Extraordinary Genius อัจฉริยะเหนือชั้น - ตอนที่ 631
EG บทที่ 631 เดินทางกลับประเทศจีน
แม้ว่าแบรนด์จากบริษัทอื่นๆได้แย่งส่วนแบ่งทางตลาดของเฝิงหยู่ไป แต่เฝิงหยู่ก็ไม่ได้รีบเร่งอะไรทุกๆอย่างยังคงดำเนินตามปกติ อัตราการผลิตยังเท่าเดิม แม้ว่ายอดขายจะไม่ได้ลดลงมากนักแต่ก็ยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง
เมื่อแบรนด์อื่นๆเห็นว่าวินด์แอนด์เรนอิเล็กทรอนิกส์ไม่ได้นำผลิตภัณฑ์ใหม่เช่น Super VCD วางขายในท้องตลาดและดำเนินการทุกอย่างไปตามกลไกตลาดเท่านั้น บริษัททั้งหมดจึงพยายามแข่งขันเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีดีวีดีขึ้นมาและหากพวกเขาทำสำเร็จพวกเขาอาจครองตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าได้ทันที
โทมัสยังคงเอ่ยถามเฝิงหยู่ว่าพวกเขาต้องรอไปอีกนานเพียงใด? ไลน์การผลิตทั้งหมดก็ได้ทำการปรับปรุงเป็นที่เรียบร้อยและรายละเอียดในการใช้เทคโนโลยีที่วินด์แอนด์เรนมอบให้ก็เข้าใจแทบทุกขั้นตอน พวกเขาสามารถเริ่มผลิต Super VCDได้ทุกเวลา
เฝิงหยู่บอกให้เขารอไปอีก 1-2 เดือนก่อนที่จะนำเครื่องเล่น Super VCDวางขายในท้องตลาด ซึ่งตอนนี้พวกเขาต้องพัฒนาเครื่องเล่นดีวีดีต่อไปโดยเป้าหมายคือการเปิดตัวเครื่องเล่นดีวีดีหลังจากวางขายSuper VCDไปแล้วประมาณ 2 ปี
วินด์แอนด์เรนอิเล็กทรอนิกส์กำลังมุ่งพัฒนาออปติคัลไดร์ฟของเครื่องเล่นดีวีดี [1] ในส่วนของออปติคัลไดร์ฟของเครื่องเล่นวีซีดียังถืออยู่ในเกณฑ์ดีแต่มันก็ยังดีไม่พอ ออปติคัลไดร์ฟที่ใช้กับLenovo สามารถอ่านข้อมูลจากแผ่นดิสก์ได้อย่างเดียวและไม่สามารถเขียนข้อมูลใดๆลงในแผ่นดิสก์ได้
เฝิงหยู่ต้องการออปติคัลไดร์ฟที่มีคุณสมบัติในการจัดเก็บข้อมูลลงแผ่นดิสก์ได้ ด้วยสาเหตุนี้ออปติคัลไดร์ฟที่พวกเขาพัฒนาขึ้นมาจะเข้ามาแทนที่ฟลอปปี้ดิสก์ได้ หากเฝิงหยู่สามารถผูกขาดตลาดนี้ได้สำเร็จผู้ผลิต PCทุกเจ้าจะต้องมองหาวินด์แอนด์เรนอิเล็กทรอนิกส์เพื่อร่วมมือกัน เขาจะสามารถทำกำไรได้สูงขึ้น
แน่นอนว่าเฝิงหยู่ต้องการให้PCของLenovoเป็นเจ้าแรกที่จะได้ใช้ออปติคัลไดร์ฟชนิดนี้ มันจะทำให้Lenovoได้รับส่วนแบ่งทางตลาดมากขึ้นและมูลค่าแบรนด์ก็เพิ่มสูงขึ้น ท้ายที่สุดเขาก็จะเข้าไปร่วมทุนกับบริษัทนี้
