Eternal Reverence เทพบุตรฟ้าประทาน - ตอนที่ 325
บทที่ 325
ความสามารถในการต่อสู้ที่น่าอัศจรรย์
ด้านล่างพวกเขามีคนในชุดดำมากกว่าหนึ่งพันคนที่มาถึงชานเมืองทางตะวันตกของเมืองเมฆหมอก
คนในชุดดำเหล่านี้ก็เป็นเหมือนกับคนที่ตั้งค่ายกล ส่วนใหญ่อยู่ในระดับกลางขึ้นไปของขอบเขตต้นกำเนิด แน่นอนว่ายังมีผู้ฝึกฝนขอบเขตปฐพีและขอบเขตสวรรค์อยู่ด้วยเช่นกัน ชายที่สวมหน้ากากแมวและข้างหลังเขาชายชุดดำอีกคนหนึ่งที่มีหน้ากากตะขาบซึ่งดูเหมือนจะอยู่ในระดับที่เท่าๆ กัน
‘ผู้ฝึกฝนเต๋าปีศาจขอบเขตสวรรค์ระดับสูงสองคน?’ หลี่ฟู่เฉินขมวดคิ้ว
ผู้ที่มีความตระหนักรู้น่าประหลาดใจอย่างหลี่ฟู่เฉินจะสามารถรับรู้ถึงระดับพลังฝึกฝนของผู้ชายที่สวมหน้ากากแมวและผู้ชายสวมหน้ากากตะขาบได้อย่างง่ายดาย
ชายสวมหน้ากากแมวอยู่ที่ระดับ 8 ของขอบเขตสวรรค์ ในขณะที่ชายสวมหน้ากากตะขาบอยู่ที่ระดับ 9 ของขอบเขตสวรรค์
แต่เขาไม่แน่ใจว่ามันเป็นการเข้าใจผิดหรือไม่ เนื่องจากหลี่ฟู่เฉินรู้สึกว่าชายที่สวมหน้ากากแมวนั้นแข็งแกร่งกว่าชายที่สวมหน้ากากตะขาบ นอกจากนี้ความแตกต่างก็ไม่ได้ต่างกันมากมายเลย
‘นักสู้ขอบเขตสวรรค์ระดับสูงสองคน สถานการณ์ไม่สู้ดีนัก! ’หลี่ฟู่เฉินคิ้วขมวดแน่นยิ่งขึ้น
ความแข็งแกร่งของกองกำลังเต๋าปีศาจนี้น่ากลัวกว่าที่เขาคิดไว้มาก ถ้าพวกเขาสามารถรวบรวมสมาชิกของนิกายวารีครามทั้งหมดในพื้นที่รองที่เจ็ดมาได้ พวกเขาก็คงจะมีความมั่นใจที่จะต่อต้านหรือขับไล่พวกเขาออกไปได้เช่นกัน
“รอบทิศทางเมืองหมอกเมฆ” ชายสวมหน้ากากแมวโบกมือขณะสั่งคนชุดดำ
ฟึบ ฟึบ ฟึบ…
คนในชุดดำกว่าพันคนแยกออกเป็นสองกลุ่ม กลุ่มหนึ่งไปทางซ้ายและอีกกลุ่มไปทางขวา พวกเขาเริ่มล้อมรอบเมืองหมอกเมฆทั้งหมด และอีกหนึ่งชั่วโมงต่อมาหลี่ฟู่เฉินก็ได้ยินเสียงที่ตื่นตระหนกในเมืองหมอกเมฆ
ห่างออกไปกว่าสิบไมล์มีร่างเก้าร่างลอยอยู่บนท้องฟ้า
สองชั่วโมง ก็เพียงพอแล้วที่ผู้อาวุโสนิกายชั้นในของนิกายวารีครามที่จะรีบเดินทางจากเมืองเมฆทองมายังเมืองเมฆหมอก
เป็นผู้อาวุโสนิกายชั้นในทั้งหมดเก้าคนที่มาถึง
ผู้อาวุโสเหมาชิวไห่ก็เหมือนกับจ้าวหวูจิน เขาได้ฝึกฝนนิกายต้นกำเนิดดาบมาและเขาเองก็มั่นใจว่าเขาจะสามารถต่อต้านอันตรายที่เมืองสันติแท้จริงได้ ดังนั้นเขาจึงนำผู้อาวุโสนิกายชั้นในไปกับเขาเพียงแค่ห้าคนเท่านั้น
