Everyone Else is a Returnee โดดเดี่ยว 1000 ปี - ตอนที่ 322
บทที่ 322 – ฉันจะเป็นคนปิดม่านครั้งนี้เอง (6)
‘วันนี้คือวันที่สวยงาม หมู่เมฆลอยร่องลอยอยู่บนท้องฟ้าที่ไม่สิ้นสุด และมีเหล่านกที่กำลังร้องเพลง’
[ในวันเช่นนี้ทูตสวรรค์อย่างพวกนาย…]
ยูอิลฮานได้กางมือขึ้นไปบนท้องฟ้า เพลิงนิรันดร์กำลังหายใจอิชจาร์ได้ผสานเข้าด้วยกันเป็นหนึ่งและถูกปล่อยออกมาพร้อมๆกัน พลังงานมังกรและพลังงานเพลิงได้ผสานเป็นหหนึ่งจนเกิดเป็นคลื่นพลังขนาดยักษ์ และด้วยพื้นที่ประกาศิตของยูอิลฮานทำให้โลกใบนี้ไร้เจ้านาย
[…จะต้องถูกเพลิงนรกแผดเผา]
สกิลประจักษ์แจ้งได้ถูกเปิดใช้งานขึ้นมาพร้อมๆกับประกาศิตเพื่อที่จะเปลื่ยนพื้นที่ส่วนหนึ่งของโลกที่กว้างใหญ่กลายมาเป็นของยูอิลฮาน เลียร่าที่เฝ้ามองอยู่ได้ร้องออกมาทันที
“อันตรายๆ”
“ไม่เป็นไรหรอกน่า”
ยูอิลฮานไม่ใช่สิ่งมีชีวิตชั้นต่ำอีกต่อไปแล้ว เขาคือจ้าวแห่งโลกที่กว้างใหญ่ที่มีชื่อว่าดาเรย์และยังเป็นจ้าวแห่งมังกรด้วย! บันทึกที่เขามีอยู่กว้างใหญ่และไร้ก้นบึ้งทำให้เป็นธรรมดาที่มานาที่เขามีอยู่จะต่างไปจากเมื่อก่อนอย่างสิ้นเชิง หากว่าเราได้ยึดเอาส่วนหนึ่งของสวรรค์ไปจะเกิดอะไรขึ้นกันล่ะ? ทุกๆชีวิต หรือก็คือทูตสวรรค์ของสวรรค์ทุกๆคนก็จะรู้ถึงตัวตนของเขา
[นี่มัน….!]
[หัวหน้ากองกำลังเข้ามาโจมตีตรงๆ!?]
[ฉะ ฉุกเฉิน! นี่มันเรื่องฉุกเฉินแล้ว! หัวหน้ากองกำลังสิ่งมีชีวิตชั้นสูง… ยูอิลฮาน! พระเจ้า ยูอิลฮานจากโลกใบนั้น!]
“พวกนายคงจะไม่คิดว่าฉันจะบุกมาก่อนสินะ? เนื้อเรื่องก็มักจะเป็นแบบนี้อยู่ตลอดนั่นแหละน่า!”
ยังไงก็ตามสิ่งที่ยูอิลฮานทำก็ไม่ใช่เรื่องใหม่อะไร ยกเว้นเรื่องต่อจากนี้!
หลังจากได้เห็นทูตสวรรค์วิ่งกรูกันเข้ามาหาเขา ยูอิลฮานได้ตะโกนออกมาอย่างพึงพอใจ เขาได้ดึงพลังของการปกครองผ่านสกิลประกาศิตออกมา
[นับจากนี้ไป และในเวลานี้จะเป็นการประกาศเรื่องสำคัญถึงการมีอยู่ของดราก้อนเนส]
คำพูดของเราดูนุ่มนวลไม่สมกับที่ออกมาจากปากของคนที่เป็นหัวหน้าทั้งกองกำลังเลย แต่ว่า
[ตอนนี้เรากำลังประกาศรับสมัครสมาชิกใหม่เข้าดราก้อนเนสอยู่! ตราบใดที่บันทึกของพวกนายยังมีสภาพสมบูรณ์ดีอยู่ก็จะไม่มีปัญหาต่ให้พวกนายตกลงไปเป็นสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำก็ตาม! นี่เป็นโอกาสที่ดีเลยนะ จากทูตสวรรค์มาเป็นมังกร โอกาสที่จะกลายมาเป็นตัวตนสุดเท่ห์! เวลาไม่คอยท่าแล้วนะ รีบคว้าโอกาสในตอนที่มันยังมีอยู่ซะสิ!]
