Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน - ตอนที่ 380 คุณคือศิษย์น้องหญิงเล็ก
ตอนที่ 380 คุณคือศิษย์น้องหญิงเล็ก
การตัดสินใจเกี่ยวกับตารางเข้าฉายจำเป็นต้องได้รับการอนุมัติจากเครือโรงภาพยนตร์ ทั้งหมดนี้จำเป็นต้องผ่านการรับประกันคุณภาพของภาพยนตร์ ไม่เช่นนั้นไม่ว่าสตาร์ไลท์จะหน้าใหญ่แค่ไหน ก็ไม่สามารถทำให้เครือโรงภาพยนตร์ถูกอกถูกใจได้ นอกเสียจากว่าสตาร์ไลท์จะยอมปล่อยให้เข้าเนื้อตัวเอง
มีบริษัทภาพยนตร์บางแห่งทำเช่นนี้
แต่โดยทั่วไปแล้วมักจะเป็นภาพยนตร์ศิลปะ
หลังจากกำหนดแนวทางแล้ว ขั้นโพสต์โพรดักชันของเรื่องปากง สุนัขยอดกตัญญูก็กลายเป็นงานสำคัญระยะสั้นในแผนกภาพยนตร์ของบริษัท ขั้นโพสต์โพรดักชันที่ดีที่สุดจะบังเกิดผลให้เห็นในภาพยนตร์ ถึงอย่างไรตอนนี้บริษัทก็ไม่มีแผนภาพยนตร์เรื่องอื่นในช่วงเวลาเดียวกัน
กล่าวโดยรวม สตาร์ไลท์ในปัจจุบันนี้คล้ายกับมุ่งเน้นที่ดนตรีเป็นหลัก แผงขายภาพยนตร์ไม่ใช่ว่าจะเปิดกิจการเต็มรูปแบบอย่างรวดเร็วภายในปีสองปีนี้
หลินเยวียนไม่สามารถช่วยอะไรได้มากนัก
กองถ่ายรับมือกับช่วงเวลาในการถ่ายทำภาพยนตร์ที่เขาต้องการเสร็จเรียบร้อยแล้ว ที่เหลือเพียงแค่ต้องรอ หลินเยวียนจึงใช้ช่วงเวลาว่างระหว่างนี้ เขียนรหัสคดีของนักสืบปัวโรต์ซึ่งตีพิมพ์อย่างต่อเนื่องไปพลางๆ
ขณะนี้คือเดือนตุลาคม นิยายชุดรหัสคดีของนักสืบปัวโรต์ได้รับการตีพิมพ์ไปหลายเล่มแล้ว
ถึงแม้ในสายตาของโลกภายนอก นิยายชุดรหัสคดีของปัวโรต์ จะไม่มีนิยายคลาสสิกระดับเดียวกับฆาตกรรมบนรถด่วนโอเรียนท์เอ็กซ์เพรส ทว่านี่ก็เป็นเรื่องปกติ
ซูซื่อก็ไม่ได้เขียนผลงานระดับทำนองวารีออกมาได้ทุกครั้งไปสักหน่อย
จุดสูงสุดมีหนึ่งครั้งก็เพียงพอแล้ว
ตราบเท่าที่รับประกันคุณภาพโดยรวมของชุดรหัสคดีของปัวโรต์ได้ ผู้อ่านจะยังคงติดตามต่อไป
ดังจะเห็นได้จากข้อเท็จจริงที่ว่ายอดการขายนิยายชุดรหัสคดีของปัวโรต์นั้นคงที่มาก
และระหว่างกระบวนการเผยแพร่นิยายชุดรหัสคดีของปัวโรต์ ยอดนักสืบเสมือนจริงที่ฉู่ขวงสร้างขึ้นอย่างปัวโรต์ก็หยั่งรากลึกลงในจิตใจของผู้คน