ผู้นำของผู้อาวุโสนิกายชั้นในที่มาที่นี่ก็คือหลินคุนซึ่งอยู่ในระดับที่ 8 ของขอบเขตสวรรค์
เมื่อเขาเห็นชายชุดดำกว่าพันคนรอบๆ เมืองหมอกเมฆเขาก็รู้ว่าได้ทันทีว่านี่คือกองกำลังที่แท้จริงของกองกำลังเต๋าปีศาจ และเมืองสันติแท้จริงเป็นเพียงการหลอกลวงเท่านั้น
หลินคุนทุบตราตัวลูกอย่างไม่ลังเล อย่างไรก็ตามเขารู้ได้ทันทีวาสอีกสองถึงสี่ชั่วโมงต่อจากนี้พวกเขาต้องพึ่งพาตัวเองแต่เพียงเท่านั้น ผู้อาวุโสเหมาจะต้องใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งชั่วโมงเพื่อเร่งรีบออกมาจากเมืองสันติแท้จริง
“เวรเอ้ย พวกแกกล้าดียังไง!”
หลินคุนตะโกนออกมาพร้อมกับชักดาบออก ขณะที่เขายังอยู่ห่างออกไปประมาณแปดไมล์ ดาบจำนวนนับไม่ถ้วนก็ได้ถาโถมใส่คนสวมชุดดำราวกับพายุ ในทันใดเองก็มีชายชุดดำอย่างน้อยๆ 20 คนถูกหั่นเป็นชิ้น ๆ
“พวกมันมาที่นี่เร็วขนาดนี้เลยเหรอ” ดวงตาของชายสวมหน้ากากแมวเผยให้เห็นสีหน้าประหลาดใจ
“อีกพันฟุตเจ้าไปถ่วงพวกมันไว้” ชายสวมหน้ากากแมวพูดกับชายสวมหน้ากากตะขาบที่อยู่ข้างๆ
“ไม่มีปัญหา”
ชายสวมหน้ากากตะขาบนำกลุ่มชายชุดดำขอบเขตสวรรค์ติดตามมา และบินขึ้นไปขัดขวางหลินคุนและผู้อาวุโสในนิกายชั้นใน
“ผู้อาวุโสฉิน ผู้อาวุโสซู พวกเราเองก็ลงไปด้วยกันเถอะ”
หลี่ฟู่เฉินไม่ได้สนใจว่าทั้งสองคนจะเห็นด้วยหรือไม่เพราะเขาสั่งให้นกยักษ์เคียวสยองลงมาแล้ว
นกยักษ์เคียวสยองนั้นรวดเร็วมาก และนักสู้ขอบเขตสวรรค์ระดับกลางส่วนใหญ่ก็ไม่ได้เร็วไปกว่ามันด้วยซ้ำ ในแง่ของความเร็ว มีเพียงนักสู้ขอบเขตสวรรค์ระดับสูงเท่านั้นถึงจะสามารถแข่งขันกับมันได้
ฟึบ…
มีเสียงแหลมแหลมในอากาศเกิดขึ้น ขณะที่นกยักษ์เคียวสยองเคลื่อนไหว ตัวมันราวกับกระสุนปืนใหญ่ ด้วยการใช้แรงที่พุ่งลงมาพร้อมๆ กับการหุบปีกลง มันจึงใช้กรงเล็บที่แหลมคมของมันเพื่อกำจัดผู้ฝึกฝนขอบเขตสวรรค์ที่มีระดับต่ำกว่าอย่างไร้ความปรานี
บุคคลในชุดดำตกใจ มันเป็นสีดำสนิทและแม้ว่าเขาจะเป็นนักสู้ขอบเขตสวรรค์ แต่ถ้าเขาไม่สนใจก็ยากที่จะตรวจจับการเคลื่อนไหวใดๆ บนท้องฟ้าได้
เขาไม่มีเวลารวบรวมพลังฉีใดๆ ทำได้เพียงแค่ดึงพลังฉีออกมาและต่อยไปที่กรงเล็บของนักยักษ์เคียวสยองแต่เพียงเท่านั้น
บูม!
