Everyone Else is a Returnee โดดเดี่ยว 1000 ปี - ตอนที่ 304
บทที่ 304 – ฉันคือพ่อของพวกนาย (5)
ทั้งกลุ่มของเลียร่าได้กลับมาที่ดาเรย์ด้วยการช่วยเหลือจากสกิลข้ามมิติของยูอิลฮานสำเร็จ พวกเธอได้รีบเล่าเรื่องการต่อสู้เมื่อก่อนหน้านี้ออกมาในทันที
“เพราะแบบนี้ทุกคนก็เลยดูไม่มีความสุขเลยสินะ”
“ใช่สิ… ถึงจะไม่มีใครตายแต่ว่าอันเเดตของพีทตั้งหลายตัวได้จากตัวไปแล้ว”
“ศัตรูที่ไม่คาดคิดและไม่อาจคาดเดาได้ ศัตรูที่มีทั้งการต้านทานมานาและเข้ามาโจมตีอย่างฉับพลันในมิติอื่น… ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามันจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น… แต่ว่านะ”
ยูอิลฮานได้ยืนมองดูศพของศัตรูที่ไม่อาจจะระบุตัวตัวได้ตรงหน้าเขา วงแหวนที่บิดเบี้ยวของมันรวมไปถึงปีกที่เหมือนม่านได้ขาดรุ่งริ่ง นี่เป็นรูปแบบสิ่งมีชีวิตที่ยูอิลฮานไม่เคยเห็นมาก่อน
[รูปแบบสิ่งมีชีวิต?]
คนที่ตอบกลับมาอย่างไม่คาดคิดเลยก็คือเฮเรียน่าที่ได้กลับมาเป็นปกติหลังจากพรของเทพธิดาแห่งความงามได้หายไปแล้ว สิ่งที่เธอสงสัยก็คือเรื่องเดียวนั้นก็คือเธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเจ้าพวกนี้ที่สามารถจะจัดการกับพลังงานที่ไม่ใช่มานาและต้านทานเสน่ห์ของเธอได้จะเป็นสิ่งมีชีวิต
ยังไงก็ตามยูอิลฮานได้ตอบกลับมาอย่างชัดเจน
“คำพูดของพวกมันน่าจะทื่อๆสินะ เพราะงั้นพวกเธอก็คงจะคิดไปว่าพวกมันเป็นหุุ่นยนต์ใช่ไหมล่ะ แต่ว่านั่นมันอาจจะเป็นเพราะพวกมันไม่ได้มีภาษาการพูดที่ดีนักก็ได้ แต่ยังไงก็ตามในตอนนี้ฉันก็ยังไม่มั่นใจที่จะสรุปอยู่ดี”
ยูอิลฮานคือผู้เชี่ยวชาญในสกิลบันทึก ในจุดนี้ต่อให้เขาเจอกับสิ่งที่ไม่มีบันทึกอยู่เขาก็ยังจะสามารถมองบันทึกทั่วไปของพวกมันที่ถูกสิ่งมีชีวิตอื่นๆเก็บบันทึกเอาไว้ได้
แต่ยังไงก็ตามหลังจากเห็นเจ้าพวกนี้ยูอิลฮานก็ไม่ได้ข้อสรุปใดๆออกมาเลย ไม่ว่าจะเรื่องที่พวกมันเป็นสิ่งมีชีวิตหรือไม่ก็ตาม หรือว่าพวกมันมาจากไหน หรือต่อให้พวกมันไม่ใช่สิ่งมีชีวิตแล้วพวกมันเกิดมาได้ยังไง!
“ฉันก็อยากจะเริ่มวิเคราะห์เจ้าพวกนี้จริงๆนะ แต่ว่า…”
“เท่จัง… โลกใบนี้สวยงามจังเลย…”
“ดาเรย์? นี่คือดาเรย์จริงๆน่ะหรอ…?”
