Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน - ตอนที่ 642 สิ่งที่ฆ่าผมไม่ได้ มีแต่จะทำให้ผมแข็งแกร่งขึ้น
- Home
- Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
- ตอนที่ 642 สิ่งที่ฆ่าผมไม่ได้ มีแต่จะทำให้ผมแข็งแกร่งขึ้น
บนเวทีแห่งคำโกหก ทุกคนต่างกระโดดโลดเต้น!
เมื่อทรูแมนพยายามลุกขึ้นมา และพยายามหลบหนีครั้งแล้วครั้งเล่า แต่เขากลับพบกับการกีดกั้น สิ่งที่เขาประสบพบเจอส่งผลกระทบต่อจิตใจของตัวแทนเครือโรงภาพยนตร์…
ทรูแมนลังเลเล็กน้อย
เขาเริ่มแยกแยะไม่ออกว่าอะไรจริงอะไรเท็จ
และในขณะนั้นเอง
พ่อของทรูแมนก็ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง
หม่าหลงเอ่ย “ต้นตอของเรื่องทั้งหมด ผมเจอตัวเขาแล้ว…”
โปรดิวเซอร์ของรายการ
ชายวัยกลางคนผู้ขึงขังคนนั้น กำกับฉากใหญ่ของการกลับมาพบกันอีกครั้ง ทรูแมนและบิดากอดกันท่ามกลางควันจากน้ำแข็งแห้ง!
“เพลงประกอบ!”
“ฉากระยะใกล้!”
“ซูมเข้าไปอีก!”
ช่างงดงามชวนประทับใจ พลอยให้ผู้ชมซึ่งกำลังดูทรูแมนโชว์ทุกคนน้ำตารื้นไปด้วย
ในห้องควบคุม
มีเสียงปรบมือดังลั่น!
โปรดิวเซอร์แก้วิกฤตการหลบหนีของทรูแมนได้อีกครั้ง เดิมทีในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทีมงานเผชิญกับบททดสอบอันน่าประหลาดใจนับไม่ถ้วน พวกเขาทำลายทุกโอกาสที่อาจทำให้ทรูแมนล่วงรู้ความจริง!
ครั้งนี้ก็เช่นกัน!
ทว่าตัวแทนเครือโรงภาพยนตร์ในโรงฉายกลับสัมผัสได้ถึงความเย็นยะเยือกมากขึ้น หลายคนรู้สึกอึดอัด
“โปรดิวเซอร์คนนี้ชั่วร้ายมาก!”
“เขาครอบงำชีวิตของทรูแมน!”
“ผู้ชมในหนังก็เย็นชาเกินไป !”
“พวกเขารู้สึกซาบซึ้งกับฉากนี้ แต่กลับไม่รู้เลยว่าแรงจูงใจเบื้องหลังรายการนี้น่ารังเกียจขนาดไหน”
“ขนาดโปรดิวเซอร์เองยังซาบซึ้งเลย”
“โปรดิวเซอร์น่าจะคิดว่าฉันทำเพื่อผลประโยชน์ของคุณเองล่ะมั้ง”
“ความคิดแบบนี้อันตรายมาก”
“…”
ในโรงฉายมีเสียงพูดคุยกันดังขึ้น
ทุกคนต่างรู้สึกสิ้นหวัง
ทุกคนรู้สึกว่าทรูแมนถูกหลอกอีกครั้งแล้ว
“ไม่ควรเป็นแบบนี้เลย…”
แววตาของพานเหล่ยระคนความเคลือบแคลง
เยี่ยหงอวี๋เอ่ยคอแห้งผาก “มีตรงไหนผิดปกติหรือเปล่า”
“คุณไม่ได้สังเกตหรือว่าหนังฉายไปได้สองในสามแล้ว ถ้าตอนนี้ทรูแมนยังไม่ค้นพบความจริง จังหวะของหลังจากนี้จะเกิดปัญหาใหญ่ เว้นแต่ว่าฉู่ขวงคิดจะให้ทรูแมนไม่รู้ความจริงไปจนจบเรื่อง”
พานเหล่ยเริ่มต้นจากมุมมองของความเป็นจริง
เยี่ยหงอวี๋ตกตะลึง
พล็อตเรื่องโหดร้ายขนาดนี้เชียวหรือ?
