Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน - ตอนที่ 537 ความสำคัญของนักประพันธ์เพลง
ทีมรายการนี้รู้ว่าควรเล่นอย่างไร!
ทุกคนล้วนกังวลใจแทนทีมงานรายการว่าจะทำอย่างไรกับซีซันสอง
ผลปรากฏว่าผู้กำกับเสนอ
ราชาหน้ากากนักร้องซีซันสองเป็นเปรียบประหนึ่งเมฆลอย สานต่อกระแสของซีซันที่หนึ่งไม่ดีกว่าหรือ?
สำหรับเรื่องนี้
บนโลกออนไลน์ล้วนมีการถกเถียงกัน
มีบางคนหยอกล้อ
‘ก่อนหน้านี้หลานหลิงอ๋องเพียงแค่วิจารณ์นักร้อง ครั้งนี้เขามาสอนนักร้องโดยตรงเลยนะ คนตรงไปตรงมาไม่มัวมาอมพะนำ ฉันอยากเห็นหลานหลิงอ๋องสอนการหายใจให้มู่สือกับเอ๋อลั่วอี (หัวเราะ)’
‘ขอเดาว่าเฟ่ยหยางได้ที่สอง!’
‘ถ้าเกิดพ่อเพลงอวี๋กับเฟ่ยหยางร่วมงานกัน พวกคุณคิดว่าปณิธานอันดับสองจะยังมีผลอยู่ไหม ต้องเข้าใจก่อนว่าเดิมทีปณิธานอันดับสองเนี่ยเป็นสิ่งที่พ่อเพลงอวี๋มอบให้เฟ่ยหยาง แต่ในรายการก่อนหน้านี้แม้แต่อาจารย์เซี่ยนอวี๋เอง พอร้องเพลงของเฟ่ยหยาง ก็ยังหนีไม่พ้นตกเป็นเป้าหมายของปณิธานอันดับสองเลย (น้องหมายิ้มกรุ้มกริ่ม)’
‘…’
แนวคิดใหม่ของรายการได้รับการกดไลก์จากชาวเน็ต
ทุกคนอยากดูว่าบรรดานักร้องที่ถอดหน้ากากจะมีเคมีอย่างไรกับนักประพันธ์เพลงชื่อดัง
และเซี่ยนอวี๋ซึ่งถอดหน้ากากแล้ว ก็ได้รับความสนใจมากที่สุดในรายการนี้อย่างไม่ต้องสงสัย!
ดังนั้น…
จึงมีหัวข้อสนทนามากมายเกี่ยวกับเซี่ยนอวี๋!
ความอยากรู้อยากเห็นที่ผู้ชมมีต่อนักประพันธ์เพลงก็เป็นหนึ่งในจุดขายสำคัญของรายการเช่นเดียวกัน
นี่คือรายการบันเทิงซึ่งมุ่งเน้นไปยังนักประพันธ์เพลงและนักร้อง!
ตัวละครดั้งเดิมกว่าเก้าสิบเปอร์เซ็นต์จากราชาหน้ากากนักร้องสามารถสานต่อกระแสได้ในระดับสูงสุด
นอกจากนี้
ทีมงานรายการยังเชิญหน้าใหม่มาอีกส่วนหนึ่ง
นี่คือความสดใหม่ซึ่งนำมาสู่ผู้ชมได้มากพอ
ในรายชื่อแขกรับเชิญซึ่งรายการประกาศออกมา มีนักร้องทั้งหมดห้าสิบคน ในนั้นมีราชาราชินีเพลงสิบคน!
รวมไปถึงเหมาเสวี่ยวั่งและหลิ่วซวี่ซึ่งเคยเป็นกรรมการตัดสินในราชาหน้ากากนักร้องด้วย
ส่วนที่เหลืออีกสี่สิบคนนั้นมาจากทั้งฉิน ฉี ฉู่ และเยี่ยน
จะมีนักร้องแถวหน้ามาเข้าร่วมทวีปละสิบคน!
