Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน - ตอนที่ 514 เกินจริงให้เต็มที่ (1)
[ก่อนจะเริ่มตอนนี้ เนื้อเพลงคือเวอร์ชันภาษาจีนกลางของเซียนหลิน เนื่องจากเพื่อให้เหมาะกับเรื่องราว แต่เพื่อให้ได้อรรถรสของการระบายอารมณ์ แนะนำให้ฟังเวอร์ชันคอนเสิร์ตของเฉินอี้ซวิ่น ทุกคนสามารถเลือกฟังได้ตามรสนิยมของตนเอง]
เข้าไปในห้องรับรองได้ไม่นาน
ทันใดนั้นถงถงก็กระวีกระวาดมา “อาจารย์หลานหลิงอ๋องคะ ลำดับการแสดงออกแล้วค่ะ คุณกับเทพีแห่งการล้างแค้นจะได้ขึ้นแสดงเปิดเวทีในวันนี้!”
เปิดเวทีอีกแล้ว?
จู่ๆ หลินเยวียนก็ฉุกคิดเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ เขาพยักหน้า ลุกขึ้นเดินออกไปยังเวทีพร้อมกับถงถง
ในขณะนี้
การถ่ายทอดสดได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว ผู้ชมในห้องส่งต่างกระซิบกระซาบกัน
ท่ามกลางเสียงดังกึกก้อง ทันใดนั้นอันหงก็เอ่ยขึ้น
“ต่อจากนี้ขอเชิญเทพีแห่งการล้างแค้นกับอาจารย์หลานหลิงอ๋องขึ้นมาพร้อมกันบนเวทีครับ พวกเขาจะเริ่มต้นการแข่งขันเวทีแรก!”
หลินเยวียนก้าวขึ้นไปบนเวที
ขณะเดียวกัน
ณ ทางเข้าอีกด้านหนึ่ง เทพีแห่งการล้างแค้นก็เดินขึ้นบนเวที
ทั้งสองยืนเคียงคู่กัน
อันหงกล่าวกลั้วหัวเราะ “วันนี้จะไม่กำหนดว่าใครร้องก่อน นักร้องทั้งสองท่านสามารถกำหนดกันเองได้ และสามารถเป่ายิงฉุบกันได้ครับ”
ด้านล่างเวที
เทพีแห่งการล้างแค้นมองไปยังหลานหลิงอ๋อง ทันใดนั้นจึงหยิบไมโครโฟนขึ้นมาพูด “ไม่ต้องเป่ายิงฉุบหรอก ได้ยินมาว่ามีอาถรรพ์ลึกลับบนเวทีนี้ที่บอกว่าใครเริ่มก่อนแพ้ ฉันอยากลองทำลายอาถรรพ์ดู อาจารย์หลานหลิงอ๋องคิดว่าอย่างไร”
“อ้อ”
หลินเยวียนไม่มีความเห็น
เขาเดินออกจากเวทีไปอย่างรู้งาน
เทพีแห่งการล้างแค้นหัวเราะ ไม่ได้เริ่มร้องเพลงในทันที แต่กลับพูดต่อไป
“เพลงที่ฉันจะร้องต่อไปนี้เป็นเพลงเพื่อตัวฉันเอง และเพื่อแฟนคลับของฉัน และเพื่อผู้คนที่คอยสนับสนุนฉันมาตลอด ฉันไม่สนใจเกียรติยศของราชาราชินีเพลง เพราะเดิมทีฉันก็คือรา! ชิ! นี! เพลง!”
แปะๆๆ!
เสียงปรบมือดังกึกก้อง!
เทพีแห่งการล้างแค้นเงยหน้าขึ้น “มีบางอย่างฉันไม่พูด เพราะอยากพูดบนเวที มี บางเรื่องที่ฉันไม่ทำ เพราะอยากทำบนเวที หลานหลิงอ๋อง คุณเคยได้ยินเรื่องการล้างแค้นบ้างไหม?”
หลินเยวียนไม่ตอบ
ทว่าหลังจากที่เทพีแห่งการล้างแค้นเอ่ยวาจาออกไป ผู้ชมทั้งห้องส่งพลันเฮลั่นด้วยความตื่นเต้น แม้แต่สีหน้าของคณะกรรมการตัดสินก็เปลี่ยนไป ถึงขั้นมีคนพูดขึ้นอย่างอดไม่ได้
“หยวนซี!”
