Extraordinary Genius อัจฉริยะเหนือชั้น - ตอนที่ 751
EG บทที่ 751 เงื่อนไขสองข้อ
“แน่นอน เรื่องจริงเลยครับ”
ไมโครซอฟท์เพิ่งเปิดตัว Win95 และมาพร้อมกับเบราว์เซอร์ IE ซึ่งเป็นขั้นตอนแรกของไมโครซอฟท์ในการผูกขาดระบบปฏิบัติการของคอมพิวเตอร์ แต่ไมโครซอฟท์มี Win95 เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษเพียงอย่างเดียวเท่านั้น จึงเป็นเรื่องยากสำหรับพวกเขาที่จะเจาะตลาดจีนด้วย Win95 เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษ
ในปี 1992 ไมโครซอฟท์ได้จัดตั้งสำนักงานสาขาในกรุงปักกิ่งเพื่อสนับสนุนระบบปฏิบัติการและ ไมโครซอฟท์ออฟฟิศ แต่ผลตอบรับไม่ค่อยดีนักอันเนื่องมาจากจำนวนผู้ใช้คอมพิวเตอร์ในประเทศจีน
แต่ตอนนี้มันต่างกัน DOS จะล้าสมัยในอีกไม่ช้า ส่วน Win95 ที่ใช้งานง่ายจะเข้ามาครอบครองตลาดทั้งหมดและในอนาคตซอฟต์แวร์ของสำนักงาน เกมและอื่นๆ ส่วนใหญ่ได้รับการพัฒนาตามพื้นฐานของระบบปฏิบัติการวินโดวส์ สงครามราคาในจีนระหว่างเลอโนโวและผู้ผลิตคอมพิวเตอร์รายอื่นจะเริ่มขึ้นในไม่ช้าและจำนวนผู้ใช้คอมพิวเตอร์ในจีนจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
หากเลอโนโวจะติดตั้ง Win95 เวอร์ชั่นภาษาจีนในตอนนี้ ก็จะช่วยให้ไมโครซอฟท์สามารถเข้าสู่ตลาดจีนได้!
แต่บิล เกตส์รู้ว่าเฝิงหยู่จะไม่ทำเรื่องนี้ให้ฟรีๆ แน่นอน นอกจากนี้ เขายังรู้ว่าเฝิงหยู่เป็นเจ้าของหุ้นของผู้ผลิตคอมพิวเตอร์รายใหญ่ที่สุดของจีน เฝิงหยู่ต้องมาที่นี่เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องความร่วมมือระหว่างทั้งสอง บริษัทแน่ๆ
“คอมพิวเตอร์ของเลอโนโวทั้งหมดจะได้รับการติดตั้งด้วย วินโดวส์, ออฟฟิศ และ เบราว์เซอร์ IE คุณโอเคกับเงื่อนไขนี้มั้ยครับ?”
บิล เกตส์ ตื่นเต้นมาก เขาพอใจกับเงื่อนไขนี้ ถ้าพวกเขาทำข้อตกลงทางธุรกิจกัน ผลกำไรของไมโครซอฟท์ จะเพิ่มขึ้นไปอีกระดับนึง นอกจากนี้ ราคาหุ้นจะเพิ่มขึ้นหลังจากที่มีการประกาศความร่วมมือครั้งนี้
การเปิดตลาดใหม่อย่างเช่นประเทศจีนจะดึงดูดนักลงทุนมากขึ้นและพวกเขาจะแย้งกันซื้อหุ้น ไมโครซอฟท์
“ผมต้องทำอะไรบ้างครับ?” บิล เกตส์ถาม
นี่เป็นเงื่อนไขที่น่าสนใจ แต่ถ้าข้อเรียกร้องของเฝิงหยู่โหดเกินไป บิล เกตส์ก็จะไม่เห็นด้วย อันที่จริงแล้วมีคอมพิวเตอร์หลายยี่ห้อในประเทศจีนและบางยี่ห้อก็ได้ร่วมงานกับไมโครซอฟท์แล้ว
เฝิงหยู่โชว์สองนิ้ว “ผมมีข้อเรียกร้องแค่ 2 ข้อเท่านั้นครับ อย่างแรกก็คือผมต้องการราคาต่ำที่สุดในโลก!”
“คุณเฝิงครับ เรื่องนี้มันเป็นไปไม่ได้ สินค้าของเรามีราคามาตรฐานและก็เหมือนกันทั่วโลก เราไม่สามารถลดราคาให้คุณได้” บิล เกตส์ปฏิเสธ
เฝิงหยู่มองหน้าเขา เหมือนกันทั่วโลกงั้นรอ? โกหกชัดๆ! ไม่มีสินค้าใดในโลกที่จะมีราคาเท่ากันหมดหรอก ในพื้นที่และภูมิภาคที่แตกต่างกัน แน่นอนว่าจะมีความแตกต่างในเรื่องของอัตราราคา!
