Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน - ตอนที่ 595 นักพยากรณ์มองออกตั้งแต่แรก
สิ่งที่เรียกว่า ‘ปลาแพะแข่งกันสด’ ดำเนินไปอย่างดุเดือดเป็นเวลาเกือบหนึ่งเดือน ต่างฝ่ายต่างสลับกันรุกรับ
ผู้คนมากมายสนใจผลลัพธ์สุดท้าย และอาจเรียกได้ว่าตั้งหน้าตั้งตารอ
กว่าทุกคนจะอดทนจนถึงสิ้นเดือน โดยคิดว่าผลแพ้ชนะจะได้รับการตัดสินอย่างยุติธรรม
ปรากฏว่าเกิดการแทรกแซงอย่างกะทันหัน!
สมดุลระหว่างเซี่ยนอวี๋และหยางจงหมิงถูกทำลายในชั่วพริบตา!
สมดุลแห่งชัยชนะนั้นเทลงสู่ฝั่งหยางจงหมิงในทันที!
ชั่วขณะนั้น
หลายคนต่างรู้สึกหดหู่ใจจนแทบอาเจียนเป็นเลือด
‘อะไรกัน’
‘ทำไมจู่ๆ ทางการถึงโผล่มาแบบนี้’
‘ถ้าเป็นแบบนี้ก็ไม่สนุกแล้วสิ’
‘ทางการประกาศเท่ากับชี้เป็นชี้ตาย!’
‘กระแสที่ได้จากทางการ ใครจะไปทนไหว…’
‘ครั้งก่อนดูเพลงของเราแล้วอยากเห็นคะแนนโหวตโดยละเอียดของสองคนนี้ แต่รายการดันนับว่าเสมอกัน’
‘ผมกำลังคิดว่าเราไม่สามารถปล่อยให้ผลเสมอกันในฤดูกาลเพลงดำเนินต่อไปได้ ยังไงก็ต้องมีผลการแข่งขัน และแล้วทางการก็โผล่มา’
‘ฉันอยากเห็นผลแพ้ชนะระหว่างพ่อเพลงอวี๋กับพ่อเพลงหยางจริงๆ ทำไมถึงยากขนาดนี้กัน’
‘พ่อเพลงหยางชนะแล้ว แต่ถ้านับแบบนี้ เซี่ยนอวี๋ก็ไม่ได้แพ้’
‘…’
ผลแพ้ชนะเกิดขึ้นแล้ว
ทว่าผลแพ้ชนะนี้ไม่ใช่ผลแพ้ชนะในแบบที่ทุกคนอยากเห็น เพราะฉะนั้นทุกคนถึงได้รู้สึกหดหู่เช่นนี้
ในเวลานี้
จู่ๆ ก็มีคนตบหน้าผากและฉุกคิดถึงเหตุการณ์ในอดีตขึ้นมาได้
‘พวกคุณจำการแข่งขันครั้งแรกของพ่อเพลงอวี๋กับเฟ่ยหยางได้ไหม พ่อเพลงอวี๋เป็นแชมป์ได้ยังไง’
‘เหมือนว่าจะได้รับการรับรองจากทางการเหมือนกัน’
‘ตอนนั้นถ้าไม่มีการรับรองจากทางการ เฟ่ยหยางน่าจะชนะในการพบกับเซี่ยนอวี๋ครั้งแรก แต่ทันทีที่ทางการออกโรง เซี่ยนอวี๋ก็พลิกขึ้นไปคว้าอันดับหนึ่งทันที’
‘ถ้าจำไม่ผิดละก็ เพลงนั้นคือเพลงเปลี่ยนตัวเองของเฉินจื้ออวี่’
‘ตอนนั้นทางการหยิบเพลงนี้มาโปรโมต บอกว่าเนื้อหาของเพลงเปลี่ยนตัวเองนั้นเรียกร้องให้เกิดความสามัคคีในแต่ละทวีปบนบลูสตาร์ เพื่อที่ทุกคนจะได้ไม่มีความบาดหมางและคับข้องใจต่อกัน’
‘ครั้งนี้พ่อเพลงหยางใช้แนวคิดเดียวกัน เรียกร้องให้แต่ละทวีปบนบลูสตาร์สามัคคีกัน’
‘ทำแบบนี้เลยหรือ’
‘…’
ชาวเน็ตรู้สึกร้องไห้ไม่ได้หัวเราะไม่ออก
มีเหตุย่อมมีผล
โชคชะตานั้นช่างเหลือเชื่อ
