Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน - ตอนที่ 430 ยังติดค้างอันดับหนึ่งกับเธอ
หลินเยวียนไม่ได้ลงมือเขียนนิยายทันที เขาพยายามหลีกเลี่ยงการนอนดึกจนกว่าร่างกายของเขาจะฟื้นตัว
เมื่อเห็นว่ามืดแล้ว เขาจึงอาบน้ำแปรงฟัน ก่อนจะรีบขึ้นไปล้มตัวนอนบนเตียง พลางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอ่านกลุ่มแช็ตเล็กของตน
กลุ่มแช็ตเล็กมีสี่คน
หลินเยวียน ซย่าฝาน เจี่ยนอี้ และพี่สาว
ข้อความมากเกินไป หลินเยวียนไล่อ่านคร่าวๆ จนไล่มาถึงข้อความบนสุด
ข้อความบนสุดเป็นข้อความที่ซย่าฝานส่งมา ‘น่าเสียดายสุดท้ายแล้ว ฉันได้อันดับแปด ปล่อยเพลงช้าไปหน่อย’
ด้านล่างเป็นภาพจับหน้าจออันดับของเพลงแดนนิทานในชาร์ตเพลงล่าสุด
เนื่องจากเพลงแดนนิทานเปิดตัวในวันสุดท้ายของเดือน ดังนั้นจึงไต่อันดับได้ไม่ทัน
เพียงแต่อันดับที่แปด ก็นับว่าเป็นผลงานที่ดีมากแล้ว
ต้องเข้าใจว่าคนอื่นเขาเก็บสถิติมาตั้งสามสิบวัน แดนนิทานกลับใช้เวลาเพียงวันเดียว
หลังจากนั้นเจี่ยนอี้ก็เอ่ยปลอบ ‘เธอดังแล้ว ดูฉันสิ ช่วงนี้ยังไปออดิชันกับกองถ่ายอยู่เลย’
พี่สาวเมนชันเจี่ยนอี้ ‘นายไปกองถ่ายของหลินเยวียนสิ’
เจี่ยนอี้: ‘ผมอยากทำแบบซย่าฝาน พยายามด้วยตัวเอง แต่ก็คงยากหน่อย ไว้จะไปหาหลินเยวียน’
ซย่าฝานพยายามด้วยตัวเองจริงๆ แรกเริ่มหลินเยวียนให้เพลงความฝันแรกกับซย่าฝานแค่เพลงเดียว
บวกกับเพลงแดนนิทานที่เพิ่งให้ไป ก็มีเพียงสองเพลงเท่านั้น
หลินเยวียนเคยถามซย่าฝานว่าต้องการให้ช่วยหรือไม่ ปรากฏว่าซย่าฝานปฏิเสธทุกครั้ง หลินเยวียนจึงไม่ได้พูดอะไร
ทว่าในตอนนี้ตนมีเหตุผลให้ช่วยเหลือแล้ว
เขาเมนชันซย่าฝาน ‘ครั้งหน้าพวกเราจะได้ที่หนึ่ง’
หลังจากนั้นหลินเยวียนจึงพิมพ์เมนชันเจี่ยนอี้
มือหยุดชะงัก ก่อนที่หลินเยวียนจะกดออกจากกลุ่ม และกดภาพโปรไฟล์ของเจี่ยนอี้เพื่อสนทนาส่วนตัว ‘ว่างๆ ก็มาถ่ายหนังได้’
เจี่ยนอี้ตอบอย่างรวดเร็ว ‘กลัวฉันเสียหน้าเหรอ’
หลินเยวียนตอบ ‘อืม’
เจี่ยนอี้ ‘…’
ไม่ต้องตอบตรงไปตรงมาขนาดนั้นได้ไหมล่ะ?
