Everyone Else is a Returnee โดดเดี่ยว 1000 ปี - ตอนที่ 263
บทที่ 263 – ฉันจะไปที่ไหนก็ได้ (5)
[สิ่งที่เราต้องการคือประตูวาป ยูอิลฮาน ในระหว่างนั้นเราก็อยากจะให้คุณปกป้องคังมิเรย์ด้วย]
“นั่นฟังดูน่าสงสัยจังเลยนะ”
[เรื่องนอกจากนั้นมันอันตรายเกินไปที่จะพูดในโลกระดับต่ำ]
เขาไม่ได้หวังที่จะให้ทูตสวรรค์ซื่อสัตย์อยู่แล้ว เธออาจจะบอกว่าพวกเขาจะไม่อาจหนีไปได้อีกเมื่อพวกเขาได้ยินเรื่องราวแล้ว และหากพวกเขาอยากจะได้รับอาร์ติแฟคระดับเทพเจ้า พวกเจ้าก็จะต้องทำตามคำขอของกองทัพสวรรค์… ยูอิลฮานได้คิดอยู่ครู่หนึ่งแต่ในท้ายที่สุดเขาก็หยักหน้าออกมา คังมิเรย์ได้บอกว่าเธอยินดีทำดังนั้นก็ไม่มีเหตุผลให้เขาต้องปฏิเสธอยู่แล้ว
“โอเค ถ้างั้นก็จ่ายเงินล่วงหน้ามาซะสิ”
[ฉะ ฉันจะต้องรายงานให้เบื้องบนก่อน]
ทิเทร่าได้ยืนขึ้นมาอย่างหมดพลังจนเหมือนกับจะล้มลง
เคะดุต้ากำลังคิดจะเข้าไปช่วยเธอแต่แล้วเขาก็ถูกจ้องและต้องถอยกลับไป แน่นอนว่าสายตานั้นมาจากทิเทร่า เธอได้มองมาที่เขาเหมือนกับจะบอกว่า ‘ถ้านายเร็วกว่านี้อีกนิดเราก็ได้ตัวคิงมิเรย์มาแล้ว!’ หรือคำพูดอะไรทำนองนี้
“ช่วยเลือกอาร์ติแฟคที่เหมาะสมมาให้เราด้วยนะ หนึ่งอันจะถูกมิเรย์ใช้ดังนั้นต้องมีหนึ่งอันที่เกี่ยวกับเวทมนต์”
[…เข้าใจแล้ว]
จากนั้นทิเทร่ากได้จากไป หลังจากได้ส่งเธอออกไปแล้วยูอิลฮานก็ถอนหายใจออกมา
“นี่มันน่าเจ็บปวดจังเลยแหะ ฉันคิดว่าเราจะได้พักกันไปซักพักซะอีกนะเนี้ย”
“ถ้าแบบนั้นทำไมนายไม่ปฏิเสธคำขอของพวกนั้นไปเลยล่ะ คนที่มีนั้นต้องการแต่แรกมีแค่ฉันนี่…”
“ฉันไม่ไว้ใจพวกนั้น ฉันจะส่งเธอไปคนเดียวไม่ได้มิเรย์”
“…”
แม้ว่ายูอิลฮานจะพูดไปเพราะแค่ความเป็นห่วงอย่างเดียว แต่นี่ก็คือสิ่งที่ทำให้คังมิเรย์ต้องใจเต้นแรงอีกครั้ง ยังไงก็ตามยูอิลฮานไม่ได้สนคังมิเรย์ที่บิดตัวพร้อมหน้าแดงอยู่เลยสักนิด
“เหลือเวลาอยู่อีกไม่มากแล้ว ถ้าแบบนี้เราจะต้องสร้างไพ่ตายเตรียมเอาไว้ ถ้าฉันใช้นาฬิการทรายแห่งกาลเวลาได้อีกล่ะก็ ฉันจะทำให้ป้อมปราการลอยฟ้าข้ามขีดจำกัดได้แน่”
“ไพ่ตาย?”
เลียร่าได้เอียงหัวออกมา ยูอิลฮานได้ผงกหัวเบาๆและเสริมขึ้น
“ฉันอาจจะต้องการพลังของพีท”
“พีท…? อย่าบอกนะว่า?”