[ว่าไงนะ…?]
จากทั้งคำพูดที่นุ่มนวลและการชักจูงจากคำพูดเมื่อตะกี้นี้ ทูตสวรรค์ส่วนใหญ่ต่างก็ส่งเสียงหึขึ้นมา แต่ก็ไม่มีใครที่คิดว่าเขาโกหกเลย ทูตสวรรค์ได้กลายเป็นเทวดาตกสวรรค์ เทวดาตกสวรรค์กลายไปผู้เฝ้าประตู มีตัวอย่างให้เห็นอยู่มากมาย
พวกทูตสวรรค์ก็แค่คิดว่ายูอิลฮานกำลังดิ้นรนเพื่อเพิ่มกองกำลังของตัวเองเนื่องจากกองกำลังของเขาเพิ่งจะตั้งขึ้นมา
[โลกใบนี้คือฐาทัพหลักของกองทัพสวรรค์! ฉันยอมรับในพรสวรรค์ที่กลายมาเป็นสิ่งมีชีวิตชั้นสูงด้วยตัวเองของนายนะ แต่ว่านายกล้าดียังไงมาชักจูงทูตสวรรค์ให้กลายไปเป็นเจ้าพวกสัตว์เลื้อยคลาน! ในนามของพระเจ้า เราทูตสวรรค์จะลงทัณฑ์แกเอง!]
[ทะลวงม่านตา ควักหัวใจ! ในฐานะตัวแทนพระเจ้า ได้เวลาแห่งการกำจัดแล้ว]
ในฐานทัพหลักนี้มีทูตสวรรค์อยู่มากมาย ยูอิลฮานได้ยิ้มแห้งๆออกมาในระหว่างที่มองดูทูตสวรรค์นับพันนับหมื่นที่ไม่อาจจะนับได้ เขารู้ว่านี่คือช่วงเวลาที่สำคัญมากๆ แต่ว่าทำไมเจ้าพวกทูตสวรรค์ทั้งหมดถึงอยู่กันแต่ในบ้านตัวเองทั้งๆที่มีโลกระดับต่ำจำนวนมากให้ไปดูแล?
ดูเหมือนว่าเจ้าพวกนี้คงจะต้องใช้การกระตุ้นที่มากยิ่งไปกว่านี้อีก ยูอิลฮานได้คิดกับตัวเองและดึงพลังมานาขึ้นมาอีกครั้ง
[ฉันจะขอผูกมัดตัวเองด้วยพลังที่ตัวฉัน]
“ฉันขอประกาศว่า [ฉันจะไม่โกหก]”
[ไร้สาระ!]
เขาได้ผูกมัดตัวเองด้วยพลังของประกาศิต เพราะแบบนี้เขาจะโกหกไม่ได้ พลังของตัวเขาได้ห้ามไม่ให้เขาได้ทำแบบนั้น… นี่คือการกระทำที่โง่มาก
ยังไงก็ตามในตอนนี้เขาต้องทำแบบนี้
[ในสวรรค์ไม่มีพระเจ้าอยู่อีกต่อไปแล้ว พระเจ้าของพวกนายกำลังไปสร้างกองทัพใหม่ที่จะลบทุกๆอย่างออกไปอยู่ พวกนายทุกๆคนถูกทอดทิ้งในฐานะผลงานที่ล้มเหลวแล้ว สำหรับพระเจ้าสวรรค์ของพวกนาย พวกนายก็เป็นแค่ทางผ่านเท่านั้น]
[ไร้สาระ]
[กะ กล้าดียังไงกันที่มาดูหมิ่นนามของท่านพระเจ้า…!]
[ฉันจะย้ำอีกครั้งนะ]
ยูอิลฮานได้ยิ้มออกมา ด้วยสกิลประกาศิตและประจักษ์แจ้งทำให้ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนในสวรรค์ก็มองเห็นใบหน้าและได้ยินน้ำเสียงของเขาได้อย่างชัดเจน
[ฉันไม่ได้โกหก พระเจ้าสวรรค์ได้ทอดทิ้งพวกนายทุกคนไปแล้ว]
[นะ นาย…!]
