Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน - ตอนที่ 440 ศึกระหว่างฉินและเยี่ยน
ช่วงนี้วงการนิทานขนาดยาวคึกคักจริงๆ
ความคึกคักนี้เริ่มต้นขึ้นเพราะข่าวเกี่ยวกับผลงานใหม่ โดยอาจารย์หยวนหยวนปรมาจารย์แห่งนิทานยาว ผู้สร้างนิทานชุดลูกหมูสามตัว
ทว่าสิ่งที่จุดกระแสในวงการนิทานได้อีกครั้ง กลับเป็นการเริ่มต้นของการประชันวรรณกรรม!
ใช่แล้ว
สามวันหลังจากอาจารย์หยวนหยวนประกาศว่ากำลังจะเผยแพร่ผลงานใหม่ อาจารย์หยวนหยวนก็ได้รับคำท้าประชันวรรณกรรมจากชาวเยี่ยนคนหนึ่ง
ผู้ที่ส่งคำท้าประชันวรรณกรรมมาคือนักเขียนนิทานยาวชื่อดังชาวเยี่ยน อาหู่!
อาหู่คือใคร
ไม่สู้แนะนำเช่นนี้ดีกว่า
หากกล่าวว่าเรื่องลูกหมูสามตัวของอาจารย์หยวนหยวนคือวัยเด็กของคนบลูสตาร์มากมาย เช่นนั้นนิทานเรื่อง ‘การผจญภัยของปลาคาร์ปน้อย’ ก็คือวัยเด็กของชาวเยี่ยนหลายคน…
สถานะในวงการนิทานของแต่ละทวีป ทั้งอาหู่และหยวนหยวนอยู่ในระดับเดียวกัน!
สิ่งที่น่าสนใจก็คือ…
ผลงานเรื่องใหม่ของอาจารย์อาหู่ก็ตีพิมพ์กับทางคลังหนังสือซิลเวอร์บลูเช่นเดียวกัน หนังสือเล่มใหม่นั้นมีชื่อว่า ‘การผจญภัยของแมวน้อย’!
ทำไมถึงน่าสนใจน่ะหรือ
ก็เพราะเรื่องนี้ช่างบังเอิญเหลือเกิน!
ผลงานเรื่องใหม่ของอาจารย์หยวนหยวนชื่อว่า ‘ดาวแมวเหมียว’!
นักเขียนนิทานซึ่งมาจากต่างทวีปกัน ดันมี ‘แมว’ เป็นตัวเอกในผลงานนิทานขนาดยาวเหมือนกันโดยมิได้นัดหมาย!
ทันใดนั้นกลิ่นของดินปืนก็โชยออกมา!
‘เหมือนดาวอังคารชนบลูสตาร์’
มีคนอธิบายขนาดของการประชันวรรณกรรมสนามนี้ไว้เช่นนี้
และมีคนสัพยอกว่า
‘นิทานสั้นของชาวเยี่ยนถูกฉู่ขวงจัดการไปแล้ว พวกเขาจึงไม่แข่งนิทานสั้นอีกต่อไป แต่หันมาประลองนิทานยาวแทน…’
นิทานสั้นสู้ไม่ได้แล้ว
ฉู่ขวงเอาชนะแบบหนึ่งต่อเก้า ก้าวขึ้นเป็นเทพสงครามด้วยศึกเพียงครั้งเดียว .
ใช้แดนนิทานคว้าสมญานาม ‘ราชานิทานสั้น’ ศึกครั้งนี้เท่ากับการอวสานครั้งหนึ่งของวงการนิทานสั้นของชาวเยี่ยน!
เพราะฉะนั้น…
วงการนิทานเยี่ยนโจวในระยะนี้ ไม่มีนักเขียนเรื่องสั้นคนใดส่งคำท้าถึงนักเขียนทวีปอื่นอีก
เพราะไม่มีประโยชน์
ฉู่ขวงทำศึกครั้งใหญ่กับนักเขียนเก้าคน ความตื่นเต้นตระการตานั้นทุกคนได้เห็นแล้ว
ไม่ว่าชาวเยี่ยนจะประชันวรรณกรรมด้วยนิทานสั้นอย่างไร ทุกคนจะนำแดนนิทานของฉู่ขวงมาเปรียบเทียบเสมอ หลังจากนั้นอรรถรสก็จะหายไปทันที
หากไม่มีฉู่ขวง การประลองเหล่านี้คงเป็นเพียงเล้าของไก่อ่อนที่จิกกันไปมาเท่านั้น
ถึงขั้นที่มีคนคิดว่า ที่อาจารย์อาหู่ส่งคำท้าประชันวรรณกรรมถึงอาจารย์หยวนหยวนก็เพราะต้องการเป็นตัวแทนจากเยี่ยน ส่งคำท้าถึงวงการนิทานฉินโจวเพื่อล้างแค้น!
นิทานสั้น พวกเราชาวเยี่ยนยอมถอย
นิทานสั้นของฉู่ขวงนั้นไร้เทียมทาน
แต่นิทานยาว พวกเราชาวเยี่ยนไม่ขลาดกลัว!
