Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน - ตอนที่ 527 ฉากต่อสู้
ช่วงเวลาหลังจากนั้น
ภาพยนตร์เริ่มมีการโปรโมต
และหลินเยวียนสำเร็จการศึกษาชั้นปีที่ห้าอย่างเป็นทางการ ด้วยเหตุนี้ เขาจึงเดินทางไปยังวิทยาลัยศิลปะฉินโจวเพื่อสอบปริญญานิพนธ์เป็นครั้งสุดท้าย
ถูกต้อง!
เขาเรียนจบแล้ว!
หลินเยวียนใช้เวลาพักระหว่างการแข่งขันเขียนปริญญานิพนธ์จนเสร็จสมบูรณ์ ไม่ใช่เรื่องยากที่จะเขียนวิทยานิพนธ์ประเภทนี้สำเร็จด้วยฝีมือการประพันธ์เพลงภายใต้การชี้แนะของหยางจงหมิง กลับเป็นการสอบดีเฟนด์ปริญญานิพนธ์ที่ทำให้หลินเยวียนงุนงง เพราะตั้งแต่ต้นจนจบ อาจารย์ซึ่งรับผิดชอบการสอบในครั้งนี้ไม่ถามคำถามที่เกี่ยวข้องเลยแม้แต่คำถามเดียว มีแต่ถามคำถามสัพเพเหระ สุดท้ายแล้วยังขอลายเซ็นและขอถ่ายภาพร่วมกับหลินเยวียนด้วย ซึ่งหลินเยวียนตอบตกลงทุกคน
และหลังจากนั้น
ถึงเวลาถ่ายภาพวันสำเร็จการศึกษา
นักศึกษาแต่ละสาขาจะถ่ายภาพวันสำเร็จการศึกษาละช่วงเวลากัน เพราะฉะนั้นโดยรอบจึงไม่มีนักศึกษาจากสาขาอื่น ทว่าแม้แต่นักศึกษาสาขาการประพันธ์เพลงยังอดส่งเสียงกรี๊ดไม่ได้เมื่อเจอหลินเยวียน
ไม่รู้ว่าใครเริ่มตะโกนออกมาว่า “เซี่ยนอวี๋” …
พรึ่บๆๆ !
ทุกคนต่างตะโกนออกมาว่า “เซี่ยนอวี๋”
ในหมู่นักศึกษาเหล่านี้ เพื่อนร่วมห้อง เพื่อนร่วมชั้น และเพื่อนร่วมโต๊ะของหลินเยวียนดูเหมือนจะตื่นเต้นเป็นพิเศษ สุดท้ายแล้วหลินเยวียนจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเขาถ่ายรูปหมู่ไปกี่ใบ หรือแจกลายเซ็นไปกี่ครั้ง สุดท้ายแล้วแม้แต่อาจารย์และอธิการบดีก็รีบเข้ามาร่วมสนุก และยืนกรานว่าจะร่วมถ่ายภาพวันสำเร็จการศึกษาพร้อมกับนักศึกษาสาขาการประพันธ์เพลงให้ได้ ดังนั้นงานถ่ายภาพวันสำเร็จการศึกษาจึงกลายเป็นงานแฟนมีตติงของแฟนคลับหลินเยวียนไปโดยปริยาย ตั้งแต่กระบวนการและผลลัพธ์ล้วนยิ่งใหญ่เป็นพิเศษ
โชคดีที่
ทางมหาวิทยาลัยไม่อนุญาตให้นักข่าวซึ่งรู้ว่าเซี่ยนอวี๋จะกลับมหาวิทยาลัยมารับปริญญาในวันนี้เข้ามา ไมาเช่นนั้นนักข่าวเหล่านั้นคงยิ่งวุ่นวาย เพราะเซี่ยนอวี๋ไม่ได้ปรากฏตัวในงานสาธารณะใดเลยนับตั้งแต่ถอดหน้ากากในรายการราชาหน้ากากนักร้อง กอปรกับที่เขาไม่ชอบให้สัมภาษณ์ ความอยากรู้อยากเห็นที่ภายนอกมีต่อเซี่ยนอวี๋จึงยังไม่ถูกเติมเต็มสักที
