Eternal Reverence เทพบุตรฟ้าประทาน - ตอนที่ 337
บทที่ 337
กระทิงปีศาจ
เมืองภูผาดำตกอยู่ช่วงระหว่างการระดมพลอย่างเร่งด่วน หลี่ฟู่เฉิน และเถิงฉิงหยุนมักจะได้เห็นนักสู้ขอบเขตหวนคืนต้นกำเนิด ซึ่งเป็นผู้นำกลุ่มใหญ่ของนักสู้ขอบเขตสวรรค์ และนักสู้ขอบเขตปฐพี พวกเขารีบไปยังแคว้นเขาขาว ซึ่งอยู่ด้านหน้าของแคว้นภูเขารกร้าง
มันเป็นฉากที่น่าตื่นตา ซึ่งทำให้หลี่ฟู่เฉินและเถิงฉิงหยุนเข้าใจได้อย่างลึกซึ้งว่าความแข็งแกร่งของคนๆ เดียวนั้นมีค่าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เมื่อเทียบกับความแข็งแกร่งของร้อยนิกาย นับประสาอะไรกับสิบภูมิภาคปีศาจ
ทีมที่ผู้อาวุโสหวังเป็นผู้นำนั้นใหญ่มาก มีนักสู้ขอบเขตสวรรค์ 50 คน และนักสู้ขอบเขตปฐพีอย่างน้อยๆ ก็หนึ่งพันคน
แต่หลี่ฟู่เฉินรู้ดีว่ามีทีมขนาดนี้อยู่มากมายในเมืองภูผาดำ ครั้งนี้ ร้อยนิกายได้ระดมนักสู้ขอบเขตสวรรค์มาถึง 50,000 คน และนักสู้ขอบเขตปฐพีกว่าหนึ่งล้านคน ขณะที่พวกเขาสาบานว่าจะต่อสู้กับสิบภูมิภาคปีศาจให้ถึงที่สุด
ในเช้าตรู่สามวันต่อมา…
เหรียญที่ห้อยอยู่บนเอวของหลี่ฟู่เฉินก็สั่นสะเทือนทันที
‘พวกเราจะได้ไปสนามรบกันแล้ว?’
ยืนขึ้น หลี่ฟู่เฉินบินตรงไปที่ลานกลางของเมืองภูผาดำ
หลังจากที่มาถึงกลางลาน หลี่ฟู่เฉินก็สังเกตเห็นคนราว 5,000 ถึง 6,000 คนมารวมตัวกันที่นี่
‘มีทั้งหมดห้าทีม แต่ละทีมถูกนำโดยผู้เชี่ยวชาญขอบเขตสวรรค์ระดับที่ 9 ขั้นสูงสุด’ หลี่ฟู่เฉินเหลือบมองและคิดในใจ
ขณะที่หลี่ฟู่เฉินกำลังเข้าสู่กลุ่มของผู้อาวุโสหวัง แรงกดดันที่กว้างใหญ่ไพศาลก็ได้เข้ามาโอบล้อมกลางลานแห่งนี้ จากสิ่งนี้มันทำให้ทุกคนหายใจแทบจะไม่ออก
ผู้อาวุโสในชุดดำปรากฏตัวขึ้นบนท้องฟ้า
“มันคือผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายเปี่ยมแสง เก่อไห่”
มีคนจำตัวตนของผู้อาวุโสในชุดดำได้
นิกายเปี่ยมแสงเป็นนิกายระดับหนึ่ง(ระดับนะไม่ใช่อันดับ เช่น นิกายวารีครามที่อยู่ในระดับสาม)ซึ่งตั้งอยู่ในทวีปยูนิคอร์นตะวันออก ในนิกาย มีนักสู้ขอบเขตหวนคืนต้นกำเนิดอยู่เกือบยี่สิบคน มีบุคคลสองคนที่อยู่ในระดับที่ 5 ของขอบเขตหวนคืนต้นกำเนิดและเก่อไห่ก็เป็นหนึ่งในนั้น
“ออกเดินทาง!”