แล้วLenovoจะมีการอนุญาตให้ใช้สิทธิบัตรของพวกเขาหรือเปล่า? แน่นอนว่าพวกเขาไม่มีทางทำเช่นนั้นแต่เฝิงหยู่ก็เต็มใจที่จะยอมแลกเปลี่ยนสิทธิบัตรเพื่อให้ได้หุ้นเพิ่มเติม Lenovoจะไม่ปฏิเสธข้อเสนอนี้ เนื่องจากมันเป็นโอกาสของพวกเขาที่จะเข้าสู่ตลาดโลก ทั้งมูลค่าแบรนด์และผลกำไรของพวกเขาก็จะสูงขึ้น พวกเขาอาจต้องยอมแลกเปลี่ยนในบางอย่างเพื่อผลลัพธ์ที่ดีขึ้น
แม้ว่าLenovoจะไม่ต้องการแลกเปลี่ยนสิทธิบัตรแต่เฝิงหยู่ก็สามารถจัดการด้วยเงินสดได้ ตราบใดที่Lenovoยินดีจะขายหุ้นของพวกเขา เฝิงหยู่ก็พร้อมจะซื้อมันทันที! ไม่เพียงแต่แบรนด์และเทคโนโลยีของLenovoเท่านั้นที่สำคัญ หลิวฉวนซีก็มีความสำคัญเช่นกันเฝิงหยู่รู้สึกว่าหลิวฉวนซีสำคัญยิ่งกว่าLenovoเสียอีก
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วจนย่างเข้าเดือนมิถุนายน ในฐานะนักศึกษาแลกเปลี่ยนเฝิงหยู่ได้จัดการทำงานที่ได้รับมอบหมายและทำข้อสอบแบบง่ายๆเท่านั้น เขาไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับงานอื่นๆที่เหลือ
ในวันหยุดเมื่อช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาหลี่นาไม่ได้เดินทางมาที่ฮ่องกงเพราะเฝิงหยู่จะเดินทางกลับประเทศจีนและเขาจะมุ่งหน้าไปหาเธอทันที ตอนนี้มันเป็นช่วงการเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 3ของพวกเขาและพวกเขาต้องทำกิจกรรมและวิชาเรียนที่ต้องเข้าร่วมมากมาย เฝิงหยู่ตั้งใจจะจัดการทุกอย่างให้เสร็จสิ้นและเดินทางกลับปักกิ่งให้ไวที่สุด
ในฐานะนักศึกษาแลกเปลี่ยนที่โดดเด่นที่สุดซึ่งใช้เวลาในการเรียนมหาวิทยาลัยฮ่องกงถึง 2 ภาคเรียนและเป็นนักศึกษาที่ได้รับการดูแลเป็นพิเศษของมหาวิทยาลัยปักกิ่งทำให้เฝิงหยู่ไม่ได้ทิ้งความประทับใจในตัวตนของเขาให้แก่มหาวิทยาลัยฮ่องกงมากนัก มันเป็นเพราะเขาโดดเรียนอยู่บ่อยครั้ง
วิชาที่เฝิงหยู่เข้าเรียนบ่อยที่สุดคือวิชาของศาสตราจารย์เหลียง เขาไม่สามารถตกลงรับศาสตราจารย์ เหลียงเข้าร่วมงานได้แต่โชคดีที่ศาสตราจารย์เหลียงตกลงที่จะช่วยเหลือเขาหากต้องเผชิญหน้ากับนักล่าทางการเงินจากต่างประเทศในอนาคตข้างหน้า
กำไรที่ถือว่าได้มากที่สุดสำหรับเฝิงหยู่จากการเดินทางมาฮ่องกงในครั้งนี้คือการได้รู้จักกับกลุ่มนักธุรกิจผู้ร่ำรวยซึ่งเป็นรุ่นที่2ของฮ่องกง กลุ่มคนเหล่านี้บางส่วนก็เก่งตามเกณฑ์ปกติและบางส่วนก็เก่งจนโดดเด่นออกมาเฉกเช่นหลี่เซเค่ย กลุ่มคนเหล่านี้จะเป็นคอนเนคชั่นที่ดีของเขาและสามารถให้ความช่วยเหลือเขาได้ในอนาคต
เฝิงหยู่เล็งเห็นว่าหลี่เซเค่ยเป็นคนเก่งมีความสามารถ อย่างน้อยก็เก่งกว่าเขาเพราะเขานั้นเป็นคนขี้เกียจเป็นอย่างมาก!
