Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน - ตอนที่ 581 พวกคุณสองคนมีเพลงคงคลัง
วันรุ่งขึ้น
รายการเพลงของเราตอนใหม่ล่าสุดออกอากาศ
หลินเซวียนดูรายการนี้อยู่ที่บ้าน
นั่งดูกับเหยาเหยาซึ่งอยู่ด้านข้าง
ในรายการนี้ ทุกครั้งที่นักประพันธ์เพลงเขียนเพลงเสร็จ จะไปเลือกนักร้องยังห้องโถงใหญ่
ทุกครั้งซุนเย่าหั่วจะออกตัวลุกขึ้น
ทว่าในครั้งนี้ ไม่มีใครเลือกซุนเย่าหั่ว
สุดท้ายแล้วทั้งราชวงศ์ปลา นักร้องคนอื่นๆ ล้วนถูกนักประพันธ์เพลงเลือกไปหมด ซุนเย่าหั่วยกเว้น
ในคอมเมนต์ต่างหยอกล้อ
‘ซุนเย่าหั่ว: ไหนบอกว่านอนรอชัยชนะ?’
‘ซุนเย่าหั่ว: เลือกผมเลือกผม รับรองว่าเพลงดัง แต่คนไม่ดัง!’
‘ขำปอดโยก ทั้งราชวงศ์ปลาเหลือแค่ซุนเย่าหั่วที่ไม่ถูกเลือก’
‘เป็นอย่างที่คิด ซุนเย่าหั่วต่างหากคือคนที่อ่อนที่สุดในราชวงศ์ปลา อ่อนกว่าเฉินจื้ออวี่ซะอีก’
‘ที่จริงเฉินจื้ออวี่ไม่ได้อ่อนนะ ยังไงคนเขาก็เป็นถึงนักร้องแถวหน้าคนแรกในราชวงศ์ปลา’
‘ไม่ใช่แค่ในรอบนี้นะ ในช่วงเลือกนักร้องรอบแรก ก็ไม่มีใครออกตัวเลือกซุนเย่าหั่ว’
‘ซุนเย่าหั่ว จะว่ายังไงดีล่ะ ให้ความรู้สึกว่าธรรมดาเกินไป’
‘อันที่จริงเขาร้องเพลงดีอยู่นะ แต่ชอบถูกคนมองข้าม’
‘แม้แต่ก่อนหน้านี้พ่อเพลงอวี๋ก็เลือกเฉินจื้ออวี่ ไม่เลือกซุนเย่าหั่ว’
‘เห็นแบบนี้แล้วซุนเย่าหั่วก็ไม่ไหวหรอก ที่กลายเป็นนักร้องแถวหน้าได้ก็ไม่ใช่เพราะความสามารถ’
‘ซุนเย่าหั่วก็กระตือรือร้นนะ ถูกมองข้ามหลายครั้งขนาดนี้ยังพยายามหาโอกาส’
‘เฮ้อ ดูแล้วปวดใจแทน’
‘ปวดใจทำไม ที่นักประพันธ์เพลงไม่เลือกเขา ต้องมีเหตุผลของตัวเองอยู่แล้ว’
‘…’
จู่ๆ เหยาเหยาก็รู้สึกไม่พอใจขึ้นมา “ทำไมคนพวกนี้ถึงพูดถึงรุ่นพี่เย่าหั่วแบบนี้ล่ะ”
หลินเซวียนตอบ “นั่นเพราะเธอไม่ค่อยได้ติดตามซุนเย่าหั่วไงล่ะ”
ก่อนที่จะร้องเพลง ‘สิบปี’ ซุนเย่าหั่วถูกสาธารณชนตำหนิยิ่งกว่านี้อีก
เพลงดังคนไม่ดังตลอดกาล
ภายหลังเพลงสิบปีโด่งดัง ชื่อเสียงของซุนเย่าหั่วจึงดีขึ้น
แต่เมื่อเทียบกับนักร้องคนอื่นๆ แล้ว ซุนเย่าหั่วยังนับว่าถูกสาธารณชนมองข้ามอยู่ร่ำไป
ขณะที่นักร้องในราชวงศ์ปลาเหมือนกัน เซี่ยนอวี๋เป็นคนปั้นมาเหมือนกัน ความนิยมของเจียงขุยกลับสูงกว่าซุนเย่าหั่วมาก
“หนูคิดว่ารุ่นพี่เย่าหั่วร้องเพลงดีมากเลยนะ” ต้าเหยาเหยาไม่เข้าใจ
หลินเซวียนเอ่ย “นักร้องนักแสดงหลายคนก็เป็นแบบนี้ไม่ใช่หรือ ทั้งที่ฝีมือดี แต่ก็ถูกมองข้ามได้ง่ายๆ ”
หลินเซวียนไม่รู้เรื่องนี้
ต่อให้อยู่ในสตาร์ไลท์ ซุนเย่าหั่วก็ถูกบรรดานักประพันธ์เพลงสบประมาทมาโดยตลอด
……
หลินเยวียนมาถึงศูนย์ดนตรีกลางเพื่อบันทึกรายการ
วันนี้ถึงคราวที่นักประพันธ์เพลงสิบคนที่เหลือต้องสุ่มจับคีย์เวิร์ดแล้ว
หยางจงหมิงยิ้มพลางมองไปทางหลินเยวียน “คุณจับก่อน?”
“ได้ครับ”
หลินเยวียนยื่นมือลงไปจับสลาก
“ได้อะไรหรือ”
เจิ้งจิงซึ่งถูกจัดให้อยู่ในรอบนี้ก็มองไปยังสลากในมือของหลินเยวียนเช่นเดียวกัน
“ฟ้าสูงทะเลกว้าง[1]?”
