Extraordinary Genius อัจฉริยะเหนือชั้น - ตอนที่ 851 คำขอโทษจากคลินตัน

EG บทที่ 851 คำขอโทษจากคลินตัน

“คุณซามารันช์ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกสากลกล่าวว่าเขารู้สึกผิดหวังอย่างมากกับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในปีนี้!”

“ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกสากลอ้างว่าผู้ต้องสงสัยที่ถูกจับกุมได้ไม่ใช่ผู้ต้องสงสัยตัวจริง!”

“เอฟบีไอจับกุมแพะรับบาปและทุกคนก็รู้เรื่องนี้!”

“สื่อกำลังตั้งคำถามว่า: สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นประเทศที่มีอันตรายมากเช่นนี้ จะจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกได้อย่างไร”

“ประธานาธิบดีคลินตันเชื่อว่าเอฟบีไอจะให้คำตอบได้ในอีกไม่ช้า!”

……

เฝิงหยู่มองไปที่หนังสือพิมพ์ตรงหน้าเขาและโทรทัศน์จอแอลซีดีที่ผนังกำลังรายงานข่าว ทุกข่าวเกี่ยวข้องกับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกและส่วนใหญ่เกี่ยวกับเหตุการณ์ระเบิดที่สวนโอลิมปิกพาร์ค

ซามารันช์ น่าจะโกรธมากถึงพูดแบบนั้นออกไป แบบนี้เหมือนเป็นการตบหน้ารัฐบาลสหรัฐอเมริกาชัดๆ!

ถ้าพวกคุณจัดการผู้บรรยายทางโทรทัศน์คนนั้นทันทีหลังจากที่เขาพูดเรื่องนั้น ผมอาจให้อภัยคุณทุกเรื่องก็ได้

แต่คุณเลือกที่จะไม่สนใจความคิดเห็นนั้นเองและมุ่งเน้นแต่จะสร้างรายได้ เฝิงหยู่ได้ทำอะไรมากมายจากเหตุการณ์นี้ เขาให้วิลสันไปจ้างคนมาสร้างข่าวลือและคิริเลนโกยังช่วยทำให้ชื่อเสียงของรัฐบาลสหรัฐอเมริกาเสื่อมเสียด้วย

คิริเลนโกอาสาทำเรื่องนี้เองเพราะเขาไม่อยากพลาดโอกาสที่จะสร้างความอับอายให้กับสหรัฐอเมริกาในสายตาชาวต่างชาติ แบบนี้ดีกว่าเอาวอดก้า 2 ขวดกับผู้หญิงมาให้เขาอีก!

คิริเลนโกยังติดต่อเพื่อนของเขาในยุโรปเพื่อช่วยปั่นกระแสเรื่องนี้ด้วย เพื่อนของเขาทุกคนมีอิทธิพลในประเทศของตัวเองและต่อต้านรัฐบาลสหรัฐอเมริกา!

บางคนรู้สึกว่าสิ่งที่พวกเขาทำนั้นยังไม่มากพอและต้องการให้คณะกรรมการโอลิมปิกสากลสั่งห้ามไม่ให้สหรัฐอเมริกาเข้าร่วมเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกต่อไปในอนาคต!

แน่นอนว่าทุกคนรู้ว่าเรื่องแบบนี้จะไม่มีทางเกิดขึ้นเพราะการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกมุ่งเน้นเรื่องความเข้าใจซึ่งกันและกันด้วยจิตวิญญาณแห่งมิตรภาพ ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน และการแข่งขันอย่างยุติธรรม! คณะกรรมการสากลจะสั่งห้ามประเทศใดๆ ไม่ให้เข้าร่วมไม่ได้

วัตถุประสงค์ของการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกคือการมีส่วนร่วมในการสร้างโลกที่สงบสุขและทำให้โลกน่าอยู่ยิ่งขึ้นโดยการให้ความรู้แก่เยาวชนผ่านการเล่นกีฬาโดยที่ไม่มีการเลือกปฏิบัติใดๆ ทั้งสิ้น!

