Eternal Reverence เทพบุตรฟ้าประทาน - ตอนที่ 327
บทที่ 327
หินวิญญาณ
ชายชุดดำสามคน คนหนึ่งอยู่ในระดับที่ 5 ของขอบเขตสวรรค์ และอีกสองคนที่เหลืออยู่ในระดับที่ 4 ของขอบเขตสวรรค์ หลี่ฟู่เฉินได้สังหารทุกคนที่อยู่ต่ำกว่าระดับที่ 4 ของขอบเขตสวรรค์
นี่เป็นเพราะไม่มีใครให้ความสนใจกับหลี่ฟู่เฉินในตอนเริ่มต้น เมื่อตอนที่พวกเขาเริ่มให้ความสนใจแก่หลี่ฟู่เฉิน เขาก็ได้เริ่มต้นใช้รูปแบบต่อสู้ปฐพีไปแล้ว ไม่เช่นนั้นแล้ว มันคงไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับการที่หลี่ฟู่เฉินจะสังหารนักสู้ขอบเขตสวรรค์จำนวนมากได้
“รูปแบบต่อสู้ระดับปฐพีของเด็กผู้นี้ทรงพลังมาก แต่มันก็สมควรควรไร้ข้อจำกัด ถ่วงเวลาแล้วค่อยไปสังหารเขาในภายหลัง” ชายชุดดำระดับที่ 5 ของขอบเขตสวรรค์ส่งข้อความไปยังชายชุดดำอีกสองคน
“ไป!”
แต่การกระทำของหลี่ฟู่เฉินทำให้ทั้งสามคนรู้สึกแปลกๆ หลี่ฟู่เฉินกระโดดขึ้นไปบนหลังของนกยักษ์เคียวสยองและสั่งให้มันออกจากสนามรบ
“เขาพยายามจะหนี อย่าปล่อยให้เขาหนีไป!”
เมื่อหลี่ฟู่เฉินหนีออกจากการต่อสู้ ทั้งสามคนก็ยิ่งมั่นใจมากกว่าเดิมว่าหลี่ฟู่เฉินเหลือรูปแบบปฐพีเพียงไม่กี่ครั้งแล้ว
พวกเขาทั้งสามคนอยู่ด้านหลังหลี่ฟู่เฉิน พวกเขาไม่ได้อยู่ใกล้เกินไปและไม่ได้ไกลเกินไป พวกเขาโจมตีด้วยพลังฉีได้เป็นครั้งคราว ดังนั้นพวกเขาจึงเลือกโจมตีหลี่ฟู่เฉิน
เป็นเรื่องน่าเสียดายที่ทั้งสามคนไม่ได้รู้เลยว่าการหลบหนีของหลี่ฟู่เฉินไม่ใช่เพราะเขาเหลือรูปแบบต่อสู้ระดับปฐพีเพียงไม่กี่ครั้ง
แน่นอนว่าเขายังเหลือรูปแบบปฐพีหลักๆ อยู่
พลังของรูปแบบต่อสู้ระดับปฐพีนั้นทรงพลังเกินไปและมันก็ดูน่าเกรงขามยิ่งขึ้นหลังจากถ่ายพลังฉีเหล็กดำลงไป ถ้าเขาถ่ายพลังฉีทองแดงลงไป เขาก็จะสามารถต่อสู้กับนักสู้ขอบเขตสวรรค์ระดับสูงได้อย่างแน่นอน
แต่ยิ่งใช้รูปแบบต่อสู้ระดับปฐพีทุกครั้งจำนวนที่มันจะใช้งานได้ก็จะลดน้อยลง หลี่ฟู่เฉินเองก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะใช้ไพ่ตายของเขาหมดเร็วขนาดนั้น
ดังนั้นแล้ว เขาจึงตั้งใจที่จะใช้บทดาบทองแดงเพื่อใช้สังหารทั้งสามคนนี้
หลังจากทั้งหมดแล้ว บทดาบทองแดงก็ใช้ได้ไม่มีจำกัดจำนวน
หลังจากเว้นระยะห่างจากสนามรบมามากกว่า 100 ไมล์ หลี่ฟู่เฉินก็หยุด
“ไม่หนีต่อแล้ว?”