เกิดการระเบิดขนาดใหญ่ขึ้น ขณะที่ชายชุดดำพ่นเลือดสดๆ ออกมาเต็มปากแล้วตกลงมาจากท้องฟ้า
นกยักษ์เคียวสยองเป็นสัตว์วิญญาณระดับ 4 ขั้นต่ำ ในสถานการณ์ปกติทั่วไป เดิมทีมันก็แข็งแกร่งกว่านักสู้ขอบเขตสวรรค์ระดับต่ำอยู่แล้ว แต่ตอนนี้มันมีองค์ประกอบต่างๆ ที่หนุนเสริม ฉะนั้นแล้วด้วยการโจมตีด้วยจากกรงเล็บเพียงครั้งเดียวก็เพียงพอที่จะทำให้ชายชุดดำบาดเจ็บได้
แต่ยังไม่จบแต่เพียงเท่านั้น ขณะที่ชายชุดดำกำลังตกลงมาเงาสองร่างก็พุ่งออกมาจากด้านหลังของนกยักษ์เคียวสยอง พวกเขาถือดาบประดิษฐ์ของตนเอง คนหนึ่งโจมตีจากทางซ้ายและอีกคนหนึ่งโจมตีจากทางขวา พวกเขาเข้าไปเฉือนร่างของชายชุดดำทันที
และก็แน่นอน ทั้งสองนี้คือฉินหมิงและซูชาง
เมื่อเห็นฉากนี้ดวงตาของชายที่สวมหน้ากากแมวก็เปล่งประกายแสงชั่วร้ายออกมา ขณะที่เขามองไปยังทั้งสองคน
“นั่นมันผู้อาวุโสฉินหมิงและผู้อาวุโสซูชาง ท่าไม่ดีแล้ว ชายสวมหน้ากากแมวคนนี้มีความสามารถที่น่ากลัวอย่างยิ่ง ผู้อาวุโสฉินหมิงและผู้อาวุโสซูชาง อาจไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา” หลินคุนใช้การตวัดดาบเพียงครั้งเดียวเพื่อบังคับให้ชายสวมหน้ากากตะขาบถอยออกไป และตะโกนออกมา “ผู้อาวุโสฉิน ผู้อาวุโสซู มาสลับคู่ต่อสู้ของเรา!”
ขณะที่หลินคุนกำลังกล่าวเขาก็ได้เข้าไปขัดขวางชายสวมหน้ากากแมว
“ได้!”
ร่างกายของฉินหมิงและซูซางเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว ขณะที่พวกเขาเข้าไปขัดขวางชายสวมหน้ากากตะขาบที่ต้องการโจมตีหลินคุนจากด้านหลัง
“ถามหาความตาย!”