หลังจากที่ทั้งกลุ่มได้เห็นความเปลื่ยนแปลงไปของดาเรย์ พวกเธอก็พูดไมออกกันไป ยูอิลฮานรู้สึกได้เลยว่าเขาจะต้องล่ะทิ้งงานที่จะต้องไปทำก่อนสักนิด เขาได้หัวเราะออกมาและดูสภาพของคนทั้งกลุ่ม หลังจากที่พวกเธอได้ผ่านการต่อสู้มาทำให้พวกเธอส่วนใหญ่ทั้งเหนื่อยและเต็มไปด้วยบาดแผล ท่ามกลางคนทั้งกลุ่มจะมีก็แต่นายูนาเท่านั้นที่ยังเต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา
“หว่าาาาาาาาา หว่าาาาาาาาาาาาาาาาา! อิลฮาน~ มาแต่งงานกันที่นี่เถอะ แต่งงานน่ะ~”
เธอกำลังมองไปที่ปราสาทที่อยู่ตรงกลาง
เนื่องจากว่ายูอิลฮานกำลังเตรียมที่พักสำหรับมังกรด้วย เขาก็เลยได้ตัดสินใจที่จะสร้างที่อยู่อาศัยนี้อย่างเต็มที่ทำให้การสร้างของเขาดูเลยเถิดเกินไปนิด ผลที่ได้ออกมาเลยก็กลายเป็นเหมือนกับอาณาจักรสไตล์ยุโรปที่ดูเหมือนกับมาจากนิยายแฟนตาซี
“ได้เลย ฉันอนุญาติเพราะงั้นก็ไปหาผู้ชายดีๆมาซะนะ”
ยูอิลฮานได้ดีดหน้าผากนายูนาที่กำลังร้องอย่างยินดีพร้อมทั้งกำลังเข้ามาเกาะแขนเขา ยังไงก็ตามนายูนาก็ยังคงยิ้มและเขย่าแขนยูอิลฮานต่ไป
“แน่นอนสิว่าคนๆนั้นมีแค่อิลฮาน~! ฉันรักนายนะอิลฮานนน!”
ยูอิลฮานได้แต่ยิ้มแห้งๆออกมา ยังไงก็ตามปกติแล้วนายูนาจะทำตัวแบบนี้อยู่เสมออยู่แล้ว แถมนี่อาจจะเพราะว่าเธอได้กลับมาในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยด้วยก็ได้ เพราะงั้นเขาก็เลยพอจะเข้าใจความรู้สึกของเธอ
ยังไงก็การเข้าใจความรู้สึกกับการที่จะปกป้องเธอกับยมทูตที่โผล่ขึ้นมาจากด้านหลังของเธอมันต่างกัน
“ฉันยอมรับนะว่าเธอไม่ยอมแพ้ง่ายๆ แต่ไม่ว่ายังไงนั่นก็มีแต่จะทำให้เธอตายเท่านั้น”
“กรี๊ดดด พี่สาวเลียร่า”
ระหว่างทั้งคู่กำลังเล่นตลกกันตามปกติ ยูอิลฮานก็ได้หันไปปรบมือเรียกให้ทุกคนมาสนใจ
“ฉันได้เตรียมห้องส่วนตัวไว้ให้ทุกคนแล้วเพราะงั้นไปพักอาบน้ำกันซะ ฉันยังได้เตรียมพื้นที่ไว้ให้ป้อมปราการทั้งสองแห่งลงจอดด้วยนะมิสทิค เธอไปที่นั่นได้เลย”
[นายท่านทำเรื่องไร้สาระแบบนี้โดยไม่กระดิกคิ้วเลยนะ…]
[ก็ปกติแหละนะ]
คนที่อาศัยอยู่ในป้อมปราการต่างก็ข้าไปพักในที่ของตัวเอง เอลฟ์กับหมาป่าได้มองไปรอบๆอย่างสงสัยพร้อมกับคิดกันว่าที่นี่ใช่ดาเรย์ที่พวกเขาเคยอยู่จริงๆน่ะหรอ ส่วนทางด้านเด็กๆกองทัพมังกรต่างก็ตะโกนออกมาอย่างยินดีกับความหนาแน่นของมานาในดาเรย์นี้
“ทุกคนเลเวลเพิ่มกันเยอะเลยนะ”
“ก็ชัดเจนอยู่แล้วในเมื่อพวกเราได้ตระเวนไปในโลกระดับสูงต่างๆที่เหมือนกับนรก แต่ว่าก็ไม่ได้มีใครตายเลยซักคน… คนที่น่าทึ่งกว่าพวกฉันก็คือนายต่างหาก”
เอิลต้าเม้มปากมองไปที่ยูอิลฮานที่สูงขึ้นกว่าแต่ก่อนเล็กน้อย และในดวงตาของเขาก็มีแสงขึ้นเล็กๆ นอกจากนี้ภายในดวงตาที่เหมือนกับสัตว์เลื้อยคลานสีทองก็มีนัยน์ตาสีแดงที่ทำให้เธอรู้สึกเหมือนกับกำลังมองมังกรอยู่
“ยูอิลฮาน นายกลายมาเป็นสิ่งมีชีวิตชั้นสูงแล้ว….”