เมื่อเป็นเช่นนี้
หลังจากจัดการเรื่องต่างๆ เสร็จเรียบร้อย
หลินเยวียนจึงนั่งรถของกู้ตงกลับบ้าน จู่ๆ กู้ตงก็กล่าวกลั้วหัวเราะ “คืนนี้ตัวแทนหลินจะไปดูหนังไหมคะ ถ้าจะไปฉันจะได้ช่วยจัดที่นั่งให้”
“ไม่ต้องครับ”
หลินเยวียนรู้ว่าหนังที่กู้ตงหมายถึงคือเรื่องสไปเดอร์แมน วันนี้ไม่ใช่เพียงวันสอบปริญญานิพนธ์และวันถ่ายรูปสำเร็จการศึกษาของเขา ยังเป็นวันที่ภาพยนตร์เรื่องนี้เข้าฉายอย่างเป็นทางการด้วย ทว่าหลินเยวียนได้ดูภาพยนตร์เรื่องนี้ที่บริษัทไปแล้วรอบหนึ่ง ในตอนนี้เขาจึงไม่ได้สนใจนัก ไม่สู้รีบกลับบ้านและพาสุนัขออกไปเดินเล่นดีกว่า
“ได้ค่ะ”
กู้ตงพยักหน้า
ในเวลานี้หลินเยวียนหยิบโทรศัพท์ออกมาเลื่อนดูโมเมนต์บนวีแช็ต และเห็นโพสต์เกี่ยวกับเรื่องสไปเดอร์แมนเป็นจำนวนมาก
ยกตัวอย่างเช่นบนโมเมนต์ของจ้าวอิ๋งเก้อ
[วันนี้มาดูสไปเดอร์แมน]
ภาพที่แนบมาคือตั๋วภาพยนตร์เรื่องสไปเดอร์แมน
ไม่ทันไรเจียงขุยก็โพสต์บนโมเมนต์วีแช็ตเช่นกัน [หนังของอาจารย์เซี่ยนอวี๋เข้าฉายแล้ว ถึงฉันจะไม่มีแฟน แต่ฉันก็ซื้อตั๋วสองใบเพื่อสนับสนุนผลงานของอาจารย์เซี่ยนอวี๋!]
ภาพที่แนบมาคือตั๋วภาพยนตร์เรื่องสไปเดอร์แมนสองใบ
และหลังจากนั้น
เฉินจื้ออวี๋เองก็โพสต์ลงบนโมเมนต์วีแช็ตเช่นเดียวกัน
[วันนี้ดูสไปเดอร์แมน มีใครอยากดูด้วยกันไหมครับมาได้เลย ผมเหมาโรงไว้แล้ว]
ภาพประกอบคือ…
ภาพแคปหน้าจอของการสั่งซื้อตั๋วภาพยนตร์ทั้งโรง
สุดท้ายแล้ว
หลินเยวียนเลื่อนหน้าจอไปเจอโมเมนต์วีแช็ตของซุนเย่าหั่ว
[เพื่อนๆ ที่ดูสไปเดอร์แมนในวันนี้ สามารถใช้หางตั๋วเพื่อรับส่วนลด 40% ที่เยี่ยนเยี่ยนหม้อไฟทุกสาขา นอกจากนั้นยังสามารถรับบัตรสมาชิกเยี่ยนเยี่ยนหม้อไฟได้ฟรี ขอเพียงคุณรับชมภาพยนตร์ของอาจารย์เซี่ยนอวี๋ พวกเราคือเพื่อนกัน!]
ภาพประกอบคือโฆษณาของร้านและคำประกาศบนปู้ลั่ว
ในขณะนั้นรถก็เคลื่อนตัวมาถึงบ้าน หลินเยวียนกดถูกใจให้ซุนเย่าหั่วอย่างไม่คิดมาก ก่อนจะลงจากรถ
……
เมื่อจ้าวอิ๋งเก้อเห็นโมเมนต์ ก็ตกตะลึงไปทันใด
เธอโพสต์เช่นนี้บนโมเมนต์ ก็เพื่อเอาใจเซี่ยนอวี๋
แต่นึกไม่ถึงว่าเมื่อเทียบกับโพสต์ของปลาตัวอื่นๆ แล้ว โพสต์ของเธอจะดูกระจอกงอกง่อยไปทันตาเห็น
“ทุกคนก็เล่นกันแบบนี้เองเหรอเนี่ย?”