เธอเอ่ยว่า “ธีมนี้ไม่เลว ฉันจับบ้าง!”
หลินเยวียนตกตะลึง
สลากในมือของเขา ประกอบไปด้วยคำสี่คำ
ฟ้าสูงทะเลกว้าง!
คีย์เวิร์ดนี้ง่ายเหลือเกิน!
ส่วนเหตุผลนั้น ทุกคนต่างเข้าใจดี
“ฉันก็ด้วย”
เจิ้งจิงหยิบสลากขึ้นมา คีย์เวิร์ดคือ ‘จนใจ’
เจิ้งจิงเบ้ปาก “จนใจจริงๆ ถ้าฉันได้ฟ้าสูงทะเลกว้างก็ดีสิ แต่จนใจก็ได้”
หยางจงหมิงไม่พูดจา ตรงไปจับสลาก
“ฝ่าลมโต้คลื่น[2]”
พิธีกรอันหงพลอยสนุกสนานตามไปด้วย “สำนวนของอาจารย์หยางจงหมิงกับอาจารย์เซี่ยนอวี๋เข้ากันพอดี คุณมีความคิดอะไรบ้างไหมครับ?”
หยางจงหมิงเงียบ
เจิ้งจิงขยับมือทำท่าทาง ชี้ไปยังศีรษะของตนเอง “เขาเริ่มเขียนเพลงแล้ว”
อันหงตกตะลึง
อะไรนะ
สร้างสรรค์ผลงานในสมอง?
เขาไม่รู้ว่านี่เป็นเรื่องจริงหรือเท็จ
ทว่าหลังจากที่หยางจงหมิงเห็นคีย์เวิร์ดของตนเอง เขาก็ไม่พูดไม่จาอีกเลย ราวกับกำลังดำดิ่งสู่ห้วงความคิดอยู่จริงๆ …
คนอื่นๆ ยังคงจับสลากกันต่อไป
เมื่อทุกคนจับสลากเรียบร้อย อันหงยิ้มพลางเอ่ยว่า “ขออภัยด้วยครับ ทุกท่านต้องเข้าห้องดำแล้ว”
……
สิ่งที่เรียกว่าห้องดำ อันที่จริงก็คือห้องส่วนตัว
ห้องดำของหลินเยวียน คือห้องสีชมพูที่เขาคุ้นเคย
ทีมงานเตรียมเครื่องดื่มและผลไม้ให้เขา ทั้งยังกำชับเล็กน้อย “ถ้าต้องการอะไร บอกผมได้เลยนะครับ”
หลินเยวียนพยักหน้า “ไม่เป็นไรครับ อีกสักพักผมก็ออกไปแล้ว”
ทีมงานงุนงง ทันใดนั้นก็ส่ายหน้า “ขอโทษนะครับ อาจารย์เซี่ยนอวี๋ ตามกฎของรายการ ก่อนที่จะเขียนเพลงเสร็จ คุณจะไม่สามารถออกไปได้ นอกจากไปเข้าห้องน้ำ หรือกลับไปพักผ่อนที่โรงแรมช่วงกลางคืน”
หลินเยวียนชะงัก “เขียนออกมาก็ใช้ได้แล้วไม่ใช่เหรอครับ?”
ทีมงานไม่รู้ว่าควรตอบว่าอย่างไร
ทว่าภาพที่เกิดขึ้นหลังจากนี้ กลับทำให้ทีมงานรายการต้องตกใจ
เพราะหลินเยวียนยังคงนั่งอยู่ตรงนั้น ง่วนอยู่กับโปรแกรมเขียนเพลง ประหนึ่งไม่จำเป็นต้องใช้เวลาขบคิด
สถานการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นต่างจากนักประพันธ์เพลงในห้องดำเมื่อรอบที่แล้ว…
ในห้องดำรอบที่แล้ว นักประพันธ์เพลงหลายคนขยุ้มผมตนเองอยู่บ่อยครั้งขณะกำลังเขียนเพลง
เส้นผมซึ่งเดิมทีเหลืออยู่ไม่มาก กลับหลุดร่วงจนศีรษะโล้น
แต่เมื่อถึงคราวของเซี่ยนอวี๋ การเขียนเพลงให้ความรู้สึกผ่อนคลายราวกับดื่มน้ำ?
เกือบหนึ่งชั่วโมงผ่านไป หลินเยวียนยกนำ้ขึ้นดื่ม ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองทีมงาน
“เรียบเรียงเพลงต้องทำให้เสร็จที่นี่เลยไหมครับ?”
“ไม่ต้องครับ…”
ทีมงานตกตะลึง
หลินเยวียนพยักหน้า “งั้นผมเขียนเสร็จแล้ว ออกไปได้แล้วใช่ไหมครับ?”
ทีมงานรีบบอก “รอสักครู่นะครับ ผมขอฟังทั้งเพลงสักรอบได้ไหมครับ”
“ได้ครับ”
หลินเยวียนปล่อยให้อีกฝ่ายสวมหูฟัง เพื่อฟังเพลงซึ่งบันทึกเสียงเสร็จแล้ว
ด้านล่างยังมีเนื้อเพลงซึ่งสมบูรณ์แล้ว
หลังจากฟังจบ แววตาซึ่งทีมงานมองไปยังหลินเยวียนนั้นราวกับแววตาซึ่งมองสัตว์ประหลาด!
หลินเยวียนจึงเอ่ยถามอีกครั้ง “ผมออกไปได้หรือยังครับ?”