การออกโรงของทางการในครั้งนั้น มีส่วนช่วยเซี่ยนอวี๋ และ บีบบังคับให้เฟ่ยหยางหล่นลงไปอยู่ในอันดับที่สอง
ในครั้งนั้น เซี่ยนอวี๋นับว่าโชคดีหล่นทับ
ใครจะคิดว่าในการดวลระหว่างเซี่ยนอวี๋และหยางจงหมิงในครั้งนี้ ทางการจะลงมืออีกครั้งด้วยเหตุผลเดียวกัน ทว่าผู้ที่ได้รับผลประโยชน์กลับไม่ใช่เซี่ยนอวี๋ แต่เป็นหยางจงหมิง
‘สิ่งที่อภินันทนาการทั้งหมดจากทางการล้วนถูกทำเครื่องหมายอย่างลับๆ ไว้ตั้งแต่แรก?’
‘ไม่เชื่อก็ลองเงยหน้าดู มีใครเคยรอดพ้นจากการพิพากษาของสวรรค์บ้าง?’
‘นึกไม่ถึงว่าเซี่ยนอวี๋ก็มีวันนี้กับเขาเหมือนกัน’
‘เฟ่ยหยาง: แค้นได้รับการชำระ!’
‘ความคิดของทางการลึกซึ้งอย่างนี้นี่เอง แบบนี้ก็ยุติธรรมแล้ว’
‘ช่วยเซี่ยนอวี๋ครั้งแรก แปลว่าต้องช่วยเซี่ยนอวี๋เป็นครั้งที่สอง?’
‘เอาละ ตั้งตารอการต่อสู้ครั้งที่สามระหว่างพ่อเพลงอวี๋กับพ่อเพลงหยางได้เลย’
‘ครั้งนี้ก็เกินไปหน่อย’
‘…’
บรรดาชาวเน็ตจอมกวนเล่นมุกไป ขณะเดียวกันก็ถอนหายใจอย่างร่ำไห้ไม่ได้หัวเราะไม่ออก ไม่ทันไรก็ไม่มีใครเอ่ยปากบ่นอีก
จะบ่นได้อย่างไร
ครั้งนี้เห็นได้ชัดว่าทางการไม่ได้จงใจ
ทำนองหลักคือการผนวกรวมบลูสตาร์ ตอนนี้ก็ดันเป็นช่วงสิ้นปี หานโจวกำลังเข้ารวมการผนวกรวมพอดี
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ เบื้องบนจึงผลักดันเพลง ‘บลูสตาร์’ เพื่อการดำรงชีวิตของประชาชนด้วยเช่นเดียวกัน
เรื่องนี้เป็นความบังเอิญก็ตรงที่ ในช่วงมหาสงครามเทพเซียน หยางจงหมิงเขียนเพลงซึ่งทางการสามารถนำไปใช้ประชาสัมพันธ์ได้พอดี
‘เดี๋ยวนะ’
ในขณะนั้น ก็มีคนเกิดความคิดขึ้นมา
‘ศึกใหญ่ระหว่างเซี่ยนอวี๋และหยางจงหมิงได้รับการอธิบายว่าเป็นศึกใหญ่ระหว่างซุนหงอคงและเทพเอ้อร์หลาง เห็นได้ชัดว่าซุนหงอคงคือเซี่ยนอวี๋ เพราะเซี่ยนอวี๋เป็นผู้เขียนบทบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศ ส่วนเทพเอ้อร์หลางคือหยางจงหมิง ความบังเอิญคือเทพเอ้อร์หลางมีนามว่าหยางเจี่ยน มีแซ่เดียวกับพ่อเพลงหยาง ทั้งสองคนต่อสู้กันในนิยาย ทั้งยังไร้ซึ่งผลลัพธ์ที่ยุติธรรม แต่คนที่อ่านบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศต่างรู้ดีว่าสุดท้ายแล้วซุนหงอคงก็พ่ายแพ้ต่อเทพเอ้อร์หลางเพราะไท่ซั่งเหล่าจวินเห็นว่าซุนหงอคงและเทพเอ้อร์หลางสูสีกัน จึงใช้ห่วงทองเพื่อโจมตีซุนหงอคงจนส่งผลให้ซุนหงอคงถูกจับ…’
ฮะ?
