Extraordinary Genius อัจฉริยะเหนือชั้น - ตอนที่ 632
EG บทที่ 632 โปรโมชั่น 1
ในเวลานี้แบรนด์เครื่องเล่นวีซีดีจากทุกๆแบรนด์ได้ปรากฏโฉมทั่วทุกมุมโลก ตลาดVHSหรือเครื่องเล่นเทปวีดีโอเริ่มหดตัวลดลง ผู้ผลิตหลายเจ้าเริ่มขาดทุน บางแบรนด์ใหญ่ๆก็ตัดสินใจที่จะหยุดผลิตเครื่องเล่นเทปวีดีโอเพราะพวกเขาได้รับใบอนุญาตให้ผลิตเครื่องเล่นวีซีดีได้
บริษัทเล็กๆต่างตกอยู่สถานการณ์เหมือนโดนระเบิดโจมตี พวกเขาต่างพยายามขายเครื่องเล่นเทปวีดีโอให้ได้แต่ไม่มีใครคิดที่จะซื้อมัน สิ่งนี้เหมือนกับตอนที่โทรศัพท์มือถือเริ่มวางตลาด เหล่าผู้บริโภคก็ไม่ต้องการที่ซื้อวิทยุพกพาอีกต่อไป
เมื่อบริษัทเหล่านี้ต่างพยายามหาทางออกเพื่อปกป้องเงินทุนของตนเอง วินด์แอนด์เรนอิเล็กทรอนิกส์ก็ได้ทำในสิ่งที่ทุกคนต่างคาดไม่ถึง!
เครื่องเล่นวีซีดีวินด์แอนด์เรนจัดโปรโมชั่นลดราคา!
วินด์แอนด์เรนอิเล็กทรอนิกส์เป็นผู้คิดค้นเครื่องเล่นวีซีดีขึ้นมาและราคาเริ่มต้นก็ถูกกำหนดโดยพวกเขา หลังจากออกใบอนุญาตให้กับบริษัทอื่นๆจนพวกเขาสามารถผลิตวีซีดีวางขายในท้องตลาดได้ วินด์แอนด์เรนอิเล็กทรอนิกส์ก็ยังคงขายเครื่องเล่นวีซีดีในราคา 3,000 หยวน
โซนี่และบริษัทอื่นๆต่างพากันหัวเราะในสิ่งที่วินด์แอนด์เรนอิเล็กทรอนิกส์ทำ คุณคิดว่าวินด์แอนด์เรนอิเล็กทรอนิกส์ของคุณเป็นบริษัทใหญ่ใช่มั้ย? มูลค่าแบรนด์ของคุณจะสูงเท่ากับโซนี่ได้งั้นหรือ? คุณสามารถล้มเหลวได้ถ้าคุณพยายามใช้ประโยชน์จากแบรนด์ของคุณเพื่อสร้างผลกำไรแบบไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม
นี่คือความจริง ยอดขายของเครื่องเล่นวีซีดีวินด์แอนด์เรนเริ่มลดลงเรื่อยๆ เมื่อ‘โนริโอะ โอกะ’จากโซนี่รู้เรื่องนี้เข้าก็ดีใจเป็นอย่างมาก คุณคิดว่าคุณสามารถขายเครื่องเล่นวีซีดีในราคาสูงแบบนี้ได้เพราะเป็นเจ้าแรกที่ผลิตเครื่องเล่นวีซีดีออกมาหรือไง? คุณเสียใจหรือไม่ที่การตั้งราคาสูงๆทำให้คุณประสบความล้มเหลว?
แต่ตอนนี้! วินด์แอนด์เรนอิเล็กทรอนิส์ได้ประกาศจัดโปรโมชั่นลดราคาเครื่องเล่นวีซีดีลง มันเป็นการลดราคาครั้งยิ่งใหญ่! ราคาขายปลีกเครื่องเล่นวีซีดีลดลงเหลือเพียง 1,999 หยวนจากราคา 3,000หยวน ในขณะที่บริษัทอื่นๆขายเครื่องเล่นวีซีดีในราคาที่มากกว่า 2,000 หยวน
หมายความว่าเครื่องเล่นวีซีดีวินด์แอนด์เรนจะมีราคาถูกกว่า 200-300 หยวน!