ทีมงานอ้าปากพะงาบ คล้ายกับเสียงหายไป ผ่านไปนานกว่าจะเอ่ยออกมาด้วยเสียงอันแหบแห้ง
“ได้ครับ”
หลินเยวียนพยักหน้า ผลักประตูออกไป
……
ถงซูเหวินซึ่งเป็นผู้กำกับรายการกำลัง ‘ลาดตระเวน’
เมื่อเห็นว่าหลินเยวียนเดินออกมาจากห้องสีชมพู ถงซูเหวินจึงตกใจจนสะดุ้งโหยง รีบเข้าไปหยุดเขาไว้ “อาจารย์เซี่ยนอวี๋ ทำไมคุณออกมาแล้วล่ะครับ!”
หลินเยวียนตอบ “ผมแต่งเพลงเสร็จแล้วครับ”
ถงซูเหวินคิดว่าตนฟังผิดไป “อ๋า?”
หลินเยวียนทำได้เพลงพูดประโยคเดิม “ผมเขียนแต่งเสร็จแล้วครับ”
พูดจบ หลินเยวียนจึงเดินผ่านถงซูเหวินไป
ถงซูเหวินมองไปยังแผ่นหลังของหลินเยวียน เขาอยากพูดบางอย่าง ทว่าสุดท้ายกลับปิดปากสนิท
เขาเร่งฝีเท้า เดินเข้าไปยังห้องสีชมพูของหลินเยวียน
ทีมงานให้ห้องสีชมพูยังคงสวมหูฟัง ท่าทางแลดูสับสน
“เขาแต่งเพลงเสร็จแล้ว?”
“แต่งเสร็จแล้วครับ…”
“เป็นไปได้ยังไง นี่ผ่านไปยังไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงเลยไม่ใช่หรือ?”
ถงซูเหวินขมวดคิ้ว อาจารย์เซี่ยนอวี๋ไม่พอใจกับกฎของรายการเสียแล้ว ถึงได้จงใจเขียนเพลงอย่างขอไปที?
แบบนี้ไม่ได้การแล้ว
เขารีบนั่งลง “ผมขอฟังหน่อย”
ทีมงานส่งหูฟังให้ด้วยท่าทางประหนึ่งวิญญาณหลุดออกจากร่าง
ถงซูเหวินขมวดคิ้ว คลิกเล่นเพลง
เพลงนี้ไม่มีเสียงคนขับร้อง มีเพลงแนวทางของคอร์ดและทำนองโดยรวม
ทันใดนั้นเอง
ถงซูเหวินนั่งนิ่งราวกับถูกฟ้าผ่า แววตาเปี่ยมไปด้วยความประหลาดใจระคนตกใจ
ผ่านไปนาน
จู่ๆ เขาก็ฉุกคิดถึงความเป็นไปได้หนึ่งขึ้นมา “อาจารย์เซี่ยนอวี๋มีเพลงคงคลังไว้ และตรงกับหัวข้อที่เขาได้พอดี?”
“ดูจากตอนนี้ น่าจะเป็นแบบนั้นครับ”
ทีมงานเอ่ยพร้อมรอยยิ้มขื่น “ผมไม่อยากจะเชื่อว่าเขาเขียนเพลงนี้ออกมาได้ภายในเวลาชั่วโมงเดียว แถมยังเขียนเนื้อเพลงออกมาได้ดีขนาดนี้”
ถงซูเหวินกำลังขบคิด
หรือว่าเป็นเพราะคีย์เวิร์ดไปตรงกับเพลงคงคลังพอดี?
แบบนั้นจะบังเอิญไปหน่อยไหม?
……
อีกด้านหนึ่ง
หลินเยวียนเดินไปยังห้องโถงฝั่งนักร้อง
ในชั่วพริบตา นักร้องทั้งหมดต่างมองไปยังหลินเยวียน ทว่าสีหน้าของพวกเขากลับสับสน
ทำไมอาจารย์เซี่ยนอวี๋ถึงออกมาแล้วล่ะ
เขาออกมาเลือกนักร้อง?
ไม่ใช่มั้ง
เพิ่งผ่านไปแค่หนึ่งชั่วโมง
เขียนเพลงเสร็จในเวลาสั้นๆ เพียงเท่านี้?
บอกว่าเขียนเพลงตามหัวข้อไม่ใช่หรือ?
ต่อให้ไม่ใช่การเขียนเพลงตามหัวข้อ ก็ไม่มีทางเขียนได้เร็วขนาดนี้หรอก?
หลินเยวียนกลับไม่ได้สนใจความคิดของเหล่านักร้อง เขาตัดเข้าประเด็นในทันที
“รุ่นพี่เย่าหั่ว พวกเราไปอัดเพลง”
นักร้องทุกคนต่างตกตะลึง
เขียนเสร็จแล้วจริงๆ ?
นี่มัน…
มีเพลงคงคลังที่ตรงกับหัวข้อที่ได้?
ซุนเย่าหั่วลุกขึ้นด้วยความสับสน
ทันใดนั้นเขาก็ฉุกคิดถึงคำพูดที่หลินเยวียนบอกกับเขาเมื่อคืนนี้
‘เจอกันพรุ่งนี้ครับ’
ซุนเย่าหั่วรู้สึกอยากร้องไห้
ขณะเดียวกัน
เสียงของทีมงานก็ดังขึ้นผ่านลำโพง
“อาจารย์เซี่ยนอวี๋สร้างสรรค์บทเพลงเรียบร้อยแล้ว เลือกนักร้องซุนเย่าหั่ว”
ทันใดนั้นเอง
ทุกคนในห้องดำต่างตะลึงงัน
“เร็วปานนั้น?”