“ใช่แล้วล่ะ”
ยูอิลฮานได้ยอมรับออกมาง่ายๆ
“นี่ก็เป็นเหตุผลที่ทำให้ฉันบอกว่าไม่ให้พวกเธอมาดาเรย์ในตอนนั้น ในตอนที่ฉันมาที่นี่ไม่เพียงแต่ที่นี่จะเกิดมหาภัยพิบัติขึ้นอีกเท่านั้น แต่โลกระดับต่ำต่างๆที่มนุษยชาติได้มาอยู่ร่วมกับฉันแลล้วก็ได้หลอมรวมเข้ากับกันที่ดาเรย์ และมานาที่โลกนี้ก็เริ่มจะปั่นปว่น”
“โลกระดับต่ำ? รวมกับที่ดาเรย์? มันเป็นไปได้ยังไงกัน?”
เอิลต้าดูจะไม่รู้เรื่องนี้เลย ยูอิลฮานได้หันไปมองเฮเรียน่าแทน แต่ดูเหมือนว่านี่ก็เป็นครั้งแรกที่เธอได้ยินเช่นกัน ตอนนี้แรกอิลฮานคิดว่าความโลภก็ทำได้เหมือนกัน แต่ดูเหมือนว่าการกลืนกินกับการหลอมรวมเข้าด้วยกันจะต่างกันนิดๆสินะ
[นี่เป็นพลังที่มีแต่ที่รักเท่านั้นที่มี ฉันมั่นใจเลย แล้วที่รักได้ค้นคว้าถึงพลังของที่รักหรือยัง? ถึงที่รักจะมีสกิลบันทึกอยู่แต่ว่าที่รักก็ยังใช้พลังทั้งหมดของตัวเองไม่ได้ใช่ไหมล่ะ?]
“ใช่ เธอพูดถูกเลย ฉันยังไม่บรรลุมัน… โอเคฉันก็ได้คิดเรื่องนี้เองแล้วเหมือนกันนั่นแหละ… ขอบคุณนะที่ช่วยปกป้องทุกๆคนเอาไว้”
[ก็นั่นเป็นคำขอของที่รักนี่]
เฮเรียน่าได้ยิ้มออกมาอย่างอบอุ่น จากตอนแรกที่เจอกันเธอได้เปลื่ยนไปในทางที่ดีมากยิ่งขึ้น ยูอิลฮานก็ชอบในด้านนี้ของเธอ
“เข้าไปพักข้างในเถอเฮเรียน่า”
[ฉันจะไปพัก แต่ว่าการได้อยู่ข้างๆคือการพักที่ดีที่สุดสำหรับฉันแล้ว]
“…อ๊า”
การได้เผชิญหน้ากับเธอเขารู้สึกจั๊กจี้และมันเหมือนกับเขากำลังนอกใจเลียร่า เพราะงั้นเขาได้รีบหันหน้าหลบไปในทันที
คังฮาจินที่ยืนอยู่ในตอนนี้ก็กำลังแบกคังมิเรย์ที่สงบอยู่เช่นกัน ยูอิลฮานก็รู้แล้วว่าเธอก็เป็นหนึ่งในคนที่ปกป้องทุกๆคน
“แล้ว… มิเรย์สงบลงไปยังไม่ตื่นอีกงั้นหรอ?”
“ดูเหมือนว่าเธอจะใช้มานาเกินตัว เพราะแบบนี้รัดเกล้าของเธอก็ดูจะลดความทนทานของมามากเหมือนกัน…”
“ไว้เดี๋ยวฉันจะจัดการเรื่องรัดเกล้าเอง แต่ว่าพาเธอไปพักก่อนเถอะนะ”
“ขอล่ะนะ ไม่ใช่แค่รัดเกล้าแต่เป็นตัวมิเรย์เองด้วย”
“…ไว้ทีหลังนะ”
คังฮาจินกับคังมิเรย์ได้เข้าไปภายในปราสาท คนอื่นๆก็ยังตามสองคนนั้นเข้าไปในปราสาทเช่นกัน คนที่เหลืออยู่ก็มีเฮเรียน่าที่ไม่คิดจะเข้าไปแต่แรกแล้ว กับคิมเยซอลที่กำลังมองมาที่ลูกของเธอด้วยสายตาประหลาดใจ
“นี่ลูกบาดเจ็บตรงไหนหรือป่าว? ลูกเปลื่ยนไปมากจนแม่ตกใจเลยนะ”
“ผมต่างหากที่ต้องเป็นห่วง แม่สบายดีนะครับ?”