ส่วนไลน์อัปนักประพันธ์เพลง…
ทีมงานรายการได้เชิญนักประพันธ์เพลงมาทั้งหมดยี่สิบคน!
ในนั้นมีพ่อเพลงซึ่งได้รับการรับรองจากทางการทั้งหมดสิบคน!
นักประพันธ์เพลงที่เหลืออีกสิบคน แม้จะไม่ได้รับการประดับยศเป็นพ่อเพลง ทว่าฝีมือเป็นเลิศพอให้ขึ้นสังเวียนเดียวกับพ่อเพลงได้!
ตัวอย่างเช่นอู่หลง…
หรือเซี่ยนอวี๋…
รางวัลและยศศักดิ์ไม่ได้ใช่ทุกอย่าง
เช่นเดียวกับลีโอนาร์โด ดิคาปริโอจากโลกเดิม ไม่ว่าเขาจะคว้ารางวัลออสการ์หรือไม่ ค่าตัวของเขายังคงใกล้เคียงกัน
เช่นเดียวกับมุราคามิ ฮารุกิ ไม่ว่าจะได้รางวัลโนเบลหรือไม่ สถานะของเขาในวงการวรรณกรรมก็ยังคงสูงเช่นเดิม
ดังนั้น
ไลน์อัปนี้ ไม่ได้ด้อยไปกว่าราชาหน้ากากนักร้องเลย หรืออาจเหนือกว่าด้วยซ้ำไป!
อันที่จริงเรื่องนี้เกี่ยวโยงถึงกระแสนิยมรายการราชาหน้ากากนักร้องด้วย
นักร้องซึ่งเข้าร่วมรายการนี้ หลังจากถอดหน้ากากแล้วค่าตัวล้วนสูงขึ้น
ราชาราชินีเพลงบางคนซึ่งเมื่อก่อนไม่ได้รับความสนใจมากนัก ก็รับโอกาสในหน้าที่การงานเพิ่มขึ้นอีกครั้งหลังจากรายการนี้
ปัจจุบันนี้ทีมผู้ผลิตได้เปิดตัวรายการภาคต่อ นักร้องซึ่งได้ลิ้มลองความหอมหวานในวงการมาแล้วย่อมกรูกันมาสมัคร
นักร้องที่ยังไม่ได้ลิ้มลองความหอมหวาน ต่างรู้สึกอิจฉาจนน้ำลายสอกันมานาน บัดนี้เมื่อได้รับโอกาสครั้งใหม่ แน่นอนว่าไม่มีทางพลาด
นอกจากนั้น…
นักร้องยังต้องการใช้โอกาสในรายการนี้ติดต่อกับนักประพันธ์เพลงแนวหน้า
เนื่องจากภายใต้สถานการณ์ปกติ การเชิญนักร้องระดับนี้มาเขียนเพลงให้นั้นเป็นเรื่องที่ยากเหลือเกิน ต่อให้เป็นราชาราชินีเพลง ก็อาจไม่ประสบความสำเร็จในการขอเพลงจากพ่อเพลง ต่อให้ประสบความสำเร็จ บริษัทซึ่งอยู่เบื้องหลังอาจต้องจ่ายเงินไปมหาศาล
แต่เมื่อมีรายการนี้ ทุกคนกลับมีโอกาสร่วมงานกับนักประพันธ์เพลงแนวหน้าที่หลากหลาย
ทำไมจะไม่ยินดีทำล่ะงานนี้?