“เป็นไปได้ยังไง”
“ชั่วโมงเดียวก็เขียนเพลงออกมาได้ตามคีย์เวิร์ด?”
“น่ากลัวเกินไปแล้วไหม?”
“ไม่นะ”
“ไม่ได้เขียนออกมาในเวลาชั่วโมงเดียวแน่ๆ ”
“นี่คือเพลงคงคลังที่ตรงกับหัวข้อพอดีสินะ?”
“โชคดีเกินไปแล้ว มีเพลงคงคลังที่ใช้ได้พอดี”
“เซี่ยนอวี๋เหมือนจะมีเพลงคงคลังเยอะจริงๆ ”
“ฉันได้กลิ่นของเพลงคงคลัง”
“…”
ทุกคนต่างคิดว่าเซี่ยนอวี๋มีเพลงคงคลัง!
ไม่เช่นนั้น การเขียนเพลงออกมาภายในหนึ่งชั่วโมงนั้นเร็วเกินไปจริงๆ !
ทุกคนสามารถแต่งเพลงออกมาได้ภายในหนึ่งชั่วโมง ทว่าทุกคนล้วนแต่กุมขมับ เพราะเพลงซึ่งใช้เวลาเพียงหนึ่งชั่วโมงในการเขียนนั้นไม่มีทางผ่านมาตรฐานของพวกเขาเอง
คุณภาพไม่เพียงพอ!
น้ำหนักของการแข่งขันนี้สูงมาก ใครกล้าทำออกมาอย่างสุกเอาเผากิน มีแต่จะพ่ายแพ้อย่างน่าอับอาย
เพราะฉะนั้น
เซี่ยนอวี๋กล้าเขียนเพลงออกมาภายในเวลาเพียงชั่วโมงเดียว ย่อมต้องเป็นเพราะเขามั่นใจในบทเพลงของตนเองมาก
ความมั่นใจนี้มาจากไหนน่ะหรือ?
มีเพียงเพลงคงคลังเท่านั้นที่ทำได้
เมื่อคิดเช่นนี้ นักประพันธ์เพลงคนอื่นๆ จึงผ่อนคลายลง
ถึงแม้จะรู้สึกอิจฉาเซี่ยนอวี๋อยู่บ้าง เพราะความกดดันในการเขียนเพลงนั้นทำให้พวกเขาทรมานใจเหลือเกิน
อย่างไรก็ตาม
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป
จู่ๆ เสียงจากลำโพงก็ดังขึ้นอีกครั้ง “อาจารย์หยางจงหมิงสร้างสรรค์บทเพลงสำเร็จแล้ว เลือกนักร้องเจียงขุย!”
ผู้คนในห้องดำรู้สึกงุนงงอีกครั้ง
อะไรกันล่ะเนี่ย!
ทำไมถึงเร็วขนาดนี้
หยางจงหมิงก็เขียนเสร็จแล้ว?
มีเพลงคงคลังเหมือนกันใช่ไหม
พวกคุณสองคนมีเพลงคงคลังเยอะเกินไปแล้ว!
“เป็นไปไม่ได้!”
เจิ้งจิงจ้องมองทีมงาน “ฉันไม่เชื่อว่าพวกเขาเขียนเพลงเสร็จภายในหนึ่งชั่วโมง ต้องเป็นเพลงคงคลังแน่ๆ !”
ทีมงาน “…”
ตรรกะนี้ฉันเข้าใจ แต่ทำไมคุณต้องถลึงตาใส่ฉันด้วย
เมื่อมองไปยังเจิ้งจิงซึ่งผมเผ้ายุ่งเหยิงหน้าจอคอมพิวเตอร์ ทีมงานจึงบอกไปอย่างตกประหม่า “เรามีซุปงาดำ…”
ใช้บำรุงเส้นผม
การเขียนเพลงทำให้คนผมร่วง ขณะบันทึกเทปรายการตอนที่แล้ว ซุปงาดำนั้นกลายเป็นสินค้าขายดีสำหรับนักประพันธ์เพลงในห้องดำ
“ฉันขอหนึ่งชาม!”
เจิ้งจิงจ้องหน้าจออย่างเคียดขึง ตอนนี้เธอเขียนไม่ออกแม้แต่คอร์ดเดียว “เอากระทิงดำมาสองขวด!”
ให้ตายเถอะ!
คืนนี้ไม่ต้องนงไม่ต้องนอนกันแล้ว!
ไม่ว่าจะมีเพลงคงคลังหรือไม่ เซี่ยนอวี๋และหยางจงหมิงซึ่งเขียนเพลงเสร็จก่อน ต่างทำให้นักประพันธ์เพลงคนอื่นๆ ร้อนรนขึ้นมา
อันที่จริง
ตามทฤษฎีแล้ว เป็นไปได้ที่นักประพันธ์เพลงจะเขียนเพลงดีๆ ในเวลาหนึ่งชั่วโมง เมื่อแรงบันดาลใจของพวกเขาปะทุ แต่ตอนนี้ทุกคนอยากเชื่อว่าเรื่องนี้เป็นไปไม่ได้มากกว่า
มีความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียว!
พวกคุณสองคนมีเพลงคงคลัง!
