Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน - ตอนที่ 582 ฟ้าสูงทะเลกว้าง
รายการบันทึกเทปเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์
จนกระทั่งวันที่ 7 พฤศจิกายน
บรรดานักประพันธ์เพลงต่างทยอยเขียนเพลงเสร็จทีละคน ทั้งยังฝึกซ้อมกับนักร้อง
รายการในรอบนี้มีแผนจะใช้รูปแบบผสมผสานระหว่างการบันทึกเทปและการถ่ายทอดสด กล่าวคือจะฉายส่วนที่บันทึกไว้ให้ผู้ชมดูก่อน หลังจากนั้นจึงเริ่มการแข่งขันบนเวทีอย่างเป็นทางการ
นี่คือรูปแบบของรายการที่ผู้ชมต้องการมากที่สุด
เมื่อเทียบกับการบันทึกเทป ผู้ชมกลับชื่นชอบความรู้สึกของการมีปฏิสัมพันธ์แบบเรียลไทม์เช่นนี้มากกว่า
และในขณะที่นักประพันธ์เพลงและนักร้องหลังเวทีกำลังเตรียมการขั้นสุดท้าย
ในที่สุดเนื้อหาซึ่งได้รับการบันทึกไว้เมื่อหลายวันก่อนก็ได้รับการเผยแพร่แล้ว
ขณะเดียวกัน
ส่วนชาวเน็ตก็แทบอดใจรอไม่ไหวที่จะได้รับชมรายการ
‘ในที่สุดก็มีการแข่งขันของพ่อเพลงอวี๋แล้ว!’
‘ไม่ได้เห็นพ่อเพลงอวี๋มาเดือนกว่าแล้ว คิดถึงจะแย่อยู่แล้ว!’
‘รอบนี่น่าสนใจมาก นักประพันธ์เพลงจากสตาร์ไลท์ทั้งสามคนขึ้นสังเวียนเดียวกัน!’
‘แม่เจิ้งเหมือนมาเป็นตัวแถมให้ครบสามคน เพราะประเด็นสำคัญอยู่ที่สองพ่อลูกอย่างพ่อเพลงอวี๋กับพ่อเพลงหยาง’
‘แม่เจิ้ง: ไว้หน้าฉันหน่อยก็ได้!’
‘นี่เป็นครั้งแรกที่พ่อเพลงอวี๋กับพ่อเพลงหยางเผชิญหน้ากัน’
‘ไม่รู้ว่าใครชนะใครแพ้’
“ดูเหมือนว่าสองคนนี้จะไม่เคยแพ้ตั้งแต่มีการแข่งขันมาเลยใช่ไหม?”
“…”
นับตั้งแต่เริ่มการแข่งขันในรายการ เซี่ยนอวี๋และหยางจงหมิงไม่เคยได้เข้าแข่งขันในตอนเดียวกัน
ผลปรากฏว่าทั้งสองคนล้วนเปิดโหมดล้างบางในรอบของแต่ละคน
ในที่สุดทั้งสองคนก็มาบรรจบกันในที่สุด
เพราะฉะนั้นชาวเน็ตจึงอยากเห็นว่าจะมีประกายไฟประเภทใดปะทุระหว่างทั้งสองคนนี้
ปรากฏว่า
ไม่ทันไรทุกคนก็ได้เห็นสิ่งที่เห็น
‘พ่อเพลงอวี๋เขียนเพลงเสร็จในหนึ่งชั่วโมง’
‘เร็วอะไรปานนั้น!’