ชายสวมหน้ากากแมวเผยกรงเล็บเหล็กออกมา ขณะที่เขาตวัดกรงเล็บเหล็กออกไป แสงกรงเล็บนับไม่ถ้วนระเบิดออกมาและเข้าไปห่อหุ้มหลินคุน
หลินคุนหัวเราะออกมาและต่อสู้กับชายที่สวมหน้ากากแมว
“ผู้ฝึกตนเต๋าปีศาจจะก้าวหน้าในระยะแรกของการฝึกฝนได้อย่างรวดเร็วและคนเหล่านี้ก็มีความสามารถที่แข็งแกร่งมากมายเช่นกัน แต่เมื่อพวกเขามาถึงขอบเขตสวรรค์ข้อดีที่ผู้ฝึกตนเต๋าปีศาจมีจะน้อยลง ผู้อาวุโสฉินและผู้อาวุโสซู สมควรจะต่อสู้กับชายสวมหน้ากากตะขาบได้ แต่ผู้อาวุโสหลินคุนอาจจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของชายสวมหน้ากากแมว”
หลี่ฟู่เฉินอาจจะไม่ได้อยู่ในขอบเขตสวรรค์ แต่การรับรู้ของเขาก็ดีกว่านักสู้ในขอบเขตหวนคืนต้นกำเนิดส่วนใหญ่ สามารถระบุได้ในพริบตาว่าใครมีพลังฉีที่แข็งแกร่งและอันตรายกว่า
ในสายตาของเขาชายที่สวมหน้ากากแมวมีพลังฉีที่อันตรายที่สุด ในขณะที่ผู้อาวุโสหลินคุนอยู่ในระดับเดียวกับชายสวมหน้ากากตะขาบ
“ข้าจะไปจัดการกับผู้บำเพ็ญเต๋าปีศาจขอบเขตสวรรค์ก่อน”
หลังจากที่รวมหลี่ฟู่เฉินเข้าไปแล้ว พวกเขาก็มีทั้งหมด 12 คน เป็นคนที่มีความสามารถในการต่อสู้อยู่ในระดับขอบเขตสวรรค์ ในฝั่งของผู้ฝึกฝนเต๋าปีศาจมี 15 คนที่มีความสามารถในการต่อสู้อยู่ในขอบเขตสวรรค์ พวกเขาเพิ่งฆ่าหนึ่งในนั้นไปก่อนหน้านี้ มันจึงเหลืออยู่ 14 คน สิ่งนี้ทำให้พวกเขาได้เปรียบอย่างแท้จริง
“ลุย!”
หลี่ฟู่เฉินหมอบอยู่บนหลังนกยักษ์เคียวสยอง เขาสั่งให้มันบินไปหาคนชายสวมชุดดำที่อยู่ใกล้ที่สุดซึ่งอยู่ในขอบเขตสวรรค์ระดับต่ำ
“หอกวิญญาณสูญสิ้น!”
ชายชุดดำคนนั้นกำลังถือหอกสีเลือด ซึ่งหอกก็สร้างวิถีหอกหมุนวนขึ้นมากลางอากาศ
ชิ้ง!
นกยักษ์เคียวสยองใช้กรงเล็บสกัดกั้นหอกไว้
“เพลงร้อนสุดขีด!”
ร่างหนึ่งพุ่งออกมาจากด้านหลังของนกยักษ์เคียวสยอง ในช่วงเวลาต่อมา ดาบที่ส่องแสงและสว่างไสว ซึ่งให้ความรู้สึกเหมือนมันกำลังลุกไหม้ในอากาศได้ตลอดเวลาพุ่งไปยังชายชุดดำ
“ไม่ดีแล้ว”
ชายชุดดำไม่สามารถตรวจพบได้ว่ามีใครอยู่ที่ด้านหลังของนกยักษ์เคียวสยอง สาเหตุหลักมาจากการที่หลี่ฟู่เฉินปกปิดตัวเองได้เป็นอย่างดีและไม่ได้แสดงพลังฉีใดๆ เลย
หลังจากจิตวิญญาณของหลี่ฟู่เฉินพัฒนาไปจนถึงระดับสีน้ำเงิน ความสามารถในการปกปิดสภาวะพลังของเขาก็น่ากลัวยิ่งขึ้น หากเขาต้องการที่จะปกปิดตัวตนมันก็จะไม่มีนักสู้ขอบเขตสวรรค์คนใดที่จะสามารถตรวจจับการมีอยู่ของเขาได้
โคจรเทคนิคเพลิงโลกันต์แท้จริงขั้นที่ 18 เปิดใช้งานพลังฉีหยางบริสุทธิ์ เปิดใช้งานบทดาบเหล็กดำและใช้งานทักษะดาบเพลิงโลกันต์
นอกเหนือจากบทดาบทองแดงแล้วหลี่ฟู่เฉินนำความสามารถทั้งหมดออกมาเพื่อสังหารชายชุดดำคนนี้ด้วยการตวัดดาบลงไป
ดวงตาของชายในชุดดำเบิกกว้าง เขาดึงดาบสั้นออกมาจากเอวของเขาและฟันไปที่หลี่ฟู่เฉิน
เช้ง!