เซี่ยนอวี๋คิดจะให้ทรูแมนไม่ค้นพบความจริงไปจนจบเรื่อง?
เซี่ยนอวี๋คล้ายกับว่าจะมีจุดประสงค์เช่นนี้จริงๆ
ทรูแมนกลับมาอยู่ในจุดเดิมที่เขาเคยอยู่ตอนเปิดเรื่อง
ควรกินก็กิน ควรนอนก็นอน
ราวกับว่าเขาล้มเลิกความคิดที่จะหนีไปจากที่นี่อย่างสิ้นเชิง
ตัวแทนเครือโรงภาพยนตร์ต่างขมวดคิ้ว
เห็นได้ชัดว่านี่ไม่ใช่พล็อตเรื่องที่ทุกคนอยากเห็น
ก็เหมือนกับหนาม เมื่อทรูแมนไม่หนีไป หนามนี้ก็จะทิ่มแทงใจของผู้คนในโรงฉาย!
ใครก็ไม่หลีกหนีได้!
อย่างไรก็ตาม
เมื่อผู้ชมในภาพยนตร์เปี่ยมไปด้วยความกระตือรือร้น ขณะที่ผู้ชมนอกภาพยนต์กลับตกอยู่ในสภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เรื่องราวก็เกิดการพลิกผันอีกครั้งโดยไม่คาดคิด!
ทรูแมนไม่ได้ยอมแพ้!
เขาหลอกล่อกล้องซึ่งมีอยู่ทั่วทุกที่ และหลบหนีไปช่วงกลางดึกอย่างเงียบเชียบ!
“เขาตั้งสติได้แล้ว!”
“เขาจะหนีไปอีกรอบ!”
เป็นครั้งแรกที่มีเสียงเฮลั่นในโรงฉาย สีหน้าของตัวแทนเครือโรงภาพยนตร์แต่ละคนเปี่ยมไปด้วยความตื่นเต้นและคาดหวัง!
ในภาพยนตร์
ในที่สุดทีมงานรายการก็ค้นพบความผิดปกติ!
ทั้งเมืองเถาหยวนเคลื่อนไหวแล้ว!
นักแสดงทุกคนล้วนตามหาทรูแมน!
ทั่วทั้งโลกตามหาทรูแมน!
เพื่อให้ได้แสงที่ดีขึ้น โปรดิวเซอร์จึงควบคุมการขึ้นของดวงอาทิตย์ในทันที…
ที่แท้ทั้งเมืองเถาหยวน ก็คือสถานที่ถ่ายทำขนาดยักษ์ใหญ่ ถ้าหากมองบลูสตาร์ลงมาจากอวกาศ ย่อมเห็นสิ่งปลูกสร้างสองแห่งได้อย่างชัดเจน!
แห่งแรกคือกำแพงเมืองจีน!
อีกแห่งหนึ่งคือเมืองเถาหยวร!
ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่เคยอธิบายมาก่อนว่าเมืองเถาหยวนมีขนาดใหญ่เพียงใด ปรากฏว่าทันทีที่อธิบาย บรรดาตัวแทนเครือโรงภาพยนตร์ต่างตกตะลึง!
เป็นงานที่น่ากลัวจริงๆ !
นี่คือโลกของทรูแมน!
สถานที่ซึ่งตั้งตระหง่านเทียบเทียมกำแพงเมืองจีน!
แต่ว่า…
ทรูแมนไปไหนแล้ว?