และในขณะเดียวกัน
ผู้ชมซึ่งรับชมผ่านหน้าจอ ต่างกระหน่ำคอมเ มนต์นับไม่ถ้วนในฉับพลัน เห็นได้ชัดว่าทุกคนเข้าใจความนัยของเทพีแห่งการล้างแค้น
‘หยวนซี!’
‘เธอมาล้างแค้น!’
‘เทพีแห่งการล้างแค้นไง!’
‘ที่แท้ก็มาเพื่อล้างแค้น!’
‘คำวิจารณ์ของหลานหลิงอ๋องต่อหยวนซีก่อนหน้านี้ ทำให้หยวนซีเคียดแค้น เธอเลยมาในฐานะเทพีแห่งการล้างแค้น เพื่อเอาชนะหลานหลิงอ๋องบนเวที!’
‘…’
ฮอร์โมนพลุ่งพล่าน!
นี่คือคำแถลงในการชำระแค้น!
นี่คือฉากโปรดของผู้ชม เทพีแห่งการล้างแค้นพึงพอใจกับผลลัพธ์ของคำพูดของตนเป็นอย่างมาก เมื่อเสียงกู่ร้องในห้องส่งเงียบลง เธอจึงเปล่งเสียงร้องทันใด
“รอยแผลรอยนี้”
“ใครทิ้งให้ข้า”
“พายุทรายกระหน่ำ”
“แผดเผากายา”
“พายุหิมะคำราม!”
“ใคร่ถามได้ยินไหมหนา”
“เลือดแลกเลือดดูสักครา!”
“หากการล้างแค้นคือความถือมั่นของข้า เพลงนี้จะร้องจนเสียงข้าแหบพร่า หากคำสาปของชีวิตคือเบ่งบานและโรยรา ความสิ้นหวังเป็นปราการให้แก่ข้า!”
“ล้างแค้นเถิด!”
“ล้างแค้นกัน!”
“ปรปักษ์ของข้าอยู่หนใด ได้ยินบ้างไหมเสียงของข้า ใครเริ่มขับขานบทเพลงมรณา นกกาแห่งความตาย เจ้าลงดาบในวันหิมะหนา บนหน้าผาโดดเดี่ยวทั้งเหน็บหนาว ร่วงหล่นลงกลางหาว อาทิตย์อัสดงมองดูจุดจบของเจ้า นกกามองดูจุดจบของเจ้า ให้ข้าได้เห็นจุดจบของเจ้า…”
เสียงโกรธ!
เสียงโกรธอันทรงพลัง ราวกับเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ของเทพีแห่งการล้างแค้น ยามที่เธอร้องจนถึงท่อนสุดท้าย เสียงของเธอสั่นเครือราวกับกำลังร้องไห้!
เมื่อร้องจบ
เทพีแห่งการล้างแค้นนั่งยองลงอย่างหมดเรี่ยวแรง
ไม่มีใครมองเห็นใบหน้าภายใต้หน้ากาก แต่ทุกคนได้ยินเสียงสะอื้น เธอพยายามอย่างหนักที่จะข่มกลั้นไว้ เพียงแต่ร่างกายท่อนบนกลับสูญเสียการควบคุม
เธอร้องไห้แล้ว
ผู้ชมในห้องส่งมากมายรู้สึกใจสลาย เมื่อมีคนร่ำไห้น้ำตานองหน้า พวกเขาจึงช่วยกันเอ่ยปลอบ
“ไม่ต้องร้อง!”
“เทพีแห่งการล้างแค้นคุณเก่งที่สุดแล้ว!”
“เทพีแห่งการล้างแค้นสู้ๆ !”
“คุณคือเทพีตัวจริง!”
“ไม่ต้องเสียใจ!”
“อย่าเศร้าไป!”
“พวกเราสนับสนุนคุณอยู่นะ!”
“…”
แน่นอนฉันรู้ว่าพวกคุณสนับสนุนฉัน
ใบหน้าภายใต้หน้ากากเทพีแห่งการล้างแค้นมีน้ำตาอยู่จริงๆ
แต่ไม่มีใครเห็น และไม่มีใครมองเห็น มุมปากของเธอยกยิ้มขึ้น
หลานหลิงอ๋อง
ขอบคุณที่ยกเวทีให้ฉัน
การแสดงของฉันไม่ใช่เพียง ‘ล้างแค้น’
ฉันยังอยากแสดงอย่างหนึ่งให้คุณเห็น…
เวทมนตร์แห่งจิตใจมนุษย์!