สายตาของเลียร่าได้สั่นขึ้นมา สิ่งที่เธอกำลังคิดถึงอยู่ในตอนนี้ก็คือร่างของสิ่งมีชีวิตชั้นสูงจำนวนมากที่อยู่ในช่องเก็บของของยูอิลฮาน
“นายกำลังจะเข้าไปสู่เส้นทางเนโครแมนเซอร์งั้นหรอ? ถ้านายไม่ได้มีคลาสแบบพีทมันจะเป็นไปได้ยากมากเลยนะ”
“ไม่หรอก ฉันคิดว่าฉันจะทำมันเป็นตุ๊กตามีชีวิตมากกว่า… ฉันจะต้องทำอะไรกับพวกจิตวิญญาณน่ารำคาญพวกนั้น”
[ที่รักว่าใครว่าน่ารำคาญกัน?]
จิตวิญญาณได้ตอบยูอิลฮานกลับมาอย่างมีชีวิตชีวา จิตวิญญาณนี้ไม่ใช่จิตวิญญาณของใครอื่นนอกไปเสียจากราชินีซัคคิวบัสเฮเรียน่า
[ฉันก็แค่อยากจะบอกให้ที่รักได้รับรู้ถึงความรักที่ไม่สิ้นสุดของฉันเท่านั้นเอง]
“ไม่ล่ะ นั่นไม่ใช่ซักนิด”
เขาได้ตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงเย็นชา เลียร่าก็ยังถามเขาด้วยความกังวล
“อิลฮาน เราจะเชื่อใจเฮเรียน่าได้หรอ?”
“เหตุผลที่ฉันไม่ยอมรับเฮเรียน่าไม่ใช่แค่เพราะฉันไม่ไว้ใจเธอหรอกนะ แต่ว่ามันยังเป็นเพราะว่าฉันไม่อาจจะยอมรับในการมีอยู่ของเธอได้มากๆเลย ยังไงก็ตามตอนนี้ปัญหาทั้งสองอย่างนั้นได้ถูกจัดการไปแล้ว”
เมื่อเลียร่ากำลังสับสนอยู่ ยูอิลฮานก็ได้อธิบายต่อ
“ทั้งจิตวิญญาณของเฮเรียน่าและร่างกายของเธอต่างก็ตายไปแล้ว ตอนนี้เธอไม่ใช่เฮเรียน่าคนก่อนอีกแล้ว แล้วก็ถ้าเป็นจิตวิญญาณฉันก็จะเชื่อใจได้สุดๆไปเลยล่ะ”
[ฉันเคบบอกไปแล้วนะว่าแม้แต่ตอนฉันไม่ใช่จิตวิญญาณที่รักก็ไว้ใจฉันได้เหมือนกัน! ที่รักนี่ชอบความแน่นอนจริงๆเลยนะ แล้วฉันควรจะทำยังไงดีล่ะ? ฉันดันไปชอบส่วนนี้ของที่รักซะแล้ว ที่รักรู้สึกได้ถึงความรักของฉันไหม?]
“ฮึ่ม”
ยูอิลฮานได้แต่ส่งเสียงฮึ่มสั้นๆกับการรุกของเฮเรียน่า จากนั้นเขาก็มองไปที่คนอื่นๆและปรบมือเรียกความสนใจมาที่ตัวเขา
“ในการต่อสู้ครั้งนี้กองทัพมังกรกับคนที่ยังไม่ได้คลาส 4 จะถุกทิ้งเอาไว้ที่โลกนี้ การต่อสู้ในครั้งนี้มันยากเกินไปสำหรับคนที่มีคลาสต่ำกว่า 4 ส่วนคนที่เหลือก็ช่วยเตรียมตัวต่อสู้ไว้ด้วยนะ โอ้ เอิลต้า เธอช่วยไปพาพีทมาที”
คิมเญซอลได้ตาเป็นประกายขึ้นมาเมื่อได้เห็นลูกชายเธอทำในสิ่งที่น่าทึ่ง นี่สิ่งนะคือช่วงเวลาที่เธอจะได้เห็นความสามารถนับไม่ถ้วนที่ลูกชายเธอมีอยู่
“นี่มันน่าสนใจจังเลยน้า แม่อยากจะดูด้วยจัง นี่มันเป็นความลับหรือป่าวล่ะ?”
