Extraordinary Genius อัจฉริยะเหนือชั้น - ตอนที่ 757
EG บทที่ 757 ข้อสงสัยของสตีฟ
การประชุมคณะกรรมการครั้งนี้ใช้เวลาน้อยมาก เป็นเพราะว่ากรรมการพวกนี้ส่วนใหญ่ดำรงตำแหน่งอื่นใน ไมโครซอฟท์กันหมดแล้ว และพวกเขาไม่ได้มีเรื่องที่จะต้องหารือกันมากมายนักในระหว่างการประชุม
เฝิงหยู่ได้เป็นกรรมการของไมโครซอฟท์และมีห้องทำงานของตัวเอง ห้องทำงานของเขาเหมือนกับกรรมการคนอื่นที่เหลือ ซึ่งเป็นห้องขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ชั้นบนสุด
เฝิงหยู่ประหลาดใจเมื่อทราบว่าบอลเมอร์เป็นประธานของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของไมโครซอฟท์ ตอนนี้เฝิงหยู่มีโอกาสพูดคุยกับบอลเมอร์เป็นการส่วนตัว
“สตีฟ เชิญนั่งครับ ราล์ฟ ช่วยเอากาแฟ 2 แก้วมาเสิร์ฟด้วย” ราล์ฟเป็นผู้ช่วยของเฝิงหยู่ ในไมโครซอฟท์ เฝิงหยู่จ้างเขาเป็นการส่วนตัว เขาไม่ต้องการใช้บุคคลที่ได้รับมอบหมายจากไมโครซอฟท์ แน่นอนว่าเขาต้องจ่ายค่าจ้างให้ผู้ช่วยของเขาเอง
สดีฟ บอลเมอร์ นั่งลงบนโซฟาและมองเฝิงหยู่ “คุณเฝิงมาจากประเทศจีนใช่มั้ยครับ?”
“ใช่ครับ ทำไมหรอครับ? คุณดูถูกคนจีนหรอครับ?” เฝิงหยู่แกล้งทำเป็นโกรธ
สตีฟหัวเราะ “คุณเฝิงคิดว่าผมจะดูถูกคนที่รวยกว่าผมหรอครับ? ผมแค่สงสัยเท่านั้นเอง การพัฒนาทางเศรษฐกิจของจีนยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น คุณร่ำรวยได้ยังไงครับ? คุณมาจากตระกูลจีนโบราณและได้รับการสนับสนุนจากพวกเขาใช่มั้ยครับ?”
ตระกูลหรอ? สำหรับชาวตะวันตกพวกนี้ ชายหนุ่มที่มีทรัพย์สินมากมายต้องมีตระกูลคอยหนุนหลังอยู่ แต่เมื่อชาติที่แล้วของเฝิงหยู่ ชายหนุ่มที่ชื่อมาร์ค ซัคเกอร์เบิร์กได้เปลี่ยนแปลงความคิดและแบบแผนดั้งเดิมพวกนี้ทั้งหมด
มาร์ค ซัคเกอร์เบิร์กทำงานหนักและกลายเป็นหนึ่งในมหาเศรษฐีชั้นนำของโลกโดยปราศจากการสนับสนุนใดๆ ทุกอย่างมาจากวิสัยทัศน์และความฝันของเขาล้วนๆ
“จะว่าอย่างงั้นก็ได้ครับ พ่อและพี่เขยของผมถือว่าเป็นนักธุรกิจที่ร่ำรวยในประเทศจีน แต่ผมรู้สึกว่าที่ผมหาเงินได้จำนวนมากนั้น เป็นเพราะการทำงานหนักของผมมากกว่า” เฝิงหยู่จงใจพูดแบบนี้
สตีฟเลิกคิ้ว มาจากการทำงานหนักของคุณหรอ? ชายหนุ่มคนนี้ภูมิใจในตัวเอง แต่ถ้าครอบครัวของเขากล้าที่จะปล่อยให้เขาจัดการกับทรัพย์สินมากมายขนาดนี้ แสดงว่าเขาก็น่าจะมีความสามารถบางอย่าง แต่ที่สำคัญมากกว่านั้นก็คือเขาเป็นผู้สืบทอดคนเดียวในตระกูลของเขา
เฝิงหยู่พูดถึงพ่อและพี่เขยของเขาว่าเป็นนักธุรกิจร่ำรวยในประเทศจีน สตีฟเคยได้ยินว่าในประเทศจีนมีการเลือกปฏิบัติต่อผู้หญิง ครอบครัวรู้สึกว่าลูกสาวเป็นเหมือนคนนอกครอบครัวและสมบัติทั้งหมดของพวกเขาจะถูกส่งต่อให้กับลูกชาย นั่นหมายความว่าเฝิงหยู่จะเป็นผู้สืบทอดคนต่อไป ครอบครัวของเขาส่งเขามาที่สหรัฐอเมริกาเพื่อฝึกฝนเขาหรือเปล่า?