เมื่อเสียงร้องไห้ของฉันดังออกไปเช่นนี้ ไม่ใช่เพียงแฟนคลับของฉันหรอก แต่ทั้งโลกจะหันมาเป็นศัตรูของคุณ!
ร้องเพลงคือการแสดง!
บางครั้งความสามารถก็กลายเป็นเครื่องประดับได้ ใครบอกว่าร้องเพลงแล้วจะแสดงไม่ได้?
ใช่แล้ว
เมื่อร้องเพลงนี้จบ
ผู้ชมทั้งห้องส่งตกตะลึง!
เข้ากับสถานการณ์!
ชวนตกตะลึง!
วันนี้เพลงที่เธอเลือกคือเพลง ‘ล้างแค้น’!
นี่คือบทเพลงสุดคลาสสิกของบลูสตาร์ ธีมหลักคือการล้างแค้น!
และเยี่ยจือชิวซึ่งเป็นผู้ประพันธ์เพลงนี้ก็นั่งอยู่ด้านล่างเวที!
กล้องฉายไปยังใบหน้าของเยี่ยจือชิว
เยี่ยจือชิวคล้ายกับฉุกคิดถึงความทรงจำบางอย่าง แลดูสับสนอยู่บ้าง
ทันใดนั้นเทพีแห่งการล้างแค้นจึงหันไปจ้องมองหลานหลิงอ๋อง
“ต่อไปขอเชิญอาจารย์หลานหลิงอ๋อง…”
อันหงมองไปยังเทพีแห่งการล้างแค้นด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างซับซ้อน
เทพีแห่งการล้างแค้นถอยกลับไป
หลินเยวียนเดินไปยังเวที
อันหงถาม “หลานหลิงอ๋องมีอะไรจะพูดไหมครับ”
หลินเยวียนส่ายหน้า
หน้าจอ
แฟนคลับของหยวนซีฟังจนร้องไห้ออกมาแล้ว หัวใจของพวกเขาราวกับถูกมีดกรีด
‘ฟังจนปวดใจเลย’
‘หลานหลิงอ๋อเป็นใครมาว่าหยวนซีของพวกเรา!’
‘คุณรู้ไหมว่าคำพูดของคุณแค่ประโยคเดียวสร้างบาดแผลให้หยวนซีมากแค่ไหน’
‘หยวนซีร้องไห้แล้ว!’
‘พอใจหรือยัง!’
‘หยวนซีมาเข้าร่วมการแข่งขันนี้ก็เพราะหลานหลิงอ๋อง และร้องเพลงนี้ให้กับหลานหลิงอ๋อง แต่ฉันว่าไม่คุ้มค่าเลย หยวนซีเจ็บปวดจริงๆ !’
‘หลานหลิงอ๋องคุณรู้บ้างไหมว่าหยวนซีพยายามแค่ไหน’
‘ทั้งที่เธอพยายามขนาดนี้แล้วแท้ๆ หลานหลิงอ๋องเอาอะไรมาตัดสินคนอื่น!’
‘สงสารหยวนซีมาก!’
‘หลานหลิงอ๋อง รับการล้างแค้นซะเถอะ!’
‘คุณคงรู้ใช่ไหมว่าปากพาซวยหมายถึงอะไร!’
‘เทพีแห่งการล้างแค้นจงเจริญ!’
‘ดื่มด่ำกับเพลงสุดท้ายของคุณแล้วถอดหน้ากากออกซะ!’
‘เราทุกคนไม่ปล่อยคุณไว้หรอก!’
‘เทพีแห่งการล้างแค้นไม่ได้มีแค่คนเดียว เธอเป็นตัวแทนของนักร้องทุกคนที่ถูกหลานหลิงอ๋องโจมตี!’
‘ประกาศผลล่วงหน้าเลยได้ไหม ไม่อยากฟังหลานหลิงอ๋องร้องเพลง’
‘จู่ๆ ก็ไม่ชอบหลานหลิงอ๋องแล้ว’
‘…’
นี่คือแฟนคลับของหยวนซีและนักร้องคงอื่นๆ รวมไปถึงชาวเน็ตที่ไม่ชอบหลานหลิงอ๋อง!
ใช่แล้ว
มากันหมด
เนื่องจากช่วงนี้หลานหลิงอ๋องไม่มีอะไรให้ติ กองทัพแฟนคลับเหล่านี้ก็หายไปช่วงหนึ่ง
แต่…
พวกเขาไม่เคยหายไปจริงๆ !