เก่อไห่ปราศจากความรู้สึก ในขณะที่เขาสั่งให้ออกเดินทาง
“ออกเดินทาง!”
ผู้อาวุโสหวัง และหัวหน้าทีมคนอื่นๆ โบกมือ และตะโกนออกมาอย่างพร้อมเพรียงกัน
ฟึบ ฟึบ ฟึบ…
นักสู้ขอบเขตสวรรค์บินอยู่บนท้องฟ้า ขณะที่นักสู้ขอบเขตปฐพีวิ่งอยู่บนพื้นดิน มากกว่า 5,000 คนก้าวเข้าสู่แคว้นเขาขาวอย่างรวดเร็วภายใต้การนำของเก่อไห่
สิบวันต่อมา ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงแคว้นเขาขาว
ตอนนี้แคว้นเขาขาวเต็มไปด้วยเจตจำนงฆ่าฟันที่น่ากลัว
ระหว่างทาง ทุกคนสามารถมองเห็นภูเขาที่ผุพัง ทะเลสาบที่แห้งแล้ง หลุมนับไม่ถ้วน และแม้แต่กระทั่งแม่น้ำสีเลือด
เก่อไห่นั้นรวดเร็วอย่างยิ่ง ในวันนี้ เก่อไห่สังเกตเห็นใครบางคนและตะโกนออกมาด้วยเสียงเย็นชา “ไปทางทิศตะวันออก”
ครึ่งวันต่อมา ทุกคนก็มาถึงที่ราบหญ้า
มันเป็นที่ราบหญ้าที่ได้รับความเสียหาย มันเต็มไปด้วยหลุม และมีเลือดอยู่ทั่วทุกที่ราวกับว่ามันจะคลุมสรวงสวรรค์ได้
ในใจกลางของที่ราบหญ้าเป็นศพที่ไม่สมบรูณ์
ศพของมนุษย์ผู้นี้อาจจะตายไปแล้ว แต่สภาวะพลังฉีที่ปล่อยออกมาจากร่างกายของมันก็ยังคงทรงพลังและน่ากลัวอย่างยิ่ง
เห็นได้ชัดว่านี่คือร่างของนักสู้ขอบเขตหวนคืนต้นกำเนิด
น่าเสียดายที่เขาเสียชีวิตไปแล้วและตรงข้ามกับเขาก็มีสัตว์ประหลาดยืนอยู่ที่นั่น
มันเป็นสัตว์ประหลาดที่มีหัวเป็นวัวและร่างกายเป็นมนุษย์ สภาวะพลังฉีที่ออกมาจากร่างกายของมันเผด็จการยิ่งทั้งยังรุนแรงราวกับพายุ
ถ้ามีคนคุ้นเคยกับสัตว์ประหลาดตัวนี้อยู่ที่นี่ พวกเขาก็จะจดจำมันได้แน่นอน นี่คือสัตว์ปีศาจระดับที่ 5 ขั้นกลาง กระทิงปีศาจที่แข็งแกร่งจากภูมิภาคปีศาจพยัคฆ์
เมื่อสัตว์ปีศาจมาถึงระดับที่ 5 มันจะมีความสามารถในการแปลงร่างเป็นมนุษย์ได้บางส่วน แต่รูปแบบที่ทรงพลังที่สุดของมันก็ยังคงเป็นรูปแบบสัตว์ปีศาจ
ด้านหลังของกระทิงปีศาจนั้นมีสัตว์ปีศาจอยู่เต็มไปหมด สัตว์ปีศาจเหล่านั้นกำลังเคี้ยวซากศพมนุษย์และทำให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้น
“กระทิงปีศาจ เจ้าต้องตาย!”