“คุณบิลครับ คุณไม่อยากเข้าสู่ตลาดจีนหรอครับ? ผมเคยพูดไปแล้วว่าคนของผมจะดูแลเรื่องเวอร์ชั่นภาษาจีนเอง ราคาจะต้องลดลง ไม่งั้น เราจะครอบคลุมค่าใช้จ่ายทั้งหมดได้ยังไงล่ะครับ?”
“เราสามารถผลิตวินโดวส์ภาษาจีนได้เช่นกัน” บิล เกตส์เถียงกลับ
เฝิงหยู่ยักไหล่ “คุณรู้ภาษาจีนหรอครับ? คนในไมโครซอฟท์กี่คนกันที่รู้จักภาษาจีน? ภาษาจีนเป็นหนึ่งในภาษาที่เก่าแก่ที่สุดของโลก ซึ่งมีความซับซ้อนมาก แม้แต่พวกเราที่เป็นคนจีนเองยังไม่กล้าที่จะอ้างว่าเรารู้ทุกอย่างเกี่ยวกับภาษานี้เลย มีใครในบริษัทของคุณกล้าพูดแบบนี้มั้ยครับ?”
“เรามีวิศวกรจำนวนมากจากประเทศจีน และเราก็ไม่จำเป็นต้องใช้คำที่ซับซ้อนมากเกินไป เราแค่ทำให้มันง่ายก็เท่านั้นเอง แนวคิดของระบบปฏิบัติการ Win95 ของเรานั้นเรียบง่ายและใช้งานง่าย” บิล เกตส์ตอบ
ใครบอกว่าไมโครซอฟท์ ไม่มีพนักงานที่เป็นคนจีน? เราจ้างบัณฑิตชาวจีนในต่างประเทศจำนวนมาก ซึ่งก็เพื่อเตรียมพร้อมเข้าสู่ตลาดจีนนั่นแหละ! เห็นมั้ย ผมมองการณ์ไกลนะ!
เฝิงหยู่เลิกคิ้ว ดูเหมือนว่าไมโครซอฟท์จะเคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อนแล้ว แต่พวกบัณฑิตจีนที่จบการศึกษาในต่างประเทศพวกนั้นเก่งมากจริงๆ หรอ? บางทีในอนาคตอาจจะมีวิศวกรชาวจีนบางคนที่เก่งมากเป็นพิเศษ แต่ในยุคนี้โปรแกรมเมอร์ภาษาจีนที่เก่งที่สุดล้วนอยู่ในประเทศจีนทั้งหมด!
“คุณกำลังพูดถึงบัณฑิตที่คุณรับสมัครในช่วงสองปีนี้หรอครับ? คุณคิดว่าพวกเขาเก่งมากจริงๆ หรอ? อีกอย่าง พวกเขาได้รับการศึกษาในสหรัฐอเมริกา พวกเขารู้หรือเปล่าว่าจริงๆ แล้วชาวจีนต้องการอะไร? เฉพาะชาวจีนในประเทศจีนเท่านั้นที่รู้จักชาวจีนด้วยกันเองดีที่สุด”
“แล้วนักเรียนจีนต่างชาติพวกนั้นไม่ใช่คนจีนหรือไงครับ? นอกจากนี้ เราก็ไม่ได้ต้องการคำที่ซับซ้อน เราต้องนึกถึงผู้ใช้งานที่เป็นคนชราและเด็กด้วย แค่นี้ก็น่าจะพอไหวอยู่”
เฝิงหยู่มองหน้าบิล เกตส์ จากนั้นก็เอนหลังและนั่งไขว้ห้าง “คุณบิลครับ บางทีคุณอาจจะยังไม่รู้จักผมดีพอ ผมมีเงินลงทุนจำนวนมากและไม่ว่าบริษัทไหนก็ตามที่ผมลงทุน ผมมักจะเป็นคนที่เก่งที่สุดในวงการนั้น คุณคิดว่าไม่มีบริษัทไหนในวงการธุรกิจพวกนั้นที่เก่งกว่าบริษัทของผมจริงๆ หรอ?”
สีหน้าของ บิล เกตส์ เปลี่ยนไป เขาจำสิ่งที่พนักงานจีนเคยบอกเขาได้ พวกเขาบอกว่าในประเทศจีนรัฐบาลมีอำนาจมากกว่าตลาด บางคนที่มีอำนาจสามารถมีอิทธิพลต่อเศรษฐกิจได้ทุกเมื่อและบังคับบริษัทให้ปิดกิจการลงตามที่พวกเขาต้องการได้
เฝิงหยู่กำลังพยายามจะบอกเขาว่าเขาสามารถห้ามไม่ให้ไมโครซอฟท์เข้าสู่ตลาดจีนได้งั้นหรอ?
“คุณเฝิงพูดแบบนี้หมายความว่ายังไงครับ?”