‘คนเยี่ยนจะไม่ยอมเป็นทาสคุณหรอกค่ะ!’
ประจวบเหมาะกับที่อาจารย์หยวนหยวนและฉู่ขวงเป็นนักเขียนนิทานชาวฉินพอดี นั่นยิ่งทำให้จินตนาการของเพื่อนร่วมอาชีพโลดแล่นขึ้นไปอีก
แต่มีคนคิดว่า การประชันวรรณกรรมในครั้งนี้ไม่อาจเรียกได้ว่าเป็นศึกล้างแค้น
‘ต่อให้อาหู่ชนะประชันวรรณกรรม อย่างมากก็นับว่าอาหู่ได้รับการยกย่องจากวงการนิทานเยี่ยนโจวอีกครั้ง นอกเสียจากว่าอาหู่จะทำได้แบบฉู่ขวง คนเดียวเขียนนิทานเรื่องยาวระดับเดียวกันออกมาได้หลายเรื่องในคราวเดียว…’
นี่เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้
การสร้างสรรค์นิทานยาวสักเรื่องหนึ่งและการสร้างสรรค์นิทานสั้นสักเรื่องหนึ่งนั้นเป็นคนละแนวคิดกัน
นิทานยาวเขียนไม่กี่สิบล้านตัวอักษรไม่นับว่ามาก นิทานสั้นเขียนไม่กี่พันล้านตัวอักษรไม่นับว่าน้อย
ดังนั้นการต่อสู้แบบหนึ่งต่อเก้าอันน่าตกตะลึงของฉู่ขวงประหนึ่งจับนักเขียนชาวเยี่ยนทุ่มลงกับพื้น และถูกลิขิตมาให้อยู่ในจารึกของวงการนิทานตลอดกาล!
‘นอกจากนั้นก็ยังบอกไม่ได้ว่าใครชนะใครแพ้’
เป็นเพราะฉู่ขวง ฉินและเยี่ยนจึงเกิดประกายไฟของความขัดแย้งระหว่างพื้นที่
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ นักเขียนนิทานจากฉินย่อมยืนอยู่ข้างอาจารย์หยวนหยวน
เช่นเดียวกับวงการนิทานของชาวเยี่ยน ซึ่งหวังว่าอาจารย์อาหู่จะได้รับชัยชนะในครั้งนี้
ทั้งสองฝ่ายราวกับขึ้นสังเวียนประลอง
ชาวฉินมีหน้าที่ส่งเสียงเชียร์อาจารย์หยวนหยวน ส่วนชาวเยี่ยนคอยส่งเสียงเชียร์อาจารย์อาหู่
ถึงอย่างไรทั้งสองท่านนี้ก็นับว่าเป็นบุคคลสำคัญซึ่งมีคุณสมบัติมากพอจะเป็นตัวแทนสองพื้นที่
ชาวเน็ตทั้งสองฝั่งก็เปิดโหมดสงครามคีย์บอร์ดกันแล้ว
‘พวกคุณมีฉู่ขวง แข่งนิทานสั้นพวกเราไม่มีโอกาส แต่นิทานยาวของเยี่ยนเราไม่ไก่กาแน่นอน!’
‘แค่พวกคุณได้อ่านการผจญภัยของปลาคาร์ปน้อยก็รู้ถึงความเก่งกาจของอาจารย์อาหู่แล้ว!’
‘ชาวเยี่ยนต้องชนะ!’
‘อาจารย์อาหู่นอนรอมงไปเลย’
‘นับตั้งแต่อาจารย์อาหู่เปิดตัวในเยี่ยนโจว ผลงานไม่เคยเป็นสองรองใคร พวกคุณรู้ไหมว่าเขาระดับไหนแล้ว’
‘เขาคือยอดฝีมือด้านการประชันวรรณกรรมตัวจริง!’
‘…’
ชาวเยี่ยนเริ่มตีฆ้องร้องป่าว
ชาวฉินไม่มีทางยอม
‘งั้นทำไมพวกคุณไม่ลองอ่านลูกหมูสามตัวของฉินบ้างล่ะ’
‘โดนนิทานสั้นของฉู่ขวงทุบหลังหักไปครั้งหนึ่งแล้ว นิทานยาวมีเหรอจะปล่อยให้พวกคุณรอด?’
‘อาจารย์หยวนหยวนคือเจ้าแก่คนต่อไปของวงการนิทานยาวของฉิน…ไม่สิ นั่นมันฉู่ขวง!’
‘คนเยี่ยนชอบปากแข็ง ในเมื่อไม่ยอม ก็สู้กันสักตั้งให้มันรู้ไปเลย!’
‘อาจารย์ฉู่ขวงฟาดไปหนึ่งป้าบ ป้าบที่สองรออาจารย์หยวนหยวน สักสองป้าบก็น่าจะพอให้ทุกคนในวงการนิทานของพวกคุณได้สติขึ้นมาบ้าง!’
‘ฉู่ขวง: ฉันจะไม่ยอมให้ใครหน้าไหนบนบลูสตาร์มาบ้ากว่าฉัน!’