ในท้องฟ้า เงาสีดำโจมตีกระทิงปีศาจที่แข็งแกร่ง
มันคือเก่อไห่ ผู้ที่อยู่ในระดับที่ 5 ของขอบเขตหวนคืนต้นกำเนิด เขาไม่ได้มีความหวาดกลัวใดๆ ต่อกระทิงปีศาจที่แข็งแกร่งตนนี้ เขาเฉือนมันด้วยกระบี่ของเขา
กระบี่เป็นเหมือนแสงที่กำลังหลั่งไหลและมันก็รวดเร็วเป็นอย่างยิ่ง
ก่อนที่กระบี่พลังฉีจะยิงออกไป เพียงแค่แรงกดดันจากกระบี่ก็ทำให้พื้นดินแตกออกแล้ว สัตว์ปีศาจระดับ 3 จำนวนมากถูกฉีกกระชากออกจากกันในทันที และมันก็แตกรังออกจากกันอย่างยุ่งเหยิง
“มนุษย์ เจ้าต่างหากที่ต้องตาย”
กระทิงปีศาจรีบบินขึ้นไปบนฟ้าและใช้หมัดที่มีลักษณะคล้ายกีบของมันเข้าปะทะกับแสงกระบี่
บูม!
กระทิงปีศาจบินกลับมา ก่อนที่จะจมลงไปในหลุมลึกลงที่อยู่ในพื้นดิน
สัตว์ปีศาจในรัศมีใกล้เคียงของหลุมลึกถูกคลื่นกระแทกสังหารตายไปเกือบทั้งหมด
มอออ!
เสียงอันน่าสยดสยองดังขึ้น ในขณะที่กระทิงปีศาจขนาดหลายร้อยฟุตโผล่ออกมาจากหลุมลึก
กระทิงปีศาจสองเขา ผิวดำสนิทเปล่งประกาย และพลังฉีปีศาจหนาแน่น ซึ่งกำลังหมุนวนอยู่รอบตัวราวกับเมฆสีดำ เหลือบมองกระทิงตนนี้เพียงครั้งเดียวก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ผู้คนรู้สึกหวาดกลัวและสิ้นหวังได้อย่างไร้ที่สิ้นสุด
กระทิงปีศาจสูงหลายร้อยฟุตซึ่งมีแขนขาที่ทรงพลัง มันพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าและกระแทกไปที่เก่อไห่
“เจ้าสัตว์เดรัจฉาน ไปตายอยู่ทางนั้นเสียเถอะ”
เก่อไห่ไม่แปลกใจเลยกระบี่เดียวจากเขาจะไม่เพียงพอที่จะทำร้ายกระทิงปีศาจได้
สัตว์ปีศาจมีร่างกายที่แข็งแกร่งมากและมันก็เป็นงานที่ท้าทายอย่างแน่นอนในการทำร้ายพวกมัน
มนุษย์และสัตว์ปีศาจคู่นี้ต่อสู้กันอย่างดุเดือด ในช่วงเวลาสั้นๆ พวกเขาก็ทำให้ที่แห่งนี้กลายเป็นทุ่งสังหารได้เลย
สัตว์ปีศาจที่เหลือจะกล้าเข้าไปยุ่งได้อย่างไร? ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ปีศาจระดับที่ 5 หรือนักสู้ขอบเขตหวนคืนต้นกำเนิด พวกเขาทั้งสองราวกับเป็นสิ่งมีชีวิตที่ถูกส่งมาจากสวรรค์
นอกจากนี้ พวกเขาเองก็ยังมีศัตรูของตัวเอง
ห่างออกไปหลายไมล์ ผู้คนกว่า 5,000 คนกำลังทำการไล่ล่าสังหาร
“ฆ่ามนุษย์พวกนั้น!”
สัตว์ปีศาจระดับ 4 ขั้นสูง ซึ่งมีความยาวกว่าร้อยฟุตกล่าวเป็นภาษามนุษย์และรีบวิ่งออกไป
บูม บูม บูม!