เป็นครั้งแรกที่จ้าวอิ๋งเก้อสัมผัสได้ถึงความน่าสะพรึงกลัวของซุนเย่าหั่วและคนอื่นๆ เธอเพิ่งเข้ามาในแวดวงเล็กๆ ซึ่งโคจรรอบเซี่ยนอวี๋ จึงไม่เข้าใจความโหดเหี้ยมของแวดวงนี้
ทว่าตอนนี้ เธอเข้าใจแล้ว
ขณะเดียวกัน
เจียงขุยก็งงเช่นเดียวกัน
ซุนเย่าหั่วน่ะช่างเถอะ แต่ทำไมตอนนี้เฉินจื้ออวี่ถึงได้ช่ำชองขนาดนี้?
สนับสนุนผลงานก็ส่วนสนับสนุนผลงาน…
ทำไมถึงต้องเหมาทั้งโรงด้วย?
คุณประจบได้เก่งกว่าซุนเย่าหั่วหรือไง?
และแน่นอน
คนที่งงที่สุดหนีไม่พ้นเฉินจื้ออวี่
เขาคิดว่าตนเหมาทั้งโรงนั้นเป็นวิธีที่เหนือชั้นแล้ว
แต่เขาไม่คิดไม่ฝันเลยว่าซุนเย่าหั่วจะมาด้วยลูกเล่นที่เหนือชั้นยิ่งกว่า!
นี่มันลูกเล่นอะไรกันครับเนี่ย
เดี๋ยวนะ!
ด้านล่างโพสต์ในโมเมนต์ของซุนเย่าหั่ว ถึงกับมีข้อความแจ้งเตือนว่า ‘อาจารย์เซี่ยนอวี๋เพื่อนของคุณถูกใจโพสต์นี้’
เซี่ยนอวี๋กดถูกใจซุนเย่าหั่ว!
เฉินจื้ออวี่ถอนหายใจ
ผู้จัดการด้านข้างเข้ามามองอย่างอดไม่ได้ เอ่ยด้วยสีหน้าแปลกพิลึก “ทำไมผมถึงรู้สึกว่าเกิดเดจาวูรุนแรงแบบนี้นะ”
เฉินจื้ออวี่ “อะไร”
ผู้จัดการ “ศึกชิงความโปรดปรานในวังหลังของเซี่ยนอวี๋”
เฉินจื้ออวี่ “ไม่ถึงขนาดนั้นมั้ง?”
ผู้จัดการเบ้ปาก “งั้นจะอธิบายเรื่องที่พวกคุณไม่กดไลก์ให้กันว่ายังไง”
เฉินจื้ออวี่ “…”
เห็นชัดๆ ว่าปลาเหล่านี้โพสต์ไปในทำนองเดียวกัน แต่กลับไม่มีการกดถูกใจให้กันและกัน
ไม่ว่าจะมองอย่างไร ก็มีสิ่งที่ผิดปกติ
“พวกเขานั่นและที่มีปัญหา”
เฉินจื้ออวี่เอ่ยอย่างชัดถ้อยชัดคำ “ในราชาหน้ากากนักร้องเหมือนกับเป็นพี่น้องคลานตามกันมา ปรากฏว่าพอรายการจบ ทุกคนก็เปิดเผยตัวตนที่แท้จริงออกมา!”
ผู้จัดการส่ายหน้า
เขาสัมผัสได้ว่าเฉินจื้ออวี่อิจฉาเล็กน้อย
เฉินจื้ออวี่แอบรู้สึกอิจฉาจริงๆ
ทั้งที่เป็นการประชุมของหมู่ปลา แต่เขากลับตกขบวน!
ต้องเข้าใจก่อน…
ว่าเฉินจื้ออวี่ได้เป็นนักร้องแถวหน้าก่อนใครเพื่อน!
