Eternal Reverence เทพบุตรฟ้าประทาน - ตอนที่ 317
บทที่ 317
แสงดาบทองแดง
“นี่คือคู่ตัดสินแล้ว”
“การต่อสู้เพื่อชิงความเป็นหนึ่ง สือตูเหล่ยและหลี่ฟู่เฉิน ดูจากรูปการณ์แล้ว พวกเขาอาจจะเป็นนักสู้ขอบเขตปฐพีที่แข็งแกร่งที่สุดในสหัสวรรษ”
“นั้นก็จริง ดูเหมือนว่าจะเป็นเช่นนั้น แต่ในอนาคต จื่อหยูเย่จะเหนือกว่าพวกเขาทั้งสองคนแน่นอน เส้นชีพจรดาบของเขาทรงพลังเกินไป และอาจจะทำลายสือตูเหล่ยในทันทีก็ย่อมได้ แม้ว่าหลังจากนั้นเขาจะอ่อนเพลียก็ตามที”
“อย่าได้ลืมเรื่องนี้ไป หลี่ฟู่เฉินอยู่แค่ระดับที่ 8 ของขอบเขตปฐพีแต่เพียงเท่านั้น และยังมีช่องว่างขนาดใหญ่ให้พัฒนาอยู่”
“นั้นก็จริงอีกนั้นแหละ บางที จื่อหยูเย่อาจจะกลายเป็นนักขอบเขตปฐพีที่แท้จริงได้ก็ต่อเมื่อเขาปลุกความสามารถในเต๋าแห่งดาบของเขาขึ้นมาได้แล้วเท่านั้น”
ในความเห็นของทุกคน จื่อหยูเย่ สือตูเหล่ย และหลี่ฟู่เฉินต่างก็อยู่ในระดับเดียวกันและไม่ได้แตกต่างกันมากมายเท่าใดนัก
ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร ตอนนี้การจัดอันดับดาราก็ดูชัดเจนขึ้นมาก
นอกเหนือจากอันดับหนึ่งและอันดับสองแล้ว อันดับที่เหลือก็ได้รับการตัดสินแล้ว
อันดับที่ 3 จื่อหยูเย่ อันดับที่ 4 ฉีเหิง อันดับที่ 5 เจียงหรั่วหลิว อันดับที่ 6 จินซูตง อันดับที่ 7 เถิงฉิงหยุน อันดับที่ 8 ซูหลิน อันดับที่ 9 หลัวเฟ่ยหยุน อันดับที่ 10 ฮันยี๋หมิง อันดับที่ 11 เซี่ยฮัวชวน อันดับที่ 12 มูหรงตี๋ สำหรับชูมู่หยูและหยานฉิงหวู พวกเธออยู่ในอันดับที่ต่ำกว่านั้น แต่ก็อยู่ใน 36 อันดับแรกเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะชูมู่หยูที่อยู่ในอันดับที่ 15 ซึ่งก็ไม่ใกล้ไม่ไกลถึงขนาดนั้น
ท้ายที่สุดแล้ว การแข่งขันก็มาถึงรอบสุดท้าย สำหรับรอบนี้ การแข่งขันอื่นๆ ล้วนถูกลืมเลือน ก็ในเมื่อทุกคนกำลังรอคอยการแข่งขันระหว่างหลี่ฟู่เฉินและสือตูเหล่ยอยู่
ทุกคนอยากรู้ว่าใครคือคนที่แข็งแกร่งกว่า เป็นหลี่ฟู่เฉินราชาแห่งม้ามืด หรือเป็นสือตูเหล่ยราชาดาราอันดับที่ 1 กันแน่?