ทีมงานออกค้นหากันจ้าละหวั่น แต่กลับไร้ผล
สุดท้ายแล้ว ทีมงานก็ค้นพบเรือลำหนึ่งในทะเล
ทรูแมน! ออกเดินทาง! ในทะเล!
ทรูแมนผู้ซึ่งไม่กล้าแม้แต่จะเดินข้ามสะพาน ลำพังแค่เห็นทะเลก็ตัวสั่น ถึงกลับกล้าออกเรือไปกลางทะเลด้วยตัวเอง!
“เขาหนีอีกแล้ว!”
เสียงของเยี่ยหงอวี๋สั่นเครือ
มือของพานเหล่ยแยกจากกันและกำหมัดแน่น!
เซี่ยนอวี๋มักจะรู้เสมอว่าผู้ชมอยากดูอะไร!
ต่อให้เป็นภาพยนตร์เชิงศิลปะก็ตาม!
เขาไม่ได้สร้างโศกนาฏกรรมเพียงเพื่อให้เป็นโศกนาฏกรรม!
เขาไม่มีทางเสียสละความรู้สึกของผู้ชมเพื่อเติมเต็มสิ่งที่เรียกว่าศิลปะ!
ความรู้สึกของผู้ชมถูกกระตุ้นขึ้นอย่างสมบูรณ์!
ไปเลย!
ทรูแมน!
ไปค้นพบความจริงของโลกใบนี้!
หลบหนีออกจากกรงขังซึ่งแลดูอ่อนโยนแต่แท้จริงแล้วน่าสะพรึงกลัว!
ไม่เพียงตัวแทนเครือโรงภาพยนตร์
แม้แต่ผู้ชมในภาพยนตร์ ก็เชียร์ทรูแมนเช่นเดียวกัน!
ในห้องควบคุม
ในที่สุดโปรดิวเซอร์ก็เดือดดาล!
เขาเห็นทรูแมนที่เขาประคบประหงมเลี้ยงดูมาหลายปีหนีไปจากการควบคุมของเขาเอง!
“พายุฝน!”
เขาแทบตวาดลั่น!
นี่คือโลกของทรูแมน!
และนี่คือโลกของเขา!
เขาคือราชาของโลกแห่งนี้!
เขาจะทำอะไรกับโลกแห่งนี้ก็ได้!
ดังที่ภาพยนตร์แนะนำ โปรดิวเซอร์คือราชาของโลกแห่งนี้ เนื่องจากโลกแห่งนี้เต็มไปด้วยกลไกต่างๆ แม้แต่การขึ้นลงของดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ก็ล้วนผ่านการควบคุมโดยทีมงาน นับประสาอะไรกับพายุฝนซึ่งเกิดขึ้นในทะเล
พายุฝนกำลังมา
ทรูแมนขัดขืนสุดชีวิต!
โปรดิวเซอร์ตะบี้ตะบันจัดการทุกอย่าง “เอาพายุทั้งหมดไปรวมกันที่เรือ!”
“เสียงฟ้าร้อง!”
“ฟ้าผ่า!”
“ผ่าอีก!”
“ผ่าให้โดนเขา!”
ผู้ชมในภาพยนตร์ตะโกนลั่นอย่างบ้าคลั่ง “ทรูแมนสู้ๆ !”
ผู้ชมในโรงฉายก็บ้าคลั่งยิ่งกว่า “ทรูแมนสู้ๆ !”
ครืน!
สายฟ้าซึ่งถูกควบคุมโดยมนุษย์ผ่าไปยังเสากระโดงเรือ ทรูแมนหล่นลงไปยังก้นทะเล แต่เขากลับไม่ยอมแพ้ พยายามว่ายน้ำสุดชีวิตกลับไปยังเรือ…
ผู้ชมในภาพยนตร์ตะโกนอย่างบ้าคลั่ง!
ผู้ชมนอกภาพยนตร์ก็ร้องอย่างบ้าคลั่งเช่นเดียวกัน!