‘ขอถามผู้รู้ นักประพันธ์เพลงเขียนเพลงออกมาภายในหนึ่งชั่วโมงหมายความว่ายังไงครับ’
ที่จริงแล้วการเขียนเพลงออกมาในหนึ่งชั่วโมงไม่นับว่ายาก นักประพันธ์เพลงหลายคนสามารถทำได้เมื่อมีแรงบันดาลใจ ที่สำคัญคือต้องดูคุณภาพของบทเพลง ถ้าเพลงที่เขียนภายในหนึ่งชั่วโมงมีคุณภาพระเบิดสตูดิโอ นั่นนับว่าน่ากลัวมาก แต่ผมค่อนข้างเอียงไปทางข้อสรุปของเหล่านักประพันธ์เพลง คีย์เวิร์ดที่เซี่ยนอวี๋จับได้ น่าจะไปตรงกับเพลงสำรองสักเพลงหนึ่งของเขา สิ่งที่เรียกว่าเพลงคงคลังก็คือเพลงที่นักประพันธ์เพลงเขียนออกมา แต่ไม่เคยเผยแพร่’
‘แบบนี้นี่เอง’
‘เห็นท่าทางตอนรายงานผลของพ่อเพลงอวี๋แล้ว คุณภาพเพลงไม่น่าแย่ น่าจะเป็นเพลงคงคลังจริงๆ ’
‘…’
และระหว่างที่ทุกคนกำลังถกเถียงกันอยู่นั้น หยางจงหมิงก็เขียนเพลงเสร็จแล้วเช่นกัน
‘นี่มัน….’
‘มีเพลงคงคลังอีกแล้วหรือ?’
‘คงไม่ใช่…มั้ง’
‘ไม่ว่าจะพูดยังไง นี่ก็เร็วเกินไปไหม’
‘ฉันชักจะสงสัยแล้ว สองคงนี้ไม่ได้ไม่มีเพลงคงคลัง แต่แต่งเพลงที่ดีออกมาได้ในเวลาสั้นแค่นี้หรอกใช่ไหม’
‘หรือจะบอกว่า สองคนนี้มีเพลงคงคลังมากเกินไป เลยเป็นเรื่องง่ายที่คีย์เวิร์ดจะบังเอิญไปตรงกับเพลงคงคลัง?’
‘…’
ทุกคนถกเถียงกันอย่างตื่นเต้น
ตอนที่แล้วของรายการ ทุกคนต่างก็ได้ดู
ในตอนที่แล้วของรายการ เหล่านักประพันธ์เพลงถูกทรมานด้วยสร้างสรรค์ผลงานภายใต้หัวข้อและระยะเวลาที่กำหนด
ผู้ชมต่างเพลิดเพลินจำเริญใจ
ทว่าเมื่อมาถึงตอนนี้ ภาพของเซี่ยนอวี๋และหยางจงหมิงกลับแตกต่างจากภาพจำของผู้ชมอย่างสิ้นเชิง
จนกระทั่งกล้องฉายไปยังนักประพันธ์เพลงคนอื่นๆ ซึ่งกำลังขยุ้มผมตนเอง ทุกคนจึงหลุดหัวเราะออกมา
เป็นอย่างที่คิด
นี่ต่างหากคือสถานการณ์ปกติ
เซี่ยนอวี๋กับหยางจงหมิงแลดูคล้ายกับว่าจะไม่ได้อยู่ในมิตินี้
มีโปรแกรมเมอร์คนหนึ่งแสดงความเห็นว่า ‘สภาพเดียวกับฉันตอนถ่างตาเขียนโค้ดกลางดึกเลย’
ในขณะนั้นเอง
เซี่ยนอวี๋และหยางจงหมิง ก็เลือกนักร้องของตนเอง
ขณะนั้น
คอมเมนต์เริ่มหนาแน่นขึ้นมาทันใด
‘จบสิ้นแล้ว พ่อเพลงอวี๋เลือกซุนเย่าหั่ว!’