ชาวเน็ตตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ยิ่งคิดยิ่งรู้สึกว่าการตีความนี้ตรงเผง
เซี่ยนอวี๋และหยางจงหมิง ก็เปรียบเสมือนซุนหงอคงและเทพเอ้อร์หลาง พวกเขาไม่อาจตัดสินผลแพ้ชนะในการต่อสู้ได้…
ผลปรากฏว่าทางการยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือหยางจงหมิง ส่งผลให้เซี่ยนอวี๋พ่ายแพ้
เมื่อมองจากมุมนี้ การกระทำของทางการนั้นเหมือนกับไท่ซั่งเหล่าจวินทุกประการ!
ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึง…
ไท่ซั่งเหล่าจวินสังกัดวังสวรรค์ เป็นอำนาจทางการเมืองที่สูงสี่สุดในโลกบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศ
และสมาคมวรรณศิลป์สังกัดทางการ และเป็นอำนาจสูงสุดทางการเมืองบลูสตาร์เช่นเดียวกัน
‘เรื่องนี้ลึกลับไปอีก!’
‘งั้นเจิ้งจิงก็มองออกตั้งแต่แรก?’
‘เจิ้งจิงสุดยอด!’
‘ศึกใหญ่ระหว่างซุนหงอคงและเทพเอ้อร์หลาง นึกไม่ถึงเลยว่าไม่ใช่เพียงแค่ทั้งสองจะตัดสินผลแพ้ชนะไม่ได้ แต่ยังบอกเป็นนัยด้วยว่าทางการจะช่วยเหลือหยางจงหมิงลอบโจมตีเซี่ยนอวี๋เช่นเดียวกับไท่ซั่งเหล่าจวิน!’
‘ครั้งนี้ ฉันขอบอกว่าแม่เจิ้งแข็งแกร่งที่สุด!’
‘แม่เจิ้ง: ทุกอย่างอยู่ภายใต้การควบคุม’
‘เจิ้งจิงบอกผลลัพธ์กับพวกเราไว้ตั้งแต่แรกแล้ว เพียงแต่พวกเราไม่ทันได้เอะใจเท่านั้นเอง แถมยังบอกอีกว่าพ่อเพลงหยางคือพระพุทธองค์ เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับพระพุทธองค์เลยสักนิด’
‘…’
ชาวเน็ตต่างตื่นเต้นขึ้นมา!
ในความจริงแล้วทุกคนต่างก็รู้ว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นล้วนเป็นความบังเอิญ
แต่ช่วยไม่ได้ที่ความบังเอิญเช่นนี้มีน้อยเหลือเกิน ทุกคนจึงถกเถียงกันอย่างเอาจริงเอาจัง
ไม่ทันไร ก็เกิดกระแสขึ้นมา
นอกจากนี้ยังมีคนโพสต์เกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างจริงจังในโมเมนต์วีแช็ต
ชาวเน็ตหลายคนซึ่งไม่เคยอ่านบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศต่างมองหน้ากัน
ศึกใหญ่ระหว่างซุนหงอคงและเทพเอ้อร์หลางอะไรกัน
ไท่ซั่งเหล่าจวินลอบใช้ห่วงทองโจมตีคืออะไร
เอาเถอะ
ครั้งนี้เซี่ยนอวี๋ก็ไม่ได้ขาดทุน
ซีรีส์บันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศซึ่งเขารับหน้าที่ผู้เขียนบทนั้นได้รับทรัพยากรมหาศาลในการโปรโมตจากศึกใหญ่ซึ่งไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือนในครั้งนี้
อย่างไรก็ตาม เมื่อเจิ้งจิงเห็นพื้นที่แสดงความคิดเห็นของตนเอง เธอกลับงุนงงเล็กน้อย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเจิ้งจิงเห็นว่าทุกคนบอกว่าไท่ซั่งเหล่าจวินใช้ห่วงทองลอบโจมตีซุนหงอคงนั้นเหมือนกับกระการทำของทางการซึ่งลอบโจมตีเซี่ยนอวี๋ทุกประการ
‘เจิ้งจิงคุณบอกใบ้เยอะเกินไปแล้ว!’