ในภาพยนตร์
นอกภาพยนตร์
เสียงของผู้ชมจากทั้งสองโลกแทบรวมกันเป็นหนึ่งเดียว!
ทรูแมนกลับมายังเรือด้วยความเหนื่อยล้าและยากลำบาก เขาคำรามลั่นท่ามกลางเสียงพายุและฟ้าฝ่า
“ยังมีลูกเล่นอะไรอีก!”
“ถ้าอยากหยุดผม ก็ฆ่าผมเลยสิ!”
เส้นผมและร่างกายของเขาเปียกโชก ทว่าแววตาของเขากลับแน่วแน่อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เส้นเลือดของเขาปูดโปนท่ามกลางลมพายุ
“สิ่งที่ฆ่าผมไม่ได้ มีแต่จะทำให้ผมแข็งแกร่งขึ้น!!!”
สิ่งที่ฆ่าผมไม่ได้!
มีแต่จะทำให้ผมแข็งแกร่งขึ้น!
ทั้งในและนอกภาพยนตร์!
ผู้ชมต่างตื่นเต้น!
ทันใดนั้นโปรดิวเซอร์ก็หันไป เขาบ้าไปแล้ว นี่คือโลกของเขา เขาจะไม่แพ้ และแพ้ไม่ได้
“เพิ่มแรงลม!”
“เขาผูกตัวเองไว้กับเรือ…”
“เพิ่มแรงลม!”
“ทำแบบนั้นเขาอาจตายได้นะ!”
“เขาเกิดที่นี่…ล่มเรือซะ!”
“…”
ทุกคนพยายามหยุดโปรดิวเซอร์ แต่โปรดิวเซอร์เสียสติไปแล้ว และสูญเสียการควบคุมอารมณ์อย่างสิ้นเชิง!
น่าขันนัก!!
ทรูแมนคือผลงานชิ้นเอกของเขา!
ถ้าหากผลงานสูญเสียการควบคุม เขาก็ยอมทำลายมันทิ้งเสียดีกว่า!
ทีมงานไม่ฟังคำสั่ง เขาจึงลงมือด้วยตนเอง เดินเครื่องกลไลทีละชนิด จนคลื่นลมซัดกระหน่ำ!
ฟ้าผ่า!
พายุ!
เรือถูกพลิกคว่ำโดยสมบูรณ์!
ทรูแมนถูกถ่วงลงใต้ก้นทะล!
ร่างกายของเขา ยังคงผูกติดกับเรือ
“ทรูแมน…”
ในภาพยนตร์ ผู้ชมขอบตาแดงก่ำ
นอกภาพยนตร์ เสียงของผู้ชมต่างสะอึกสะอื้น
ท่ามกลางพายุโหมกระหน่ำ เรื่องเศร้าครั้งใหญ่เกิดขึ้น!
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่
จู่ๆ โปรดิวเซอร์ก็ดูคล้ายกับสูญเสียเรี่ยวแรงทั้งหมดไป “เอาละ…”
เรือถูกคว่ำไปแล้ว
เมฆดำคล้อยกลับไป
คลื่นลมกลับมาสงบลงอีกครั้ง
ความมืดหายไปอย่างไร้ร่องรอย แสงแดดจ้าส่องเป็นประกายระยับบนผิวน้ำ
ฉากนี้ช่างสวยงาม!
ทรูแมนเป็นอย่างไรบ้าง
ท่ามกลางเสียงดนตรีอันโศกเศร้า ราวกับว่าทั้งโลกกำลังมองดูร่างที่มัดตนเองไว้กับเรือ…
ทันใดนั้นเอง
ทรูแมนก็ตัวสั่นและพยายามพยุงร่างของตนเองขึ้น
จู่ๆ ดนตรีก็กลายเป็นฮึกเหิมและปลุกใจ!
ทรูแมน!
เขายังมีชีวิตอยู่!
ทั้งโรงฉายเข้าสู่สภาวะแตกตื่นครั้งใหญ่!