เมื่อไม่นานมานี้ มีคดีฆาตกรรมอุกฉกรรจ์ และทางตำรวจก็คลี่คลายคดีได้อย่างรวดเร็ว ชาวเน็ตแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ หลายคนบอกว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไขคดีนี้ฉลาดหลักแหลมราวกับ ‘ปัวโรต์เข้าสิง’ เห็นได้ชัดว่าทุกคนยอมรับในฝีมือการไขคดีของปัวโรต์
อีกทั้งยังเป็นการยกย่องเจ้าหน้าที่ตำรวจที่คลี่คลายคดีได้อย่างรวดเร็ว
ชาวเน็ตในแดนมังกรก็คงคุ้นเคยกับคำอธิบายลักษณะนี้เช่นกัน
เพราะหลายคนจะพูดว่า ‘เชอร์ล็อก โฮล์มส์เข้าสิง’ เพื่อบรรยายไหวพริบฉับพลันของคนคนหนึ่ง
คำอธิบายที่คล้ายกัน ยังมี ‘โคนันเข้าสิง’ อะไรทำนองนั้นอีก นี่คืออีกหลักฐานหนึ่งว่าผู้คนรู้จักปัวโรต์
นอกจากนั้น
มีบริษัทภาพยนตร์บางแห่งประกาศออกไปว่า ภาพยนตร์ชุดปัวโรต์พร้อมจะถ่ายทำแล้ว และกำลังคัดเลือกนักแสดงอยู่ สิ่งเหล่านี้ล้วนทำให้ชื่อเสียงของปัวโรต์แข็งแกร่งขึ้น
ไม่เพียงเท่านี้
เนื่องจากฉู่ขวงประกาศชัดว่าจะเผยแพร่นิยายชุดปัวโรต์ เพราะฉะนั้นหลังจากนี้บริษัทผลิตภาพยนตร์จึงมีความตั้งใจที่จะซื้อลิขสิทธิ์นิยายชุดรหัสคดีของปัวโรต์ คล้ายกับต้องการถ่ายทำซีรีส์ภายใต้ชื่อเดียวกัน
หลินเยวียนลงนามแล้ว
หากนำรหัสคดีของปัวโรต์ไปสร้างเป็นซีรีส์จริงๆ ก็อาจสร้างได้หลายซีซันติดต่อกัน และเมื่ออ้างอิงจากนิยายส่วนที่ตีพิมพ์ออกมาแล้ว สร้างออกมาสักหนึ่งซีซัน เนื้อเรื่องก็สมบูรณ์มากเพียงพอ
เชอร์ล็อก โฮล์มส์โด่งดังไปทั่วโลกก็เพราะเรื่องเหล่านี้
หลินเยวียนไม่สามารถทำเรื่องนี้สำเร็จได้ด้วยตัวคนเดียว
ในเมื่อเขาตัดสินใจสร้างปัวโรต์ขึ้นมาแล้ว ย่อมไม่อาจปฏิเสธอิทธิพลของการดัดแปลงนิยายเหล่านี้เป็นภาพยนตร์ได้
เช่นเดียวกับอิทธิพลด้านวรรณกรรมของเรื่องแฮร์รี พ็อตเตอร์ซึ่งแผ่ขยายไปทั่วโลก ส่วนหนึ่งก็เป็นผลมาจากภาพยนตร์
กรณีตัวอย่างของความสำเร็จจากการโปรโมตนั้นมีมากมายเหลือเกิน การทำลายพันธนาการของตัวอักษร จึงจำเป็นต้องพึ่งพาสิ่งเหล่านี้นั่นเอง
……
ขณะที่สถานการณ์ของตัวตนอย่างฉู่ขวงมั่นคงและเติบโตขึ้นเรื่อยๆ สถานการณ์ทางอิ่งจือเองก็ดีมากทีเดียว
เมื่อการ์ตูนเผยแพร่ติดต่อกันไปเรื่อยๆ บันทึกมรณะก็รักษาตำแหน่งหนึ่งในสามเสาหลักของปู้ลั่วการ์ตูน โดยอาศัยแรงประสานจากกระแสและพล็อตเรื่อง
และหลินเยวียนก็ตัดสินใจทำตามสัญญา เริ่มสอนวาดภาพพู่กันโบราณให้กับหลัวเวยอย่างเป็นทางการ!