‘คำทำนายของเจิ้งจิงแม่นมาก!’
‘คืนนี้จะไปจัดการคุณ!’
‘หยุดเถอะ ไม่สนุกเลย’
‘ไหนบอกว่าคุณไม่ใช่นักพยากรณ์!’
‘…’
เจิ้งจิง: ???
ในตอนนั้นแม้แต่เจิ้งจิงก็ยังสงสัยว่าตนทำเสียเรื่องแล้วหรือเปล่า
เรื่องนี้ตรงกับสิ่งที่เกิดขึ้นจริงหรือ?
กลับเป็นหลินเยวียนที่ยอมรับเรื่องนี้อย่างใจเย็น
ถึงแม้จะไม่รู้ผลแพ้ชนะกับหยางจงหมิงอย่างยุติธรรม ทว่าการขับเคี่ยวกันมาอย่างยาวนานได้พิสูจน์แล้วว่าในแง่หนึ่งทั้งสองเพลงนี้แทบไม่ได้ต่างกัน
ดังนั้นถ้ามีโอกาสค่อยสู้กันอีก
แม้ว่าหลินเยวียนจะสัมผัสได้ถึงผลกรรม และผลลัพธ์ที่ไม่น่าพึงพอใจ เมื่อเห็นทางการโปรโมตเพลงบลูสตาร์ก็เถอะ
ถูกต้อง
ภายหลังซุนหงอคงประสบเคราะห์กรรม 9981 ประการ จนในที่สุดก็อัญเชิญพระไตรปิฎกตัวจริงสำเร็จ
พระไตรปิฎกตัวจริงและ ‘เจิ้งจิง’ ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันจริงๆ ใช่ไหม?
ทันใดนั้นหลินเยวียนก็รู้สึกว่าตนกำลังคิดฟุ้งซ่าน
เขาส่ายหน้า
และตัดสินใจว่าจะเชื่อหลักการทางวิทยาศาสตร์
แทนที่จะเชื่อว่าพระไตรปิฎกตัวจริงและ ‘เจิ้งจิง’ มีอะไรเกี่ยวข้องกันจริงๆ ไม่สู้บอกว่า
การเดินทาง 108,000 ลี้สู่ประจิมทิศซึ่งซุนหงอคงและคณะต้องเผชิญ บ่งบอกถึงความยากลำบากในการพิชิตสถานะพ่อเพลงในปีหน้า
————————
ปล. การลอบโจมตีของไท่ซั่งเหล่าจวินคือการบรรยายถึงการเผชิญหน้าระหว่างตัวเอกและพ่อเพลงหยาง ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้นำไปเปรียบกับการต่อสู้ของซุนหงอคงและเทพเอ้อร์หลาง อันที่จริงผลลัพธ์ถูกคาดการณ์ไว้ล้วงหน้าแล้ว ด้านนอกเสียงประทัดดังไม่หยุด ครึกครื้นมาก ณ ที่นี้ขออวยพรให้พี่น้องทุกมีความสุขในวันปีใหม่ สุขภาพแข็งแรง หน้าที่การงานราบรื่น เงินทองไหลมาเทมา และเดินไปสู่จุดสูงสุดในชีวิต!