ทั้งสองคนเป็นราชาและนี่ก็เป็นการแข่งขันระหว่างสองราชา ทำให้การแข่งขันของพวกเขาเป็นนัดที่ต้องจับตามองโดยธรรมชาติ
ราวกับว่าค่ายกลชุบสวรรค์มีจิตวิญญาณเป็นของตนเอง ก็ในเมื่อมันได้จัดให้การแข่งขันของหลี่ฟู่เฉินและสือตูเหล่ยเป็นนัดสุดท้ายของการแข่งขัน
เมื่อชั่วขณะนึงมาถึง ทุกคนกลั้นหายใจ
การได้รับอันดับ 1 ในการจัดอันดับดาราไม่ได้มีเพียงแค่เกียรติยศที่จะได้ มันรวมถึงพลังฉีโชคชะตาด้วยเช่นกัน
ตามตัวอย่างก่อนหน้านี้ เมื่อผู้อันดับดาราสามอันดับแรกก้าวไปสู่ขอบเขตสวรรค์ พวกเขาจะสามารถก้าวไปสู่ระดับ 2 ขั้นสูงสุดได้ทันที อันดับดาราอันดับที่ 1 จะสามารถก้าวขึ้นไปยังระดับที่ 3 ของขอบเขตสวรรค์ได้ หากสามารถได้รับสามอันดับแรกของการแข่งขันจัดอันดับดาราสองครั้งติดต่อกัน เมื่อเป็นอันดับที่ 1 จะสามารถเข้าถึงสถานะสูงสุดของระดับที่ 3 ได้ แม้แต่กระทั้งระดับที่ 4 ของขอบเขตสวรรค์เป็นไปได้
นี่เป็นเหตุผลที่สือตูเหล่ยและราชาดาราคนอื่นๆ เลือกที่จะจำกัดระดับพลังฝึกฝนของตนเองและเข้าร่วมการแข่งขันการจัดอันดับดาราครั้งที่สอง
แน่นอน มีพวกเขาหลายคนที่ยังถึงขอบเขตครึ่งก้าวสวรรค์ตั้งแต่เมื่อสามปีก่อน พวกเขาเองก็ค่อยๆ ก้าวขึ้นสู่ระดับนี้หลังจากผ่านไปสามปี หากพวกเขาอยู่ในขั้นครึ่งก้าวสวรรค์ตั้งแต่การแข่งขันจัดอันดับดาราครั้งก่อนหน้านี้ พวกเขาจะต้องพิจารณาว่ามันคุ้มค่าจริงหรือไม่ และจะดีกว่าหรือเปล่าหากก้าวขึ้นสู่ขอบเขตสวรรค์ล่วงหน้า
บนเวทีวงกลม สือตูเหล่ยและหลี่ฟู่เฉินยืนห่างกัน 20 เมตร
สือตูเหล่ยมีสีหน้าเคร่งเครียด ก็ในเมื่อสัญชาตญาณของเขาบอกเขาว่าหลี่ฟู่เฉินไม่ง่ายที่จะจัดการเหมือนกับจื่อหยูเย่ แม้ว่าเขาจะสามารถชนะในนัดนี้ได้ มันก็อาจจะเป็นชัยชนะที่น่าสังเวชเนื่อจากเขาอาจจะได้รับบาดเจ็บสาหัสเพื่อที่จะชนะ
“อัสนีสวรรค์ดับสูญ!”
เมื่อสายฟ้าสีม่วงแผ่ออกมา ร่างสายฟ้าปรากฏขึ้นด้านหลังสือตูเหล่ย สายฟ้าสีม่วงนับไม่ถ้วนปรากฏตัวขึ้นเต็มท้องฟ้าเหนือเวทีวงกลม พวกมันหมุนตัวและควบรวมตัวกันอย่างรวดเร็วและกลายเป็นหมัดสายฟ้าสีม่วง ซึ่งได้ระเบิดพลังเข้าใส่หลี่ฟู่เฉิน
ฟึบ!
หลี่ฟู่เฉินกลายเป็นร่างเงาและหลบเลี่ยงอัสนีสวรรค์ดับสูญ
อัสนีสวรรค์ดับสูญนั้นรวดเร็วมาก และถ้าหากหลี่ฟู่เฉินอาศัยความเร็วในการตอบสนองของเขาเพียงอย่างเดียว เขาอาจจะไม่สามารถหลบได้ทันเวลา แต่เนื่องจากเขามีความตระหนักรู้ที่มากเป็นพิเศษ เขาจึงสามารถหลบล่วงหน้าได้
“เจ้าคิดว่าการรับรู้ของเจ้าแข็งแกร่งเพียงพอแล้วจริงๆ?”
สือตูเหล่ยหัวเราะเยาะ ขณะที่สายฟ้าสีม่วงพุ่งตัวขึ้นอย่างรุนแรง หมัดควบแน่นอย่างรวดเร็วและระเบิดใส่หลี่ฟู่เฉิน
ตอนนี้หลี่ฟู่เฉินไม่สามารถหลบได้อีกต่อไปแล้ว มันพุ่งเข้ามาระเบิดใส่หลี่ฟู่เฉินอย่างรวดเร็ว
มันไม่มีประโยชน์แม้ว่าเขาจะหลบล่วงหน้าได้ก็ตาม ถ้าเขาหลบช้าไป ความเร็วของเขาก็จะไม่เร็วพอที่จะขยับออกจากรัศมีการโจมตี
“เงาสังหารเพลิงปีศาจ!”
