Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน - ตอนที่ 265 เจ้าเล่ห์มากนะ

ตอนที่ 265 เจ้าเล่ห์มากนะ

อันที่จริงคนที่อัตราเดิมพันเกินจริงไม่ได้มีแค่เซี่ยนอวี๋

อย่างที่ชาวเน็ตพูดกันอย่างหนาหู นักประพันธ์เพลงอย่างกูตู๋หรือโม่โม่ซึ่งเคยพยายามคว้าตำแหน่งพ่อเพลงก็มีอัตราเดิมพันที่สูงเช่นเดียวกัน

อย่างน้อยก็ 2.0 ขึ้นไป

อันที่จริง ในการประเมินและวิเคราะห์ของนักพนัน นอกจากพ่อเพลงสองท่านนี้แล้ว ก็มีเพียงกูตู๋และโม่โม่ที่ดูทรงแล้วเข้าท่ากว่าเซี่ยนอวี๋

ถึงแม้ทุกคนจะยอมรับว่านักประพันธ์เพลงกลุ่มนี้ไม่มีใครที่อ่อนเลยก็ตาม แต่ก็ช่วยไม่ได้

ในช่วงเวลาเดียวกันนี้ อิทธิพลของพ่อเพลงทั้งสองนั้นมากเกินไป!

นี่เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นจากประวัติที่ผ่านมาและตัวเลขทางสถิติที่เห็นได้ชัดเจน

ต่อให้เป็นการประเมินในระดับมืออาชีพ ก็มีความเป็นไปได้เกิน 80% ที่พ่อเพลงทั้งสองจะคว้าสองอันดับแรกไปครอง

ถึงอย่างไรนักร้องก็ล้วนเป็นราชาราชินีเพลง เรื่องชื่อเสียงนั้นไม่มีใครเป็นสองรองใคร

ภายใต้สถานการณ์ที่ความนิยมของนักร้องนั้นไม่ได้แตกต่างกัน สิ่งที่ถูกนำมาเปรียบเทียบ ที่จริงแล้วก็คือพ่อเพลงซึ่งอยู่เบื้องหลังผลงาน ว่าใครมีฝีมือเหนือกว่ากัน

“ผมขี้เกียจซื้อให้ตัวเองชนะแล้วล่ะ”

เพราะอัตราเดิมพันต่ำเหลือเกิน เฟ่ยหยางยิ้มขื่นมองไปยังอิ่นตง เพียงแต่ในคำพูดนั้น แฝงไปด้วยความภาคภูมิใจและความมั่นใจอย่างเห็นได้ชัด!

ปกติแล้วคว้าอันดับที่หนึ่งมาได้ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร

ราชาเพลงออกโรงเองซะอย่าง คว้าอันดับหนึ่งมาได้ก็ไม่ได้น่าแปลกใจใช่ไหมล่ะ

ทว่าถ้าหากคว้าอันดับหนึ่งมาได้ในมหาสงครามของราชาราชินีเพลงในเดือนธันวาคม ถึงจะเรียกว่าเกียรติยศอย่างแท้จริง!

เพราะยิ่งคู่แข่งมากขึ้นเท่าไหร่ ก็ยิ่งผลักดันให้ตนยิ่งใหญ่มากขึ้นเท่านั้น!

เอิ่ม…

ไม่นับครั้งที่แล้ว ห้ามนับเด็ดขาด

ครั้งก่อนเห็นชัดๆ ว่าทางการหนุนหลังเพลงเปลี่ยนตัวเองของเซี่ยนอวี๋

เรื่องนี้จัดได้ว่าเป็นเหตุสุดวิสัยที่หาได้ยากยิ่ง ทำได้เพียงบอกว่าตนโชคไม่ดีนัก

“อ้อ ผมซื้อมาแล้ว”

อิ่นตงกลับไม่ได้รู้สึกอนาทรร้อนใจอะไร เอ่ยอย่างเรียบง่ายและตรงไปตรงมา

เฟ่ยหยางยิ้มเอ่ย “ซื้อไปเท่าไหร่ครับ”

เขาไม่ได้ถามว่าซื้อใคร เพราะอิ่นตงทำได้เพียงซื้อตนเอง จึงไม่จำเป็นต้องถามเพิ่มอีก

อิ่นตงเอ่ย “หนึ่งหยวน”

เฟ่ยหยาง “…”

เขารู้ว่าอิ่นตงวางหนึ่งหยวนไว้ที่ตนไม่ใช่เพื่อเล่นสนุก

เงินไม่ใช่ประเด็นสำคัญ

เงินหนึ่งหยวนนี้ แสดงถึงความมั่นใจของอิ่นตง ว่าทีมของพวกเขาจะคว้าอันดับหนึ่งมาได้!