ดาบสั้นถูกกระแทก ในขณะที่คนในชุดดำก็อาเจียนออกมาเลือดและล้มลง เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสในทันที
“เขายังไม่ตาย?”
หลี่ฟู่เฉินรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เนื่องจากการฟันด้วยดาบนี้แข็งแกร่งกว่าที่เขาใช้กับสือตูเหล่ยถึง 30% เขาอาจไม่ได้ใช้พลังทั้งหมดอย่างบทดาบทองแดง แต่เทคนิคเพลิงโลกันต์แท้จริงของเขาก็อยู่ในขั้นที่ 18 แล้ว
กี้!
ลักษณะที่ดุร้ายของนกยักษ์เคียวสยองถูกแสดงออกมา ขณะที่มันกระพือปีกและกรงเล็บทั้งสองก็สอดประสานกันราวกับมันเป็นคมดาบนับสิบเล่มที่กำลังตวัดออก มันโจมตีด้วยกรงเล็บใส่ชายชุดดำ
ต่อจากนั้นหลี่ฟู่เฉินเริ่มก็ทำการประสานงานกับนกยักษ์เคียวสยองได้อย่างสมบูรณ์แบบ และเข้าไปฟันด้วยดาบของเขาอีกครั้ง
ชายชุดดำที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสอยู่ก่อนแล้ว ไม่สามารถทนรับกับการโจมตีประสานระหว่างหลี่ฟู่เฉินและนกยักษ์เคียวสยองได้ ในขั้นแรกเขาถูกกรงเล็บของนกยักษ์เคียวสยองแทงทะลุ จากนั้นศีรษะของเขาก็ถูกฟันด้วยดาบของหลี่ฟู่เฉิน
สังหารด้วยการโจมตีเพียงชุดเดียว มนุษย์ที่ประสานงานคู่กับสัตว์ร้ายตัวนี้พุ่งเข้าหาชายชุดดำอีกคน
ชายชุดดำคนนี้ตื่นตกใจ เขาจะไม่ตื่นกลัวกับการประสานการโจมตีเช่นนี้ได้อย่างไร? เขาไม่มั่นใจด้วยซ้ำว่าจะชนะในการต่อสู้แบบเดี่ยวๆ นับประสาอะไรกับการต่อสู้กับทั้งสอง
“ให้ข้าช่วยเจ้า”
ในขณะนี้เอง ชายชุดดำอีกคนหนึ่งดึงอาวุธของเขาออกมา และรีบมาที่นี่
“แยกไปสู้กันแบบหนึ่งต่อหนึ่ง”
แม้ว่าจะมีชายชุดดำถึงสองคน แต่หลี่ฟู่เฉินก็ไม่ได้รู้สึกกลัวใดๆ เขามองไปที่นกยักษ์เคียวสยอง มันเองก็ดูเหมือนจะตื่นเต้น
ในที่สุดสัตว์ปีศาจก็ยังคงเป็นสัตว์ปีศาจ แม้ว่าจิตปีศาจจะถูกเปลี่ยนเป็นจิตวิญญาณ แต่มันก็แค่กำจัดความดุร้ายออกไป ความปรารถนาในการต่อสู้โดยสัญชาตญาณของมันไม่สามารถนำออกไปได้อย่างหมดจด
“นั่นคือ หลี่ฟู่เฉิน เราอาจไม่แพ้ในศึกนี้ก็เป็นได้”
ผู้อาวุโสนิกายชั้นในคนอื่นๆ เผยสีหน้ายินดี