เฝิงหยู่ใช้เรื่องนี้มาโจมตีสหรัฐอเมริกาและอ้างว่าสหรัฐอเมริกากำลังเลือกปฏิบัติต่อผู้อื่นและผู้บรรยายทางโทรทัศน์ก็คือตัวอย่างนั่นเอง!

สหรัฐอเมริกามีความจริงใจในการรักษาค่านิยมและจิตวิญญาณของกีฬาโอลิมปิกจริงๆ หรอ? พวกเขาเพิ่งจับกุมแพะรับบาปและอ้างว่าบุคคลนั้นเป็นผู้ต้องสงสัยวางระเบิด เห็นได้ชัดว่านี่เป็นการพยายามปกปิดความจริง สหรัฐอเมริกาเป็นผู้สนับสนุนสันติภาพจริงหรอ? พวกเขาเป็นคนเริ่มก่อสงครามและมีเรือบรรทุกเครื่องบินหลายลำและอาวุธนิวเคลียร์มากมาย แถมยังเคยรุกรานประเทศอื่นๆ ด้วย

สหรัฐอเมริกาเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกได้อย่างไร?!

พูดตามตรงว่าการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกปีนี้ประสบความล้มเหลวจริงๆ ผู้จัดงานชุ่ยมาก ไม่มีการรักษาความปลอดภัย และคิดแต่ทำการค้าเอาผลกำไรอย่างเดียว……

คลินตันเขวี้ยงรีโมทคอนโทรลใส่โทรทัศน์ บรรดาสื่อต่างวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลสหรัฐอเมริกาและคณะกรรมการจัดงาน! นี่มันเป็นอุบัติเหตุและสหรัฐอเมริกากำลังตกเป็นเหยื่อ!

นอกจากนี้ การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกยังคงดำเนินต่อไปอยู่และมีการทำลายสถิติมากมาย หลายประเทศได้รับเหรียญรางวัลและทำไมสื่อถึงไม่ไปรายงานเรื่องพวกนั้นบ้างล่ะ?

ประเทศเล็กๆ พวกนี้กล้าวิพากษ์วิจารณ์สหรัฐอเมริกางั้นหรอ? ใครหนุนหลังทำให้พวกนั้นกล้าทำแบบนี้?

ปีนี้เป็นวาระสุดท้ายของประธานาธิบดีคลินตันในการดำรงตำแหน่งและเขาตั้งหน้าตั้งตารอที่จะดำรงตำแหน่งอีกวาระหนึ่ง เขาต้องทำให้ชาวอเมริกันมีความเชื่อมั่นในความเป็นผู้นำของเขา ในช่วงที่เขาดำรงตำแหน่งอยู่นี้ เศรษฐกิจของอเมริกาก้าวหน้าไปได้ด้วยดี แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะชดเชยกับความเสียหายครั้งนี้!

คลินตันไม่รู้จะทำยังไงกับเหตุการณ์นี้เพราะเรื่องนี้เกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกา หลายคนตั้งคำถามและเรียกร้องคำตอบจากเอฟบีไอเกี่ยวกับการจับกุมตัว “ผู้ต้องสงสัย” คนนั้น

ขนาดชาวอเมริกันเองยังรู้สึกเลยว่านี่เป็นการจับกุมแพะรับบาป และเขาก็ยังไม่ก้าวออกมาเผชิญหน้ากับประชาชน แล้วเขาจะดำรงตำแหน่งต่ออีกวาระนึงได้ยังไง?

ตอนนี้คะแนนเสียงของคลินตันลดลงต่ำกว่า 50% เป็นครั้งแรกและนี่ไม่ใช่สัญญาณที่ดีนักสำหรับเขา

ที่ปรึกษาของคลินตันบอกเขาว่าเขาต้องออกสื่อเพื่อขอโทษและให้คำตอบต่อสาธารณชนและโลก แน่นอนว่าเขาต้องโยนความผิดไปให้คนอื่นและต้องไม่แสดงความรับผิดชอบทั้งหมด!