“ถ้าแม่อยากจะดูก็ไม่มีปัญหาครับ”
ยูอิลฮานได้อนุญาตแม่ของเขาอย่างร่าเริง และเพราะแบบนี้ทำให้มีคนมารวมกันที่ที่ทำงานของยูอิลฮานถึง 17 คน คือยูอิลฮาน ยูมิล คังมิเรย์ นายูนา คิมเยซอล พีท จิล มิไรย์ เอริเซีย เลียร่าและเอิลต้า
“มากันทำไมเนี้ย? ฉันบอกให้คนที่เหลือไปเตรียมตัวไง!”
“พวกเราก็สงสัยเหมือนกันนะ…”
จริงๆแล้วสิ่งที่เธอตั้งใจจริงๆเลยก็คือเธออยากจะดูว่ายูอิลฮานกำลังจะทำอะไรแย่ๆหรือป่าว แต่ว่าเธอก็ไม่ได้พูดแบบนั้นออกไป จากนั้นสายตาของยูอิลฮานก็หันไปบอกคนอื่นๆ
“เตรียมตัวต่อสู้หรอ?”
“เราพร้อมแล้วล่ะท่านจักรพรรดิ!”
“ฉันก็อยากดูเหมือนกันค่ะ นายท่าน”
“อ๊าา เป็นแบบนี้ไปได้ยังไงกัน ยูนา เธอช่วยร่ายเวทย์บาเรียป้องกันเสน่ห์ให้คนในกลุ่มทีนะ”
“โอเค ท่านหญิงเรย์น่าช่วยทีน้าาาา”
หลังจากทุกๆคนได้รับเวทย์ป้องกันเสน่ห์แล้วยูอิลฮานก็ได้เริ่มงานของเขา สิ่งแรกที่เขาเอาออกมาเลยก็คืออ่างแห่งปาฏิหาริย์ ภายในอ่างเขาได้เทเลือดของอิชจาร์ลงไปและเอาร่างของเฮเรียน่าใส่ตามลงไปในนั้น
“โอ้…”
“สวยมาก”
“ท่านจักรพรรดิแทงผู้หญิงคนนี้ลงได้ยังไงกัน?”
“…ให้ตายสิ”
แม้ว่าผิวของเธอจะซีดไปแล้ว แต่ว่าส่วนต่างๆของเธอยังสมบูรณ์ดีอยู่ยกเว้นก็แต่ส่วนหัวใจที่ยูอิลฮานแทงลงไปเท่านั้น หากว่าอยู่ๆร่างนี้ลุกขึ้นมายืนก็คงจะไม่มีใครตกใจเลย และเมื่อได้เห็นแบบนี้พีทก็ได้แสดงสีหน้าสิ้นหวังออกมาและพูดกับยูอิลฮาน
“ท่านจักรพรรดิ สำหรับผมมันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะทำอันเดตจากร่างที่ทรงพลังนี่ได้”
“ฉันรู้น่า ฉันแค่ให้นายมาช่วยชี้นำความคิดฉันเฉยๆ”
การทำงานตามปกติของยูอิลฮานมักจะมีสามขั้นต่อเสมอ
อย่างแรกเลยก็คือการสร้างไอเทม – ตีเหล็ก นี่คือสิ่งที่ยูอิลฮานมั่นใจที่สุดแล้ว และนี่ก็ยังเป็นพื้นฐานสำหรับการสร้างอาร์ติแฟคจำนวนนับไม่ถ้วนอีกด้วย
อย่างที่สองแน่นอนวาก็คือหัตถกรรมมานา ยูอิลฮานก็มีพรสวรรค์ในด้านนี้เช่นกัน หลังจากเขาได้ดูดซับแก่นแท้ของวิศวกรรมเวทย์ไปและได้ลองใช้มันกับไอเทมทุกชนิด ทำให้ในเวลานี้เขาทำการหัตถกรรมมานาได้ไม่ด้อยกว่าการตีเหล็กเลย
อย่างที่สามก็คือเอนชานท์วิญญาณ นี่คือพลังของยมทูตที่เขาได้รับมันมาจากเรต้าคาร์อิฮาห์ ในด้านนี้ยูอิลฮานก็มั่นใจไม่แพ้สองอันก่อนหน้านี้ เนื่องจากเขาได้พัฒนามันมาตลอดการเป็นคลาสยมทูตของเขา