‘พ่อเพลงอวี๋ยังอบอุ่นเหมือนเดิม รอบที่แล้วราชวงศ์ปลาได้รับเลือกทั้งหมด ยกเว้นซุนเย่าหั่วที่ตกขบวน ปรากฏว่าในรอบนี้พ่อเพลงอวี๋ก็ชดเชยให้ซุนเย่าหั่วแล้ว’
‘ก่อนหน้านี้เฉินจื้ออวี๋ก็ตกขบวน พ่อเพลงอวี๋เลือกเฉินจื้ออวี่ เขาเอ็นดูนักร้องในราชวงศ์ปลาจริงๆ ’
‘ปัญหาคือ พี่ชายคนนี้ฝีมือไม่ถึงขั้นไง’
‘ถ้าจะเลือกซุนเย่าหั่ว ไม่สู้เลือกเฉินจื้ออวี่ดีกว่า’
‘แม่เจ้า เวทีนี้ซุนเย่าหั่วจะพาพ่อเพลงอวี๋ถอยหลังนะ!’
‘ใช้บั้นท้ายคิดยังรู้เลย ซุนเย่าหั่วจะไปเป็นคู่ต่อสู้ของเจียงขุยยังไง’
‘ใช่แล้ว ในราชวงศ์ปลา ซุนเย่าหั่วได้รับการปฏิบัติที่ดีกว่าเจียงขุยซะอีก แต่ฝีมือการร้องเพลงของเขายังห่างไกลจากเจียงขุย’
‘แม้แต่ราชาราชินีเพลง เจียงขุยก็จัดการมาแล้ว’
‘พ่อเพลงอวี๋ตัดสินใจโดยใช้ความรู้สึก ที่เขาเลือกซุนเย่าหั่วคงเป็นเพราะอยากช่วยซุนเย่าหั่ว แต่นี่คือการแข่งขันนะ ทำไมไม่เลือกนักร้องที่เก่งกว่านี้’
‘ทำไมซุนเย่าหั่วถึงไม่ปฏิเสธไป เขาไม่รู้สึกกดดันบ้างหรือไง’
‘…’
ฝีมือของเจียงขุยได้รับการยอมรับว่าเป็นอันดับหนึ่งในราชวงศ์ปลา
และสำหรับนักประพันธ์เพลงแล้ว การแข่งขันไม่ได้เกี่ยวข้องกับเพลงเพียงอย่างเดียว แต่ยังเกี่ยวข้องกับการถ่ายทอดศักยภาพของบทเพลงออกมาเช่นกัน
ในแง่ของความสามารถเพียงอย่างเดียว เห็นได้ชัดว่าซุนเย่าหั่วสู้เจียงขุยไม่ได้
ดังนั้น ผู้ชมหลายคนจึงรู้สึกคับข้องใจจนพากันขมวดคิ้ว
ทุกคนอยากเห็นการเผชิญหน้ากันระหว่างผู้ที่แข็งแกร่งทั้งสองคนอย่างเซี่ยนอวี๋และหยางจงหมิง!
ปรากฏว่าเซี่ยนอวี๋เลือกซุนเย่าหั่ว ลำพังนักร้อง ค่าพลังก็ลดไปเจ็ดส่วนแล้ว!
จะยังแข่งไหวอยู่หรือ?
……
เนื้อหาช่วงการบันทึกเสียงถูกตัดออกมาบางส่วนและใช้เวลาเพียงครึ่งชั่วโมงเท่านั้น
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป ภาพของการถ่ายทอดสดก็เชื่อมเข้ามาอย่างแยบยล
และในวันนี้
การแสดงของทีมแรก ก็คือเจียงขุย!
หยางจงหมิงสร้างสรรค์บทเพลงในชื่อเดียวกับคีย์เวิร์ด เพลงนี้มีชื่อว่า ‘ฝ่าลมโต้คลื่น’
แทบทันทีที่ท่อนอินโทรของเพลงนี้ดังขึ้น ดวงตาของผู้ชมต่างลุกเป็นประกายขึ้นมา!