[ฆ่ามัน! ลงโทษมันที่ดูหมิ่นนามแห่งผู้สร้าง!]
เทวทูตคลาส 7 ที่ตามปกติจะเห็นได้ยากได้โผล่ขึ้นมาเต็มไปหมดในทันที สมแล้วกับที่เป็นกองกำลังที่ใหญ่ที่สุด
ต่อให้ยูอิลฮานจะจัดการฆ่าแล้วขโมยพวกทูตสวรรค์ไปมากแต่ก็ยังคงมีทูตสวรรค์ระดับสูงเหลืออยู่อีกมากมาย คนพวกนี้แหละคนกองกำลังที่น่ากลัว
[กล้าดียังไงมาหลอกเรา!]
[เขาก็แค่หัวหน้ากองกำลังที่เพิ่งสร้างขึ้นมา! เด็ดหัวเขาลงมาสังเวยให้กับคำดูหมื่นนั่น! นี่คือคำสั่งของพระเจ้า!]
[ในนามของเทวทูตมิริเอลขอประกาศว่าเราคือปีศาจร้ายที่เราจะต้องกำจัด เป็นปีศาจร้ายที่ยิ่งกว่าซาตานซะอีก!]
ในเมื่อพวกทูตสวรรค์เอาแต่ปฏิเสธมาตลอดมันไม่มีทางที่เสียงของยูอิลฮานจะไปถึงง่ายๆอยู่แล้ว ยังไงก็ตามเขาก็ยังคงเห็นระลอกคลื่นอยู่เต็มไปหมด ในตอนนี้ถึงเวลาที่จะเริ่มการโจมตีที่รุนแรงที่สุดแล้ว
[จงเปิดตาดูและเปิดหูฟังกันให้ดีนะ]
ริมฝีปากของยูอิลฮานก็ยังคงมีรอยยิ้มอยู่ เขากำลังเยาะเย้ยพวกคนเขลาที่เขาใจอะไรยากและยื่นมือออกไปข้างๆ
[สิ่งที่พวกเธอเรียกกันว่า ‘คำสั่ง’ มันมาจากไหนล่ะ? ฉันรับประกันได้เลยว่าคำสั่งพวกนั้นมาจากสี่ยอดเทวทูตล่ะสิ จริงไหมยูเรียล?]
“ใช่แล้ว”
[…อะไรกัน?]
[ท่านหญิงยูเรียล…?]
นี่คือไพ่ตายที่ทรงพลังที่เขาเก็บไว้กำจัดเรื่องหลอกลวง ยูเรียลผู้อยู่ใต้คำสั่งของยูอิลฮานได้ก้าวออกมาข้างหน้าทั้งๆที่มองเขาอยู่
“ท่านนี่ใจร้ายจังเลยนะ บอกกันก่อนหน่อยก็ได้นี่”
“นั่นก็ไม่สนุกน่ะสิ”
“นายนี่… ได้กาเบรียลมาเยอะเลยนะ”
ในที่สุดแล้วเธอก็รู้แล้วว่ายูอิลฮานต้องการเธอไปทำไม เธอยังเห็นด้วยว่านี่เป็นส่วนที่น่าสนุก เหยียบย่ำทูตสวรรค์! ไม่มีทางที่เธอจะปฏิเสธมันอยู่แล้ว ในเมื่อตัวเธอเผยตัวตนและออกมาจากสวรรค์แล้ว เธอยังจะต้องกลัวอะไรอีกล่ะ ยังจะต้องลังเลอะไรอีก! หากว่าเธอสามารถจะชักจูงพรรคพวกที่อ่อนแอและไร้เดียงสามาเป็นพวกได้โดยไม่ต้องฆ่า ทำไมเธอจะต้องลังเลที่จะทำด้วย!