[1] ฟ้าสูงทะเลกว้าง เปรียบเปรยถึงความเป็นอิสระ ความคิดและมุมมองอันไร้ขอบเขต
[2] ฝ่าลมโต้คลื่น เปรียบเปรยว่าทุกสิ่งดำเนินไปอย่างราบรื่นวันรุ่งขึ้น
รายการเพลงของเราตอนใหม่ล่าสุดออกอากาศ
หลินเซวียนดูรายการนี้อยู่ที่บ้าน
นั่งดูกับเหยาเหยาซึ่งอยู่ด้านข้าง
ในรายการนี้ ทุกครั้งที่นักประพันธ์เพลงเขียนเพลงเสร็จ จะไปเลือกนักร้องยังห้องโถงใหญ่
ทุกครั้งซุนเย่าหั่วจะออกตัวลุกขึ้น
ทว่าในครั้งนี้ ไม่มีใครเลือกซุนเย่าหั่ว
สุดท้ายแล้วทั้งราชวงศ์ปลา นักร้องคนอื่นๆ ล้วนถูกนักประพันธ์เพลงเลือกไปหมด ซุนเย่าหั่วยกเว้น
ในคอมเมนต์ต่างหยอกล้อ
‘ซุนเย่าหั่ว: ไหนบอกว่านอนรอชัยชนะ?’
‘ซุนเย่าหั่ว: เลือกผมเลือกผม รับรองว่าเพลงดัง แต่คนไม่ดัง!’
‘ขำปอดโยก ทั้งราชวงศ์ปลาเหลือแค่ซุนเย่าหั่วที่ไม่ถูกเลือก’
‘เป็นอย่างที่คิด ซุนเย่าหั่วต่างหากคือคนที่อ่อนที่สุดในราชวงศ์ปลา อ่อนกว่าเฉินจื้ออวี่ซะอีก’
‘ที่จริงเฉินจื้ออวี่ไม่ได้อ่อนนะ ยังไงคนเขาก็เป็นถึงนักร้องแถวหน้าคนแรกในราชวงศ์ปลา’
‘ไม่ใช่แค่ในรอบนี้นะ ในช่วงเลือกนักร้องรอบแรก ก็ไม่มีใครออกตัวเลือกซุนเย่าหั่ว’
‘ซุนเย่าหั่ว จะว่ายังไงดีล่ะ ให้ความรู้สึกว่าธรรมดาเกินไป’
‘อันที่จริงเขาร้องเพลงดีอยู่นะ แต่ชอบถูกคนมองข้าม’
‘แม้แต่ก่อนหน้านี้พ่อเพลงอวี๋ก็เลือกเฉินจื้ออวี่ ไม่เลือกซุนเย่าหั่ว’
‘เห็นแบบนี้แล้วซุนเย่าหั่วก็ไม่ไหวหรอก ที่กลายเป็นนักร้องแถวหน้าได้ก็ไม่ใช่เพราะความสามารถ’
‘ซุนเย่าหั่วก็กระตือรือร้นนะ ถูกมองข้ามหลายครั้งขนาดนี้ยังพยายามหาโอกาส’
‘เฮ้อ ดูแล้วปวดใจแทน’
‘ปวดใจทำไม ที่นักประพันธ์เพลงไม่เลือกเขา ต้องมีเหตุผลของตัวเองอยู่แล้ว’
‘…’
จู่ๆ เหยาเหยาก็รู้สึกไม่พอใจขึ้นมา “ทำไมคนพวกนี้ถึงพูดถึงรุ่นพี่เย่าหั่วแบบนี้ล่ะ”
หลินเซวียนตอบ “นั่นเพราะเธอไม่ค่อยได้ติดตามซุนเย่าหั่วไงล่ะ”
ก่อนที่จะร้องเพลง ‘สิบปี’ ซุนเย่าหั่วถูกสาธารณชนตำหนิยิ่งกว่านี้อีก
เพลงดังคนไม่ดังตลอดกาล
ภายหลังเพลงสิบปีโด่งดัง ชื่อเสียงของซุนเย่าหั่วจึงดีขึ้น
แต่เมื่อเทียบกับนักร้องคนอื่นๆ แล้ว ซุนเย่าหั่วยังนับว่าถูกสาธารณชนมองข้ามอยู่ร่ำไป
ขณะที่นักร้องในราชวงศ์ปลาเหมือนกัน เซี่ยนอวี๋เป็นคนปั้นมาเหมือนกัน ความนิยมของเจียงขุยกลับสูงกว่าซุนเย่าหั่วมาก
“หนูคิดว่ารุ่นพี่เย่าหั่วร้องเพลงดีมากเลยนะ” ต้าเหยาเหยาไม่เข้าใจ
หลินเซวียนเอ่ย “นักร้องนักแสดงหลายคนก็เป็นแบบนี้ไม่ใช่หรือ ทั้งที่ฝีมือดี แต่ก็ถูกมองข้ามได้ง่ายๆ ”
หลินเซวียนไม่รู้เรื่องนี้
ต่อให้อยู่ในสตาร์ไลท์ ซุนเย่าหั่วก็ถูกบรรดานักประพันธ์เพลงสบประมาทมาโดยตลอด
……
หลินเยวียนมาถึงศูนย์ดนตรีกลางเพื่อบันทึกรายการ
วันนี้ถึงคราวที่นักประพันธ์เพลงสิบคนที่เหลือต้องสุ่มจับคีย์เวิร์ดแล้ว
หยางจงหมิงยิ้มพลางมองไปทางหลินเยวียน “คุณจับก่อน?”
“ได้ครับ”
หลินเยวียนยื่นมือลงไปจับสลาก
“ได้อะไรหรือ”
เจิ้งจิงซึ่งถูกจัดให้อยู่ในรอบนี้ก็มองไปยังสลากในมือของหลินเยวียนเช่นเดียวกัน
“ฟ้าสูงทะเลกว้าง[1]?”