ประจวบเหมาะพอดี

ในความจริงแล้ว นอกจากหลินเยวียนซึ่งไม่ได้ซื้อ บุคลากรที่เกี่ยวข้องหลายคนต่างก็ซื้อกันบ้างไม่มากก็น้อย ตัวอย่างเช่นเยี่ยจือชิว พ่อเพลงอีกคนหนึ่ง

เยี่ยจือชิวหยิ่งผยองมากกว่าอิ่นตงซะอีก เขาเองก็แทงว่าฝั่งตนจะชนะ มิหนำซ้ำยังวางเงินไปตั้งหนึ่งร้อยหยวน

เมื่อราชินีเพลงไห่ถังซึ่งร่วมงานกับเยี่ยจือชิวรู้เรื่องนี้เข้า ก็หัวเราะไม่ได้ร่ำไห้ไม่ออก “คุณปู่ทำไมถึงไปเล่นตามกระแสกับเขาด้วยล่ะคะ”

“อิ่นตงยังซื้อ ทำไมเหล่าเยี่ยถึงซื้อไม่ได้”

ปีนี้เยี่ยจือชิวอายุสี่สิบปี ทว่ามองดูแล้วเหมือนอายุย่างเข้าห้าสิบปีก็คงได้ มีผมหงอกไม่น้อย เข้ากับฉายานาม ‘คุณปู่’ มากทีเดียว

เพียงแต่จะว่าไปแล้ว กลับเหมือน ‘เฒ่าทารก’ เสียมากกว่า

เรื่องที่อิ่นตงซื้อ เป็นอิ่นตงที่บอกกับเยี่ยจือชิวเอง

ระหว่างพ่อเพลงด้วยกัน มีหลายคนที่สนิทสนมคุ้นเคยกันดี

ถึงอย่างไรก็เป็นบุคลากรระดับหัวกะทิของวงการ ถ้าหากต่างฝ่ายต่างไม่ติดต่อกัน ก็คงจะเหงาหงอยเกินไปหน่อย

ดังนั้นหลังจากที่รู้ว่าอิ่นตงวางเงินหนึ่งหยวน เยี่ยจือจึงวางเงินของตนบ้าง และวางไปตั้งหนึ่งร้อยหยวน

“นี่สิถึงเรียกว่ามั่นใจเต็มร้อย!”

นี่เป็นคำพูดที่เยี่ยจือชิวบอกกับอิ่นตง

หลังจากนั้น อิ่นตงก็หัวเราะเย็นเยียบสองครั้ง เสียงหัวเราะ ‘เหอะๆ’ อย่างเย้ยหยันฟังดูไม่เป็นธรรมชาติสุดๆ

เยี่ยจือชิวแสดงความเห็นอกเห็นใจกับเรื่องนี้

สีหน้าของเจ้าอิ่นตงนั่นแลดูไร้อารมณ์ แยกไม่ออกว่าโมโหหรือมีความสุข

แต่ถึงอย่างนั้นน้อยคนนักที่จะรู้ว่า แท้จริงแล้วอิ่นตงไม่ได้มีนิสัยเงียบขรึมอะไร เพียงแต่เขาไม่สบายมาตั้งแต่กำเนิด ใบหน้าเป็นอัมพาตมาตั้งแต่เด็ก