ในที่นั่ง
มีคนลุกขึ้นยืน
หนึ่งคน สองคน สามคน…
ตัวแทนเครือโรงภาพยนตร์ลุกขึ้นยืนมากขึ้นเรื่อยๆ !
ทรูแมนยังมีชีวิตอยู่!
เขาฝ่าพายุ!
เขานั่งบนเรือ รับลมอย่างสบายใจ
แม้ว่าริมฝีปากของเขาจะแตก แม้ว่าใบหน้าของเขาจะเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำ แม้ว่าจะอยู่ในสภาพที่ชวนสังเวช ทว่าแววตาของเขากลับเปล่งประกายอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน!
เคร้ง
เรือชนเข้ากับกำแพง
ทรูแมนหยัดกายลุกขึ้นด้วยความงุนงง เขาเห็นจุดสิ้นสุดของเมืองเถาหยวนเป็นครั้งแรก ที่แท้ก็เป็นกำแพงซึ่งมนุษย์สร้างขึ้น
บนกำแพงมีภาพวาดของฟ้าครามหิมะขาว ถ้าหากไม่ได้อยู่ตรงหน้า จะไม่รู้เลยว่าเป็นสิ่งจำลอง
“เฮือก…”
“อา…”
“หา…”
เขาคล้ายกับกำลังยิ้ม และคล้ายกับกำลังร้องไห้ สุดท้ายแล้วจึงเกิดเสียงซับซ้อนเพียงไม่กี่คำที่จับใจความไม่ได้
ที่นี่คือสุดขอบโลกหรือ?
ไม่ใช่
ที่นี่เป็นเพียงสุดขอบเมืองเถาหยวน
ที่นี่เป็นเพียงสุดขอบของกรงขัง
ทันใดนั้น
เสียงดนตรีก็พลันหายไป
เสียงทั้งหมดหายไป
ท่ามกลางความเงียบงัน
เขาใช้ร่างกายกระแทกกำแพงสุดแรงเกิด!
เขาดูเหมือนไม่รู้จักความเจ็บปวด!
เขาขยับมือนับครั้งไม่ถ้วน!
ทิวทัศน์เปิดออก
ชายคนนั้นกำลังต่อต้านเจตจำนงของโลกใบนี้ด้วยวิธีการที่ดั้งเดิมที่สุด!
ในโรงฉาย
บางคนลมหายใจกระชั้นขึ้นมา
ผู้ชมซึ่งอารมณ์อ่อนไหวบางคนขอบตาแดงก่ำ
น้ำตาแห่งอารมณ์ไหลริน
“เขาทำได้แล้ว!”
พานเหล่ยงับคำอย่างหนักหน่วง
“ใช่ เขาทำได้แล้ว”
เยี่ยหงอวี๋พยาตามทำให้น้ำเสียงของตนมั่นคง
ทว่าความสั่นเครือในน้ำเสียงกลับไม่อาจควบคุมได้
ในที่สุดทรูแมนก็ค้นพบบันได
เขาเดินขึ้นไปยังบันได
และออกแรงผลักประตูให้เปิดออก
“ทรูแมน”
ทันใดนั้นเสียงก็ดังขึ้นจากท้องฟ้า
เสียงของโปรดิวเซอร์
นี่เป็นครั้งแรกที่โปรดิวเซอร์ได้สนทนาโดยตรงกับทรูแมน ก่อนหน้านี้เขาเฝ้าดูทรูแมนอย่างเงียบๆ มานานหลายปี
“คุณเป็นใคร”
ทรูแมนชะงักฝีเท้า แผ่นหลังของเขาหันหากล้อง จึงไม่มีใครเห็นสีหน้าของเขาในขณะนี้
“ฉันคือผู้สร้าง สร้างรายการโทรทัศน์ที่ทุกคนชื่นชอบ”
“ถ้างั้น ผมเป็นใคร”
“นายก็คือดาราในรายการ แน่นอนว่าเป็นตัวเอก โลกใบนี้หมุนรอบตัวนาย!”