นี่ไม่ถือเป็นสัตว์ปีศาจกลุ่มใหญ่ แต่มันก็ยังมีอยู่หลายพันตน พวกมันรอดชีวิตมาจากการต่อสู้ครั้งใหญ่และหลายตัวก็ยังคงได้รับบาดเจ็บ
เมื่อสัตว์ปีศาจสองสามพันตัวซึ่งเป็นระดับ 3 ขึ้นไปรวมตัวกัน พวกมันจะสร้างสภาวะพลังฉีซึ่งดูโอ่อ่ามากกว่าสภาวะพลังฉีจากนักสู้ขอบเขตปฐพีหลายพันคนเสียอีก
ร่างกายของสัตว์อสูรนั้นเหนือกว่ามนุษย์ มันเป็นเรื่องธรรมดาที่สภาวะพลังฉีของพวกเขาจะเหนือกว่ามนุษย์
“ฆ่า!” ผู้อาวุโสหวังมีสีหน้าเคร่งขรึมและเป็นผู้รับผิดชอบในการสั่งบุก
เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายหอกเงิน เขาถือหอกเงินพุ่งออกไปด้วยความเร็วสูง ในพริบตา เขาก็เข้าไปใกล้กับสัตว์ปีศาจระดับ 4 ขั้นสูง และเขาก็แทงออกไปด้วยหอกของเขา
ปิสส!
สัตว์ปีศาจระดับ 4 ขั้นสูงนี้ได้รับบาดเจ็บอยู่ก่อนแล้ว และเมื่อหัวของมันถูกแทงด้วยหอกของผู้อาวุโสหวัง มันก็ตกตายอย่างน่าสังเวชไปในทันที
ในฐานะผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายหอกเงิน ความแข็งแกร่งของผู้อาวุโสหวังไม่ต้องสงสัยเลยว่าอยู่ในจุดสูงสุดของขอบเขตสวรรค์ การสังหารสัตว์ปีศาจระดับ 4 ขั้นสูงที่ได้รับบาดเจ็บไม่ใช่เรื่องยากใดๆ
“เข็มศักดิ์สิทธิ์พลังฉีม่วง!”
ความเชี่ยวชาญของเถิงฉิงหยุน ในทักษะเข็มศักดิ์สิทธิ์พลังฉีม่วงนั้นสูงกว่าแต่ก่อน มันอาจจะอยู่ในขั้นดีเลิศ เสาไม้ไผ่สีเขียวเข้มในมือของเขาสั่น ขณะที่เงาสีม่วงจำนวนนับไม่ถ้วนระเบิดออกมา และแทงทะลุสัตว์ปีศาจระดับ 4 ขั้นต่ำราวกับรังผึ้ง
‘ไม่น่าแปลกใจสำหรับเขาที่เป็นอัจฉริยะชั้นยอด พลังโจมตีเพียงครั้งเดียวนี้ก็เทียบได้กับนักสู้ขอบเขตสวรรค์ระดับที่ 4 แล้ว’
นักสู้ขอบเขตสวรรค์บางคนกำลังมองไปที่เถิงฉิงหยุน และร้องสรรเสริญอยู่ในใจของพวกเขา
ขณะที่เขากำลังบิน หลี่ฟู่เฉินชักดาบออกมา
แคร็ก!