ในบรรดาปลาซึ่งเข้าร่วมรายการ มีเพียงเฉินจื้ออวี่ที่ได้ร่วมงานกับเซี่ยนอวี๋หนึ่งครั้งหลังจากเป็นนักร้องแถวหน้าแล้ว ทว่าตอนนี้เฉินจื้ออวี่รู้สึกว่าตนเองกำลังถูกคนอื่นแซงหน้ามากขึ้นเรื่อยๆ
ไม่ได้!
จะเป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้!
เฉินจื้ออวี่รู้สึกว่าตนต้องพยายามมากกว่านี้!
ในบรรดาหมู่ปลา เจียงขุยน่าจะได้กลายเป็นราชินีเพลงเร็วที่สุด
เช่นนั้นตนต้องกลายเป็นราชาเพลงก่อนหน้าซุนเย่าหั่วให้ได้!
ในบรรดาปลาเหล่านี้
มีเพียงซุนเย่าหั่ว ที่เปล่งเสียงหัวเราะอันโดดเดี่ยวของยอดฝีมือ พวกนั้นยังตามหลังเขาอยู่อีกไกล
เขาก้มหน้าหยิบโทรศัพท์ เปิดกลุ่มธุรกิจร้านอาหารของตน ‘เย็นนี้ให้ผู้จัดการแต่ละสาขานำโปสเตอร์เรื่องสไปเดอร์แมนมาติด ในคืนนี้เยี่ยนเยี่ยนเคเทอริง[1] มีธีมสไปเดอร์แมน ต้องออกแบบให้แปลกใหม่และน่าสนใจ!’
‘รับทราบ!’
‘รับทราบ!’
‘รับทราบ!’
ผู้จัดการร้านตอบรับ
ในตอนนั้นเอง มีผู้จัดการสาขาซึ่งเพิ่งเข้ามารับหน้าที่เอ่ยขึ้น ‘หัวหน้าครับ ส่วนลดของพวกเรามากเกินไปหรือเปล่าครับ จากการสำรวจตลาดที่ผมทำ เรื่องตำนานมนุษย์มังกรเหนือว่าหนังของเซี่ยนอวี๋ทั้งในแง่ของเงินทุนและนักแสดงเลยนะครับ เพราะฉะนั้นถ้าเกิดหนังเรื่องนี้ของเซี่ยนอวี๋ไม่ดังขึ้นมา…’
‘จะคิดมากไปทำไมกัน!’
‘คุณไม่สนับสนุนหนังของพ่อเพลงอวี๋เหรอ!’
‘พวกเราสนับสนุนพ่อเพลงอวี๋โดยไม่มีเงื่อนไข!’
‘ขาดทุนแล้วยังไง!’
‘ได้สนับสนุนพ่อเพลงอวี๋ยังไม่พออีกเหรอ’
ผู้จัดการร้านคนอื่นๆ พลันไม่สบอารมณ์ขึ้นมา
ซุนเย่าหั่วพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ ก่อนจะเมนชันผู้จัดการคนนั้นกลับไป
‘ทำตามที่บอกก็พอ’
ดังไม่ดังอะไรกัน?
ผู้จัดการคนใหม่คนนี้ไม่ค่อยได้ความ
ในเยี่ยนเยี่ยนเคเทอริงของฉัน เกณฑ์ในการคัดสรรผู้จัดการร้านอาหารคือต้องเป็นแฟนคลับตัวยงของเซี่ยนอวี๋!
หัวข้อในการสัมภาษณ์มีแต่คำถามซึ่งเกี่ยวข้องกับเซี่ยนอวี๋
หมอนี่โกงข้อสอบมาหรือเปล่า
บางทีเขาอาจไม่ได้เป็นแฟนคลับจริงๆ !
เดี๋ยวจะต้องกลับไปตรวจสอบสักหน่อย ถ้าใช้ไม่ได้ละก็จะถอดเขาออกแล้วเปลี่ยนคนใหม่!
ซุนเย่าหั่วลอบจดจำอีกฝ่าย
และในขณะนั้น
ท้องฟ้าเริ่มมืดลง
ในโรงภาพยนตร์เริ่มมีผู้คนหลั่งไหลเข้ามา