เมื่อรู้ข่าวนี้ หลัวเวยรู้สึกตื่นเต้นมาก “จะสอนฉันตอนนี้เหรอคะ”
“ตอนนี้เลยครับ”
วันนี้ตอนใหม่ของเรื่องบันทึกมรณะเพิ่งอัปโหลดไป ประจวบเหมาะกับที่หลินเยวียนไม่มีธุระพอดี จึงสามารถสอนหลัวเวยได้สักพัก
“ฉันพร้อมแล้วค่ะ!”
หลัวเวยหยิบอุปกรณ์สำหรับวาดภาพพู่กันโบราณออกมา นั่นตัวตรงพลางมองไปทางหลินเยวียน
หลินเยวียนพยักหน้า “งั้นเริ่มเลยครับ”
หลินเยวียนหยิบพู่กันออกมา
การสอนวาดภาพนั้นต่างจากการสอนประพันธ์เพลง ไม่จำเป็นต้องใช้การ์ดตัวละครใดๆ หลินเยวียนเป็นถึงระดับปรมาจารย์ในโลกจิตรกรรม กอปรกับเอฟเฟ็กต์อาจารย์ การสอนหลัวเวยจึงไม่ใช่เรื่องยาก
วิชาเรียนจิตรกรรมค่อยๆ ผ่านไป
ครึ่งชั่วโมงให้หลัง
หลัวเวยมองดูหลินเยวียนด้วยความงุนงง ในรู้สึกใจตุ๊มๆ ต่อมๆ
หลังจากได้เห็นฝีมือการวาดภาพของหลินเยวียนแล้ว หลัวเวยรู้สึกว่าตนเองโชคดีมาโดยตลอดที่ตอนนั้นเลือกมาเป็นผู้ช่วยของหลินเยวียน
จนกระทั่งหลัวเวยได้ร่ำเรียนวิชาวาดภาพพู่กันโบราณ เธอจึงตระหนักได้ว่าการตัดสินใจในตอนนั้น แท้จริงแล้วเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตของเธอ!
ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี เธอจะรู้สึกขอบคุณตนเองเสมอที่ตอนนั้นตัดสินใจเป็นผู้ช่วยของหลินเยวียน
ต้องเข้าใจว่าหลัวเวยเคยเชิญศิลปินชื่อดังหลายท่านมาสอน เพื่อพัฒนาฝีมือการวาดภาพของตน หนึ่งในนั้นยังรวมไปถึงศิลปินผู้คร่ำหวอดในวงการภาพวาดพู่กันโบราณ
ทว่าแต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยมีศิลปินชื่อดังด้านภาพวาดพู่กันโบราณคนใด ที่สามารถให้คำแนะนำแก่หลัวเวยได้รอบด้าน ทำให้หลัวเวยเรียนไปได้สักพัก ก็รู้สึกว่าปัญหามากมายที่ก่อนหน้านี้แก้ไขไม่ได้นั้นยังคงค้างคาดังเดิม!
และเมื่อถึงเวลาสองชั่วโมงต่อมา
ในใจของหลัวเวยก็เกิดความรู้สึกที่บอกไม่ถูกบางอยาง อีกทั้งความรู้สึกเช่นนี้ยังชัดเจนและรุนแรง “รู้สึกเหมือนฉัน…แข็งแกร่งขึ้น…”
“กลับไปฝึกฝนอีกนะครับ”
หลินเยวียนเอ่ย “พรุ่งนี้จะสอนเทคนิควาดการ์ตูนให้คุณอีกสักหน่อย”
“การ์ตูนก็ต้องเรียน?”