ผู้นำของชายชุดดำเลิกคิ้วและเกิดลางสังหรณ์ที่ไม่ดีขึ้นมา
“ทำไมข้าถึงต้องหนีกันเล่า?” หลี่ฟู่เฉินหันกลับมา
“โจมตี!”
ผู้นำของชายชุดดำไม่ได้กล่าวอะไรและเริ่มการโจมตีจากระยะไกลทันที ชายชุดดำอีกสองคนก็โจมตีด้วยพลังฉีของพวกเขาตามไปติดๆ ทันที พวกเขาโจมตีหลี่ฟู่เฉินที่อยู่ห่างออกไปไม่กี่ไมล์
ความสามารถของหลี่ฟู่เฉินมาจากการหยิบยืมพลังจากภายนอก และพลังฉีของเขาเองก็ไม่ได้ดูลึกซึ้งอะไรขนาดนั้น ตราบใดที่พวกเขาให้หลี่ฟู่เฉินใช้พลังฉีจนหมด พวกเขาก็จะสามารถสังหารเขาได้
แผนของทั้งสามคนก็ไม่เลว แต่หลี่ฟู่เฉินไม่ใช่คนโง่
“ไปข้างหน้า!” หลี่ฟู่เจินสั่งนกยักษ์เคียวสยอง
หากระยะทางห่างออกไปเพียงหลายไมล์ หลี่ฟู่เฉินก็คงทำได้แค่ให้ทั้งสามคนบาดเจ็บและไม่สามารถสังหารพวกเขาลงได้ หลังจากทั้งหมดแล้ว หลี่ฟู่เฉินเองก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะเปิดเผยความแข็งแกร่งทั้งหมดที่เขามี
ความเร็วของนกยักษ์เคียวสยองนั้นรวดเร็วเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งเหนือกว่านักสู้ขอบเขตสวรรค์ระดับกลางส่วนใหญ่ด้วยซ้ำ ด้วยการกระพือปีกเพียงครั้งเดียว มันก็เข้าใกล้ทั้งสามคนอย่างรวดเร็ว
ลางสังหรณ์ไม่ดีกำลังทวีความรุนแรงมากขึ้นอยู่ข้างในใจของทั้งสามคน พวกเขาถอยกลับในขณะที่พวกเขาโจมตีด้วยอย่างบ้าคลั่ง แต่คราวนี้ เป้าหมายของเขาไม่ใช่หลี่ฟู่เฉิน มันเป็นนกยักษ์เคียวสยอง
ตราบเท่าที่พวกเขาสามารถสังหารนกยักษ์เคียวสยองได้ มันก็คงไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับความเร็วของหลี่ฟู่เฉินอีกต่อไป
แคร็ก!
ในขณะที่ดาบพลังฉีดาบทองแดงถูกถ่ายลงไปในดาบแสงดำ หลี่ฟู่เฉินก็ตวัดมันออกไปด้วยพละกำลังทั้งหมดของเขา แสงดาบสีทองแดงส่องประกายออกมาราวกับแสงอาทิตย์ ซึ่งมันก็ได้ทำให้การโจมตีของทั้งสามคนเป็นกลางไปอย่างง่ายดาย และในขณะนี้เอง หลี่ฟู่เฉินก็อยู่ห่างจากทั้งสามคนไม่ถึงสองไมล์
“ถอยเร็วเข้า!” ชายชุดดำทั้งสามไม่โจมตีอีกต่อไป ขณะที่พวกเขาหันหลังและพยายามหนีออกไปอย่างสุดชีวิต
พวกเขาไม่ได้ตั้งใจที่จะปะทะกับหลี่ฟู่เฉินและแค่ต้องการทำให้พลังฉีของเขาหมดไปก็เท่านั้น
แต่พวกเขากลับลืมเกี่ยวกับการมีอยู่ของนกยักษ์เคียวสยองไป
“ตาย!”