ระลอกคลื่นได้กระจายไปทั่วทั้งกองทัพสวรรค์แล้ว
[ไม่มีทาง ต้องไม่ใช่เธอแน่]
[โกหก นี่เป็นตัวปลอม ไม่มีทางที่่ท่านหญิงยูเรียลจะไปเป็นพวกกับปีศาจ…]
[โกหก นี่มันไม่จริง นี่คืออุบายของยูอิลฮาน…]
“ฉันคือยูเรียล ทุกๆคน ตลอดมาเพราะกลัวในพลังของมิคาเอลทำให้ฉันไม่อาจจะเผยความรู้สึกจริงๆออกมาได้ แต่ยังไงก็ตามในตอนนี้ทุกๆคนช่วยฟังทีนะ”
ยูเรียลได้มองลงมาที่ทุกๆคนด้วยภาพลักษณ์ที่ดูเปล่งประกายที่ไม่ว่าใครก็รู้ว่านี่คือเธอ ปีกมังกรสี่คู่บนหลังของเธอได้กางออกมาเป็นภาพที่ดูยิ่งใหญ่มากๆ ทุกๆคนต่างก็สัมผัสได้ถึงระบพลังที่ยิ่งใหญ่และมานาจากเธอ
[8 ปีก…]
[นี่ นี่มันโกหก นี่ไม่ใช่ท่านหญิงยูเรียล เธอยังไม่ใช่คลาส 8 เลย นี่คือมังกร! ไม่มีทางที่ปีกของมังกรจะแทนในระดับพลังได้]
“ฉัน”
น้ำเสียงเมินเฉยของยูเรียลได้ดังขึ้นมาทลายทุกๆความกังขาและสงสัย
“คือยูเรียล อดีตหนึ่งในสี่ยอดเทวทูต และในตอนนี้คือมังกรคลาส 8 ฉันมาที่นี่เพื่อพิสูจน์ว่าไม่มีพระเจ้าอยู่แล้ว พระเจ้าสวรรค์ไม่มีทางเป็นผู้สร้าง เขาไม่ใช่ผู้ปกครองที่ดี เขามันก็แค่ทรราชที่คิดจะลบทุกๆโลกและสร้างสวนตุ๊กตาขึ้นมา”
[ไม่ นี่มันไม่จริง!]
[ไม่มีทาง… ขอร้องล่ะท่านหญิงยูเรียล!]
[ได้โปรดบอกเราว่ามันไม่จริง! โอ้ ขอร้องล่ะ!]
เมื่อใดก็ตามที่ยูเรียลพูดออกมาก็จะเห็นทูตสวรรค์ต่างก็ดิ้นรนอยู่เต็มไปหมด พวกเขาไม่อาจจะปฏิเสธในตัวยูเรียลได้อีกแล้ว และแม้กระทั่งทูตสวรรค์ระดับสูงหรือเทวทูตก็ยังไม่คิดจะเข้ามาโจมตีเธอ
ยูอิลฮานคิดว่านี่คงเป็นเวลาสำหรับที่จะเพลิดเพลินไปกับป็อบคอร์นแล้ว
“การเฝ้ามองนี่มันดูน่าสนใจจริงๆ”
“ฉันก็คิดแบบที่รักเลย”
“อ๊า แบบนี้ฉันคงจะทรุดแน่…”
“ฉันรู้สึกเหมือนกับเราเป็นคนชั่วเลยนะ!”
ยังไงก็ตามการโจมตีจิตใจของยูเรียลเพียงแค่เพิ่งเริ่มเท่านั้น
“ช่วยฟังที่ฉันพูดก่อน หัวหน้าแห่งดราก้อนเนส ยูอิลฮานที่พวกนายเห็นตรงนี้คือชายที่หยาบคาย หยิ่งยโส ทะนงตัง แต่ว่าเขาก็คือคนที่พยายามจะปกป้องทุกๆคนที่รับใช้เขา เพราะแบบนั้นเขาถึงควรค่าที่จะรับใช้ไงล่ะ!”
“บ้าอะไรล่ะนั่น!”
การโจมตีจิตใจของเธอมันร้ายแรงเอามากๆ! ยังไงก็ตามยูเรียลก็ไม่ได้สนใจสายตายูอิลฮานเลย เธอได้พูดต่อไป
“เราต้องทนกับความเศร้ากันมาอย่างยาวนาน และเฝ้าดูชีวิตนับไม่ถ้วนที่ได้เสียสละไป คำสั่งได้ถูกทำลายไปแล้วพร้อมๆกับกฏที่พังทลายลง พระเจ้ากำลังจะนำหายนะมาตามใจของเขาเอง!”