‘ฉู่ขวง: หยวนหยวนคุณเข้ามาเลย คนกลุ่มนี้ผมตีสลบไปแล้ว’
‘…’
ชาวเยี่ยนโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ
ชาวฉินเหล่านี้ยังจะหยิบชื่อฉู่ขวงมาเล่นมุกอีก!
นี่พวกเราประชันนิทานยาวกันอยู่นะ!
ฉู่ขวงเขียนนิทานสั้นต่างหากล่ะ!
ส่วนชาวเน็ตจากฉีและฉู่ก็กระตือรือร้นขึ้นมาเช่นกัน ถึงเวลาทำงานของบรรดาไทยมุง
ชาวฉู่บางคนก็เข้าใจหัวอกของชาวเยี่ยน
ทั้งดนตรีและการ์ตูนของเขา ล้วนถูกเพื่อนสนิทของฉู่ขวงผลัดกันเก็บกวาด…
มีคนสรุปได้ความว่า
สามเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อนี้เรียกได้ว่าภายในเป็นนักบุญ ภายนอกเป็นราชา!
ศึกภายในดุดันราวพยัคฆ์!
ศึกภายนอกเหี้ยมโหดประหนึ่งเทพสงคราม!
ตัวอย่างเช่นเซี่ยนอวี๋
เมื่อต่อสู้กับคนในพื้นที่ก็เพียงปล่อยเพลงทั่วไป เมื่อเผชิญหน้ากับชาวฉู่กลับเหวี่ยงเพลงวิวาห์ในฝันใส่ซะอย่างนั้น!
หรืออิ่งจือ
เมื่อต่อสู้กับคนในพื้นที่ก็เพียงขีดๆ เขียนๆ วาดภาพออกมาอย่างเกียจคร้าน หนำซ้ำยังใส่ภาพลามกมาอีก ปรากฏว่าเมื่อต้องมาสู่กับชาวฉู่ เขากลับปล่อยเรื่องสมุดมรณะ ซึ่งเรียกได้ว่าฝีมือการวาดภาพนั้นไร้เทียมทานสุดๆ!
เมื่อเร็วๆ นี้ฉู่ขวงก็ทำเรื่องในทำนองเดียวกันไม่ใช่หรือ?
แข่งกับคนในบ้านใช้เพียงเรื่อง ‘สโนว์ไวท์’
แต่เมื่อมาสู้กับชาวเยี่ยน กลับยกขบวนนิทานมาพร้อมกับสโนว์ไวท์อีกเก้าเรื่อง ส่งหนังสือแดนนิทานออกมาเผด็จศึกเสียเลย!
และในแผนกนิทานคลังหนังสือซิลเวอร์บลูขณะนี้
เกิดสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสุ่ยจูโหรวและจางหยาง
เพราะอาจารย์อาหู่ คือคนที่จางหยางเชิญมา!
เพราะฉะนั้น…
ที่โลกภายนอกกล่าวว่าอาหู่เลือกเผยแพร่ผลงานกับคลังหนังสือซิลเวอร์บลูก็เพื่อยั่วยุอาจารย์หยวนหยวน อันที่จริงอาจเป็นการปรักปรำอาหู่
จางหยางเป็นคนจัดแจงเรื่องนี้เพื่อช่วงชิงตำแหน่งหัวหน้าบรรณาธิการคลังหนังสือซิลเวอร์บลูต่างหาก
มีเพียงอาหู่เท่านั้น ที่จะทำให้จางหยางแข่งขันผลงานกับสุ่ยจูโหรวได้
แต่ในความจริงแล้ว หากจะบอกว่าอาหู่ถูกปรักปรำ ก็คงไม่ใช่เสียทั้งหมด
เพราะเขามีความคิดจะเป็นตัวแทนวงการนิทานจากเยี่ยน มาแก้แค้นชาวฉินจริงๆ!
ฉู่ขวงจัดการหักขานักเขียนนิทานสั้นชาวเยี่ยน อาหู่ในฐานะบุรุษผู้อาจหาญจากเยี่ยน จำเป็นต้องตบหน้าวงการนิทานยาวของฉินให้หลาบจำ!
พวกเราชาวเยี่ยนก็แข็งแกร่งแบบนี้แหละ!
ในฐานะชาวเยี่ยน อาหู่มีความรับผิดชอบเช่นนี้
และท่ามกลางบรรยากาศอันคุกรุ่นของสงคราม ในที่สุดการประชันวรรณกรรมก็เริ่มต้นขึ้น
นั่นคือเช้าตรู่ในสัปดาห์ต่อมา
หนังสือเล่มใหม่ของอาหู่และหยวนหยวนต่างวางเด่นอยู่บนชั้น ในร้านหนังสือแต่ละแห่ง
ใช้เวลาเพียงสามวัน กว่าจะรู้ผลแพ้ชนะแน่ชัด
นี่คือกฎเกณฑ์ของการประชันวรรณกรรม ซึ่งทำการประเมินโดยภาพรวมจากหลากหลายด้าน ตั้งแต่ยอดขายของผลงาน ไปจนถึงคำวิจารณ์เนื้อหา…
อาจารย์อาหู่ ชนะ!
………………………………………………………..