พวกเขากำลังเฝ้ารอ!
พวกเขากำลังเฝ้ารอให้หลานหลิงอ๋องพ่ายแพ้การแข่งขันในวันนี้!
พวกเขากำลังเฝ้ารอให้หลานหลิงอ๋องถอดหน้ากาก!
พวกเขากำลังเฝ้ารอให้ตัวตนของหลานหลิงอ๋องถูกเปิดเผย!
เมื่อหลานหลิงอ๋องสูญเสียการปกป้องจากหน้ากาก เขาจะเผชิญกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างมืดฟ้ามัวดิน!
วันนี้คือรอบสุดท้าย หลานหลิงอ๋องจำเป็นต้องถอดหน้ากาก ฉะนั้นพวกเขาจึงมาแล้ว!
และเมื่อเสียงร้องไห้ของเทพีแห่งการล้างแค้นดังขึ้น
แม้แต่ผู้คนที่ผ่านไปมาก็ยังสะเทือนใจ
หลานหลิงอ๋อง
ดูเหมือนจะทำเกินไปจริงๆ
มีเพียงคนส่วนน้อยที่สนับสนุนหลานหลิงอ๋อง และยังคงยืนหยัดต่อสู้
เขา!
ไม่ได้ผิด!
……
ในตำแหน่งคณะกรรมการตัดสิน
เจิ้งจิงถอนหายใจ ไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่สีหน้าชวนให้ขบคิด
ถ้าหากเป็นผู้ที่เคยเรียนไมโครเอ็กเพรสชันมาบ้าง อาจมองเห็นการเหยียดหยามวาบผ่านแววตาของเธอ
อิ่นตงเงียบไปเช่นกัน
เยี่ยจือชิวสีหน้าซับซ้อน
หยางจงหมิงเงยหน้าขึ้นมองหลานหลิงอ๋อง เหยียดหลังตรงขึ้นเล็กน้อย
ในเวทีนี้
คุณจะร้องเพลงอย่างไร
คุณจะร้องเพลงอย่างไร
หยวนซี คุณล้ำเส้นแล้ว
คุณได้รับแรงสนับสนุนจากทั้งโลก
แต่คุณกำลังยืนอยู่ต่อหน้ายักษ์
และยักษ์ที่ว่านี้ ไม่ได้มีแค่ตนเดียว
คุณต้านทานไม่ได้
ทั่วทั้งโลกไม่อาจต้านทานได้!
……
วงดนตรีมองมายังหลินเยวียน
หลินเยวียนพยักหน้า
เสียงประสานของเครื่องดนตรีหลายชนิดดังขึ้น
ขณะเดียวกัน
บนหน้าจอขนาดใหญ่ปรากฏข้อมูลของบทเพลง
ในครั้งนี้
ไม่มีข้อมูลมากมาย
มีเพียงสองคำ
เกินจริง!
ทว่าขณะดนตรีกำลังบรรเลงอยู่นั้น จู่ๆ หลินเยวียนก็หยิบไมโครโฟนขึ้นมาพูดว่า “ทำไมต้องล้างแค้น?”
ใช่แล้ว
ทำไมต้องล้างแค้น
ฉันได้ก่อกรรมทำชั่วจนแม้แต่สวรรค์และผู้คนต่างเคียดแค้น ถึงขั้นที่ต้องตอบโต้กันในนาม ‘ล้างแค้น’ เชียวหรือ?
‘แค้น’
คำคำนี้
หนักหนาเกินไป
ไม่จำเป็น
ต้องพูดเกินจริง
รับไม่ไหว
แบกไว้ก็ไม่ได้
ถ้าคุณเพียงแค่ไม่พอใจ ไม่เห็นจำเป็นต้องขยายให้เป็น ‘แค้น’
ถ้าคุณมีเพียงความขุ่นข้องหมองใจส่วนตัว ไม่เห็นจำเป็นต้องร้องเพลงในนามของ ‘แฟนคลับ’
ความน้อยเนื้อต่ำใจของคุณ…
กับความน้อยเนื้อต่ำใจของแฟนคลับ…
เชื่อมโยงกันจริงหรือ?
มันชั่วร้ายถึงขนาดที่คุณต้องยกสิ่งที่เรียกว่ากระบี่แห่งการล้างแค้นขึ้นมาเชียวหรือ?
ไม่มีใครตอบได้
………………………………………………..