เฝิงหยู่ยิ้มและตอบว่า “มันขึ้นอยู่กับคุณที่จะตีความคำพูดของผมครับ ผมจะยังคงแนะนำให้คุณร่วมมือกับผม ยังไงผมก็ยังเป็นเจ้าของหุ้นไมโครซอฟท์ และผมไม่อยากเห็นไมโครซอฟท์ต้องสูญเสียตลาดจีนที่ยิ่งใหญ่ไป”
เฝิงหยู่จงใจที่จะไม่ได้อธิบายต่อและปล่อยให้บิล เกตส์ไปคิดเอาเอง
“ในเมื่อคุณก็เป็นเจ้าของหุ้นไมโครซอฟท์ แล้วทำไมคุณถึงไม่อยากให้ไมโครซอฟท์ทำเงินได้มากกว่านี้ล่ะครับ?” บิล เกตส์ถามเฝิงหยู่
“นั่นคือข้อเรียกร้องข้อที่สองของผมครับ ผมอยากเป็นคณะกรรมการบริษัทไมโครซอฟท์!”
ทุกครั้งที่วอร์เรน บัฟเฟตต์ลงทุน เขาจะใช้เงินจำนวนมากเพื่อซื้อหุ้นของบริษัท แล้วเข้าไปเป็นคณะกรรมการบริษัท นอกจากนี้ เขายังซื้อบริษัทบางแห่งโดยตรงด้วย
ถ้าวอร์เรน บัฟเฟตต์สามารถทำเช่นนั้นได้ แล้วทำไมเฝิงหยู่จะทำบ้างไม่ได้?
แม้ว่าบริษัทนี้จะมีชื่อว่าไมโครซอฟท์ และบิล เกตส์ ก็เป็นคนที่รวยที่สุดในโลก แต่เฝิงหยู่ก็ยังสามารถเผชิญหน้ากับเขาได้อย่างใจเย็น เฝิงหยู่ เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่อันดับสามของไมโครซอฟท์ และเป็นเจ้าของหุ้นมากกว่าคนพวกนั้นในคณะกรรมการบริษัท
เฝิงหยู่ไม่เคยคิดที่จะเป็นประธานกรรมการ เพราะมันเป็นไปไม่ได้ บิล เกตส์และพอล อัลเลนยังอยู่ และพวกเขาจะไม่มีทางปล่อยอำนาจให้คนอื่นแน่ๆ
พอล อัลเลน ออกจากไมโครซอฟท์มาสองสามปีแล้ว แต่เขากลับมาเป็นคณะกรรมการบริษัทอีกครั้งเมื่อสองสามปีก่อน เขายังคงมีความสัมพันธ์ที่ดีกับบิล เกตส์ เขาสนิทกับ บิล เกตส์มากกว่าแน่นอนเมื่อเทียบกับเฝิงหยู่
กรรมการที่เหลือในคณะกรรมการบริษัทจะต้องสนับสนุนบิล เกตส์อยู่แล้ว เป็นไปไม่ได้ที่เฝิงหยู่จะได้เป็นประธาน อย่างไรก็ตาม ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรที่เฝิงหยู่จะเป็นหนึ่งในกรรมการ
หากเฝิงหยู่ยังไม่ได้เป็นกรรมการ เขาก็จะไม่มีสิทธิ์ออกความคิดเห็นในเรื่องของการดำเนินงานในบริษัท นี่เป็นเรื่องที่เฝิงหยู่ทนไม่ได้ การลงทุนของเฝิงหยู่ในไมโครซอฟท์จะทำกำไรได้อย่างแน่นอน แต่ถ้าเขาสามารถมีอิทธิพลต่อกลยุทธ์ของบริษัทได้ มันจะดีมากขึ้นไปอีก
บิล เกตส์ มองหน้าเฝิงหยู่สักพัก สรุปแล้วนี่คือสิ่งที่คุณเฝิงต้องการใช่มั้ย? เขามีเป้าหมายที่จะเข้ามาเป็นคณะกรรมการบริษัทนี่เอง!
ด้วยสัดส่วนการถือหุ้น 15% ของบริษัท ก็สมเหตุสมผลสำหรับเฝิงหยู่ที่จะเข้ามาเป็นคณะกรรมการบริษัทได้ แต่หุ้นของเฝิงหยู่ เป็นหุ้นสามัญที่ไม่มีสิทธิ์ในการออกเสียงลงคะแนน ถ้าเฝิงหยู่ได้รับอนุญาตให้เป็นคณะกรรมการบริษัท เขาก็จะมีสิทธิ์ออกเสียงลงคะแนน แม้ว่าสัดส่วนการถือหุ้นของเฝิงหยู่จะไม่สามารถคุกคามตำแหน่งของบิล เกตส์ได้ แต่เขาก็ไม่ควรประมาทเฝิงหยู่
บิล เกตส์ คิดอยู่พักหนึ่งแล้วมองหน้าเฝิงหยู่ “ผมไม่สามารถตัดสินใจให้คุณเป็นคณะกรรมการบริษัทได้เองครับ”
เฝิงหยู่กอดอกแล้วยิ้ม “ผมรอได้ครับ แต่การเปิดตัวระบบปฏิบัติการของไมโครซอฟท์ในประเทศจีนจะรอได้หรือเปล่าล่ะครับ?”