ในเวลานี้เขาไม่จำเป็นจะต้องทำขั้นตอนแรก
“นี่มันสำเร็จในตัวเองอยู่แล้ว ฉันไม่จำเป็นต้องทำอะไรเพิ่มเลย”
[โอ้… คุณตาถึงนะเนี้ยที่รัก]
เขาได้เมินเสียงจากจิตวิญยาณและวางมือลงไปบนอกของเฮเรียจาก จุดนั้นคือจุดที่หอกของเขาได้แทกลงไป
“วัตถุดิบสำหรับการทำหัตถกรรมมานาก็มีอยู่แล้วภายในศพนี่”
“หินพลังเวทย์คลาส 7 นี่มันเป็นอาร์ติแฟคที่น่าทึ่งมาก”
“แล้วก็นอกจากนี้…”
เขาได้กรีดฝ่ามือตัวเองและปล่อยให้เลือดไหลลงไป เมื่อเลือดของยูอิลฮานได้ไหลลงไปในจุดที่หัวใจถูกเจาะ อ่างแห่งปาฏิหาริย์ก็ได้มีปฏิกิริยากลับมา รวมไปถึงเลือดของอิชจาร์ที่อยู่ในอ่างก็เป็นเช่นเดียวกัน
“พีท จับมือฉันไว้ แล้วก็ดึงพลังออร่าของนายออกมาเต็มที่เลยนะ”
“ครับท่านจักรพรรดิ!”
พีทที่มีใบหน้าสวยงามกว่าเอลฟ์ผู้หญิงส่วนใหญ่ซะอีกทั้งๆที่เป็นผู้ชายได้เข้ามาจับมือของยูอิลฮานด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ เขาได้ดึงพลังของนักธนูแห่งโชคชะตาออกมาและส่งมันไปให้กับยูอิลฮาน!
ยูอิลฮานได้รับเอาพลังของพีทไว้อย่างสงบ เขาได้เก็บข้อมูลบันทึกเอาไว้และทำการวิเคราะห์ในพลังนี้ ในระหว่างนี้การหัตถกรรมมานาก็ได้ถูกเริ่มขึ้นมาแล้ว
พลังของพีทคือพลังที่ทำให้เขาสามารถทำลายกฏเกณฑ์และชุบชีวิตคนที่ตายขึ้นมาขยับได้ตามที่ต้องการ สิ่งนี้แหละคือส่วนที่ยูอิลฮานต้องการ เขาแค่ต้องการจะทำให้ร่างกลับมามีชีวิตอีกครั้ง เขาไม่ได้จะทำเป็นอันเดต แต่ว่าเขาต้องการร่างเปล่าๆเท่านั้น
หินพลังเวทย์คลาส 7 ภายในร่างเฮเรียน่าได้ตอบรับกับเลือดของยูอิลฮาน มันได้ส่งแสงที่สว่างจ้าออกมาพร้อมๆกับมานาจำนวนมหาศาลที่ระเบิดขึ้นมาราวเขื่อนแตก แต่ว่าเอิลต้ากับคิมเญซอลที่ได้เตรียมตัวไว้ก็ได้ใช้เวทย์ของพวกเธอทำให้มานานี้ไหลกลับลงไปในร่างนั้น คังมิเรย์ก็ยังเข้ามาช่วยด้วย
“นี่มันน่าทึ่งจริงๆ…! นี่ลูกต่อสู้กับคนแบบนี้จริงๆงั้นหรอ!?”
“อืมม นั่นมันจะเรียกว่าสู้ก็ไม่ถูกหรอกครับ… แต่ก็คล้ายๆกันนั่นแหละ”
เขาได้จับมานาให้เป็นเส้นเดียวและทำให้มันไหลเวียนภายในร่างเฮเรียน่า นี่คือการรักษาบาดแผลด้วยการควบคุมมานา เขากำลังจะทำให้หัวใจเต้นขึ้นอีกครั้งหนึ่ง
[ที่รัก… น่าทึ่งมาก คุณรู้จักฉันดีกว่าตัวฉันอีก…? ฉันมีความสุขจัง!]