เฝิงหยู่คิดอยู่เสมอว่าคนอื่นๆสามารถทำงานให้เขาได้ ทำไมเขาต้องลงแรงเองล่ะ? หลายๆคนอยากได้ตำแหน่งสูงๆโดยเฉพาะระดับบริหารบริษัท ก็คงเพราะพวกเขาสามารถเพลิดเพลินไปกับการใช้ชีวิตในจุดที่อยู่เหนือกว่าใครและสามารถตัดสินใจจัดการได้ทุกเรื่องโดยไม่ต้องผ่านใคร
มันย่อมต่างจากเฝิงหยู่ การที่เขาต้องการยืนอยู่ในตำแหน่งสูงๆของบริษัทก็เพราะต้องการหารายได้เข้ากระเป๋าให้มากที่สุดและตรวจสอบให้แน่ใจว่าบริษัทต่างๆกำลังมุ่งหน้าไปในทิศทางที่ถูกต้อง
เขาเป็นคนใจกว้างและยินดีที่จะปันหุ้นให้กับพนักงานในระดับผู้จัดการหรือระดับบริหารอื่นๆเพื่อให้พวกเขาทำหน้าที่ในการบริหารบริษัทได้อย่างมีประสิทธิภาพ เขาไม่เคยเข้าไปยุ่งกับการจ้างงานของพนักงานระดับกลางนอกเหนือไปจากตำแหน่งงานที่รับผิดชอบด้านการเงิน
แม้แต่บริษัทอย่างหลี่ฮาฮาและองค์กรยาเมืองปิง เขาก็ตัดสินใจซื้อหุ้นในบริษัทเหล่านี้และคอยให้คำแนะนำอยู่ห่างๆ เขาไม่ใช่คนตัดสินใจในขั้นตอนสุดท้ายของทั้งสองบริษัท แต่ยิ่งเฝิงหยู่ทำแบบนี้คนอื่นยิ่งยินดีที่จะฟังคำแนะนำจากเขา เพราะทุกคนรู้ว่าสิ่งที่เฝิงหยู่แนะนำออกไปเป็นสิ่งที่ถูกต้องเสมอ
หลังจากได้ฟังคำแนะนำของเฝิงหยู่ บริษัทก็เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว แม้ว่าเฝิงหยู่จะลงทุนในบริษัทเหล่านี้และแบ่งกำไรออกไปใช้บ้างส่วนแต่มันก็เป็นสิ่งที่คุ้มเพราะกำไรโดยรวมสูงขึ้นจากแต่ก่อน
ความเชี่ยวชาญในด้านการลงทุนทางการตลาดของเฝิงหยู่ที่ได้เรียนรู้จากมหาวิทยาลัยนั้นยังไม่เพียงพอหากเทียบกับนักธุรกิจรุ่นที่2ผู้ร่ำรวยเหล่านี้เพราะพวกเขาต่างคร่ำหวอดในวงการนี้จนวิชาแก่กล้า แต่เฝิงหยู่ก็ยังมอบสิ่งที่ตนรู้เกือบทุกๆอย่างให้แก่คนอื่น ตั้งแต่เทคนิคการจัดหาวัตถุดิบ ขั้นตอนการผลิตและกลยุทธ์ทางการขาย สิ่งที่เขาทำเป็นเพียงการให้คำแนะนำในการกำหนดทิศทางทั่วไปของการบริหารในบริษัทและการลงทุนในบริษัทอื่นๆเท่านั้น
ในชีวิตครั้งก่อนของเฝิงหยู่ นักธุรกิจชั้นนำหลายๆคนไม่ได้ทำเพียงแค่ลงทุนในบริษัทตัวเองหรือผลิตสินค้าเพียงชนิดเดียว แม้แต่บิลล์เกตก็เป็นเจ้าของหุ้นส่วนของบริษัทอื่นๆอีกมากมาย