เอาเถอะ สมกับเป็นหลินเยวียนดี แต่ถึงอย่างนั้นในใจของเจี่ยนอี้ก็รู้สึกซาบซึ้งใจอยู่บ้าง ‘นายจะทำหนังเรื่องไร ฉันไม่ได้เล่นได้ทุกเรื่องหรอกนะ’
หลินเยวียนไม่ได้สนใจความเย่อหยิ่งของเพื่อนสนิท และตอบไปตามตรง ‘ยังไม่ได้คิด’
เจี่ยนอี้ ‘ได้ อย่างน้อยฉันขอนักแสดงชายลำดับสาม…เอ้อๆๆ ลำดับสี่ก็ได้ ลำดับสี่ฟังดูไม่ค่อยดี งั้นลำดับห้าก็ได้’
หลินเยวียนหลุดหัวเราะ
นักแสดงชายลำดับห้า ก็คือตัวประกอบซึ่งแทบไม่มีตัวตนดีๆ นี่เอง ถึงแม้เขาจะเป็นคนมีเหตุมีผล แต่เมื่อเป็นเรื่องของเพื่อนและครอบครัว เขากลับไม่ได้ใส่ใจเหตุผลที่เข้มงวด
‘นักแสดงนำชาย’
หลินเยวียนตอบอย่างเฉียบขาด
บทสนทนาชะงักไปชั่วขณะ
ผ่านไปนาน กว่าเจี่ยนอี้จะตอบกลับ ‘แสดงนำก็ได้ เพลงใหม่ของนายมีเอ็มวีใช่ไหม ฉันเล่นเป็นพระเอกเอ็มวีให้’
‘หนัง’
หลินเยวียนยังคงยืนกราน
ครั้งนี้เจี่ยนอี้เงียบไปนานทีเดียว ‘แสดงไม่ไหวหรอก’
หลินเยวียนตอบ ‘ไม่เป็นไร ฉันมีประสบการณ์ ไว้จะติดต่อไป อย่าลืมมารายงานตัวที่กองถ่ายล่ะ’
พูดจบหลินเยวียนก็ไม่ได้สนใจทางเจี่ยนอี้อีก
แน่นอนเขารู้ว่าทำไมเจี่ยนอี้ถึงหาข้ออ้างสารพัด
ไม่มีอะไรมากไปกว่าความกลัวว่าเขาเองเป็นนักแสดงหน้าใหม่ จะพาให้งานของหลินเยวียนล่าช้า
แต่หลินเยวียนก็มีวิธีของตนเอง เขามีไอเทมจากระบบ ต่อให้ฝีมือการแสดงของเจี่ยนอี้จะย่ำแย่ เขาก็สามารถทำให้อีกฝ่ายเก่งกาจขึ้นมาได้
ยิ่งไปกว่านั้นเจี่ยนอี้เรียนศิลปะการแสดงมา
ผลการเรียนในสาขาของเขาเป็นอันดับต้นๆ มาโดยตลอด ทักษะการแสดงไม่มีทางย่ำแย่ไปได้หรอก
ส่วนปัญหาที่นักแสดงหน้าใหม่ไร้ชื่อเสียง…
อันที่จริงเรื่องนี้ไม่นับว่าเป็นปัญหา ตอนนั้นหลินเยวียนผลิตภาพยนตร์เรื่อง ‘ถังปั๋วหู่ ใหญ่ไม่ต้องประกาศ’ นักแสดงนำชายอย่างเฮ่อเซิ่งก็เคยเป็นตัวประกอบมาก่อน
หลินเยวียนไม่สามารถให้เจี่ยนอี้ไปแสดงภาพยนตร์จำพวก ‘ปากง สุนัขยอดกตัญญู’ เนื่องจากภาพยนตร์ประเภทนั้นจำเป็นต้องอาศัยฝีมือการแสดงระดับราชาภาพยนตร์
ทว่าภาพยนตร์บางเรื่อง นักแสดงหน้าใหม่ก็แสดงได้ บางครั้งใช้นักแสดงวัยรุ่นได้ด้วยซ้ำไป
……
ในเมื่อตัดสินใจหาภาพยนตร์สักเรื่องที่เหมาะกับเจี่ยนอี้แล้ว หลินเยวียนจึงเอ่ยเรียกระบบทันที “หนังเรื่องนี้จะไม่สุ่มเลือก”
หลินเยวียนไม่มั่นใจว่าระบบจะสุ่มอะไรออกมา
ระบบส่งเสียงติ๊งต่อง “โฮสต์สามารถเลือกจากคลังภาพยนตร์ได้ หลังจากออกจากการเชื่อมต่อแล้ว ความทรงจำจะหายไป”
“อืม”
จิตของหลินเยวียนเชื่อมต่อกับคลังภาพยนตร์ของระบบทันที ราวกับเขาเข้าไปในโลกเร้นลับ ในห้วงสำนึกปรากฏข้อมูลภาพยนตร์ขึ้นมานับไม่ถ้วน
“เรื่องนี้เป็นไง?”
ทันใดนั้นสายตาของหลินเยวียนก็จับจ้องไปยังภาพยนตร์เรื่องหนึ่ง
หน้าปกของภาพยนตร์เรื่องนี้คือผู้ชายคนหนึ่ง อย่างน้อยรูปร่างก็แลดูเป็นผู้ชาย เขาสวมชุดรัดรูปสีแดงมีลายตาข่ายสีดำ ศีรษะของเขาสวมหน้ากาก และส่วนของดวงตาเป็นสีขาว
สไปเดอร์แมน!
ในเมื่อคิดจะปั้นคนทั้งที จะเลือกภาพยนตร์วรรณกรรมทำไมเล่า และหากเอ่ยถึงภาพยนตร์เชิงพาณิชย์ จะมีภาพยนตร์เชิงพาณิชย์สักกี่เรื่องที่ประสบความสำเร็จไปมากกว่าภาพยนตร์จากจักรวาลมาร์เวล
ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงสไปเดอร์แมนผู้โด่งดัง
นี่คือผลผลิตจากต้นฉบับจักรวาลมาร์เวลเชียวนะ!