จิตวิญญาณเฮเรียน่าได้อุทานออกมา หลังจากนั้นก็ได้มีมานาพวยพุ่งกลับมาราวกับเวลาถูกย้อนกลับ ผิวที่ซีดในร่างก็ดูจะเปล่งปลังขึ้นมาเล็กน้อยก่อนที่จะกลับมามีสีเป็นปกติ
“อ๊า”
“พลังชีวิตกำลังกลับคืนมาแล้ว”
เลือดของอิชจาร์ได้ช่วยทำให้ร่างรอยขึ้นขึ้นมาส่งระลอกคลื่นเป็นระยะๆตามจังหวะการเต้นของหัวใจเฮเรียน่า
“ท่านจักรพรรดิ!”
“มันยังไม่จบ”
ในตอนนี้ที่มานาได้เข้มข้นขึ้นแล้วคือช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด หากมีความผิดพลาดใดเกิดขึ้นก็จะทำให้มานาปั่นป่วนไปจนทำให้ร่างกายระเบิดไปพร้อมทั้งป้อมปราการลอยฟ้านี้! ยูอิลฮานได้พยายามควบคุมการไหลของมานาด้วยสมาธทั้งหมดที่เขามีอยู่
และเมื่อเวลาได้ผ่านไปเรื่อยๆจนไม่มีใครรู้ตัวก็ได้มีข้อความปรากฏขึ้นมาเงียบๆ
[คุณได้เชี่ยวชาญหัตถกรรมมานา คุณได้ครอบครองในพรสวรรค์ที่จะยืมมานามาสร้างเป็นไอเทมที่ไม่มีใครเทียบเทียมได้อีก นี่คือจุดสิ้นสุดของเทคนิคการสร้างนี้แล้ว เส้นทางในอนาคตนับต่อจากนี้คุณจะต้องสร้างมันขึ้นมาเอง]
เลือดของอิชจาร์ได้ผสานเข้ากับไปการเต้นของหัวใจและถูกร่างกายเธอดูดเข้าไปอย่างช้าๆ ยิ่งเวลาผ่านไปสีผิวของเธอก็ได้ฟื้นคืนชีวิตชีวากลับมา และหลังจากผ่านไประยะหนึ่งในที่สุดแม้กระทั่งลมหายใจมานาก็เริ่มขึ้น ตอนนี้หากเป็นคนนอกมองมาก็คงจะคิดแค่ว่าคนๆนี้หลับลงไปเท่านั้นเอง คิมเยซอลกับคนอื่นๆก็ได้แต่ตกตะลึงกับปาฏิหาริย์ครั้งนี้
“ฟู่”
“อิลฮาน!”
เลียร่าได้รีบเข้าไปรับยูอิลฮานที่ล้มลงจากการทำงานเสร็จเอาไว้ได้ในทันที
“ฟู่ ยังเหลืออีกขั้นตอนนึง ถ้าเราไม่รีบทำมันเดี๋ยวนี้มันจะมีตัวแปรอื่นเกิดขึ้นแน่ จิตสำนึกใหม่จะเกิดขึ้นมาในร่างนี้”
“ถ้าเป็นชั่วคราวล่ะก็ แม่สามารถจะชะลอการไหลของเวลาที่ร่างกายนี้รับรู้เอาไว้ได้นะ”
“ช่วยทีครับแม่”
เขาไม่เคยรู้เลยว่าแม่ของเขาจะสุดยอดแบบนี้! จากการช่วยของแม่เขานี้ได้ทำให้ยูอิลฮานได้มีเวลาพักหายใจอีกนิดหนึ่ง และเขาได้เข้าไปเริ่มทำขั้นตอนต่อไปทันที
ขั้นตอนนี้ก็คือการเอนชานท์วิญญาณที่เป็นส่วนสำคัญมากๆ
“ตอนนี้ฉันจะยอมรับให้เธอมาเป็นหนึ่งในผู้ใต้บังคับบัญชาของฉันนะ”
[ในที่สุดที่รักก็รับรักฉันแล้ว!]