“แน่นอนสิว่าแม่ไม่เป็นไรอยู่แล้ว แต่ว่าแม่เปนห่วงเรื่องอนาคน หากว่ามีเจ้าพวกนี้มากๆเข้า…”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมจัดการมันได้สบายๆอยู่แล้ว แล้วก็พวกเขาไม่จำเป็นต้องแยกเป็นสองกลุ่มอีกแล้ว”
เขารู้สึกตกใจมากกับการที่เรื่องนี้มันเกิดขึ้นในระหว่างที่เขากำลังจัดการโลกหลังจากที่กลายมาเป็นสิ่งมีชีวิตชั้นสูง แต่ว่าเขาก็ได้เตรียมพร้อมสำหรับการบุกรุกที่ไม่คาดคิดอยู่ตลอดเวลา
สิ่งที่สำคัญที่สุดเลยก็คือทุกๆคนได้กลับมาอย่างปลอดภัย และเขาก็ยังได้กลายมาเป็นสิ่งมีชีวิตชั้นสูงก่อนที่คนอื่นๆจะตกอยู่ในอันตรายมากไปกว่านี้
“ลูกแม่ ลูกทำได้ดีมากจริงๆ แม่เชื่อมาเสมออยู่แล้วว่าลูกต้องทำได้”
“แม่ไม่ได้สงสัยในตัวผมเลยตั้งแต่แรกแล้ว… ขอบคุณนะครับแม่ ถึงแม้ว่านี่จะเป็นเรื่องปกติแต่ว่าการพูดมันก็น่าอายอยู่ดี ให้ลูกของแม่คนนี้จัดการดูแลทุกๆอย่างเองนะครับ”
“ได้เลยลูกแม่”
อารมณ์ภายในสายตาของแม่เขาไม่ได้มีแค่ความสุขเท่านั้น เธอยังรู้สึกอิจฉาเล็กน้อยที่ลูกของเธอได้ไปในจุดที่เธอไม่อาจจะไปถึงได้แม้ว่าจะใช้เวลาค้นคว้ามาหลายต่อหลายปี
ยังไงก็ตามเพราะเป็นลูกของเธอที่ทำได้ทำให้เธอยอมรับได้ เธอรู้สึกภูมิใจ มีความสุขด้วยเช่นกัน ในตอนนี้เธอยังรู้สึกโล่งใจจริงๆที่ลูกของเธอพูดว่าจะจัดการทุกอย่างเอง
“ได้เลย ตอนนี้แม่โล่งใจแล้วล่ะ”
คิมเยซอลได้ลูบผมสีแดงของลูกของเธอ ผมนี่ให้ความรู้สึกไร้รูปร่างและเธอก็ยังรู้สึกได้ถึงสัมผัสแปลกๆและความอบอุ่นที่ส่งมาถึงมือของเธอที่มันทำให้เธอรู้สึกดีนิดๆ
“ตอนนี้แม่ก็ต้องไปพักเหมือนกันนะครับ ไว้ค่อยคุยกันนะครับ”
“ได้เลย งั้นแม่ไปพักก่อนนะ”
คิมเยซอลก็ยังไปพักเช่นกัน เฮเรียน่าที่ดูจะรอให้ทุกๆคนหายไปก็ได้เข้ามาเกาะแขนยูอิลฮานในทันทีที่คิมเยซอลจากไป แต่ว่ายูอิลฮานก็ไม่ได้สบัดเธอออกไปเลย
นี่คือรางวัลสำหรับที่เธอได้ทำภารกิจได้ยอดเยี่ยม เหตุผลที่เขาไม่ว่านายูนาในก่อนหน้านี้ก็เช่นเดียวกัน ยูอิลฮานรู้สึกอึดอัดใจที่ตัวเขากำลังทำแบบนี้ แต่ว่าเขาก็ยังรู้สึกว่านี่เป็นการทำสิ่งที่ถูก
“ตอนนี้ฉันจะปล่อยไปก่อนแล้วกันนะ”
[รู้แล้วๆ ที่รักกำลังแสดงด้านของเหล่าเทพออกมาแล้ว ไม่เป็นไรหรอก ฉันจะจัดการที่เหลือเอง ฉันดีใจจังเลย]
“ปัญหาของเธอนั่นมันก็เพราะเธอชอบทำเหมือนรู้ไปหมดนั่นแหละ”
[ฟุฟุ]
เฮเรียน่าได้มีความสุขกับการอยู่กับยูอิลฮานอย่างเต็มนี่ นี่คือสิ่งที่เธอไม่เคยมีประสบการณ์มานานแล้ว แต่แม้กระทั่งตอนที่ยูอิลฮานกำลังเดินไปกับเธอ เขาก็ได้ใช้สกิลประกาศิตเพื่อสร้างดราก้อนเนส เมือง และปราสาทขึ้นมาด้วยมานาในผืนดินและท้องฟ้า เฮเรียน่าได้เฝ้ามองการสร้างที่ตระการตานี้และถามเขาออกมา
[ที่รักแล้วที่รักจะรวมโลกเข้ากับดาเรย์ไหม?]