อย่างไรก็ตาม ภาพยนตร์เรื่องสไปเดอร์แมนมีหลายเวอร์ชัน เวอร์ชันที่หลินเยวียนกำลังเล็งอยู่นั้นคือเวอร์ชันดั้งเดิม ซึ่งก็คือสไปเดอร์แมนซึ่งมีความสามารถในการต่อสู้จากการกลายพันธุ์เป็นหลัก
“ที่จริง ‘เวนอม’ ก็…”
หลินเยวียนส่ายหน้า ให้เจี่ยนอี้แสดงเรื่องสไปเดอร์แมนดีกว่า ตัวเอกชายเรื่องเวนอมออกจะกร้านโลกอยู่เล็กน้อย ใบหน้าอิ่มฟูอย่างเจี่ยนอี้ แถมยังเป็นนักแสดงอายุน้อย ไม่เหมาะกับตัวละครในเรื่องเวนอม
“เริ่มต้นผลิต!”
หลินเยวียนพูด ครั้งนี้ไม่ได้ถามถึงราคา ในความจริงแล้วช่วงนี้เขาไม่ค่อยถามราคาเมื่อสั่งผลิตผลงาน ไม่ใช่เพราะไม่สนใจ แต่เพราะไม่อยากแบกรับความเจ็บปวด
ตราบใดที่เขาไม่ถามราคา ก็จะแสร้งว่าตนไม่ได้จ่ายเงินไปได้
นี่คือทฤษฎีที่หลินเยวียนคิดขึ้นมา เพราะด้วยยอดเงินในบัญชีของเขา ค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ที่ระบบหักไป แทบไม่ได้ให้ความรู้สึกที่แตกต่างจากเดิมเลย
“กำลังผลิต”
ระบบเปิดโหมดผลิตบทภาพยนตร์
หลายนาทีผ่านไป การผลิตสำเร็จ ในสมองของหลินเยวียนปรากฏบทภาพยนตร์เรื่องสไปเดอร์แมน
เรื่องราวดูเหมือนจะอิงจากสไปเดอร์แมนเวอร์ชันแรก แต่ระบบทำการปรับเปลี่ยนเล็กน้อย
ตัวอย่างเช่นโลกเดิมมีหลายประเทศ แต่บลูสตาร์ในตอนนี้ไม่มีประเทศ มีเพียงทวีปและความแตกต่างระหว่างทวีป
เพื่อปรับเปลี่ยนให้เข้ากับบลูสตาร์ ระบบจึงยกเลิกแนวคิดเกี่ยวกับประเทศในภาพยนตร์
นอกจากนั้น
สไปเดอร์แมนเวอร์ชันแรกอาศัยเส้นเลือดในการยิงใยแมงมุม ความสามารถนี้แข็งแกร่งเกินไป ดังนั้นในบทภาพยนตร์จึงมีการปรับแก้เล็กน้อย
หืม?
เมื่ออ่านไปจนถึงด้านหลัง หลินเยวียนจึงพบว่าบทภาพยนตร์มีการเชื่อมโยงถึงฮีโร่คนอื่นๆ ซึ่งเป็นตัวกำหนดทิศทางสำหรับภาพยนตร์มาร์เวลเรื่องต่อไปของหลินเยวียน
เจี่ยนอี้ไม่มีชื่อเสียง
แต่ปีนี้เจี่ยนอี้อายุ 22 ปี
เรื่องสไปเดอร์แมนจะใช้นักแสดงที่อายุมากเกินไปไม่ได้
สไปเดอร์แมนรุ่นแรกดีทุกอย่าง เพียงแต่อายุของเขาค่อนข้างมีปัญหา สไปเดอร์แมนหลายภาครวมกันใช้เวลาถ่ายทำนานหลายปี นักแสดงหลายคนถ่ายทำจนอายุมาก บนใบหน้าปรากฏริ้วรอยชัดเจน นี่คือสิ่งที่หลินเยวียนจะพยายามหลีกเลี่ยงอย่างสุดความสามารถ
เพราะหลินเยวียนรู้ดี…
ว่าเมื่อจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวลเปิดตัว ตนอาจไม่ได้ผลิตเพียงเรื่องเดียว หลังจากนี้อาจพิจารณาผลิตภาพยนตร์ฮีโร่เรื่องอื่นๆ เช่นกัน
แน่นอนว่ายังเร็วไปที่จะขบคิดเรื่องนี้
พรุ่งนี้หลินเยวียนคิดว่าจะนำบทภาพยนตร์ไปคุยกับเหล่าโจว เงินทุนของภาพยนตร์เรื่องนี้จะสูงกว่าเรื่องก่อนมาก
……………………………………………………