พวกเขาทั้งหมดวางแผนที่จะล่าถอยหลังจากพ่ายแพ้ แต่เมื่อหลี่ฟู่เฉินและกลุ่มของเขามาถึง มันก็ทำให้พวกเขามีความหวังขึ้นมาอีกครั้ง
ฉินหมิงและซูซานทั้งคู่อยู่ในระดับกลางของขอบเขตสวรรค์ นกยักษ์เคียวสยองเป็นสัตว์วิญญาณระดับ 4 ขั้นต่ำ ในขณะที่หลี่ฟู่เฉินเองก็มีความสามารถในการต่อสู้ระดับขอบเขตสวรรค์ พวกเขาเป็นกองกำลังที่น่าเกรงขามและมันก็เพียงพอที่จะเปลี่ยนทิศทางในการต่อสู้ครั้งนี้ได้
ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาเองก็แค่ต้องทนไปจนกว่าผู้อาวุโสเหมาจะมาถึง ด้วยความสามารถของผู้อาวุโสเหมา เขาสามารถจัดการศัตรูทั้งหมดได้อย่างง่ายดาย
ปั๊ง ปั๊ง ปั๊ง ปั๊ง ปั๊ง…
มนุษย์สามคนและสัตว์ร้ายหนึ่งตัวเริ่มการต่อสู้ที่ดุเดือด
ดวงตาของนกยักษ์เคียวสยองเปลี่ยนเป็นสีแดง ขณะที่มันปลดปล่อยสภาวะพลังออกมาพร้อมกับปล่อยความสามารถในการข่มขวัญชายชุดดำออกมาอย่างรุนแรง
ในด้านของหลี่ฟู่เฉิน ชายชุดดำคนนี้ก็สถบออกมาด้วยความคับแค้นใจอย่างไม่หยุดหย่อน
การรับรู้ของหลี่ฟู่เฉินนั้นทรงพลังเกินไป และวิถีการโจมตีของเขาก็ได้เจาะทะลุคู่ต่อสู้ของเขาได้อย่างสมบูรณ์ ทุกการเคลื่อนไหวและทุกรูปแบบการโจมตีเป็นการตอบโต้ซึ่งยากที่จะจัดการ
“ผลาญเพลิงโลกันต์!”
หลังจากประมือไปไม่กี่กระบวนท่า หลี่ฟู่เฉินก็เข้าใจรูปแบบการโจมตีของคู่ต่อสู้ได้อย่างแจ่มแจ้ง จากนั้นเขาก็ทำการใช้ท่าไม้ตายของทักษะดาบเพลิงโลกันต์ทันที นั่นก็คือ ผลาญเพลิงโลกันต์
ชายชุดดำตกใจกลัว
ภาพในหัวของเขามีดาบพลังฉีที่ลุกโชนและส่องแสงสว่าง ซึ่งมันได้พุ่งลงมาราวกับดาวหางที่ตกลงมาจากฟากฟ้า การโจมตีนี้พุ่งเข้าใส่เขาด้วยความบ้าคลั่ง และเมื่อเขาต้องการจะหลบเขาสังเกตเห็นว่าไม่ว่าเขาจะวิ่งไปมุมไหนเขาจะไม่สามารถหลบมันได้พ้น ทางเลือกเดียวก็คือฝืนรับมัน
มีการระเบิดของพลังฉีและคลื่นความร้อนเกิดขึ้น
แขนของชายในชุดดำไหม้เป็นตอตะโกและเสื้อผ้าของเขาขาดหลุดหลุ่ย
“เขาหายไปไหนแล้ว” ชายชุดดำสำรวจไปรอบๆ แล้วไม่พบร่างของหลี่ฟู่เฉิน
“ตาย!”