คนนอกเห็นแล้วอาจรู้สึกว่าอิ่นตงเย่อหยิ่งไม่น่าคบหา อิ่นตงเองก็ไม่ได้อธิบาย

ในฐานะพ่อเพลง เขาไม่ได้รู้สึกขุ่นเคืองแต่อย่างใด

“พูดแล้วฉันก็อยากซื้อขึ้นมาบ้างเลย” ไห่ถังกล่าว

แน่นอนว่าเธอเพียงแค่หยอกเล่นเท่านั้น ทุกคนมีทัศนะเกี่ยวกับดนตรีที่แตกต่างกันไป ไห่ถังคิดว่าการไม่เข้าร่วมแวดวงการพนันนั้นเป็นการแสดงความเคารพที่ตนมีต่อดนตรี

แต่คนอื่นซื้อ เธอเองก็ไม่ได้ไปยืนอยู่บนขุนเขาแห่งศีลธรรมอันสูงส่งและสั่งสอนพวกเขาแต่อย่างใด

ตัวอย่างเช่นคุณปู่ หรืออิ่นตง เห็นได้ชัดว่าพวกเขาซื้อเพื่อแสดงท่าทีว่าตนจะต้องชนะ

“ถ้าคุณอยากซื้อ ผมจะแนะนำให้อย่างหนึ่ง จากข่าววงใน!”

เยี่ยจือชิวยิ้มเอ่ยอย่างมีเลศนัย “คุณซื้อทีมเซี่ยนอวี๋กับหลานเหยียน วางอันดับสาม ได้ชัวร์!”

“ทำไมล่ะคะ”

ไห่ถังชะงักไป

เรื่องแบบนี้ยังมีข่าววงในด้วยหรือ

เยี่ยจือชิวยักไหล่ “เมื่อวานผมคุยกับเพื่อนเก่าคนหนึ่งที่อยู่สตาร์ไลท์ เพลงที่ทำให้เธอยอมถอยได้ แน่นอนว่าต้องไม่แย่ นอกจากนั้นจากที่ผมมองแล้ว เซี่ยนอวี๋ถูกประเมินต่ำไป เขาไม่ได้ด้อยกว่าโม่โม่หรือกูตู๋เลย”

สีหน้าของไห่ถังเปลี่ยนไปเล็กน้อย

เธอไม่ได้คิดจะวางเดิมพันเพียงเพราะเรื่องนี้ สิ่งที่ทำให้เธอประหลาดใจก็คือคำวิจารณ์ของเยี่ยจือชิว ดูเหมือนว่าในสายตาของพ่อเพลงคนนี้ ตัวตนของเซี่ยนอวี๋นั้นไม่ธรรมดาเลย?

“คุณไม่เชื่อ?”

เยี่ยจือชิวกล่าว “ถ้าไม่เชื่อ คุณก็ลองไปฟังผลงานทั้งหมดของเซี่ยนอวี๋ดูสักรอบ แล้วคุณจะพบจุดที่น่าสนใจเอง”

“ตัวอย่างเช่น?”

“ตัวอย่างเช่นผลงานของเซี่ยนอวี๋ล้วนมีสไตล์ไม่จำกัด ผมไม่ได้บอกว่าผลงานของเขายอดเยี่ยมอะไร ยอดเยี่ยมก็ยอดเยี่ยมอยู่หรอก แต่โม่โม่กับกูตู๋ก็ไม่ได้แย่ ถึงขั้นที่โดดเด่นกว่าด้วยซ้ำ แต่คนอยางเซี่ยนอวี๋น่ะ แปลกก็ตรงที่เขาทดลองสร้างสรรค์สไตล์และรูปแบบเพลงใหม่ๆ อยู่เสมอ”

นี่เป็นจุดเด่นที่คนน้อยนักจะค้นพบ

โดยทั่วไปแล้ว ผลงานของนักประพันธ์เพลงคนหนึ่งล้วนมีลักษณะร่วมบางอย่าง และมีเอกลักษณ์ซึ่งบ่งบอกตัวตนของผู้สร้างสรรค์ผลงาน

ทว่าบรรดาบทเพลงของเซี่ยนอวี๋ ทั้งที่ดูราวกับว่าไม่ใช่ผลงานของคนเพียงคนเดียว แต่ดันเป็นผลงานของเซี่ยนอวี๋ทั้งหมดจริงๆ!