เธอเอ่ยว่า “ธีมนี้ไม่เลว ฉันจับบ้าง!”
หลินเยวียนตกตะลึง
สลากในมือของเขา ประกอบไปด้วยคำสี่คำ
ฟ้าสูงทะเลกว้าง!
คีย์เวิร์ดนี้ง่ายเหลือเกิน!
ส่วนเหตุผลนั้น ทุกคนต่างเข้าใจดี
“ฉันก็ด้วย”
เจิ้งจิงหยิบสลากขึ้นมา คีย์เวิร์ดคือ ‘จนใจ’
เจิ้งจิงเบ้ปาก “จนใจจริงๆ ถ้าฉันได้ฟ้าสูงทะเลกว้างก็ดีสิ แต่จนใจก็ได้”
หยางจงหมิงไม่พูดจา ตรงไปจับสลาก
“ฝ่าลมโต้คลื่น[2]”
พิธีกรอันหงพลอยสนุกสนานตามไปด้วย “สำนวนของอาจารย์หยางจงหมิงกับอาจารย์เซี่ยนอวี๋เข้ากันพอดี คุณมีความคิดอะไรบ้างไหมครับ?”
หยางจงหมิงเงียบ
เจิ้งจิงขยับมือทำท่าทาง ชี้ไปยังศีรษะของตนเอง “เขาเริ่มเขียนเพลงแล้ว”
อันหงตกตะลึง
อะไรนะ
สร้างสรรค์ผลงานในสมอง?
เขาไม่รู้ว่านี่เป็นเรื่องจริงหรือเท็จ
ทว่าหลังจากที่หยางจงหมิงเห็นคีย์เวิร์ดของตนเอง เขาก็ไม่พูดไม่จาอีกเลย ราวกับกำลังดำดิ่งสู่ห้วงความคิดอยู่จริงๆ …
คนอื่นๆ ยังคงจับสลากกันต่อไป
เมื่อทุกคนจับสลากเรียบร้อย อันหงยิ้มพลางเอ่ยว่า “ขออภัยด้วยครับ ทุกท่านต้องเข้าห้องดำแล้ว”
……
สิ่งที่เรียกว่าห้องดำ อันที่จริงก็คือห้องส่วนตัว
ห้องดำของหลินเยวียน คือห้องสีชมพูที่เขาคุ้นเคย
ทีมงานเตรียมเครื่องดื่มและผลไม้ให้เขา ทั้งยังกำชับเล็กน้อย “ถ้าต้องการอะไร บอกผมได้เลยนะครับ”
หลินเยวียนพยักหน้า “ไม่เป็นไรครับ อีกสักพักผมก็ออกไปแล้ว”
ทีมงานงุนงง ทันใดนั้นก็ส่ายหน้า “ขอโทษนะครับ อาจารย์เซี่ยนอวี๋ ตามกฎของรายการ ก่อนที่จะเขียนเพลงเสร็จ คุณจะไม่สามารถออกไปได้ นอกจากไปเข้าห้องน้ำ หรือกลับไปพักผ่อนที่โรงแรมช่วงกลางคืน”
หลินเยวียนชะงัก “เขียนออกมาก็ใช้ได้แล้วไม่ใช่เหรอครับ?”
ทีมงานไม่รู้ว่าควรตอบว่าอย่างไร
ทว่าภาพที่เกิดขึ้นหลังจากนี้ กลับทำให้ทีมงานรายการต้องตกใจ
เพราะหลินเยวียนยังคงนั่งอยู่ตรงนั้น ง่วนอยู่กับโปรแกรมเขียนเพลง ประหนึ่งไม่จำเป็นต้องใช้เวลาขบคิด
สถานการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นต่างจากนักประพันธ์เพลงในห้องดำเมื่อรอบที่แล้ว…
ในห้องดำรอบที่แล้ว นักประพันธ์เพลงหลายคนขยุ้มผมตนเองอยู่บ่อยครั้งขณะกำลังเขียนเพลง
เส้นผมซึ่งเดิมทีเหลืออยู่ไม่มาก กลับหลุดร่วงจนศีรษะโล้น
แต่เมื่อถึงคราวของเซี่ยนอวี๋ การเขียนเพลงให้ความรู้สึกผ่อนคลายราวกับดื่มน้ำ?
เกือบหนึ่งชั่วโมงผ่านไป หลินเยวียนยกนำ้ขึ้นดื่ม ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองทีมงาน
“เรียบเรียงเพลงต้องทำให้เสร็จที่นี่เลยไหมครับ?”
“ไม่ต้องครับ…”
ทีมงานตกตะลึง
หลินเยวียนพยักหน้า “งั้นผมเขียนเสร็จแล้ว ออกไปได้แล้วใช่ไหมครับ?”
ทีมงานรีบบอก “รอสักครู่นะครับ ผมขอฟังทั้งเพลงสักรอบได้ไหมครับ”
“ได้ครับ”
หลินเยวียนปล่อยให้อีกฝ่ายสวมหูฟัง เพื่อฟังเพลงซึ่งบันทึกเสียงเสร็จแล้ว
ด้านล่างยังมีเนื้อเพลงซึ่งสมบูรณ์แล้ว
หลังจากฟังจบ แววตาซึ่งทีมงานมองไปยังหลินเยวียนนั้นราวกับแววตาซึ่งมองสัตว์ประหลาด!
หลินเยวียนจึงเอ่ยถามอีกครั้ง “ผมออกไปได้หรือยังครับ?”