ยูเรียลได้มองไปหายูอิลฮาน ยูอิลฮานที่เข้าใจในสิ่งที่เธอบอกก็ได้หยิบเอาร่างของเร็กน่าออกมาจากช่องเก็บของ วงแหวนที่ผิดรูปกับปีกแปลกๆที่ทำให้คนต้องกลืนน้ำลายได้โผล่ขึ้นมา ถึงแม้ว่าจะไม่มีใครที่มีสกิลบันทึกเลย แต่ว่าพวกเขาก็สามารถจะประเมินจากพลังที่มีอยู่ในร่างเร็กน่าและรู้ได้ว่ามันถูกสร้างขึ้้นมายังไงได้
น้ำเสียงของยูเรียลได้แสดงความโกรธขึ้นมาเมื่อมองไปที่เร็กน่า
“นี่แหละคือกองทัพของพระเจ้าสวรรค์ พวกเรา… ถูกทอดทิ้งไปแล้ว เขาไม่เคยเป็นผู้สร้างเลย เขาร้องขอให้เราเสียสละเพื่อสิ่งที่ดีกว่า แต่ว่าในหัวของเขาสิ่งที่ดีกว่านั่นมันก็คือผลประโยชน์ความปราถรนาของตัวเขาเอง! ทูตสวรรค์แห่งกองทัพสวรรค์เอ๋ยฟังคำพูดของฉัน…!”
ดวงตาของยูเรียลได้เริ่มมีประกายน้ำตาออกมา ในด้านการแสดงเธอสมควรที่จะได้รับรางวัลในด้านนี้เลย
“ได้โปรดอย่าเสียสละอย่างไร้ค่าอีกต่อไปเลย การมายืนเคียงข้างท่านผู้ปกครองที่เยาวัยคนนี้จะช่วยเราในการปกป้องโลกที่น่ารัง… โอ้โลกที่สวยงาม!”
“เฮ้ๆ ฉันรู้นะว่าเธอคิดจะพูดอะไร”
ยูเรียลได้เมินคำพูดของยูอิลฮานไปอีกครั้งและเช็ดน้ำตาบนใบหน้าออกไป เพราะแบบนี้ทำให้โลกใบนี้ได้กลับคืนสู่ความสงบชั่วคราว เพลิงจากพลังของยูอิลฮานยังคงมีอยู่แต่ว่าทูตสวรรค์ไม่ได้ปฏิเสธเพลิงเหล่านี้อีกแล้ว
ความจริงใจจากยูเรียลได้ส่งไปถึงพวกเขางั้นหรอ? มีทูตสวรรค์ทีละนิดๆสลัดความลังเลทิ้งไปและเข้ามาหาพวกยูอิลฮาน แต่แน่นอนว่ายูอิลฮานไม่อาจจะบรรลุเป้าหมายของเขาได้ง่ายๆแน่
[ถึงจะเป็นแบบนั้นฉันก็ไม่ยอมรับ]
น้ำเสียงที่ดึงสติของทุกๆคนได้ดังขึ้นไปทั่วทั้งน่านฟ้า ยูอิลฮานได้เงยหน้าขึ้นด้วยความรู้สึกได้ว่าตอนนี้ถึงตาเขาแล้ว
เขามาแล้ว หนึ่งในผู้ควบคุมเพลิง และเป็นคนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกใบนี้รองจากพระเจ้า
“ฉันรู้อยู่แล้วว่านายจะมาในเวลาแบบนี้แหละ”
[ฉันไม่คิดเลยนะว่านายจะเข้ามาสวรรค์โดยไร้ความกลัวแบบนี้ ยังไงก็ตามยูอิลฮานนายไม่รู้หรอว่าที่นี่คือที่ที่มีพลังสวรรค์มากที่สุดน่ะ? นายคิดว่าฉันจะเข้ามาทะเลาะกับนายโดยไร้เหตุผลงั้นหรอ?]