นกยักษ์เคียวสยองกำลังบินเร็วขึ้นและเร็วขึ้น ในขณะที่หลี่ฟู่เฉินใช้ความเร็วที่รุนแรงนี้เหยียบหลังของนกยักษ์เคียงสยองและทะยานออกไปด้วยความเร็วที่น่ากลัว เขาเข้าใกล้ทั้งสามคนอย่างรวดเร็วและดำเนินการใช้ท่าไม้ตายของทักษะดาบเพลิงโลกันต์ในทันที ผลาญเพลิงโลกันต์
ดาบพลังฉีที่แพรวพราวและสง่าผ่าเผยถูกตวัดออกราวกับดาวหางที่เป็นสีทองแดง มันสะท้านฟ้าสั่นคลอนผืนดิน ซึ่งได้เข้าไปเจาะทะลุร่างของทั้งสามคนนี้
ปิสส!
ด้วยควันสีเขียว ทั้งสามคนกลายเป็นขี้เถ้าทันที
“เทคนิคลับระดับ 6 ดาวทรงพลังเกินไป เมื่อเสริมด้วยทักษะเพลิงโลกันต์ขั้นดีเลิศ มันสามารถทำให้ข้าสังหารศัตรูข้ามระดับได้ถึงสี่ระดับ”
ในแง่ของคุณภาพพลังฉี หลี่ฟู่เฉินอยู่ในระดับที่ 1 ของขอบเขตสวรรค์ ทั้งสามคนไม่เพียงแต่ละเลยการมีอยู่ของนกยักษ์เคียวสยอง แต่พวกเขายังละเลยความสามารถพื้นฐานของหลี่ฟู่เฉินด้วยเช่นกัน หากไม่เช่นนั้นแล้วพวกเขาก็คงจะไม่ตายไปอย่างรวดเร็วเช่นนี้
“อ้ะ มีถุงเก็บหรือไม่?”
ในคืนที่มืดมิดนี้ หลี่ฟู่เฉินสามารถมองเห็นถุงเก็บของที่ตกอยู่ได้
เขาเอื้อมมือไปดูดถุงเก็บของ
เห็นได้ชัดว่ากระเป๋าเก็บของนี้มีคุณภาพสูงเนื่องจากมีลวดลายลึกลับ จากมาตราฐานแล้ว วัสดุที่ใช้ทำถุงเก็บนี้ก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน
หลังจากถ่ายพลังฉีลงไป หลี่ฟู่เฉินก็เปิดถุงเก็บของ
มีสมุนไพร เหรียญทอง และของเบ็ดเตล็ดอยู่มากมาย ทั้งยังมีบางอย่างที่ดูเหมือนวัสดุที่มีค่ามากอยู่อีกด้วย
นอกจากนี้ยังมีหินแวววาวมากกว่าหนึ่งโหลซึ่งกำลังแผ่คลื่นจิตวิญญาณออกมา
“นี่คือหินวิญญาณ?” หลี่ฟู่เฉินเผยสีหน้าดีใจ
หินวิญญาณถูกสร้างขึ้นโดยสวรรค์และโลก พวกมันมีจิตวิญญาณสวรรค์และโลกที่บริสุทธิ์และไร้ซึ่งขอบเขต
เมื่ออยู่ในขอบเขตสวรรค์ มันอาจจะช้าเกินไปหากพึ่งพาเพียงพลังงานแห่งสวรรค์และโลกสำหรับการฝึกฝน เนื่องจากเฉพาะผู้ที่มีความสามารถพิเศษและโครงกระดูกที่เหนือกว่าเท่านั้นที่จะสามารถฝึกฝนได้อย่างรวดเร็ว ผู้ที่มีโครงกระดูกด้อยกว่ามักจะติดอยู่ในระดับพลังบ่มเพาะที่ต่ำกว่าเป็นเวลานานมาก แต่ด้วยหินวิญญาณ คนผู้นึงก็จะสามารถย่นระยะเวลาดังกล่าวได้
ในทวีปยูนิคอร์นตะวันออก กล่าวกันว่าหินวิญญาณระดับต่ำถูกประมูลในราคาที่สูงเสียดฟ้าซึ่งมีมูลค่ามากกว่า 10 ล้านเหรียญทอง มันอาจมีราคา แต่ก็ไม่มีการถูกซื้อขายใดๆ หินวิญญาณระดับต่ำเหล่านี้อย่างน้อยก็ต้องมีมูลค่ามากกว่าหนึ่งพันล้านเหรียญทองหรืออาจมากกว่านั้น