ในขณะเดียวกันไอว่าวีซีดีก็ประกาศลดราคาด้วยเช่นกัน! บริษัทอื่นๆต่างตกตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ผู้บริโภคจะไม่ซื้อเครื่องเล่นวีซีดีของพวกเขาถ้าแบรนด์ของเฝิงหยู่จัดโปรโมชั่นลดราคา!
ในปีนี้เงินหยวนอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ ปีที่แล้วเงินหยวนเทียบกับเงินดอลล่าร์อยู่ที่ 5.8: 1 แต่ตอนนี้เป็น 8.2: 1 ย่อมหมายความว่าค่าธรรมเนียมในการใช้ใบอนุญาต50ดอลล่าร์จะเท่ากับ 400 หยวน!
ราคาขายปลีกของเครื่องเล่นวีซีดีวินด์แอนด์เรนและเครื่องเล่นวีซีดีแบรนด์อื่นๆมีความแตกต่างอยู่ประมาณ 400 หยวน ทำให้บริษัทอื่นๆต่างหัวเสียกับสิ่งทีเกิดขึ้น วินด์แอนด์เรนอิเล็กทรอนิส์ทำเกินไปแล้ว! เมื่อพวกเขาลดราคาขายปลีกลงบริษัทที่เหลือก็ต้องทำตาม! พวกเขาต้องลดราคาขายปลีกเหลือประมาณ 1,600 หยวน โดยต้นทุนการผลิตอยู่ที่ 800 หยวนและค่าธรรมเนียมอีก 400 หยวน รวมเป็นต้นทุนผลิต1,200หยวน ทำให้พวกเขาเหลือกำไรไม่มากนัก! กำไรส่วนใหญ่ถูกพรากไปจากพวกเขาเพราะวินด์แอนด์เรนอิเล็กทรอนิกส์!
สิ่งที่น่าผิดหวังที่สุดคือวินด์แอนด์เรนอิเล็กทรอนิกส์ไม่ได้ลดราคาขายปลีกทันทีที่พวกเขาออกใบอนุญาตให้กับบริษัทอื่น หากวินด์แอนด์เรนอิเล็กทรอนิกส์ลดราคาลงตั้งแต่แรกก่อนที่บริษัทอื่นๆจะขยายโรงงานการผลิตออกไป พวกเขาก็จะไม่เจ็บตัวมากนัก ตอนนี้บริษัทต่างๆได้สั่งเพิ่มการผลิตแต่กำไรกลับลดลง มันยากที่พวกเขาจะอยู่รอดในสถานการณ์เช่นนี้
เฝิงหยู่ยังคงรอและรักษาราคาขายปลีกในราคาปกติของเขาเอาไว้ เขาต้องการรอจนกระทั่งบริษัทใหญ่ๆพวกนั้นขยายโรงงานการผลิตของพวกเขาและนำออกมาวางจำหน่ายในท้องตลาดเป็นจำนวนมาก เมื่อถึงเวลานั้นเขาก็ลดราคาเครื่องเล่นวีซีดีของเขาลง เขาต้องการฉวยโอกาสแบบนี้เอาไว้!
แน่นอนว่าเฝิงหยู่ต้องรู้ว่าต้นทุนการผลิตเครื่องล่นวีซีดีเป็นเท่าไหร่? ในสมัยก่อนต้นทุนการผลิตที่วินด์แอนด์เรนอิเล็กทรอนิกส์ใช้ผลิตเครื่องเล่นวีซีดีมากกว่า 1,000 หยวน แต่เมื่อขนาดโรงงานขยายใหญ่ขึ้น คนงานมีการฝึกอบรมจนเชี่ยวชาญและประสิทธิภาพของเครื่องจักรต่างๆก็ดีขึ้นทำให้ต้นทุนการผลิตต่อหนึ่งเครื่องเหลือประมาณ600หยวน สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่ากำไรของเฝิงหยู่ต้องสูงกว่าบริษัทอื่นๆ ต้นทุนการผลิตของบริษัทอื่นๆควรมากกว่า 1,000 หยวนเหมือนที่เขาเคยประสบมา
บริษัทพวกนี้เพิ่งขยายโรงงานของพวกเขา คนงานก็ยังไม่คุ้นเคยกับกระบวนการผลิต เทคนิคสำคัญๆบางอย่างเฝิงหยู่ก็ไม่ได้ขายให้พวกเขาไปซึ่งสิ่งเหล่านี้จะทำให้ต้นทุนการผลิตของพวกเขายังอยู่ในระดับสูง อันที่จริงแล้วมันยังถืออยู่ในเกณฑ์ดีสำหรับบริษัทอื่นๆ หากต้นทุนการผลิตอยู่ที่ประมาณ 1,000 หยวนและพวกเขาสามารถขายเครื่องเล่นวีซีดีได้ในราคา 2,000หยวน แต่อย่าลืมไปว่ามันยังมีภาษีค่าขนส่งและต้นทุนในการวางขายอีก ผลกำไรของพวกเขาจะไม่สูงมากโดยเฉพาะวางขายในตลาดจีน ผลกำไรจากการขายเครื่องเล่นวีซีดีหนึ่งเครื่องจะอยู่ที่ประมาณ 400 หยวน