สตีฟคิดครู่หนึ่งแล้วก็ยิ้ม “ใช่แล้วครับ ความสำเร็จทั้งหมดของคุณต้องมาจากการทำงานอย่างหนักของคุณแน่ๆ”
สตีฟยังคงมีบางอย่างที่เขาเก็บไว้กับตัวเองและไม่ไดพูดออกไป ครอบครัวของคุณต่างหากที่ช่วยคุณ หาก บิล เกตส์ และ วอร์เรน บัฟเฟตต์ ไม่ได้มีครอบครัวคอยช่วยเหลือพวกเขา พวกเขาจะไม่มีทางได้เป็นเศรษฐีอันดับต้นๆ ของโลก! ผมเป็นคนหนึ่งที่ใช้ความสามารถของตัวเองเพื่อไปยืนอยู่ในจุดที่ผมเป็นอยู่ตอนนี้ ผมไม่ได้ลงทุนเงินสักแดงเดียวและได้เป็นผู้ถือหุ้นของไมโครซอฟท์ ผมกลายเป็นเศรษฐีเพราะความพยายามของผมเอง!
นี่คือสิ่งที่สตีฟคิดในใจ
“สตีฟ คุณเป็นผู้รับผิดชอบในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก คุณคงได้ยินสิ่งที่พูดคุยกันในระหว่างการประชุมคณะกรรมการแล้วนะครับ ประธานบอกว่าผมจะจัดการตลาดในประเทศจีนและนั่นคือข้อสรุปแล้ว คุณมีอะไรไม่พอใจกับข้อตกลงนี้หรือเปล่าครับ?”
สตีฟคิดในใจ ถ้าเป็นคุณ คุณจะพอใจหรอ? ผมวางแผนที่จะเข้าสู่ตลาดจีน ตอนนี้ผมถูกแย่งตลาดที่มีศักยภาพที่สุดไปแล้ว ขนาดเอาตลาดที่เหลือมารวมกันยังไม่ใหญ่เท่ากับตลาดจีนเลย คุณแย่งอำนาจของผมไปเกือบครึ่งหนึ่งและคุณยังกล้ามาถามผมว่าผมไม่พอใจหรือเปล่างั้นหรอ?
“คุณเป็นคนจีนและคุณก็เข้าใจประเทศจีนดีกว่า คุณเป็นคนที่เหมาะสมที่สุดในการจัดการตลาดนี้ ผมก็จะได้มีงานน้อยลงเหมือนกัน นอกจากนี้ เราทุกคนก็ต่างทำงานเพื่อประโยชน์ของไมโครซอฟท์ ยิ่งไมโครซอฟท์มีรายได้มากเท่าไหร่ เราก็ยิ่งมีรายได้มากขึ้นเท่านั้น”
เฝิงหยู่ยิ้มและมองไปที่สตีฟ คุณคิดอย่างนี้จริงหรอ? ผมจำได้ว่าเมื่อชาติที่แล้วของผม สื่อรายงานว่าคุณเป็นคนที่กระหายอำนาจมาก
“สตีฟ ถ้าเป็นคุณ คุณจะเปิดตลาดของจีนยังไงครับ?” เฝิงหยู่ถาม
สตีฟงงมาก เฝิงหยู่คนนี้ยังไม่มีแผนหรอ? หากเขายังไม่มีแผน ทำไม บิล เกตส์ จึงปล่อยให้เขาดูแลตลาดจีนล่ะ?
หรือว่าเฝิงหยู่จะทดสอบเขา?
อวดดีมาก!
สตีฟให้ความเคารพเพียงไม่กี่คนในชีวิตของเขา และชายหนุ่มคนนี้ที่อยู่ตรงหน้าเขาไม่ใช่หนึ่งในคนพวกนั้นแน่นอน!
“ถ้าผมจะเปิดตลาดของจีน ผมจะใช้การโฆษณาเชิงรุกในประเทศจีนและร่วมมือกับคอมพิวเตอร์ทุกยี่ห้อที่นั่น ผมจะทำให้แน่ใจว่าผู้ซื้อคอมพิวเตอร์ทุกคนจะต้องนึกถึงระบบปฏิบัติการของเราเมื่อพวกเขาซื้อคอมพิวเตอร์ ผมรับรองว่าพวกเขาจะเลือกระบบปฏิบัติการของเราเท่านั้น!”