กลุ่มบริษัทจำนวนมากไม่ได้มุ่งเน้นไปที่อุตสาหกรรมใดอุตสาหกรรมหนึ่ง พวกเขาจะกระจายธุรกิจของพวกเขาไปในหลายๆอุตสาหกรรม เช่นเดียวกับ Lenovoเมื่อในชีวิตก่อนของเฝิงหยู่ พวกเขาเริ่มต้นจากบริษัทซอฟต์แวร์และเริ่มกระจายธุรกิจไปยังธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจร้านสะดวกซื้อ คอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ เครื่องแต่งกายและอุตสาหกรรมอาหาร
มันย่อมมีประโยชน์ต่อนักธุรกิจหากพวกเขาทำเช่นนี้ หากธุรกิจใดธุรกิจหนึ่งไปไม่ได้สวยก็ยังมีธุรกิจอื่นๆที่ยังสร้างกำไรให้กับพวกเขาได้ แต่ข้อเสียของการทำเช่นนี้คือการลงทุนในการจัดหาทรัพยากรต่างๆก็มีความหลากหลายเช่นกันส่งผลให้บริษัทนั้นๆไม่ได้รับประโยชน์สูงสุดในทุกๆอุตสาหกรรมที่พวกเขาเลือกลงทุน
การลงทุนของเฝิงหยู่ไม่ได้มีส่วนต้องกังวลในประเด็นดังกล่าวเพราะการลงทุนของเขาถูกแยกออกจากกันอย่างเป็นระบบ
นอกเหนือไปจากวินด์แอนด์เรนอิเล็กทรอนิกส์แล้ว เขาไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับแบรนด์อื่นๆของเขาเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นไท้หัว ไอว่า หลี่ฮาฮา ซงเจียงมอเตอร์ ซิกเซ้นส์ บริษัทเหล่านี้อาจมีความเกี่ยวข้องกันแต่ยังคงเป็นบริษัทที่แยกสายกันไปคนละอุตสาหกรรม
เฝิงหยู่สามารถทำกำไรได้มากจากทุกบริษัทที่เขาลงทุน ความร่ำรวยของเขาจะเพิ่มขึ้นในอัตราที่น่าตกใจ ไม่มีใครรู้ว่าเงินเก็บของเฝิงหยู่มีจำนวนเท่าไหร่? บุคคลเพียงคนเดียวที่รู้ว่าเงินเขามีมากเท่าไหร่ก็คงจะมีแต่ตัวเขาเองเท่านั้นที่รู้
เมื่อเขารวบรวมทรัพย์สินที่เขามีเข้าด้วยกันได้หมดเมื่อไหร่ เมื่อนั้นก็เป็นเวลาที่เขาจะกล้าแกร่งขึ้น ถึงตอนนั้นเขาคงมีเงินมากกว่า 10 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐ เขาจะสามารถตั้งตระหง่านอยู่ได้แม้เกิดวิกฤติการทางการเงินและอาจเข้าเทคโอเวอร์ได้หลายๆบริษัทเมื่อถึงเวลานั้น
เฝิงหยู่รีบเดินทางกลับปักกิ่งทันทีที่สอบวิชาสุดท้ายเสร็จ ถึงเวลาแล้วที่วินด์แอนด์เรนอิเล็กทรอนิกส์จะก้าวต่อไปอีกขั้น!
[1]ออปติคัลไดร์ฟ/Optical Drive เป็นชื่อเรียกแบบทางการ สำหรับตัว Optical Drive ทำหน้าในการอ่าน และเขียนข้อมูลจาก CD/DVD ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นแผ่น เพลง วีดีโอ หรือแม้กระทั่งข้อมูลต่างๆ? โดยใช้เทคโนโลยีของแสงเลเซอร์