ในขณะที่เขาฟันดาบของเขาออกไป ดาบเพลิงพลังฉีที่ลุกโชนกลายพุ่งราวกับแส้ที่ถูกตวัดไปยังสัตว์ปีศาจระดับ 4 ขั้นกลาง
ในทันใดนั้นเอง สัตว์ปีศาจระดับ 4 ขั้นกลางก็ถูกแบ่งครึ่งและยังกลายเป็นขี้เถ้า
“ทรงพลังอะไรเช่นนี้” นักสู้ขอบเขตสวรรค์ระดับกลางที่อยู่ใกล้ๆ ตกใจ
ด้วยความแข็งแกร่งของเขา เขาอาจต้องใช้หลายร้อยกระบวนท่ากว่าที่เขาจะสามารถฆ่าสัตว์ปีศาจระดับ 4 ชั้นกลางเช่นนี้ได้ เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าสัตว์ปีศาจจะไม่สามารถต้านทานการตวัดดาบจากหลี่ฟู่เฉินได้แม้แต่ครั้งเดียว
เขาจะรู้ได้อย่างไรว่าการโจมตีธรรมดาจากหลี่ฟู่เฉินก็สามารถบดขยี้สัตว์ปีศาจระดับ 4 ขั้นกลางได้มากกว่า 90% แล้ว?
“นี่คือความแข็งแกร่งของเขา?” เถิงฉิงหยุนมีสีหน้าซับซ้อน
ในเวลาเพียงไม่ถึงหนึ่งปี หลี่ฟู่เฉินก็ทิ้งห่างเขาไปไกลแล้ว
เห็นได้ชัดว่าดาบก่อนหน้านี้เป็นเพียงดาบธรรมดาๆ แต่มันก็สามารถสังหารสัตว์ปีศาจระดับ ภ -ขั้นกลางได้ทันที
“เด็กมนุษย์ ตาย!”
สัตว์ปีศาจระดับที่ 4 ขั้นสูง สัตว์ปีศาจปีกน้ำเงินบินเข้ามาหาเขา
สัตว์ปีศาจปีกน้ำเงินเป็นสัตว์อสูรบินได้ระดับ 4 ขั้นสูง มันมีปีกสีน้ำเงินคู่หนึ่งซึ่งสามารถต้านทานดาบและหอกได้ น้ำและไฟเองก็ไม่ได้มีผลมากนัก มันเป็นสัตว์ปีศาจที่ทรงพลังอย่างยิ่งในด้านของความอดทน
ในชั่วพริบตา สัตว์ปีศาจปีกน้ำเงินก็มาอยู่ตรงหน้าของหลี่ฟู่เฉิน ปีกสีฟ้าคู่หนึ่งของมันเฉือนเข้าที่หลี่ฟู่เฉินราวกับดาบสีฟ้าคู่หนึ่ง
เช้ง!
หลี่ฟู่เฉินขับไล่สัตว์ปีกน้ำเงินออกไปด้วยดาบเดียว เมื่อพลังของดาบพลังฉีถูกแผ่ออกไป มันก็สังหารสัตว์ปีศาจระดับ 4 ขั้นต่ำได้อย่างง่ายๆ
‘สัตว์ปีศาจปีกน้ำเงินตัวนี้ค่อนข้างทรงพลัง และน่าจะเทียบได้กับระดับที่ 8 ของขอบเขตสวรรค์’
หลี่ฟู่เฉินบินขึ้นและฟันไปที่สัตว์ปีศาจปีกน้ำเงินอีกหลายครั้ง
สัตว์ปีศาจปีกน้ำเงินถูกโจมตีอย่างรุนแรง และปีกมันก็ถูกฟันอยู่อย่างซ้ำ ร่างกายของมันเต็มไปด้วยรอยแผลและเลือด
“ตาย!”
ร่างกายของสัตว์ปีศาจปีกน้ำเงินหมุนราวกับพายุและปีกสีน้ำเงินก็เป็นเหมือนกับกิโยตินสองอันที่กำลังเข้าหั่นเนื้อให้เป็นชิ้นๆ
“น่าสนใจ”
ท่าสังหารของสัตว์ปีศาจปีกน้ำเงินทำให้หลี่ฟู่เฉินทึ่ง แต่ก็ถึงเวลาแล้วที่มันจะต้องจบลง
ด้วยเจตจำนงแห่งดาบที่พุ่งขึ้นไปยังท้องไฟ หลี่ฟู่เฉินแทงออกไปด้วยดาบของเขา
ปิสส!