มักจะมีเพลงบางเพลง ที่ทุกคนเพียงแค่ฟังท่อนอินโทร ก็สัมผัสได้แล้วว่าเป็นเพลงที่ดี…
เช่นเดียวกับเพลงตะวันฉาย
เช่นเดียวกับเพลงเกินจริง
เช่นเดียวกับเพลงเส้นทางธรรมดา
เพลงฝ่าลมโต้คลื่นของหยางจงหมิง ให้ความรู้สึกเช่นเดียวกัน!
“มองฉันฝ่าลมโต้คลื่น!”
“สร้างดวงตะวันของฉันเอง!”
“ลมพายุคือทางที่ฉันเดิน…”
“มองฉันฝ่าลมโต้คลื่น!”
“เกลียวคลื่นคลายความสับสน!”
“สายรุ้งคือแสงสว่างรอบกายฉัน…”
“เหนือพื้นน้ำไม่ต้องการเข็มทิศ จงอย่าว่าฉันดื้อดึงวิปริต การเติบโตย่อมมีอุปสรรคคอยขัดขวาง แต่บาดแผลจะกี่ครั้งยังชี้ทาง ต่อให้ไร้ปีกกว้าง ฉันจะโบยบินไปอย่างเสรี…”
นี่คือบทเพลงให้กำลังใจ
เริ่มต้นมาก็เข้าสู่ช่วงไคลแม็กซ์ในทันที
การแสดงของเจียงขุย ทำให้บทเพลงนี้เปี่ยมไปด้วยพลังหยั่งถึงจิตใจของผู้คน!
เนื้อเพลงท่อนเวิร์สยาวมาก ใหความรู้สึกของการเล่าเรื่องราว จังหวะระหว่างเพลงทำให้บทเพลงน่าฟังมากยิ่งขึ้น!
พรสวรรค์ของหยางจงหมิงได้รับการถ่ายทอดออกมาบนเวทีได้อย่างสมบูรณ์แบบผ่านฝีมือในการขับร้องระดับราชินีเพลงของเจียงขุย!
ในคอมเมนต์ต่างตื่นเต้นยกใหญ่
‘พ่อเพลงหยางโหดมาก!’
‘เพลงนี้เพราะจริงๆ !’
‘ให้อารมณ์เดียวกับเพลงความฝันแรกในยุคแรกๆ ของพ่อเพลงอวี๋เลย แต่ทำนองของทั้งสองเพลงต่างกันอย่างสิ้นเชิง เรียบง่ายติดหู แต่ก็เปี่ยมไปด้วยพลังและความซาบซึ้ง!’
‘พ่อเพลงหยางยังปังเหมือนเดิม!’
‘เพลงให้กำลังใจที่ผู้หญิงร้อง ฉันคิดว่าความฝันแรกคือยอดพีระมิดแล้วนะ แต่พ่อเพลงหยางปล่อยเพลงนี้ออกมา ทั้งสองเพลงส่งเสริมกันและกัน!’
‘หลังจากนี้ถ้าผู้หญิงจะร้องเพลงให้กำลังใจ ไม่จำเป็นต้องเลือกเพลงความฝันแรกเหมือนกันหมดแล้ว!’
‘ถ้าเพลงนี้ไม่ใช่เพลงคงคลัง แต่เป็นผลงานที่พ่อเพลงหยางทำสำเร็จภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมงละก็ จะน่ากลัวขนาดไหนกัน!’
‘ไม่ว่าจะใช่หรือไม่ใช่เพลงคงคลัง ยังไงฉันก็ยอมใจเลย!’
‘เจียงขุยก็ร้องเพราะมาก!’
‘เสียงของเจียงขุยทะลวงโสตประสาทมาก เป็นพรจากประเจ้าโดยแท้ ร้องได้ทั้งเสียงหวานและระเบิดพลัง!’
‘…’
ในห้องส่ง
หลินเยวียนฟังแล้วรู้สึกตกตะลึงเช่นกัน
เขาได้รู้จักกับพ่อเพลงหลายคน ทั้งยังเคยแข่งขันมามาก ทว่าในบรรดาพ่อเพลงซึ่งเขาเคยคลุกคลีด้วยนั้น หยางจงหมิงคือผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดอย่างเห็นได้ชัด!