“ทุกคนคือตัวปลอม?”
“นายคือตัวจริง…เพราะฉะนั้นถึงได้มีผู้คนมากมายดูนายอยู่…ฟังคำแนะนำของฉัน โลกภายนอกนั้นจอมปลอมไม่ต่างจากโลกที่ฉันมอบให้นาย…มีคำโกหกแบบเดียวกัน มีการหลอกลวงแบบเดียวกัน แต่ในโลกใบนี้ของฉัน นายไม่ต้องกลัว ฉันเข้าใจนายดีกว่าตัวนายเอง”
“คุณเอากล้องเข้ามาติดในสมองผมไม่ได้!”
“นายกลัว นายถึงไปไม่ได้ ไม่ต้องกังวลไป ฉันเข้าใจ…”
โปรดิวเซอร์ในเวลานี้อ่อนโยนมาก
“ฉันติดตามนายมาตลอดชีวิต ตั้งแต่นายเกิด ตั้งแต่นายหัดเดิน จำตอนที่นายเข้าป.1 จำวันที่นายฟันน้ำนมหลุดได้…”
โปรดิวเซอร์คลี่ยิ้ม รอยยิ้มของเขาอ่อนโยนเป็นพิเศษ ทั้งยังแตะทรูแมนในกล้องด้วย
“นายจะไปไม่ได้ ทรูแมน มากับฉัน…”
เขาดูเหมื นผู้ใหญ่ ซึ่งกำลังค่อยๆ สอนเด็กทีละน้อย
ทรูแมนเงียบไป
รอยยิ้มของโปรดิวเซอร์หายวับไปทันใด “ตอบฉันสิ พูดออกมา นายกำลังอยู่ในทีวี ถ่ายทอดสดไปทั่วโลก!”
ในภาพยนตร์
ผู้ชมจับจ้องหน้าจออย่างกังวล
นอกภาพยนตร์
ตัวแทนเครือโรงภาพยนตร์จ้องหน้าจอเขม็ง
ทันใดนั้นทรูแมนก็หันไป
จู่ๆ เขาก็หัวเราะ
“ถ้าไม่ได้เจอคุณอีก อยากบอกคุณว่าอรุณสวัสดิ์ สายันณ์สวัสดิ์ ทิวาสวัสดิ์…”
เขายกมือขวาพาดหน้าอก เบนกายเล็กน้อย และโค้งคำนับ
“ตามนี้ก็แล้วกัน”
พูดจบ เขาเดินเหยงออกจากประตูอันมืดสนิทซึ่งนำไปสู่ปลายทางที่ไม่รู้จัก
“เฮ!!!!”
ในภาพยนตร์ ทันโลกต่างเฮลั่น!
ในโรงฉาย ตัวแทนเครือโรงภาพยนตร์กำหมัดแน่น ยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย!
ในเวลานี้พวกเขามีความสุขจากก้นบึ้งของจิตใจ!
ราวกับว่า…
ทรูแมนซึ่งหนีออกมาจากเมืองเถาหยวนนั้น คือพวกเขาเอง
ทรูแมนโชว์หยุดการออกอากาศ
ฉากสุดท้ายของภาพยนตร์
พนักงานรักษาความปลอดภัยกำลังกินอาหารจานด่วนขณะดูทรูแมนโชว์เอ่ยขึ้น
“ยังมีรายการอื่นอีกไหม?”
“ลองดูน่าจะยังมีอีก”
ในโรงฉาย กลุ่มคนซึ่งกู่ร้องและส่งเสียงเชียร์อย่างมีความสุขค่อยๆ เงียบลง ราวกับนัดหมายกันมา
ผ่านไปชั่วครู่
ในโรงฉายจึงกลับมาเงียบสงบอีกครั้ง