แน่นอนว่าหลี่ฟู่เฉินจะไม่ขายหินวิญญาณเหล่านี้เนื่องจากเขาต้องการพวกมันในการฝึกฝน
ร่างกายของเขาอาจต้องแบกรับภาระอันใหญ่หลวง หากหลี่ฟู่เฉินต้องการใช้หินวิญญาณเพื่อฝึกฝน ก็ในเมื่อเขาอยู่ในขอบเขตปฐพีแต่เพียงเท่านั้น แต่คุณภาพพลังฉีของหลี่ฟู่เฉินเกือบจะอยู่ในระดับที่ 1 ของขอบเขตสวรรค์แล้ว ดังนั้นมันจึงไม่น่าเป็นปัญหา
ด้วยหินวิญญาณมากกว่าหนึ่งโหล หลี่ฟู่เฉินมั่นใจว่าเขาสามารถทะลุไปถึงระดับที่ 9 ของขอบเขตปฐพีได้ในช่วงเวลาสั้น ๆ
‘ช่างน่าเสียดาย’
หลี่ฟู่เฉินแอบลอบรู้สึกเสียใจเพราะเขาไม่สามารถรับถุงเก็บจากคนอื่นได้ ถ้าหลี่ฟู่เฉินรู้ว่าคนเหล่านี้มีหินวิญญาณ เขาคงจะใช้ความพยายามมากขึ้นในการรักษาถุงเก็บของพวกเขาไว้
แต่สิ่งที่หลี่ฟู่เฉินไม่รู้ก็คือไม่ใช่ว่านักสู้ขอบเขตสวรรค์ทุกคนจะมีหินวิญญาณ ในนิกายวารีคราม ผู้อาวุโสนิกายชั้นในระดับล่างจะได้รับหินวิญญาณระดับต่ำเพียงชิ้นเดียวทุกปี ผู้อาวุโสนิกายชั้นในระดับกลางจะได้รับหินวิญญาณระดับต่ำสองชิ้น ในขณะที่ผู้อาวุโสนิกายชั้นในระดับสูงจะได้รับหินวิญญาณสี่ชิ้น โดยทั่วไปแล้วพวกเขามีมันไม่เพียงพอสำหรับการใช้งานของตนเองด้วยซ้ำ และแม้ว่าพวกเขาจะถูกสังหาร คนผู้นึงก็จะได้รับแค่หนึ่งหรือสองหินวิญญาณที่พวกเขาไม่สามารถใช้งานได้ทันเวลาก็เท่านั้น
หลังจากได้รับหินวิญญาณระดับต่ำทั้งหมดนี้มาแล้ว หลี่ฟู่เฉินก็ค่อนข้างอารมณ์ดี แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะดีใจ
เมื่อร่อนลงที่ด้านหลังของนกยักษ์เคียวสยอง หลี่ฟู่เฉินก็ขี่มันกลับไปที่สนามรบ
สถานการณ์ในสนามรบตอนนี้อยู่ในช่วงที่รุนแรงที่สุด
ไม่ทราบว่าชายสวมหน้ากากตะขาบได้มาบรรจบกับชายสวมหน้ากากแมวเมื่อใด
ร่างของชายสวมหน้ากากแมวเปล่งแสงสีเลือด ราวกับเทพปีศาจสีเลือด ขณะที่ชายสวมหน้ากากตะขาบกำลังปลดปล่อยแสงสีเลือดที่ดูสว่างน้อยกว่าออกมา
เขาอยู่ร่วมกับชายสวมหน้ากากแมวเพื่อต่อสู้กับผู้อาวุโสนิกายชั้นในของนิกายวารีคราม
ในขณะที่ผู้อาวุโสนิกายชั้นในของนิกายวารีครามทั้ง 11 คนนั้นกำลังใช้วิชาดาบที่คล้ายคลึงกันอยู่ ประสิทธิผลที่ออกมาจึงเพิ่มขึ้นอย่างไม่ทันสังเกต เมื่อพวกเขาประสานงานซึ่งกันและกัน ดาบพลังฉีจึงสร้างตาข่ายดาบที่ไม่อนุญาตให้ใครก็ตามหลบหนีได้ออกมา
แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น แม้ว่าทั้ง 11 คนจะร่วมมือกัน มันก็ดูเหมือนว่าพวกเขาจะยังไม่สามารถจัดการชายสวมหน้ากากแมวและชายสวมหน้ากากตะขาบได้