นี่จึงจะเป็นจุดที่ทำให้เยี่ยจือชิวแปลกใจ

ราวกับว่ารวบรวมสารพัดความชำนาญเอาไว้อย่างไรอย่างนั้น

เพราะฉะนั้นต่อให้เป็นเยี่ยจือชิว ก็ยังอดรู้สึกสงสัยไม่ได้ว่าเพลงที่หลินเยวียนสร้างสรรค์ขึ้นมาในครั้งนี้ จะเดินไปในทิศทางหรือสไตล์ใด

ไห่ถังคล้ายกับกำลังใช้ความคิด

ความสนใจอย่างท่วมท้นที่ทุกคนมีต่อเดือนธันวาคมนั้นส่งผลต่อหลินเยวียน

หลินเยวียนถึงกับโปรโมตข่าวสารเกี่ยวกับเพลงใหม่บนปู้ลั่วหลายครั้งอย่างที่ไม่ค่อยพบเห็นได้บ่อยนัก มิหนำซ้ำยังอุตส่าห์ใช้บัญชีของฉู่ขวงโปรโมต

นอกจากนั้น เขายังให้หลัวเวยใช้บัญชีของอิ่งจือช่วยรีโพสต์ด้วย

สามตัวตนเชื่อมโยงถึงกัน

“…เข้าใจแล้วค่ะ”

หลัวเวยมีท่าทีไม่ค่อยชอบใจสักเท่าไหร่ รู้สึกว่าหลินเยวียนกำลัง ‘ช่วยเหลือศัตรู’

เธอไม่ค่อยเข้าใจว่าสรุปแล้วอิ่งจือกับเซี่ยนอวี๋เป็นศัตรูหัวใจหรือเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดกัน แต่เธอก็ยังทำตามอย่างว่าง่าย

บรรดาแฟนคลับย่อมรับฟัง

ความคิดเห็นทั้งหมดล้วนเป็นไปในทาง ‘สนับสนุน’

ไม่ใช่เพียงแฟนคลับ

นักร้องหลายคนที่เคยร่วมงานกับหลินเยวียนก็ช่วยกันรีโพสต์ข่าวนี้

ตัวอย่างเช่นเฉินจื้ออวี่ ซุนเย่าหั่ว เจียงขุย และจ้าวอิ๋งเก้อ…

เฉินจื้ออวี่ค่อนข้างระแวดระวัง ข้อความที่เขียนแนบไปพร้อมกับรีโพสต์จะเป็นจำพวก ‘มุ่งหน้าสู่สามอันดับแรก’ ‘อาจารย์เซี่ยนอวี๋สู้ๆ นะครับ’ ‘ขอให้เพลงใหม่ของอาจารย์เซี่ยนอวี๋โด่งดัง’ เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่คิดว่าหลินเยวียนจะเป็นแชมป์

มีเพียงซุนเย่าหั่วที่เล่นใหญ่ ข้อความแนบโพสต์เปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ

‘ขอแสดงความยินดีกับเพลงตะวันฉายล่วงหน้าที่ได้เป็นแชมป์รายการเพลงเดือนธันวาคมมา ณ โอกาสนี้เลยนะครับ! ท่านจะสามารถเพลิดเพลินกับส่วนลด 30% จากร้านเยี่ยนเยี่ยนหม้อไฟในวันที่ดาวน์โหลดเพลงนี้ และในวันที่รุ่นน้องผมได้แชมป์ ทุกรายการอาหารในเยี่ยนเยี่ยนหม้อไฟรับส่วนลดถึง 70% โปรโมชันนี้มีผล 24 ชั่วโมง!’

เจียงขุย ‘…’

เฉินจื้ออวี่ ‘…’

จ้าวอิ่งเก้อ ‘…’

นายเจ้าเล่ห์มากนะ

ทำแบบนี้ได้ด้วยเหรอ

แม้แต่หลินเยวียนก็ยังรู้สึกซาบซึ้งใจเมื่อได้เห็นรีโพสต์ของซุนเย่าหั่ว แม้ว่าในพื้นที่แสดงความคิดเห็นของซุนเย่าหั่วจะมีแต่คอมเมนต์ถามหารายละเอียดที่อยู่ของร้านหม้อไฟของเขาก็ตาม…

……………………………………………….