ดาบพลังฉีพุ่งเข้าไปยังปีกสีน้ำเงินนั้น และแทงเข้าไปในจุดสำคัญของสัตว์ปีศาจปีกน้ำเงิน
ในสถานการณ์ปกติ แม้ว่ามันจะถูกดาบเจาะทะลุจุดสำคัญ มันก็จะไม่สามารถทำให้มันได้ด้วยดาบเดียวได้ แต่ดาบของหลี่ฟู่เฉินนั้นมีเจตจำนงเพลิงโลกันต์ที่มีทั้งความร้อนระอุและการแผดเผา เมื่อเสริมจากเจตจำนงดาบเพลิงโลกันต์แบบนี้ ดาบจึงมีพลังทำลายล้างมากกว่าเดิม และมันก็ได้ทำลายเจตจำนงความมุ่งมั่นในการมีชีวิตของมันทันที
“นี่คือเจตจำนงแห่งดาบระดับลึกลับขั้นสูงสุด?”
ผู้อาวุโสหวังผู้ซึ่งอยู่ในการต่อสู้ที่รุนแรงกับสัตว์ปีศาจระดับ 4 ขั้นสูงสุตกตะลึง
ต้องเข้าใจว่าแม้แต่เขาเองก็เข้าใจเจตจำนงหอกระดับลึกลับขั้นสูงสุดได้หลังจากผ่านไปหลายปี แต่เขาก็ไม่ได้คาดหวังเลยว่าเยาวชนที่อายุเพียงยี่สิบต้นๆ จะเข้าใจเจตจำนงทักษะต่อสู้ระดับลึกลับขั้นสูงสุดได้เหมือนกัน นี่เป็นเรื่องที่น่าเจ็บใจเสียจริง
นอกจากนี้ ความแข็งแกร่งในการต่อสู้ของหลี่ฟู่เฉินนั้นทรงพลังเกินไป เขามีพลังฝึกฝนอยู่ในระดับที่ 4 ของขอบเขตสวรรค์ แต่เขาสามารถสังหารสัตว์ปีศาจระดับ 4 ขั้นสูงได้ มันเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่แปลกใจกับความแข็งแกร่งที่เหนือระดับเช่นนี้
ผู้อาวุโสหวังยอมรับว่าเขาประเมินหลี่ฟู่เฉินต่ำไป
หลี่ฟู่เฉินเพียงหนึ่งคนเปรียบได้กับนักสู้ขอบเขตสวรรค์ระดับสูงที่มีประสบการณ์สูง
หลังจากฆ่าสัตว์ปีศาจปีกน้ำเงินแล้ว หลี่ฟู่เฉินจะท่องไปในสนามรบและใช้ดาบของเขาเพื่อสังหารสัตว์ปีศาจเป็นครั้งคราว
บางทีอาจเป็นเพราะสัตว์ปีศาจเคยผ่านการต่อสู้ครั้งใหญ่มาแล้วก่อนหน้านี้ ฝ่ายของหลี่ฟู่เฉินจึงมีความได้เปรียบแสดงออกมาอย่างชัดเจน ในเวลาเพียงสองชั่วโมง สัตว์ปีศาจดั้งเดิม 4,000 ตัวก็เหลือสัตว์ปีศาจน้อยกว่า 1,000 ตัวแล้ว ในขณะที่ฝ่ายของหลี่ฟู่เฉินเสียคนไปเพียงไม่กี่ร้อยคนเท่านั้น
เมื่อสัตว์ปีศาจเริ่มมีจำนวนลดลง หลี่ฟู่เฉินเริ่มให้ความสำคัญกับความวุ่นวายที่อยู่ห่างออกไปหลายร้อยไมล์
ด้วยความตระหนักที่น่าประหลาดใจของเขาและพลังฝึกฝนขอบเขตสวรรค์ หลี่ฟู่เฉินจึงมองเห็นในระยะไกลได้ มีชายหนึ่งคนและสัตว์ปีศาจอีกหนึ่งตัวกำลังต่อสู้ระยะประชิดกันอยู่อย่างบ้าคลั่ง
สัตว์ปีศาจตนนั้นช่างน่าประหลาดใจเป็นอย่างมาก ร่างกายของมันมีความยาวหลายร้อยฟุตและมีพลังฉีปีศาจที่เป็นเหมือนกับเมฆดำ แขนขาของมันเหมือนกับเสาทองแดงและทุกครั้งที่เหยียบพื้นมัน มันจะทำให้เกิดเสียงและทำให้ภูเขาแตกเป็นเสี่ยงๆ ทุกครั้งที่มันย้ำดำมันจะทำให้หัวใจของใครบางคนสั่นสะท้านแม้จะอยู่ห่างออกไปหลายร้อยไมล์ก็ตาม
‘นี่คือนักสู้ขอบเขตหวนคืนต้นกำเนิดและสัตว์ปีศาจระดับ 5?’
