคนิคลับระดับ 5 ดาวก็ทรงพลังเกินไป และเมื่อพลังฉีหยางบริสุทธิ์ถูกเสริมด้วยบทดาบเหล็กดำ มันก็ไม่ใช่แค่เทคนิคลับระดับ 5 ดาวธรรมดาๆ อีกต่อไป มันกลายเป็นเทคนิคลับระดับ 5 ดาวในขั้นสมบรูณ์แบบไปแล้ว หากหลี่ฟู่เฉินใช้พลังออกมาอย่างเต็มที่ มันก็เพียงพอที่จะสังหารจินซูตงได้ด้วยดาบเพียงเล่มเดียวในทันที
ดังนั้น สำหรับกระบวนท่าก่อนหน้านี้ หลี่ฟู่เฉินจึงใช้ความสามารถไปเพียงแค่ 50% เท่านั้น
แต่ถึงจะเพียงแค่ 50% ก็เพียงพอที่จะทำลายทักษะแส้ของจินซูตงได้อย่างง่ายดายแล้ว
ตอนนี้ จินซูตงกำลังใช้พลังออกมาทั้งหมด แต่หลี่ฟู่เฉินยังคงรักษาความสามารถไว้ที่ 50% และก็เข้าปะทะกับจินซูตงอย่างรุนแรง
ครั้งนี้ หลี่ฟู่เฉินได้เปรียบเพียงเล็กน้อย หลังจากที่แสงดาบเหล็กดำทำลายเงาแส้สีทองของจินซูตง แสงดาบที่เหลือก็สลายหายไปอย่างรวดเร็ว
“เจ้าจะต้องพ่ายแพ้ พ่ายแพ้ พ่ายแพ้!”
จินซูตงดูคล้ายกับคนที่บ้าไปแล้ว เขาโจมตีตลอดเวลา ราวกับพายุฝนที่รุนแรง
แต่ภายใต้การรับรู้ที่เหนือกว่าของหลี่ฟู่เฉิน ทุกกระบวนท่าของจินซูตงก็เหมือนกับแมลงที่ดิ้นอยู่บนใยของแมงมุม ซึ่งไร้ภัยคุกคามใดๆ
10 กระบวนท่า 20 กระบวนท่า 50 กระบวนท่า
จินซูตงเสียแรงไปอย่างช้าๆ และทักษะแส้ของเขาก็ขาดความเฉียบคมไป
“หัวใจเพลิงปีศาจ”
เพียงดาบเดียว แสงดาบเหล็กสีดำแท่งทะลุร่างของจินซูตง
“เขาชนะจริงๆ?”
“น่ากลัวเกินไปแล้ว บุคคลประเภทนี้เป็นบุคคลที่อันตรายอย่างยิ่ง ไม่มีใครรู้ว่าเขามีไพ่ตายซ่อนอยู่กี่อย่างกันแน่ หากเขาเป็นศัตรู มันคงเป็นการดีที่สุด ถ้าหนีไปเสียซะตั้งแต่เริ่ม”
ในสายตาของทุกคน หลี่ฟู่เฉินเปลี่ยนจากไม่อาจหยั่งรู้เป็นอันตรายอย่างยิ่ง
“เฮ้อ!” ฉีเหิงส่ายหัว
จินซูตงพ่ายแพ้อีกครั้ง
ความพ่ายแพ้ของจินซูตงอาจจะไม่เกี่ยวข้องกับเขา แต่ในฐานะหนึ่งในราชาดาราฉีเหิง รู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย
สามราชาดารา เมื่อคนหนึ่งมีชื่อเสียง ทั้งหมดก็จะได้ชื่อเสียง เมื่อคนหนึ่งพ่ายแพ้ บารมีของราชาคนก็จะเสียหายเช่นกัน
‘จินซูตง ข้าจะจัดการคนเหล่านี้ทั้งหมด สามราชาดาราไม่อาจสูญเสียชื่อเสียงไปเพราะเจ้าคนเดียวได้’ ฉีเหิงคิดกับตัวเอง
“ทำไมเขาถึงแข็งแกร่งเช่นนี้?”
เมื่อกล่าวถึงผู้ชมที่ตกใจ คนที่ตกใจที่สุดอีกคนนึงก็คือผู้เยาว์อันดับที่ 2 ของตระกูลต้วนหลิน เซี่ยฮัวชือ
ก่อนการแข่งขันครั้งนี้ เขาปฏิบัติต่อหลี่ฟู่เฉินเหมือนเหยื่อ แต่เหยื่อตัวนี้กลับกลายเป็นมังกรยักษ์ที่เขากำลังหวาดกลัว
หลังจากที่เอาชนะจินซูตงได้แล้ว หลี่ฟู่เฉินก็ชนะติดต่อกัน 95 ครั้งและมีเพียงสี่คนเท่านั้นที่รักษาสถิตินี้ไว้ได้ พวกเขาคือ : ราชาดาราอัสนี สือตูเหล่ย ราชาดาราไร้เคลื่อนไหว ฉีเหิง นายน้อยดาบมังกรจื่อหยูเย่ และหลี่ฟู่เฉิน
สามคนก่อนหน้าถูกตรีไว้ว่าเป็นสี่อันดับแรก ในขณะที่หลี่ฟู่เฉินได้รับการการันตีว่าจะต้องถูกจัดอันดับอยู่ในอันดับที่สี่อย่างแน่อน
หากเขาสามารถเอาชนะ เจียงหรั่วหลิวได้ เช่นนั้นแล้วผลลัพธ์ในการแข่งขันจัดอันดับดาราครั้งนี้ของเขาอย่างน้อยๆ ก็ต้องอยู่ในอันดับที่ 4
ในนัดที่ 98 ของหลี่ฟู่เฉิน เห็นได้ชัดเจนเลยว่าคู่ต่อสู้ของเขาคือเจียงหรั่วหลิว
ทักษะต่อสู้ภาพลวงตาของเจียงหรั่วหลิวระบำนภาสวรรค์เป็นสิ่งที่เถิงฉิงหยุนและจินซูตงไม่สามารถต้านทานได้ แม้แต่กระทั้งจื่อหยูเย่ก็ยังต้องพึ่งพาทักษะต่อสู้คลื่นเสียงเพื่อทำให้มันเป็นกลาง
ดังนั้น การแข่งขันครั้งนี้จึงเต็มไปด้วยความระทึกใจ
แต่ในความเห็นของหลี่ฟู่เฉิน ความกดดันที่เจียงหรั่วหลินส่งมาให้เขายังมีน้อยเกินไป บางทีอาจจะอ่อนแอกว่าเถิงฉิงหยุนเสียด้วยซ้ำ
บนเวที เจียงหรั่วหลิวระเบิดออกพลังมาพร้อมกับสภาวะพลังฉีของทักษะภาพลวงตา เพื่อต้องการทดสอบหลี่ฟู่เฉิน
แต่เธอรู้สึกประหลาดใจที่คิ้วของหลี่ฟู่เฉินไม่ขมวดเลยแม้แต่น้อย มันราวกับภภาวะพลังฉีนี้เป็นเพียงสายลมอ่อนๆ ที่พัดผ่านใบหน้าของเขาไปเท่านั้น ทำราวกับมันไม่มีพลังคุกคามใดๆ