“ถ้าฉันจะรับรักเธอ ฉันก็คงจะไม่ทำอะไรลำบากแบบนี้แน่นอน เธอก็น่าจะรู้สิที่ฉันคิดนะ เธอในตอนนี้ไม่ใช่เฮเรียน่าคนเดิมอีกต่อไปแล้ว และฉันกำลังจะใช้เธอที่เป็นจิตวิญญาณที่ซื่อสัตย์กับร่างเดิมที่เหลืออยู่ของเฮเรียน่าเท่านั้นเอง”
ใช่แล้ว เรื่องนี้แหละที่ทำให้ยูอิลฮานไม่ลังเลที่จะทำแบบนี้ ยังไงก็ตามจิตวิญญาณของเฮเรียน่าได้ปฏิเสธเขาอย่างชัดเจน
[ยังไงก็ตามที่รักน่าจะรู้ดีนะว่าพลังของที่รักได้ทลายขีดจำกัดมานานแล้ว และเพราะแบบนีทำให้ฉันในตอนนี้มีสตินึกคิดของตัวเอง จิตสำนึกของตัวฉันตอนนี้ชัดเจนมากๆ แต่ว่าฉันก็ไม่คิดว่ามันครบถ้วนหรอกนะ ยังไงก็ตามฉันก็คิดว่าอย่างน้อยจิตสำนึกที่มีอยู่ของฉันก็ไม่น้อยกว่า 60% เพราะแบบนี้การที่ที่รักฆ่าเฮเรียน่าไปก็เป็นแค่การแยกวิญญาณออกมาครึ่งหนึ่งเท่านั้นเอง อ๊า ฉันเสียดายวิญญาณที่หายไปอีกครึ่งหนึ่งแบบตลอดกาลจังเลยน้า]
“…ทำไมเธอถึงได้บอกเรื่องทั้งหมดนี้กับฉันล่ะ?”
คำพูดนี้ของเฮเรียน่าที่พูดออกมาได้ทำให้ยูอิลฮานตกตะลึงอย่างมาก
[ก็เพราะว่าถ้าที่รักมารู้เอาทีหลังที่รักก็คงจะผิดหวังเอามากๆไงล่ะ ฉันไม่อยากจะถูกที่รักเกลียดหรอกนะ…]
“นี่เธอ…”
[ทีนี้ที่รักก็รู้แล้วสินะว่าฉันไม่ได้ซ่อนอะไรจากที่รักเลยแม้แต่อย่างเดียว ที่รักรู้หรือยังว่าที่รักทำพลาดไปน่ะ?]
ยูอิลฮานได้เงียบลงไป ก่อนที่จะพูดขึ้นมาหลังผ่านไปครู่หนึ่ง
“…โอเค ถ้างั้น”
เขาได้กัดริมฝีปากพูดขึ้น
“พิสูจน์ให้ฉันเห็นสิว่าฉันได้ทำพลาดไป”
[ฉันกำลังรอคำๆนี้จากที่รักอยู่เลย]
หากพันธะได้ถูกเชื่อมต่อแล้วจะไม่มีวันถูกตัดขาดอีก นี่ก็คือสกิลปกครองที่ยูอิลฮานกำลังใช้งาน
[คุณได้เชี่ยวชาญสกิลปกครองแล้ว เมื่่อคุณได้เติมเต็มเงื่อนไขที่จำเป็น คุณจะสามารถจะวิวัฒนาการสกิลนี้ได้]
“ชื่อของเธอ…”
[ที่รัก ฉันชื่อเฮเรียน่า ฉันยังเป็นคนเดิม และจะเป็นคนแบบนี้ตลอดไป]
“ได้เลย เธอชื่อเฮเรียน่า”
[คุณได้รับ ‘เฮเรียน่า’ มาเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของคุณ]
ยูอิลฮานได้ตัดสินใจที่จะยอมรับในตัวเธอ จากนั้นเขาก็ทำการเอนชานท์วิญญาณของเธอเขาไปในร่างเดิมของเธอเอง
นี่เป็นขั้นตอนที่เงียบอย่างมาก และยังไม่มีการปะทุของมานาที่รุนแรงเหมือนกับหัตถกรรมมานาอีกด้วย
แต่ยังไงก็ตามในภายภาคหน้านี่คือการเริ่มต้นของเหตุการณ์ครั้งใหญ่ที่จะสั้นคลอนทุกๆกองกำลัง