การลดราคาแบบฉับพลันของเฝิงหยู่ได้ฆ่าแบรนด์ต่างประเทศเหล่านี้ ไม่มีทางที่พวกเขาจะผลิตเครื่องเล่นวีซีดีต่อไปได้ พวกเขามีทางออกเพียงสองทางให้เลือกคือ 1.บริษัทเหล่านี้ต้องตั้งฐานการผลิตในประเทศจีนซึ่งวิธีนี้จะทำให้พวกเขาไม่ต้องจ่ายภาษีนำเข้าและลดต้นทุนการขนส่งลงแต่การลงทุนจะเพิ่มสูงตามเช่นกัน และ2.พวกเขาต้องถอนตัวออกจากตลาดจีนซะ!
บริษัทต่างประเทศส่วนใหญ่อาจเลือกที่จะถอนตัวจากตลาดประเทศจีนไป พวกเขายังต้องถอนตัวจากภูมิภาคที่ไอว่ามีสาขาที่นั้นด้วย เพราะโรงงานสาขาต่างผลิตสินค้าของแบรนด์เฝิงหยู่ออกมาขายเช่นกัน
บริษัทเหล่านี้ต้องตระหนักได้ว่าพวกเขาได้มอบตลาดส่วนใหญ่ของเอเชีย ยุโรปและอเมริกาให้กับวินด์แอนด์เรนอิเล็กทรอนิกส์ไป
สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้อย่างไร? บริษัทของพวกเขาเพิ่งได้ลองตลาดนี้และเมื่อพวกเขากำลังจะเห็นผลกำไร พวกเขาก็ต้องยอมแพ้ไปก่อน พวกเขาไม่ควรเจอเรื่องแบบนี้เลย!
ในที่สุดบริษัทเหล่านี้ก็ได้บทสรุปว่าทางเดียวที่จะอยู่รอดไปได้ พวกเขาจะต้องถอนตัวออกจากตลาดประเทศจีนเท่านั้น!ส่วนบริษัทที่มีโรงงานขนาดใหญ่กว่าไอว่าก็ยังคงสามารถแข่งกับพวกเขาได้เช่นกัน
แต่สิ่งสำคัญที่พวกเขาจะต้องคำนึงถึงอีกอย่างคือ เมื่อพวกเขาถอนตัวจากตลาดประเทศจีนหรือภูมิภาคเหล่านี้ไป พวกเขาก็อาจสูญเสียส่วนแบ่งในตลาดเครื่องเล่นวีซีดีและตลาดเครื่องเล่นดีวีดีในอนาคต
ไม่มีสิ่งใดที่พวกเขาสามารถทำได้ในเรื่องนี้ พวกเขาจำใจต้องลดราคาขายปลีกลง แม้ว่าท้ายที่สุดพวกเขาจะได้กำไรเป็นจำนวนน้อยจากการลดราคาลง แต่ถ้าพวกเขาถอนตัวจากภูมิภาคเหล่านี้ไป พวกเขาก็แทบจะไม่ได้กำไรเลยด้วยซ้ำ!
.
.
การลดราคาสินค้าลงถือเป็นวิธีที่รวดเร็วและง่ายที่สุดที่จะได้รับส่วนแบ่งทางการตลาด ในชีวิตที่ผ่านมาของเฝิงหยู่แบรนด์ต่างๆก็ใช้วิธีนี้เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งทางการตจลาดให้เห็นผลอย่างรวดเร็ว เมื่อพวกเขาได้รับส่วนแบ่งการตลาดตามเป้าที่ต้องการ พวกเขาก็จะเพิ่มราคาขายปลีกเพื่อผลกำไรที่มากขึ้น
หลังจากที่เฝิงหยู่ใช้กลยุทธ์นี้ส่วนแบ่งทางการตลาดของเครื่องเล่นวีซีดีวินด์แอนด์เรนก็เพิ่มขึ้น50%อีกครั้ง ตัวเลขนี้ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตามยอดขายที่เพิ่มขึ้น ยอดขายในต่างประเทศก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน
เฝิงหยู่กระโดดขึ้นมาอยู่หัวตารางอีกครั้ง!