มิคาเอลด้อยกว่ายูอิลฮานในทุกๆด้าน เพลิงของเขาทั้งหมดต่างก็เชื่อฟังยูอิลฮานและอาร์ติแฟคทั้งหมดของเขาก็ไม่ได้กับยูอิลฮานที่มีเศษเสี้ยงพลังในการสร้างอยู่
ยังไงก็ตามที่นี่คือสวรรค์ที่ที่มีพลังของพระเจ้าปกครองอยู่มันจะต่างออกไป ด้วยฉายา ‘ตัวแทนพระเจ้า’ ทำให้มิคาเอลคือผู้ที่ครอบครองในเศษเสี้ยวพลังของพระเจ้ามากที่สุดและครอบครอบพลังและมานาที่เทียบได้กับหัวหน้ากองกำลังต่างๆ
ยังไงก็ตามถึงจะรู้ถึงพลังนี้สีหน้าของยูอิลฮานก็ยังคงสงบอยู่
“ถ้านายจะมาแค่ทะเลาะกับฉัน ฉันก็คงจะผิดหวังมากเลยล่ะ นายคือคนที่มีชีวิตจนฉันไม่อาจจะคำนวนได้เลยนะเพราะงั้นมันไม่มีทางที่นายจะแค่มาทะเลาะต่อยตีกับฉันอยู่แล้ว”
[ทั้งๆที่รู้แบบนั้นนายยังจะมาอีกหรอ? ต่อให้จะมากับคนทรยศก็ตาม….!]
สายตาที่มิคาเอลได้มองไปที่ยูเรียลได้เรืองแสงแปลกๆออกมา จากสายตาที่จ้องนี้ของมิคาเอลทำให้ยูอิลฮานรู้ได้ทันทีว่ามันต้องไม่ใช่แค่ความสัมพันธ์ง่ายๆแน่
[การที่เธอยูเรียลอยู่ที่นี่มันก็หมายความว่ากาเบรียลก็เป็นคนทรยศเหมือนกัน! ดี กาเบรียล! เขาคือคนที่นำสวนอาทิตย์อัสดงงั้นสินะ! พวกเธอทั้งสองคนหลอกลวงกองทัพสวรรค์ โลกใบนี้ และแม้กระทั่งบันทึกนภา!]
“เป็นนายต่างหากที่หลอกพวกเรา ทำไมนายถึงเปลื่ยนไปล่ะ? ในตอนที่เราประกาศกันว่าจะปกป้องโลกใบนี้ด้วยพลังของเราและประกาศว่าพระเจ้าทำผิด! นายคือคนที่เปล่งประกายและบริสุทธิ์ที่สุดเชียวนะ!”
ยูเรียลได้ตะโกนออกมา ทูตสวรรค์ทุกๆคนต่างก็มองมาที่มิคาเอล ทูตสวรรค์ทุกๆคนได้คำตอบในสิ่งที่ต้องการมาแล้ว
[ฉันก็เป็นแบบนี้มาตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว]
มิคาเอลได้พูดออกมา
[แน่นอนว่าพระเจ้าได้เดินไปในทางที่ผิด ฉันได้หันหลังให้กับเขาเผื่อปกป้องศักดิ์ศรีของเขา แล้วก็ใช่เรื่องนั้นฉันก็ยังไม่ได้เปลื่ยนไปหรอกนะ ฉันจะต้องปกป้องโลกให้ได้เหมือนกัน]
“งั้นแล้วทำไมกันล่ะ!”
[และฉันจะยืนเหนือพระเจ้าไงล่ะ]
“นั่นมัน….อะไรกัน?”
ยูเรียลได้ถามกลับไป ในตอนนี้ร่างกายของมิคาเอลได้ถูกหุ้มด้วยแสงสว่างที่ลึกลับ
[หลังจากได้แข่งขันกับสิ่งมีชีวิตที่ไร้ค่านั่นฉันได้ตรัสรู้มาแล้ว ฉันได้รู้ถึงพลังที่ฉันต้องการและได้รับมันมาแล้ว เพราะแบบนี้ฉันได้เป็นคนใหม่แล้ว ใช่ตอนนี้ตอนที่ทุกๆคนมองมาที่ฉัน มันคือเวลาที่เหมาะเลย]
“มิคาเอล…?”
ยูเรียลได้ตื่นตระหนกขึ้นมาแล้ว ในสถานการณ์แบบนี้เธอไม่มีคำพูดที่จะไปขัดขวางความบ้าคลั่งของมิคาเอลเลย! ยังไงก็ตามหลังจากมองดูมิคาเอลยูอิลฮานได้ยิ้มกว้างออกมา
“เยี่ยม ตอนนี้มันสำเร็จแล้ว”
“อะไรสำเร็จหัวหน้า?”