“พวกเขาทรงพลังมากเกินไป”
ไหล่และหน้าท้องของหลินคุนได้รับบาดเจ็บ ดังนั้นแล้วเขาจึงสามารถใช้ความสามารถของเขาได้เพียงแค่ 70% แต่เพียงเท่านั้น พลังของชายสวมหน้ากากแมวทำให้หัวใจของเขาหนาวสั่น แม้ว่าผู้อาวุโสเหมาชิวไห่จะมา เขาก็อาจจะไม่ได้เป็นคู่ต่อสู้ของคนผู้นี้
หลี่ฟู่เฉินรีบกลับมาและเข้าร่วมในการต่อสู้
แต่จากสถานการณ์แล้ว หลี่ฟู่เฉินจะใช้แก่นแท้ดาบเหล็กดำและใช้ทักษะดาบเพลิงโลกันต์เป็นครั้งคราวในช่วงเวลาสำคัญเท่านั้น
“มันคงจะไม่ดี หากมันถูกลากยาวออกไป”
มองไปที่ข้อมือขวา หลี่ฟู่เฉินสังเกตเห็นว่ารูปแบบต่อสู้ทักษะดาบนภากระจ่างจางลงและไม่ยากที่จะจินตนาการเลยว่าเมื่อรูปแบบต่อสู้หายไป เขาก็จะไม่สามารถใช้มันได้อีกต่อไป
“ไป!”
หลี่ฟู่เฉินหยิบศรทลายปีศาจออกมา
ศรทลายปีศาจนี้ถูกมอบให้กับเขาโดยจ้าวหวูจินเมื่อตอนนั้น
ฟึบ!
ศรทลายปีศาจพุ่งเข้าหาชายสวมหน้ากากตะขาบที่กำลังอ่อนแอ
ชายสวมหน้ากากตะขาบถูกคนจำนวนมากรายล้อมและความสนใจของเขาก็กระจัดกระจายไปยังคนเหล่านั้น ซึ่งสิ่งนี้มันจึงไม่อนุญาตให้เขาตรวจจับศรทลายปีศาจได้ทันเวลา
เขาตระหนักถึงมันได้หลังจากที่ศรทลายปีศาจเจาะเกราะพลังฉีของเขาเข้ามาแล้ว
“ครึกๆ!”
ชายสวมหน้ากากตะขาบตะโกน และระเบิดพลังแสงสีเลือกออกมา ซึ่งได้สลายศรทลายปีศาจนี้ไป
“อย่างที่คาดไว้”
หลี่ฟู่เฉินไม่แปลกใจเลย
ศรทลายปีศาจอาจจะความสามารถในการสลายพลังฉี แต่ท้ายที่สุดแล้วมันก็ยังมีขีดจำกัด ชายสวมหน้ากากตะขาบอยู่ในที่ระดับ 9 ของขอบเขตสวรรค์ และเขาได้รับการปรับปรุงความสามารถจากสิ่งของภายนอก มันจึงแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่ศรทลายปีศาจจะได้ผล
‘ข้าสงสัยเกี่ยวกับว่าเศษชิ้นส่วนอาวุธระดับปฐพีจะได้ผลหรือไม่’
หลี่ฟู่เฉินไม่มั่นใจ ด้วยเหตุนี้เขาจึงซัดเศษชิ้นส่วนอาวุธระดับปฐพีที่เขาได้รับในแคว้นร้อยเทพยุทธ์เมื่อก่อนหน้านี้ออกไป
ความสามารถของเศษชิ้นส่วนอาวุธระดับปฐพีนั้นดีกว่าศรทลายปีศาจมากนัก แต่ด้วยเกราะพลังฉีสีเลือด มันก็ยังคงขับไล่และไม่สามารถสร้างความเสียหายให้กับชายคนนั้นได้เลย
บูม บูม บูม…
เมื่อการต่อสู้ขยายออกไป ข้อเสียจากคนฝั่งนิกายวารีครามก็เริ่มเพิ่มขึ้น พวกเขาหลายคนไม่สามารถต้านทานชายสวมหน้ากากแมวและตะขาบได้
ด้วยการปรับปรุงจากภายนอก ความสามารถของทั้งสองคนจึงเพิ่มขึ้นอย่างมาก
หากไม่ได้มีของช่วยชีวิตและสิ่งของอื่นต่างๆ สมาชิกของนิกายวารีครามอาจจะถูกสังหารไปแล้ว
“พวกเจ้าทุกคนต้องตาย!”