ทีมงานอ้าปากพะงาบ คล้ายกับเสียงหายไป ผ่านไปนานกว่าจะเอ่ยออกมาด้วยเสียงอันแหบแห้ง
“ได้ครับ”
หลินเยวียนพยักหน้า ผลักประตูออกไป
……
ถงซูเหวินซึ่งเป็นผู้กำกับรายการกำลัง ‘ลาดตระเวน’
เมื่อเห็นว่าหลินเยวียนเดินออกมาจากห้องสีชมพู ถงซูเหวินจึงตกใจจนสะดุ้งโหยง รีบเข้าไปหยุดเขาไว้ “อาจารย์เซี่ยนอวี๋ ทำไมคุณออกมาแล้วล่ะครับ!”
หลินเยวียนตอบ “ผมแต่งเพลงเสร็จแล้วครับ”
ถงซูเหวินคิดว่าตนฟังผิดไป “อ๋า?”
หลินเยวียนทำได้เพลงพูดประโยคเดิม “ผมเขียนแต่งเสร็จแล้วครับ”
พูดจบ หลินเยวียนจึงเดินผ่านถงซูเหวินไป
ถงซูเหวินมองไปยังแผ่นหลังของหลินเยวียน เขาอยากพูดบางอย่าง ทว่าสุดท้ายกลับปิดปากสนิท
เขาเร่งฝีเท้า เดินเข้าไปยังห้องสีชมพูของหลินเยวียน
ทีมงานให้ห้องสีชมพูยังคงสวมหูฟัง ท่าทางแลดูสับสน
“เขาแต่งเพลงเสร็จแล้ว?”
“แต่งเสร็จแล้วครับ…”
“เป็นไปได้ยังไง นี่ผ่านไปยังไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงเลยไม่ใช่หรือ?”
ถงซูเหวินขมวดคิ้ว อาจารย์เซี่ยนอวี๋ไม่พอใจกับกฎของรายการเสียแล้ว ถึงได้จงใจเขียนเพลงอย่างขอไปที?
แบบนี้ไม่ได้การแล้ว
เขารีบนั่งลง “ผมขอฟังหน่อย”
ทีมงานส่งหูฟังให้ด้วยท่าทางประหนึ่งวิญญาณหลุดออกจากร่าง
ถงซูเหวินขมวดคิ้ว คลิกเล่นเพลง
เพลงนี้ไม่มีเสียงคนขับร้อง มีเพลงแนวทางของคอร์ดและทำนองโดยรวม
ทันใดนั้นเอง
ถงซูเหวินนั่งนิ่งราวกับถูกฟ้าผ่า แววตาเปี่ยมไปด้วยความประหลาดใจระคนตกใจ
ผ่านไปนาน
จู่ๆ เขาก็ฉุกคิดถึงความเป็นไปได้หนึ่งขึ้นมา “อาจารย์เซี่ยนอวี๋มีเพลงคงคลังไว้ และตรงกับหัวข้อที่เขาได้พอดี?”
“ดูจากตอนนี้ น่าจะเป็นแบบนั้นครับ”
ทีมงานเอ่ยพร้อมรอยยิ้มขื่น “ผมไม่อยากจะเชื่อว่าเขาเขียนเพลงนี้ออกมาได้ภายในเวลาชั่วโมงเดียว แถมยังเขียนเนื้อเพลงออกมาได้ดีขนาดนี้”
ถงซูเหวินกำลังขบคิด
หรือว่าเป็นเพราะคีย์เวิร์ดไปตรงกับเพลงคงคลังพอดี?
แบบนั้นจะบังเอิญไปหน่อยไหม?
……
อีกด้านหนึ่ง
หลินเยวียนเดินไปยังห้องโถงฝั่งนักร้อง
ในชั่วพริบตา นักร้องทั้งหมดต่างมองไปยังหลินเยวียน ทว่าสีหน้าของพวกเขากลับสับสน
ทำไมอาจารย์เซี่ยนอวี๋ถึงออกมาแล้วล่ะ
เขาออกมาเลือกนักร้อง?
ไม่ใช่มั้ง
เพิ่งผ่านไปแค่หนึ่งชั่วโมง
เขียนเพลงเสร็จในเวลาสั้นๆ เพียงเท่านี้?
บอกว่าเขียนเพลงตามหัวข้อไม่ใช่หรือ?
ต่อให้ไม่ใช่การเขียนเพลงตามหัวข้อ ก็ไม่มีทางเขียนได้เร็วขนาดนี้หรอก?
หลินเยวียนกลับไม่ได้สนใจความคิดของเหล่านักร้อง เขาตัดเข้าประเด็นในทันที
“รุ่นพี่เย่าหั่ว พวกเราไปอัดเพลง”
นักร้องทุกคนต่างตกตะลึง
เขียนเสร็จแล้วจริงๆ ?
นี่มัน…
มีเพลงคงคลังที่ตรงกับหัวข้อที่ได้?
ซุนเย่าหั่วลุกขึ้นด้วยความสับสน
ทันใดนั้นเขาก็ฉุกคิดถึงคำพูดที่หลินเยวียนบอกกับเขาเมื่อคืนนี้
‘เจอกันพรุ่งนี้ครับ’
ซุนเย่าหั่วรู้สึกอยากร้องไห้
ขณะเดียวกัน
เสียงของทีมงานก็ดังขึ้นผ่านลำโพง
“อาจารย์เซี่ยนอวี๋สร้างสรรค์บทเพลงเรียบร้อยแล้ว เลือกนักร้องซุนเย่าหั่ว”
ทันใดนั้นเอง
ทุกคนในห้องดำต่างตะลึงงัน
“เร็วปานนั้น?”