ในขณะนี้เอง มีร่างหนึ่งพุ่งลงมาจากท้องฟ้าและแทงทะลุร่างของชายชุดดำด้วยดาบๆ เดียว
ปิสส!
ไม่มีเลือดกระเด็นออกมา ขณะที่ชายชุดดำถูกแบ่งครึ่งออกเป็นสองส่วน ร่างเขาตกลงสู่พื้นดินทันที
“เป็นความสามารถที่น่ากลัวอะไรเช่นนี้”
ยกเว้นหลินคุน ผู้อาวุโสนิกายชั้นในของนิกายวารีครามที่เหลือต่างก็ตกตะลึง
พวกเขารู้มาว่าหลี่ฟู่เฉินมีความสามารถในการต่อสู้กับผู้ฝึกฝนขอบเขตสวรรค์ระดับต่ำ แต่ความสามารถในการต่อสู้กับการสังหารนั้นแตกต่างกัน มันเป็นสองสิ่งที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
พวกเขาจะรู้ได้อย่างไรว่า เทคนิคเพลิงโลกันต์แท้จริงของหลี่ฟู่เฉินถึงขั้นที่ 18 แล้ว และพลังฉีของเขาก็ไม่ได้ด้อยไปกว่านักสู้ระดับที่ 1 ของขอบเขตสวรรค์เลย ด้วยความช่วยเหลือจากบทดาบเหล็กดำ ความสามารถพื้นฐานของเขาก็ทัดเทียมกับชายชุดดำแล้ว
แต่ชายในชุดดำจะมีทักษะต่อสู้และความสามารถด้านดาบเหมือนกับหลี่ฟู่เฉินได้อย่างไร? มันเป็นความพ่ายแพ้ที่ขาดลอย
“เด็กน้อย เจ้ากำลังถามหาความตาย!”
คนสามคนในขอบเขตสวรรค์ตาย มันจึงทำให้ชายชุดดำหมดความอดทนในทันที ชายชุดดำที่อยู่ในขอบเขตสวรรค์ระดับกลางคนหนึ่งบังคับให้คู่ต่อสู้ถอยห่างออกไป ในขณะที่ร่างของเขาส่องแสงและพุ่งเข้าหาหลี่ฟู่เฉิน ด้วยความสามารถของเขา เขามั่นใจว่าเขาสามารถฆ่าหลี่ฟู่เฉิน ได้ในไม่กี่กระบวนท่า
“ไม่ดีแล้ว”
ฉินหมิงและซูซานรู้สึกตกใจ พวกเขาอยู่ที่นี่เพื่อปกป้องหลี่ฟู่เฉิน และหากหลี่ฟู่เฉินถูกสังหารพวกเขาก็คงไม่สามารถรอดพ้นจากโทษสถานหนักได้
“เจ้าอยากไป? ไปต่อในฝันของเจ้าเถอะ”
ชายสวมหน้ากากตะขาบรั้งคนทั้งสองไว้ และไม่ยอมให้พวกเขาฉวยโอกาสที่จะผละจากเขา
“นี่ไม่ใช่สถานที่ที่ดีในการเปิดเผยความสามารถของข้า ข้าจะไปให้ไกลจากที่นี่ก่อน” หลี่ฟู่เฉินถอยหลังอย่างรวดเร็วและเข้าสู่ความมืด
“เจ้าพยายามจะหนีไปไหน!” ชายชุดดำขอบเขตสวรรค์ระดับกลางไล่ตามไปอย่างกระชั้นชิด
ติดต่มได้ก่อนใครที่เพจ INdyNovel