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากนักร้องมาจากหลากหลายทวีป โลกภายนอกจึงเดาออกว่าในรายการนี้น่าจะมีเพลงหลากหลายภาษา
เช่นภาษาฉี
หรือภาษาฉู่
ด้วยเหตุนี้ ทีมงานยังได้เปิดเผยราชชื่อนักเขียนเนื้อเพลงชั้นนำอีกจำนวนหนึ่ง ในนั้นยังรวมไปถึงหนีหงอู่และทู่เอ้อร์
เมื่อถึงเวลานั้น
นักเขียนเนื้อเพลงเหล่านี้จะมีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์บทเพลงต่างๆ
……
เนื่องจากราชาหน้ากากนักร้องเพิ่งจบลงได้ไม่นาน ทีมงานรายการจึงดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว ถึงขั้นที่แม้แต่ห้องส่งก็ยังเลือกศูนย์ดนตรีกลางฉินโจวดังเดิม
ปลายเดือนกรกฎาคม
การบันทึกเทปรายการเริ่มต้นขึ้นแล้ว
นักร้องพร้อมแล้ว
ส่วนนักประพันธ์เพลงทั้งยี่สิบคนซึ่งรวมหลินเยวียนอยู่ในนั้น ล้วนมาถึงสถานที่ถ่ายทำ และมารวมตัวกันในห้องโถงอย่างงดงาม
ทีมผู้ผลิตรายการนี้ขี้เหนียวจริงๆ
เวทีซึ่งใช้ต่อจากรายการราชาหน้ากากนักร้อง
ยังคงเป็นศูนย์ดนตรีกลางแห่งเดิม…
หลินเยวียนจึงรู้สึกคุ้นเคยเมื่อกลับมาที่นี่อีก
เพราะเขาได้ก้าวผ่านช่วงเวลาที่ยากลืมเลือนบนเวทีแห่งนี้
และในตอนนี้
เขาจะกลับมารับบทบาทในฐานะนักประพันธ์เพลงเซี่ยนอวี๋ ฝากรอยเท้าไว้บนเวทีนี้ต่อไป
ในห้องโถงมีโต๊ะรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนตัวหนึ่ง
หลินเยวียน เจิ้งจิง และหยางจงหมิงนั่งใกล้กันที่สุด
ส่วนฝั่งขวาของหลินเยวียน ก็คืออู่หลงซึ่งเคยรับหน้าที่กรรมการตัดสินในราชาหน้ากากนักร้อง
ทุกคนเลือกตำแหน่งที่นั่งได้อย่างอิสระ
ทีมงานไม่ได้จัดเตรียมที่นั่งไว้อย่างจำเพาะเจาะจง และการออกแบบโต๊ะรูปสี่เหลี่ยมคางหมูก็ผ่านการขบคิดมาเป็นอย่างดี
อย่าได้กล่าวโทษที่ทีมงานเตรียมการมา
เหตุผลหลักคือการเตรียมงานไม่ใช่เรื่องง่าย
ทั้งหมดล้วนเป็นศิลปินผู้สร้างสรรค์ผลงานชั้นนำในวงการ ถ้าเกิดตำแหน่งสร้างความขัดแย้งขึ้นมา เช่นนั้นคงกระอักกระอ่วนแล้ว
ใครนั่งในตำแหน่งประธานล่ะ
ต่อให้หยางจงหมิงซึ่งทรงอิทธิพลที่สุดในบรรดานักประพันธ์เพลงนั่งในตำแหน่งประธาน นักประพันธ์เพลงคนอื่นๆ อาจไม่มั่นใจ ในห้องนี้ไม่ได้มีพ่อเพลงแค่คนเดียวสักหน่อย
เพราะฉะนั้น การออกแบบโต๊ะมาเช่นนี้จึงนับว่าเฉียบแหลมมาก
นักประพันธ์เพลงบางส่วนรู้จักกัน ต่างฝ่ายต่างสนทนากันเสียงเบา
ในนั้น
ยังมีนักประพันธ์เพลงอีกหลายคนซึ่งออกตัวเข้ามาทักทายหลินเยวียน
ทุกคนคล้ายกับจะสนอกสนใจ ‘เซี่ยนอวี๋’ ซึ่งเป็นที่โด่งดังในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เหลือบมองหลินเยวียนบ้างเป็นครั้งคราว
และเมื่อทุกคนนั่งลงได้ไม่นาน
ผู้กำกับถงซูเหวินก็ปรากฏตัว
เขายิ้ม กล่าวว่า
“สวัสดีครับเพื่อนเก่าทุกท่าน เราพบกันอีกแล้ว แน่นอนว่าที่นี่ยินดีต้อนรับเพื่อนใหม่ด้วยเช่นกัน หวังว่าทุกท่านจะสนุกกับรายการนี้นะครับ!”