เงาสีดำแดงโผล่ออกมาและเข้าปกคลุมกำปั้นคล้ำฟ้าอันนั้น
ปืสส ปืสส!
พลังฉีที่ปกลุมอยู่ถูกฉีกออก ขณะที่หมัดสีจางๆ จำนวนมากยังคงบินไปที่หลี่ฟู่เฉิน
“ไม่น่าแปลกใจเลยที่มันเป็นทักษะต่อสู้อันดับ 1 ของนิกายเทพอัสนี!”
หลี่ฟู่เฉินหายใจเข้าลึกๆ และรีบหลบหลีกอย่างมีประสิทธิผล
ปั้ง!
เนื่องจากมีหมัดสายฟ้าสีม่วงมากเกินไป จึงมีหมัดหนึ่งที่หลี่ฟู่เฉินไม่สามารถหลบเลี่ยงได้แม้ว่าจะทำอะไรก็ตาม เขาทำได้เพียงแค่ยกดาบขึ้นมาขว้างมันแต่เพียงเท่านั้น
เมื่อสายฟ้าสีม่วงแผ่ซ่านไป เท้าของหลี่ฟู่เฉินก็ไถลไปบนพื้น ในขณะที่ผิวหนังของเขามีรอยไหม้จำนวนมากปรากฏ
“ดี เอาหมัดของข้าไปอีก!”
สือตูเหล่ยตะโกนออกมา ขณะที่ร่างกายของเขากระพริบวายราวกับสายฟ้า เขาอยู่บนท้องฟ้า ขณะที่เขาโจมตีหลี่ฟู่เฉินด้วยหมัดสายฟ้าอีกครั้ง
‘ดูเหมือนว่าจะไม่มีทางเลือกอื่นนอกเสียจากต้องเปิดเผยบทดาบไร้สมบูรณ์บทดาบทองแดงของข้า เปิดเผยเล็กน้อยไม่น่าจะเป็นอะไร’
หลี่ฟู่เฉินไม่ได้ตั้งใจที่จะเปิดเผยความสามารถทั้งหมดของบทดาบทองแดง เพราะมันดูน่าตื่นตกใจเกินไป เขาอาจจะปลอดภัยในตอนนี้ แต่เมื่อผู้เชี่ยวชาญเทพยุทธ์เร้นลับคนแรกจากไป เขาอาจจะกลายเป็นเป้าหมายของทุกคนได้
แม้แต่กระทั้งตอนนี้ แก่นแท้ดาบเหล็กดำของเขาก็ดึงดูดความสนใจได้มากมายทั้งๆ ที่เขาไม่ต้องการอยู่แล้ว
มันเป็นเทคนิคลับที่สามารถซ้อนกับเทคนิคลับอื่นๆ ได้ ความหายากเช่นนี้จึงเป็นสิ่งที่แม้แต่กลุ่มผู้มีอิทธิพลสิบอันดับแรกก็ยังไม่มี
บนพื้นผิวโครงกระดูกของเขา ลวดลายดาบเหล็กดำยังคงสว่างอยู่ แต่มีประมาณ 5% ของกระดูกที่สว่างขึ้นด้วยลวดลายของดาบทองแดง
ในช่วงเวลาถัดไป แสงดาบสีดำพุ่งออกมาพร้อมกับสีทองแดงและสีแดงเลือดหมู จากนั้นมันก็ปะทะกับหมัดสายฟ้าที่พุ่งเข้ามา
“เจ้าจะกันมันได้หรือไม่?” สือตูเหล่ยหัวเราะ
ปั๊ก ปั๊ก ปั๊ก ปั๊ก ปั๊ก ปั๊ก…
ราวกับฟองสบู่ที่แตกออก หมัดสายฟ้าที่ดุร้ายนั้นถูกดับลงทั้งหมด ในช่วงเวลาถัดไป แสงดาบเข้มข้นก็พุ่งเข้าใส่สือตูเหล่ยราวกับสายฝน
“อะไรนะ?” สือตูเหล่ยตกใจและถอยกลับอย่างกุลีกุจอ
ในระหว่างการล่าถอยของเขา สือตูเหล่ยปล่อยหมัดออกไปสามครั้งต่อเนื่องไป
“นี่คือความสามารถของเขา?” สือตูเหล่ยรู้สึกสับสน
เขามั่นใจว่าหลี่ฟู่เฉินต้องเปิดใช้งานความสามารถอื่นที่เขาซ่อนเอาไว้อยู่แน่นอน และมันก็ทำให้ความสามารถของเขาเพิ่มขึ้นมากอีกครั้ง
“เขายังเป็นมนุษย์อยู่รึเปล่า? เขามีไพ่ตายอยู่กี่อย่างกันแน่?” ทุกคนอึ้งจนไม่มีอะไรจะพูด
มันมีครั้งแรก ครั้งที่สอง ครั้งที่สาม และตอนนี้ก็ครั้งที่สี่
หลี่ฟู่เฉินได้ซ่อนความสามารถของเขาไว้ อีกครั้งและก็อีกครั้ง พลังความสามารถที่มากกว่าเดิมออกมา อีกครั้ง อีกครั้ง และก็อีกครั้ง ทุกคนตื่นตกใจในครั้งแรก เมื่อผ่านมาภายหลังพวกเขาก็เริ่มชินชา แต่ตอนนี้พวกเขากลับตกใจอีกครั้งอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้!