“เป็นไปได้ยังไง”
“ชั่วโมงเดียวก็เขียนเพลงออกมาได้ตามคีย์เวิร์ด?”
“น่ากลัวเกินไปแล้วไหม?”
“ไม่นะ”
“ไม่ได้เขียนออกมาในเวลาชั่วโมงเดียวแน่ๆ ”
“นี่คือเพลงคงคลังที่ตรงกับหัวข้อพอดีสินะ?”
“โชคดีเกินไปแล้ว มีเพลงคงคลังที่ใช้ได้พอดี”
“เซี่ยนอวี๋เหมือนจะมีเพลงคงคลังเยอะจริงๆ ”
“ฉันได้กลิ่นของเพลงคงคลัง”
“…”
ทุกคนต่างคิดว่าเซี่ยนอวี๋มีเพลงคงคลัง!
ไม่เช่นนั้น การเขียนเพลงออกมาภายในหนึ่งชั่วโมงนั้นเร็วเกินไปจริงๆ !
ทุกคนสามารถแต่งเพลงออกมาได้ภายในหนึ่งชั่วโมง ทว่าทุกคนล้วนแต่กุมขมับ เพราะเพลงซึ่งใช้เวลาเพียงหนึ่งชั่วโมงในการเขียนนั้นไม่มีทางผ่านมาตรฐานของพวกเขาเอง
คุณภาพไม่เพียงพอ!
น้ำหนักของการแข่งขันนี้สูงมาก ใครกล้าทำออกมาอย่างสุกเอาเผากิน มีแต่จะพ่ายแพ้อย่างน่าอับอาย
เพราะฉะนั้น
เซี่ยนอวี๋กล้าเขียนเพลงออกมาภายในเวลาเพียงชั่วโมงเดียว ย่อมต้องเป็นเพราะเขามั่นใจในบทเพลงของตนเองมาก
ความมั่นใจนี้มาจากไหนน่ะหรือ?
มีเพียงเพลงคงคลังเท่านั้นที่ทำได้
เมื่อคิดเช่นนี้ นักประพันธ์เพลงคนอื่นๆ จึงผ่อนคลายลง
ถึงแม้จะรู้สึกอิจฉาเซี่ยนอวี๋อยู่บ้าง เพราะความกดดันในการเขียนเพลงนั้นทำให้พวกเขาทรมานใจเหลือเกิน
อย่างไรก็ตาม
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป
จู่ๆ เสียงจากลำโพงก็ดังขึ้นอีกครั้ง “อาจารย์หยางจงหมิงสร้างสรรค์บทเพลงสำเร็จแล้ว เลือกนักร้องเจียงขุย!”
ผู้คนในห้องดำรู้สึกงุนงงอีกครั้ง
อะไรกันล่ะเนี่ย!
ทำไมถึงเร็วขนาดนี้
หยางจงหมิงก็เขียนเสร็จแล้ว?
มีเพลงคงคลังเหมือนกันใช่ไหม
พวกคุณสองคนมีเพลงคงคลังเยอะเกินไปแล้ว!
“เป็นไปไม่ได้!”
เจิ้งจิงจ้องมองทีมงาน “ฉันไม่เชื่อว่าพวกเขาเขียนเพลงเสร็จภายในหนึ่งชั่วโมง ต้องเป็นเพลงคงคลังแน่ๆ !”
ทีมงาน “…”
ตรรกะนี้ฉันเข้าใจ แต่ทำไมคุณต้องถลึงตาใส่ฉันด้วย
เมื่อมองไปยังเจิ้งจิงซึ่งผมเผ้ายุ่งเหยิงหน้าจอคอมพิวเตอร์ ทีมงานจึงบอกไปอย่างตกประหม่า “เรามีซุปงาดำ…”
ใช้บำรุงเส้นผม
การเขียนเพลงทำให้คนผมร่วง ขณะบันทึกเทปรายการตอนที่แล้ว ซุปงาดำนั้นกลายเป็นสินค้าขายดีสำหรับนักประพันธ์เพลงในห้องดำ
“ฉันขอหนึ่งชาม!”
เจิ้งจิงจ้องหน้าจออย่างเคียดขึง ตอนนี้เธอเขียนไม่ออกแม้แต่คอร์ดเดียว “เอากระทิงดำมาสองขวด!”
ให้ตายเถอะ!
คืนนี้ไม่ต้องนงไม่ต้องนอนกันแล้ว!
ไม่ว่าจะมีเพลงคงคลังหรือไม่ เซี่ยนอวี๋และหยางจงหมิงซึ่งเขียนเพลงเสร็จก่อน ต่างทำให้นักประพันธ์เพลงคนอื่นๆ ร้อนรนขึ้นมา
อันที่จริง
ตามทฤษฎีแล้ว เป็นไปได้ที่นักประพันธ์เพลงจะเขียนเพลงดีๆ ในเวลาหนึ่งชั่วโมง เมื่อแรงบันดาลใจของพวกเขาปะทุ แต่ตอนนี้ทุกคนอยากเชื่อว่าเรื่องนี้เป็นไปไม่ได้มากกว่า
มีความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียว!
พวกคุณสองคนมีเพลงคงคลัง!
[1] ฟ้าสูงทะเลกว้าง เปรียบเปรยถึงความเป็นอิสระ ความคิดและมุมมองอันไร้ขอบเขต
[2] ฝ่าลมโต้คลื่น เปรียบเปรยว่าทุกสิ่งดำเนินไปอย่างราบรื่น