[ฉันจะหยุดการเป็นทูตสวรรค์ยูเรียล! ฉันจะอยู่เหนือยิ่งกว่าเพลิงและกลายเป็นแสงสว่าง! ฉัน คือ พระเจ้า!]
มิคาเอลได้เปล่่งแสงที่แสบตาออกมา ก็อย่างที่เขาพูดเพลิงรอบๆตัวเขาได้อ่อนจากลงจนเป็นแสงสว่าง
ทุกๆคนรู้แล้ว นี่มันไม่ใช่แค่พลังเวย์เพียงอย่างเดียว นี่มันคือปรากฏการณ์ที่จะเกิดขึ้นเมื่อสิ่งมีชีวิตก้าวเข้าสู่ขั้นใหม่ของพลัง
ในตอนนี้มิคาเอกำลังไปถึงตำแหน่งพระเจ้าจากการที่ทำหน้าที่เป็นตัวแทนพระเจ้ามานาน เขาได้รับพระของพระเจ้า ดูดบันทึกที่จำเป็นสำหรับเขาเข้ามาทั้งหมดและไปถึงระดับพลังของเทพแล้ว!
[พระเจ้าที่พวกเธอต้องการอยู่ตรงนี้แล้ว พวกเธอไม่จจำเป็นตัองสงสัย ไม่ต้องกังวล พวกเธอจะติดตามฉันไป!]
ปีกแห่งแสงได้งอกขึ้นมาจากหลังของมิคาเอล นี่คือภาพที่ทรงพลังมาก คนที่ตระหนักถึงความไร้พลังของตัวเองกำลังพัฒนาขึ้น…
นี่คือสิ่งที่มีแค่ตัวเองเท่านั้นที่ทำได้นะ! ถ้างั้นยูอิลฮานก็ไม่ใช่ตัวเอกน่ะสิ!?
“หัวหน้า ทุกๆอย่างพังไปหมดแล้ว! เราต้องหนี!”
“หนีอะไรกัน นี่มันยิ่งง่ายขึ้นที่จะแยกระหว่างมิตรกับศัตรู”
ยังไงก็ตามยูอิลฮานก็ยังคงใจเย็นเหมือนอย่างเคย สายตาของเขาที่มองไปที่มิคาเอลที่กำลังทะลวงขั้นพลังใหม่ดูเหมือนกับเด็กสาวที่กำลังอยู่ในความรัก
“ฉันกลัวว่าเราจะทนไม่ไหวเพราะความอ่อนแอซะอีก แต่ดูนี่สิ ฉันโล่งใจสุดๆเลย อย่างน้อยเขาก็ไม่ได้ตายไปก่อนที่ฉันจะได้ฆ่าเขา”
ความใจเย็นของยูอิลฮานราวกับความกังวลของยูเรียลไม่มีค่าเลย!
“…หัวหน้า นี่ท่านมีอะไรที่กลัวไหมเนี้ย?”
“แน่นอนว่ามีสิ ตอนแม่ฉันโกรธก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่ฉันกลัวนะ เพราะงั้นอย่าไปยั่วพ่อฉัน โอเคนะ?”
“…”
ยูเรียลได้เลิกที่จะทำความเข้าใจแล้ว ในตอนนี้เองมิคาเอลก็ได้ถือหอกแสงชี้มาที่ยูอิลฮาน ในเวลาเดียวกันยูอิลฮานก็สร้างหอกเพลิงทำแบบนี้เดียวกันอย่างสบายใจ
[ฉันจะฆ่านายเพื่อนำความระเบียบมาสู่จักรวาล!]
“ถ้าคำพูดมันฆ่าคนได้ฉันคงตายไปเป็นพันๆครั้งแล้ว! ทำไมนายถึงไม่มาทำมันจริงๆซักทีล่ะ!?”
[ได้เลย! ตายซะยูอิลฮาน!]
หอกทั้งสองเล่มได้ปะทะกันแล้ว นี่คือการต่อสู้ของสองผู้ที่มีพลังในระดับเทพ