“อัสนีสวรรค์ดับสูญ… อัสนีสวรรค์สังหาร!”
ด้วยเสียงตะโกนที่เกรี้ยวโกรธ สือตูเหล่ยระเบิดพลังออกมาพร้อมกับท่าไม้ตายของอัสนีสวรรค์ดับสูญ
เมื่อเขาใช้ท่าไม้ตายออกมา ทุกๆ สิ่งที่อยู่ในรัศมีของสภาวะพลังหมัด เช่นความว่างเปล่า ล้วนกลายเป็นสายฟ้า มันรวมทั้งฝุ่นควันเองก็เช่นกัน ในช่วงเวลาเดียวกันนี้ มีสนามพลังสายฟ้าถูกผลิตขึ้น ซึ่งทำให้หลี่ฟู่เฉินรู้สึกราวกับว่าร่างกายของเขาถูกกระแสไฟฟ้าวิ่งไหลผ่าน มีความรู้สึกชา ซึ่งไม่อนุญาตให้เขาออกแรงใดๆ ออกมาได้
และนี่ก็เป็นเพียงแค่สภาวะพลังหมัดเท่านั้น หากหมัดสายฟ้าฟาดลงบนตัว แน่นอนว่ามันจะทำให้เขากลาเศษซากแน่นอน
อย่างไม่รู้ตัว พื้นผิวของร่างกายของหลี่ฟู่เฉินมีชั้นพลังฉีสีดำที่มีสีเขียวเล็กน้อยปนอยู่ในนั้นปรากฏ
นี่เป็นการผสมผสานระหว่างพลังฉีดาบเหล็กดำและพลังฉีดาบทอแดง ส่งเสริมกลายเป็นเกราะดาบพลังฉี
ในแง่ของความทนทาน มันเหนือกว่าเกราะพลังฉีปกติมาก
เมื่อเกราะพลังฉีถูกขยายออกไป หลี่ฟู่เฉินที่รู้สึกได้ถึงความชาที่เริ่มเพิ่มมากขึ้น ต่อจากนั้นหลี่ฟู่เฉินก็ระเบิดพลังออกมา และใช้ออกด้วยท่าสังหารระดับลึกลับขั้นสูง มังกรเพลิง
แสงดาบควบแน่นเป็นมังกรเปลวเพลิง ส่วนใหญ่ของมันเป็นสีดำ ซึ่งถูกล้อมรอบด้วยชั้นสีทองแดงและก็มีขอบเป็นสีแดงเลือดหมู มันอาจดูเหมือนมังกร แต่มันก็เหมือนสายฟ้ามากกว่า ทั้งๆ ที่ตัวมันเองก็ไม่ได้มีคุณสมบัติเป็นสายฟ้าแต่อย่างใด มันเป็นเพียงรูปแบบที่ไม่เสถียร
ฉีก!
หมัดสายฟ้าถูกหั่นเป็นชิ้นๆ ในขณะที่แสงดาบมังกรเพลิงมีพลังที่ไม่อาจสกัดกั้นได้ มันยังคงพุ่งชนไปยังเกราะป้องกันของสือตูเหล่ย
แม้ว่าข้อเท็จจริงที่ว่าเกราะพลังฉีของสือตูเหล่ยนั้นแข็งแกร่งและมั่นคงเป็นพิเศษ แต่มันจะเทียบกับแสงดาบทองแดงผสมกับแสงดาบมังกรเพลิงได้อย่างไร? มันถูกทำลายลงในทันที
ตึง!
ถูกเขมือบลงไปด้วยแสงดาบ ครึ่งหนึ่งของร่างกายสือตูเหล่ยถูกทำลายด้วยแสงดาบ
ผู้ชนะคนสุดท้ายคือหลี่ฟู่เฉิน
ติดตามก่อนใครได้ที่เพจ indynovels