ที่ปรึกษาของคลินตันรีบหาคนที่เป็นแพะรับบาปมาให้ บ็อบ ซึ่งเป็นคู่แข่งทางการเมืองของเขาและเป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับหนึ่งในผู้จัดงานแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ซึ่งก็คือเป๊ปซี่ และเคยปรากฏตัวในรายการทอล์คโชว์ของสถานีโทรทัศน์แห่งนั้น

เขานั่นแหละเหมาะที่จะเป็นแพะรับบาปที่สุด!

……

เฝิงหยู่ตกใจมากที่เห็นประธานาธิบดีคลินตันขอโทษในนามของรัฐบาลสหรัฐอเมริกาทางโทรทัศน์! นอกจากนี้ เขายังขอโทษสำหรับความคิดเห็นของผู้บรรยายทางโทรทัศน์คนนั้นที่ต่อต้านประเทศจีนด้วย

ให้ตายสิ! เมื่อชาติที่แล้วของเฝิงหยู่ ผู้ว่าการรัฐแอตแลนตาเป็นผู้ที่ออกมากล่าวขอโทษ แต่ในชาตินี้ เหตุการณ์กลับตาลปัตรเป็นแบบนี้

“เฝิงหยู่ นั่นประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาไม่ใช่หรอ? เขากำลังกล่าวขอโทษประเทศเรางั้นหรอ?!” ลีน่าถามด้วยความตกใจ

“ใช่ เขาขอโทษสำหรับเหตุการณ์ระเบิดและความคิดเห็นของผู้บรรยายคนนั้น แต่เดี๋ยวนะ…เขากำลังโยนความผิดไปให้คนอื่น!” เฝิงหยู่เพิ่งนึกได้กับสิ่งที่เกิดขึ้นขณะที่กำลังดูโทรทัศน์อยู่ ขอโทษอะไรกัน? คลินตันกำลังใช้เหตุการณ์นี้โจมตีคู่แข่งตัวเอง!

คลินตันโยนความผิดให้บ็อบ แม้ว่านี่จะไม่ใช่การกระทำที่ดี แต่ก็ถือว่าได้ประโยชน์

หลายประเทศยุติการวิพากษ์วิจารณ์สหรัฐอเมริกาหลังจากที่คลินตันออกมาขอโทษ และในสหรัฐอเมริกาเอง  ชาวอเมริกันเริ่มพุ่งประเด็นไปที่บ็อบราวกับว่าเขาเป็นผู้วางแผนเหตุการณ์นี้ทั้งหมด

เฝิงหยู่ถอนหายใจ การกระทำของคลินตันทำลายชื่อเสียงของบ็อบ เขาโชคร้ายมากเนื่องจากนี่เป็นครั้งที่ 4 แล้วที่เขาเข้าร่วมการแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดี เขาแพ้ในความพยายาม 3 ครั้งก่อนหน้านี้และครั้งนี้เขาก็จะแพ้อีก!

ถ้าคลินตันไม่รีบดำเนินการและโยนความผิดไปให้บ็อบ เขาอาจจะแพ้การเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงและประวัติศาสตร์จะเปลี่ยนไป

เฝิงหยู่รู้สึกโล่งอกและผิดหวังในเวลาเดียวกัน เขาโล่งอกที่เหตุการณ์ในโลกจะไม่เปลี่ยนแปลงไปและเขายังสามารถใช้ความทรงจำจากชาติที่แล้วได้ แต่เขาก็ผิดหวังที่ไม่สามารถเอาประสบการณ์ครั้งก่อนมาช่วยหยุดใครบางคนจากการก้าวขึ้นเป็นประธานาธิบดีได้!

ด้วยความร่ำรวยในปัจจุบันของเฝิงหยู่  แม้ว่าโลกจะไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปตามประวัติศาสตร์ แต่เขาก็ยังกลายเป็นคนที่ร่ำรวยที่สุดในโลกได้เนื่องจากเขายังสามารถมองการณ์ไกลได้ดีกว่าคนอื่น!

เฝิงหยู่ใช้เงินไปกว่า 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐสำหรับเหตุการณ์นี้ แต่เขาสามารถทำให้สหรัฐอเมริกาอับอายได้และเขารู้สึกว่ามัน…คุ้มค่ามาก!