เพลงฝ่าลมโต้คลื่นนี้ยอดเยี่ยมจริงๆ !
ยอดเยี่ยมถึงขันที่หลินเยวียนยังยอมรับว่าเพลงนี้ไม่ได้เป็นรองเพลงความฝันแรกเลย!
การแข่งขันในวันนี้ ผลการแข่งขันยากคาดเดาแล้ว
เดิมทีหลินเยวียนคิดว่า เมื่อเพลงฟ้าสูงทะเลกว้างดังขึ้น ชัยชนะจะมากองตรงหน้าเขาทันที
แต่ตอนนี้
เมื่อเห็นปฏิกิริยาของผู้ชมด้านล่างเวที เห็นได้ชัดว่าเพลงฝ่าลมโต้คลื่นของหยางจงหมิงสอดคล้องกลับรสนิยมของทุกคน!
เสียงกู่ร้องนับไม่ถ้วน!
เสียงปรบมือเกรียวกราว!
ในการเปิดเวที ทีมของหยางจงหมิงสร้างบรรยากาศของการแข่งขันในรอบนี้ได้อย่างง่ายดาย!
……
การแข่งขันดำเนินต่อไป
ทว่าบทเพลงหลังจากนั้นไม่ได้โดดเด่นถึงขนาดนั้น
มีผลงานซึ่งสะดุดตาบ้างเป็นครั้งคราว แต่ก็เทียบไม่ได้กับฝ่าลมโต้คลื่น
ด้วยข้อจำกัดด้านเวลาและคีย์เวิร์ด ส่งผลให้นักประพันธ์เพลงหลายคนยากที่จะแสดงฝีมือออกมาได้อย่างเต็มที่
ดังนั้นไม่ว่าผู้ชมในห้องส่งหรือผู้ชมหน้าจอ ต่างก็กำลังพูดถึงเพลงฝ่าลมโต้คลื่น
แม้แต่เจิ้งจิงยังส่ายหน้าอย่างจนใจ “วันนี้เพลงฝ่าลมโต้คลื่นชนะแน่”
นักประพันธ์เพลงคนอื่นๆ ก็พยักหน้าเช่นเดียวกัน
ไม่มีอะไรต้องพูดให้มากความเกี่ยวกับเพลงนี้จริงๆ
สมแล้วที่หยางจงหมิงคือราชาปีศาจตัวเต็งของรายการเพลงของเขา ข้อจำกัดของเวลาและคีย์เวิร์ดไม่อาจส่งผลต่อความคิดสร้างสรรค์ของเขาเลย
และหลังจากแต่ละทีมร้องเพลงจบ
ในที่สุดอันหงก็ประกาศว่า “ขอขอบคุณนักประพันธ์เพลงและนักร้องทีมก่อนหน้าสำหรับผลงานเพลงนะครับ ต่อไป ขอเสียงปรบมือดังๆ ต้อนรับอาจารย์เซี่ยนอวี๋และนักร้องซุนเย่าหั่วครับ”!