เจียงหวันเหมิงและคนอื่นๆก็สังเกตเห็นเช่นกันว่าตั้งแต่ลดราคาเครื่องเล่นวีซีดีลงกำไรของพวกเขาไม่ได้ลดลงตามเพราะจำนวนยอดขายที่เพิ่มขึ้น 2-3เดือนมานี้ยอดขายแผ่นวีซีดีของพวกเขาก็เพิ่มขึ้นจนพวกเขาคาดไม่ถึง วินด์แอนด์เรนอิเล็กทรอนิกส์ได้รับผลกำไรมากกว่าแต่ก่อนด้วยซ้ำ!
ไหนจะค่าธรรมเนียมใบอนุญาตที่สามารถรวบรวมได้จากบริษัทต่างๆอีก
เฝิงหยู่เริ่มต้นแคมเปญส่งเสริมการขายในระยะที่2ทันทีหลังจากที่เห็นบริษัทอื่นๆพากันลดราคาขายปลีกลงแล้ว หากซื้อเครื่องเล่นวีซีดี 1 เครื่องจะได้รับแผ่นวีซีดีภาพยนตร์และแผ่นเพลงฟรี!
ซื้อเพียง 1 แต่ได้รับเพิ่มอีก 2 ความพยายามในการส่งเสริมการขายนี้น่าสนใจยิ่งนัก!
คนส่วนใหญ่ซื้อเครื่องเล่นวีซีดีเพื่อใช้ดูภาพยนตร์ ฟังเพลงหรือนำไปร้องคาราโอเกะ ผู้บริโภคจะต้องซื้อทั้งเครื่องเล่นวีซีดีและแผ่นวีซีดีไปพร้อมๆกัน ทำให้ฟังดูเหมือนผู้บริโภคต้องควักเงินจ่ายจำนวนมาก มันก็เหมือนการซื้อรถและต้องจ่ายค่าน้ำมัน ผู้บริโภคอาจไม่รู้สึกว่าเป็นปัญหาเมื่อต้องเลือกซื้อแผ่นซีดีเหล่านั้นแต่ถ้าพวกเขาซื้อรวมกันมากๆเข้ามันก็กลายเป็นเงินจำนวนมากเช่นกัน
ราคาแผ่นวีซีดีหนึ่งแผ่นรวมทั้งค่าลิขสิทธ์ ค่าขนส่งและค่าใช้จ่ายๆอื่นๆรวมกันก็ไม่เกิน 10 หยวน ของแถมที่เป็นแผ่นวีซีดีจะมีมูลค่าเพียง 20 หยวนเท่านั้น
“ผู้จัดการเฝิง! ยอดขายของเราเพิ่มขึ้นอีกครั้ง โปรโมชั่นที่คุณแนะนำช่างคุ้มค่าจริงๆ!”
“แน่นอน! ส่วนโปรโมชั่นครั้งต่อไปจะเป็นการจับรางวัล ผู้ที่ซื้อผลิตภัณฑ์ของเราไปจะได้รับสิทธ์ชิงรางวัลจากเรา! โดยรางวัลที่1ของเรา ลูกค้าจะได้รับส่วนลดเต็มจำนวนตามสินค้าที่ลูกค้าเลือกซื้อ ส่วนรางวัลที่2คือส่วนลด50 %และรางวัลที่3จะได้รับพัดลมไร้ใบพัดไป ในขณะที่รางวัลชมเชยจะได้รับแผ่นซีดีหนังและเพลงไป ทุกๆคนจะได้รับรางวัลนี้!”
เฝิงหยู่ใช้กลยุทธ์การส่งเสริมการขายแบบที่เคยใช้เมื่อในชีวิตก่อนของเขา บริษัทใหญ่ๆในยุคนี้คงไม่รู้ว่าต้องสร้างแคมเปญอะไรออกมาเพื่อเป็นการส่งเสริมการขายที่ดีและสุดท้ายพวกเขาจะล้มเหลว!