“ถ้าเป็นไปได้ ฉันก็จะทำมันในสักวันน่ะ”
หากการรวมโลกขนาดใหญ่สองโลกที่ต่างกันเข้าด้วยกันได้งั้นมันก็ไม่มีเหตุผลที่เขาจะไม่ทำ บางทีนี่อาจจะเป็นเรื่องที่ถูกกำหนดเอาไว้นับตั้งแต่ที่การเชื่อมต่อของดาเรย์กับโลกได้เกิดขึ้นมาแล้ว หรือไม่ก็อาจจะเป็นในตอนที่ยูอิลฮานได้รับวงเวทย์เอลฟ์โบราณมา
“ฉันก็จะต้องใช้พลังจำนวนมหาศาลเพื่อให้เจตจำนงผู้พิทักษ์ดูดวงเวทย์เอลฟ์และปกคลุมโลกอีกครั้งหนึ่ง”
[มันเป็นไปได้แน่นอน ใช่แล้วในเมื่อมันเกิดขึ้นถ้างั้นมันก็ง่ายสำหรับที่รักที่จะปกป้องทุกๆอย่าง ฟุฟุที่รักได้ความสามารถที่เหมาะสมจริงๆเลย]
“ฉันก็ไม่รู้ว่าทำไมฉันถึงได้พลังนี้มานะ… แต่ว่าฉันคิดว่าทุกๆอย่างก็เป็นกำลังไปได้ดี”
นี่ไม่ใช่กองกำลังสิ่งมีชีวิตชั้นสูงเท่านั้น คนอื้นๆๆก็ยังมีโอกาสที่จะได้ใช้รูปแบบพลังงานที่ไม่รู้จักด้วยและชัดเจนว่าพวกมันก็จะสร้างปัญหาให้กับเขาเช่นกัน สำหรับยูออิลฮานที่ได้ทำร้ายและสร้างเบื้องหลังขึ้นมาแล้ว การที่จะถูกบอสสุดท้ายโจมตีทั้งๆที่รู้อยู่แล้วมันจะเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้
“ไม่ว่าพวกใครจะคิดอะไรเอาไว้ ฉันก็จะแสดงให้พวกนั้นได้เจอกับสิ่งที่คาดไม่ถึงเลย”
[นั่นแหละคือที่รัก สมบูรณ์แบบ… และเป็นเช่นนี้]
เฮเรียน่าได้ถามออกมาอีกด้วยความสงสัย
[แต่ทำไมในโลกใบนี้ถึงได้มีมังกรมาขนาดนี้ล่ะ? แถมทั้งหมดนั่นก็ดูจะใกล้เคียงกับสิ่งมีชีวิตชั้นสูงแล้วด้วย]
“อืม ไว้ฉันจะแนะนำพวกนั้นให้รู้จักทีหลัง เฮ้มีพวกมังกรกำลังมาแล้วล่ะ”
ยูอิลฮานได้หยักไหล่ออกมาด้วยรอยยิ้ม บนขอบฟ้าไกลออกไปเขาได้เห็นกลุ่มมังกรกำลังกลับมาหลังจากทำการล่าครั้งแรกสำเร็จ
คนที่นำมังกรมาเลยกแน่นอนว่าต้องเป็นมังกรแดงรูบี้ที่ได้กินเลือดเนื้อทั้งหมดของอิชจาร์ไป เธอได้ออกไปล่ามอนสเตอร์ในตอนเลเวล 294 แต่ว่าหลังจากกลับมาเธอก็มีเลเวล 296 แล้ว ดูเหมือนว่ามอนสเตอร์อื่นๆที่เกิดขึ้นมาในดาเรย์จะไม่ใช่เล่นๆเลย
[พ่อ รูบี้กลับมาแล้ว!]
[…’พ่อ’?]
น้ำเสียงของเฮเรียน่าได้เต็มไปด้วยความสงสัย ยูอิลฮานได้ยิ้มออกมาอีกครั้ง
“ไม่ใช่ว่าฉันบอกเธอว่าจะแนะนำพวกเขาให้เธอฟังหรอกหรอ?”
กองกำลังสิ่งมีชีวิตชั้นสูงดราก้อนเนส ศักยภาพที่น่ากลัวของกองกำลังนี้ก็คือการแตกหน่อนี่แหละ