ทุกคนปรบมือตาม
หลังจากนั้นถงซูเหวินประกาศ “นักร้องทั้งห้าสิบท่านรออยู่ในห้องโถงแล้ว อาจารย์ทั้งยี่สิบท่านเชิญตามผมเข้าไปเลือกนักร้องที่จะร่วมงานด้วยได้เลยครับ ถ้ามีนักประพันธ์เพลงท่านใดเลือกนักร้องคนเดียวกัน นักร้องจะได้รับสิทธิ์ในการเลือก และนักประพันธ์เพลงท่านที่ไม่ถูกนักร้องเลือกจะสามารถเลือกนักร้องที่เหลือได้ นี่คือกฎในการแข่งขันรอบแรกของเราครับ…”
ทุกคนพยักหน้า
สีหน้าของทุกคนเห็นด้วย
นักประพันธ์เพลงเลือกนักร้องก่อน นี่เป็นเรื่องปกติในวงการเพลง
และถ้าหากนักร้องเป็นที่ต้องการมาก ก็ย่อมมีสิทธิ์เลือก นี่เป็นกฎที่เข้าใจได้
ในแง่มุมหนึ่ง กฎนี้สะท้อนถึงรูปลักษณ์ของวงการเพลง
นักประพันธ์เพลงแนวหน้ามีสิทธิ์เลือกก่อน…
[1] นักร้องที่มีฝีมือดีพอ จะได้รับความนิยม
ขณะเดียวกัน
ในห้องโถงใหญ่
นักร้องทั้งห้าสิบคนยืนเรียงแถว ราวกับเป็น ‘ช่างเทคนิค’ ซึ่งกำลังรอเจ้านายมาเลือกตัวไป ใบหน้าของนักร้องส่วนมากเต็มไปด้วยความคาดหวังระคนตื่นตระหนก
แน่นอนว่าคาดหวัง
แน่นอนว่าตื่นตระหนก
นักร้องทุกคนล้วนหวังว่าจะถูกเลือก…
ส่วนราชาราชินีเพลงค่อนข้างเยือกเย็น
ฝีมือของพวกเขาเป็นประจักษ์ น่าจะชนะใจนักประพันธ์เพลงได้ง่ายกว่า
ทันใดนั้น
ประตูใหญ่ก็เปิดออก
บรรดาเจ้านาย…
อ่า ไม่สิ
บรรดานักประพันธ์เพลงที่เข้ามาในที่สุด!
ดูเหมือนทุกคนจะมีแสงเปล่งประกายออกมา!
ในชั่วพริบตา!
นักร้องทุกคนก็มองไปยังนักประพันธ์เพลงด้วยแววตาสุกสกาว!
โดยเฉพาะเหล่านักประพันธ์เพลงระดับพ่อเพลง ยิ่งถูกสายตาหลายคู่จับจ้องมา!
แน่นอน
หลินเยวียนเองก็ได้รับความสนใจจากนักร้องหลายคนเช่นเดียวกัน
กิตติศัพท์ของเซี่ยนอวี๋ยังคงเลื่องลือ ไม่ได้เป็นรองพ่อเพลงในที่นั้นเลย
โดยเฉพาะซุนเย่าหั่ว เฉินจื้ออวี่ ซย่าฝาน เจียงขุย และจ้าวอิ๋งเก้อซึ่งสายตาจับจ้องไปยังหลินเยวียนในทันที…
กล้องจับภาพฉากนี้อย่างขยันขันแข็ง
เมื่อรายการออกอากาศ ฉากนี้จะเรียกเสียงหัวเราะจากผู้ชมได้มาก
นี่มันเลือกนักร้องที่ไหนล่ะ
เหมือนบรรดาเสี่ยทั้งหลายมาเลือกสาวมากกว่า!
และสถานะในวงการดนตรีของนักประพันธ์เพลง ก็แสดงออกมาอย่างชัดเจนผ่านฉากนี้!