ด้านหลังเวที
ซุนเย่าหั่วซึ่งนิ่งเงียบมาโดยตลอด ก็สูดลมหายใจก่อนจะหยัดกายลุกขึ้น
ขณะเดียวกัน
หลินเยวียนในฐานะนักประพันธ์เพลงก็นั่งลงในตำแหน่งซึ่งเตรียมไว้ให้สำหรับนักประพันธ์เพลงโดยเฉพาะเช่นกัน
บนหน้าจอ มีข้อมูลดังต่อไปนี้ปรากฏขึ้น
ชื่อเพลง: ฟ้าสูงทะเลกว้าง[1]
คำร้อง: เซี่ยนอวี๋
ทำนอง: เซี่ยนอวี๋
ขับร้อง: ซุนเย่าหั่ว
เช่นเดียวกับหยางจงหมิง บทเพลงของเซี่ยนอวี๋ ใช้คีย์เวิร์ดที่จับได้มาเป็นชื่อเพลง
นี่ไม่ใช่เกณฑ์ที่ยากเย็นแต่อย่างใด
รายการเพียงแค่ขอให้นักประพันธ์เพลงสร้างสรรค์ผลงานซึ่งเกี่ยวข้องกับคีย์เวิร์ดที่จับได้ แต่ไม่ได้บอกว่านักประพันธ์เพลงจำเป็นต้องใช้คีย์เวิร์ดมาเป็นชื่อเพลง
อย่างไรก็ตาม…
ในแง่ของความสมบูรณ์ เห็นได้ชัดว่าการใส่คีย์เวิร์ดเข้ามาเป็นชื่อเพลงนั้นมีประสิทธิภาพกว่า
เช่นเดียวกับการเขียนเรียงความ
การทำเช่นนี้จะสอดคล้องกับหัวข้อมากยิ่งขึ้น
และขณะนี้ ในที่สุดคอมเมนต์ก็ไม่ได้ถกเถียงกันเกี่ยวกับเพลงฝ่าลมโต้คลื่นเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป
‘ถึงคิวพ่อเพลงอวี๋แล้ว’
‘ผมไม่สงสัยในฝีมือการประพันธ์เพลงของพ่อเพลงอวี๋แม้แต่นิดเดียว แต่ผมไม่เชื่อมั่นในความสามารถของซุนเย่าหั่ว’
‘ที่จริงความสามารถของซุนเย่าหั่วไม่ได้แย่อย่างที่ทุกคนพูดกัน แต่เขาจะเป็นรองกว่าเมื่อเจอกับเจียงขุย’
‘รู้สึกว่าซุนเย่าหั่วเครียดมาก’
‘ดูจากชื่อเพลง พ่อเพลงอวี๋น่าจะเขียนเพลงให้กำลังใจเหมือนกัน?’
‘ไม่ว่าจะฝ่าลมโต้คลื่น หรือฟ้าสูงทะเลกว้าง ก็ล้วนเหมาะกับธีมให้กำลังใจ แนวทางนี้ในการสร้างสรรค์ผลงานไม่ได้มีปัญหาอะไร’
‘ประเด็นยังอยู่ที่การร้อง’
‘…’
ขณะที่ในคอมเมนต์กำลังพูดคุยกัน ทันใดนั้นบนเวทีก็มืดลง
มีเสียงดนตรีดังขึ้น
การผสมผสานระหว่างเสียงเชลโลและเปียโนทำให้ความรู้สึกหนักหน่วงยิ่งขึ้น และท่วงทำนองไพเราะยิ่งขึ้น
ทันใดนั้น
เสียงร้องทุ้มต่ำดังขึ้น
เคยสงสัยว่าฉัน เดินอยู่กลางผืนทราย
ไม่เคยสำเร็จ ไม่ว่าความฝันคืออะไร
ยามปีกกว้างสยาย สายลมกลับสลายไป
ความเจ็บช้ำที่ผ่านมาจะบังเกิดผลเมื่อใด
…”
ทั้งห้องส่งเงียบลงในทันที
ลำแสงหรุบหรู่ส่องในความมืด กระทบลงบนร่างของซุนเย่าหั่ว ใบหน้าอันธรรมดา เต็มไปด้วยรอยยิ้มเย้ยเยาะตนเอง
ในขณะนั้น
หัวใจของทุกคนเกิดความรู้สึกปวดร้าวขึ้นมาพร้อมกัน
ด้วยเสียงดนตรีและเสียงร้อง สีหน้าของทุกคนจึงค่อยๆ เปลี่ยนไป
คอมเมนต์ค่อยๆ เงียบลงเช่นเดียวกัน
[1] ฟ้าสูงทะเลกว้าง โดยวงซิ่น (SHIN)