ชายที่สวมหน้ากากแมวเองก็ไม่ได้มีช่วงเวลาที่ดีเช่นกัน พลังเต๋าโลหิตที่ไร้ขอบเขตจากไข่มุกโลหิตมากมายกำลังเพิ่มความสามารถของเขา แต่มันเองก็กัดกร่อนร่างกายและจิตของเขาอยู่ด้วยเช่นกัน เขาสามารถแสดงความสามารถที่ทรงพลังที่สุดของเขาได้แค่ในตอนเริ่มต้นเท่านั้น ตอนนี้ เขาไม่สามารถควบคุมพลังเต๋าโลหิตในร่างกายของเขาได้อย่างสมบูรณ์แบบอีกแล้ว หากไม่เช่นนั้นแล้วเขาก็คงสังหารคนเหล่านี้ทั้งหมดไปแล้ว
หายใจเข้าลึกๆ ชายสวมหน้ากากแมวระเบิดพลังเต๋าโลหิตทั้งหมดในร่างกายของเขา แสงสีเลือดทรงกลมขนาดยักษ์ระเบิดออก และส่งทุกคนบินออกไปพร้อมกับอาเจียนออกมาเป็นเลือด โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้อาวุโสนิกายชั้นในขอบเขตสวรรค์ระดับต่ำได้รับบาดเจ็บสาหัสทันที ตอนนี้พลังรบโดยรวมเหลือเพียง 30% หรือ 40% เท่านั้น
“เราจะพ่ายแพ้ไปทั้งๆ แบบนี้?”
ทุกคนไม่เต็มใจที่จะยอมรับชะตากรรมของพวกเขา
พวกเขาทำดีที่สุดแล้วและยังมีหลี่ฟู่เฉินที่เป็นตัวช่วยเหลือที่มีประสิทธิภาพอย่างน่าประหลาดใจ
แต่สถานการณ์ก็ยังคงจมตกลงไปเสียเปรียบทั้งๆ แบบนี้
“แรงดันโลหิตเทพ”
ชายสวมหน้ากากแมวรวบรวมจิตวิญญาณของเขาและยิงริ้วสีแดงเลือดออกมา ซึ่งมันก็ได้พุ่งทะลุหน้าอกของผู้อาวุโสนิกายชั้นในผู้หนึ่ง
ในทันที ผู้อาวุโสนิกายชั้นในก็เสียชีวิต
ณ ตอนนี้ เขาเป็นผู้อาวุโสนิกายชั้นในคนแรกที่ตายลงไป
“เวรเอ้ย!” ผู้อาวุโสนิกายชั้นในคำราม และโยนโลหะสีดำทรงกลมออกไปด้วยมือขวา
ปั๊ง!
ขณะที่โลหะทรงกลมระเบิดออก มันก็สร้างพลังที่เทียบเท่ากับการโจมตีสุดตัวของนักสู้ขอบเขตสวรรค์ระดับสูงออกมา
นี่คือระเบิดสวรรค์อัสนีคำรน ของนิกายอัสนีคำรน เขามีเพียงหนึ่งเดียวและควรจะเป็นที่พึ่งสุดท้าย
ระเบิดสวรรค์อัสนีคำรนไม่ได้ทำร้ายชายสวมหน้ากากแมว แต่กลับกันมันบังคับให้เขาถอยหลังแทน มันส่งผลทำให้พลังฉีสีเลือดไม่เสถียรชั่วขณะ
ติดตามได้ก่อนใครที่เพจ INdyNovel