หลี่ฟู่เฉินจะไม่เห็นได้อย่างไรว่าความแข็งแกร่งของเก่อไห่แข็งแกร่งกว่าผู้อาวุโสสูงสุดทั้งหมดในนิกายวารีคราม?
แต่เมื่อคิดดูแล้ว มันก็ไม่น่าแปลกใจเลย เก่อไห่อยู่ในระดับที่ 5 ของขอบเขตหวนคืนต้นกำเนิด ในขณะที่ผู้เชี่ยวชาญอันดับ 1 ของนิกายวารีคราม ผู้อาวุโสสูงสุด โอหยางเถี่ย เป็นเพียงนักสู้ขอบเขตหวนคืนต้นกำเนิดระดับที่ 3
ทุกระดับของขอบเขตหวนคืนต้นกำเนิดมีช่องว่างราวกับท้องฟ้าและพื้นดิน หนึ่งระดับก็หมายถึงความแตกต่างอย่างมากในความแข็งแกร่งในการต่อสู้
หากผู้อาวุโสสูงสุดโอหยางเถี่ยเป็นผู้มาจัดการกับสัตว์ปีศาจระดับ 5 ตัวนี้ เขาจะถูกสังหารภายในไม่กี่กระบวนท่า
“มนุษย์ ข้าจะสังหารเหล่าลูกน้องของเจ้าก่อน”
กระทิงปีศาจรู้สึกได้ว่าสัตว์ปีศาจของมันถูกกำจัดและมันก็ไม่สามารถทำอะไรได้นอกเสียจากเกิดโทสะขึ้นอยู่ในใจ มันสลัดหลุดเก่อไห่ และบินไปยังสนามรบอย่างรวดเร็ว
ครืน!
แผ่นดินสั่นสะเทือน ทุกครั้งที่กระทิงปีศาจกระโดด มันจะครอบคลุมระยะทางมากกว่าสิบไมล์(1ไมล์=1.6กิโลเมตรนะ)
ในความเป็นจริง มันสามารถบินได้ แต่มันสามารถยืมความแข็งแกร่งจากการกระโดดได้ ซึ่งมันยังทำให้เร็วขึ้นอีกด้วย
“อยู่ที่นี่ซะเถอะ!”
เก่อไห่ไม่ได้คาดหวังว่ากระทิงปีศาจจะรับมือได้ยากขนาดนี้ หลังจากหลายร้อยกระบวนท่าผ่านไป เขาก็ยังไม่สามารถอยู่เหนือกว่าได้ ตอนนี้ เขาต้องหยุดยั้งกระทิงปีศาจเอาไว้ให้ได้ ไม่งั้นแล้วหากมันไปถึงสนามรบ ครึ่งหนึ่งของคนหลายพันคนของเขาจะต้องดับสูญ
ติดตามก่อนใครได้ที่เพจ INdyNovel