“ไม่งั้นคุณจะวาดแทนผมได้ยังไงล่ะครับ?”
“เข้าใจแล้วค่ะ อาจารย์…” หลัวเวยพูดด้วยรอยยิ้ม
อิ่งจือยังคงเป็นอิ่งจือ ชอบอู้งานเหมือนเดิม
เพียงแต่ระยะนี้ความสามารถในการวาดภาพการ์ตูนของตนตามอีกฝ่ายไม่ทัน ฉะนั้นงานวาดภาพทั้งหมดในตอนนี้ อิ่งจือจึงเป็นคนรับผิดชอบ
เพื่อให้อู้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เขาถึงกับคิดจะพัฒนาฝีมือด้านการวาดการ์ตูนให้กับตน และให้ตนวาดเนื้อหาบางส่วนแทนเขาต่อไป
แต่ถึงอย่างนั้น หลัวเวยก็ชื่นชอบความรู้สึกที่ได้พัฒนาความสามารถของตน จึงไม่ได้รังเกียจรังงอน
“อาจารย์ เชิญดื่มชา”
ผ่านไปชั่วครู่ หลัวเวยยกน้ำชามาหนึ่งถ้วย และส่งให้หลินเยวียนด้วยท่าทางอ่อนน้อม
หลินเยวียนไม่ได้คิดมาก รับมาดื่มทันที แต่กลับนึกไม่ถึงว่าจู่ๆ หลัวเวยจะโค้งคำนับเขาสามครั้ง
“ติ๊งต่อง”
ระบบแจ้งเตือน “ยินดีด้วย คุณรับลูกศิษย์คนใหม่ ลูกศิษย์คนนี้เชี่ยวชาญด้านจิตรกรรมเป็นอย่างมาก โปรดดูแลให้ดี”
“คุณทำอะไรน่ะ”
หลินเยวียนมองไปยังหลัวเวย
“คำนับอาจารย์ค่ะ”
หลัวเวยเอ่ยอย่างจริงจัง “อาจารย์ดื่มชาของฉันแล้ว สอนฉันวาดภาพแล้ว แถมยังรับการคำนับของฉันแล้ว ต่อไปฉันจะเป็นลูกศิษย์ที่ดี ครั้งนี้อาจไม่เป็นทางการนัก พรุ่งนี้ฉันจะเชิญเพื่อนๆ กับรุ่นพี่จากชมรมจิตรกรรมมาเป็นสักขีพยาน”
“ไม่ต้องครับ”
หลินเยวียนไม่ใช่คนชอบพิธีรีตรองยุ่งยาก
ระบบรับรองแล้ว ลูกศิษย์คนนี้อย่างไรก็ต้องรับไว้
ยิ่งไปกว่านั้น พรสวรรค์ด้านจิตรกรรมของหลัวเวยสูงมาก หลังจากนี้จะมีส่วนช่วยกอบโกยค่าความโด่งดังให้หลินเยวียนอีกไม่น้อย ไม่มีเหตุผลให้ผลักไสไล่ส่งเธอ
เพียงแต่เดิมทีเขาสัญญากับหลัวเวยว่าจะสอนอีกฝ่ายวาดภาพ วันนี้เขาแค่ทำตามสัญญา จึงไม่ได้คิดไปถึงเรื่องรับลูกศิษย์
“สวัสดีค่ะอาจารย์”
หลัวเวยยิ้มหวาน “หลังจากนี้ถ้าอาจารย์มีลูกศิษย์คนใหม่ ฉันก็จะเป็นศิษย์พี่หญิงใหญ่ ฉันละชอบความรู้สึกของการเป็นพี่ใหญ่จริงๆ!”
“ไม่ครับ”
หลินเยวียนพูด “คุณคือศิษย์น้องหญิงเล็ก”
หลัวเวย “???”
……………………………………………