เฝิงหยู่พยักหน้า “นี่เป็นกลยุทธ์ที่ดีครับ แต่ถ้าไมโครซอฟท์สามารถทำสิ่งนี้ได้ บริษัทซอฟต์แวร์ที่เหลือก็สามารถทำแบบเดียวกันได้”
“เรามีซอฟต์แวร์ที่ใช้งานได้เฉพาะกับระบบปฏิบัติการของเราเท่านั้น คุณก็น่าจะรู้ว่าซอฟต์แวร์ของเราดีมากแค่ไหน ขณะนี้ในสหรัฐอเมริกาและหลายประเทศในยุโรป รัฐบาลและบริษัทหลายแห่งก็ใช้ซอฟต์แวร์ของเรา พวกเขาสามารถใช้ระบบปฏิบัติการของเราเท่านั้น!” สตีฟตอบอย่างภูมิใจ
“ผมจำได้ว่าบริษัทอื่นก็มีซอฟต์แวร์ที่คล้ายกัน เช่น ซอฟท์แวร์ออฟฟิศของเรา ในตลาดก็มีโปรแกรมแบบนี้อย่างน้อยสิบสองโปรแกรม หากไมโครซอฟท์ไม่ได้ทำข้อตกลงกับผู้ผลิตฮาร์ดแวร์พวกนั้น ระบบปฏิบัติการของไมโครซอฟท์จะไม่ได้รับความนิยมและซอฟต์แวร์ของเราจะไม่ได้ส่วนแบ่งการตลาดมากนัก บางทีคุณอาจจะไม่รู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ ปัจจุบันนี้ในประเทศจีน วิธีการทำงานในสำนักงานที่ได้รับความนิยมมากที่สุดยังคงเป็นการใช้ปากกาและกระดาษ”
ทำไมถึงเป็นแบบนี้น่ะหรอ? การใช้คอมพิวเตอร์นั้นไม่ยาก แต่สำหรับบางคนมันไม่ง่ายเลย Win 95 อาจใช้งานง่าย แต่ก็ไม่ได้ง่ายเหมือน XP ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานรัฐหรือบริษัทเอกชน ผู้ใช้คอมพิวเตอร์รายแรกไม่ใช่พวกพนักงานสำนักงาน แต่เป็นพวกผู้นำต่างหาก
ผู้นำที่มีอายุมากกว่าจะไม่เต็มใจที่จะยอมรับการเปลี่ยนแปลงหรือสิ่งใหม่ๆ เมื่อเปรียบเทียบกับพวกวัยกลางคนตอนต้น สิ่งนี้ทำให้เกิดวงจรประหลาด ผู้ที่รู้วิธีใช้คอมพิวเตอร์จะไม่มีคอมพิวเตอร์และผู้ที่ไม่รู้จักวิธีใช้คอมพิวเตอร์กลับมีคอมพิวเตอร์!
เมื่อพวกผู้นำซื้อของ พวกเขาจะไม่พิจารณาว่าของนั้นมีประโยชน์หรือไม่ การพิจารณาครั้งแรกของพวกเขาก็คือพวกเขาจะได้รับประโยชน์อะไรจากการซื้อของชิ้นนี้ เมื่อชาติที่แล้วของเฝิงหยู่ มีระบบปฏิบัติการมากมายในยุคนี้
สตีฟขมวดคิ้วและถามเฝิงหยู่กลับ “แล้วคุณจะทำการตลาดยังไงครับ?”
“วิธีของผมก็คล้ายกับคุณนะครับ แต่ผมจะมุ่งเน้นไปที่ราคา ระบบปฏิบัติการและซอฟต์แวร์ออฟฟิศของเราราคาถูกกว่าระบบปฏิบัติการอื่น นอกจากนี้ ผมสามารถใช้ต้นทุนต่ำที่สุดเพื่อเร่งการทำตลาดให้กับสินค้าเรา กำไรหลักของเราจะไม่ได้มาจากยอดค้าปลีกของระบบเรา”
เมื่อใดก็ตามที่มีการอัพเกรดระบบปฏิบัติการ จะต้องมีคนมาแอบถอดรหัสภายใน 2 วัน และจากนั้นไม่นาน นี้คนทั้งชาติก็จะได้เป็นเจ้าของระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่นล่าสุดของคุณ มีคนน้อยมากที่เลือกซื้อสิ่งของที่มีราคาแพงกว่า ชาวจีนยังไม่รู้จักเรื่องสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญา พวกเขารู้แค่ว่าสินค้านั้นมีราคาแพงหรือถูก ทำไมพวกเขาต้องจ่ายเงินหลายร้อยดอลลาร์สำหรับสินค้าที่สามารถหาซื้อได้ในราคาแค่ 10 ถึง 20 ดอลลาร์สหรัฐด้วยล่ะ?
แน่นอนว่าสามารถเขียนใบเสร็จนั้นให้เป็นหลายร้อยดอลลาร์สหรัฐได้สำหรับสินค้าราคาถูกนั้น
“แล้วเราจะทำเงินได้ยังไงครับ?”
“รอครับ รอจนกว่าพวกเขาจะคุ้นเคยกับระบบปฏิบัติการและซอฟต์แวร์ของเราแล้วเราค่อยทำเงิน ระยะแรกของการเปิดตลาดใหม่เป็นเรื่องที่ยากที่สุดและต้องใช้ทรัพยากรสูง ผมรับประกันได้ว่าภายใน 3 ปี คอมพิวเตอร์ในจีนมากกว่า 90% จะใช้ระบบปฏิบัติการไมโครซอฟท์!”
ใช่แล้ว ผมไม่สามารถให้สัญญาได้ว่าพวกเขาใช้เงินเพื่อซื้อผลิตภัณฑ์ของไมโครซอฟท์หรือไม่ ผมแค่อยากทำให้เลอโนโวมีเวลามากขึ้นเพื่อหาประสบการณ์ในการพัฒนาระบบปฏิบัติการ นี่จะเป็นพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับการแซงหน้าไมโครซอฟท์ในอนาคต……