Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน - ตอนที่ 650 ตึ่งตึงตึ๊งตึงตึ่งตึงตึ๊งตึ๊ง
(ตอนนี้เหมาะกับการอ่านควบคู่ไปกับการฟังเพลงสดับเสียงวังเมฆา)
วันที่ 31 มีนาคม
19:10 น.
ร้านปิ้งย่างแห่งหนึ่งในฉินโจว แจ็คกำลังกัดไตหมูย่างเต็มคำจนน้ำมันไหลเยิ้มจากปาก
“ปิ้งย่างที่นี่อร่อยกว่าที่หานโจวอีก ปิ้งย่างที่หานโจวเรามีแต่เนื้อวัวกับเนื้อไก่ เครื่องปรุงมีแต่เกลือและพริกไทยดำ…”
“คุณมีลิ้นฉินโจว”
ผู้จัดการไม่ได้สนใจปิ้งย่างที่มันเยิ้มเช่นนี้มากนัก
ทุกทวีปมีอาหารเป็นของตนเอง ไก่งวงและสเต็กเนื้อวัวซึ่งเป็นที่นิยมในหานโจว คล้ายว่าจะขายไม่ดีเท่าปิ้งย่างเสียบไม้ที่นี่
แจ็คคือราชาเพลงสองรางวัลจากหานโจว
นับตั้งแต่ถูกเซี่ยนอวี๋ทุบตีอย่างรุนแรงด้วยเพลงจูบลาเวอร์ชันภาษากลางและภาษาอังกฤษในเดือนกุมภาพันธ์ แจ็คก็ไม่เคยละทิ้งความคิดที่จะเปิดตลาดในฉินฉีฉู่เยี่ยน
ระยะนี้เขาเข้าร่วมกิจกรรมดนตรีในฉินโจว เพื่อให้ผู้ฟังชาวฉินโจวคุ้นเคยกับตน อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์ที่ได้ในปัจจุบันนี้น้อยนิดเหลือเกิน ไม่เช่นนั้นแจ็คไม่มีทางนั่งเพลิดเพลินกับมื้ออาหารพร้อมกับผู้จัดการในร้านปิ้งย่างได้เช่นนี้ ทั้งยังไม่มีแฟนคลับห้อมล้อมเช่นนี้หรอก
“ที่นี่ไม่มีใครรู้จักผมเลย”
แจ็คมองไปรอบๆ และกัดไตย่างต่อ ปากพลางพูดงึมงำ
“รอให้ผมได้แชมป์ฤดูกาลเพลงเดือนนี้ก่อน น่าจะมีคนคุ้นเคยกับผม พอถึงตอนนั้นพวกเราจะมานั่งกินปิ้งย่างเงียบๆ ไม่ได้อีก”
“เดือนเมษามีหวังมาก”
เห็นได้ชัดว่าผู้จัดการสนอกสนใจเมื่อเอ่ยถึงเรื่องนี้
“ที่สำคัญที่สุดคือชาร์ตเพลงเดือนเมษาไม่มีเซี่ยนอวี๋ ที่จริงถ้าไม่ใช่เพราะการขัดขวางของเซี่ยนอวี๋ เดือนกุมภาคุณคว้าแชมป์ไปแล้ว”
“สู้ไม่ได้ก็หลีกเลี่ยง”
แจ็คพูดอย่างไม่อนาทรร้อนใจ
เขาและบริษัทเฝ้าดูอยู่นาน หลังจากมั่นใจแล้วว่าเซี่ยนอวี๋จะไม่ปล่อยเพลงในเดือนเมษายน จึงกล้าปล่อยเพลงใหม่ เพื่อให้ครองตำแหน่งแชมป์บนชาร์ตเพลงเดือนเมษายนได้อย่างมั่นคง
ระหว่างพูดคุยกัน
โทรทัศน์จอใหญ่ในร้านปิ้งย่างเปิดอยู่
ท่ามกลางสภาพแวดล้อมซึ่งมีเสียงดัง โฆษณาหนึ่งปรากฏในโทรทัศน์
“บันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศกำลังจะออกอากาศในอีกห้านาที อย่าไปไหน ความสนุกกำลังจะเริ่มต้นขึ้น”
“เถ้าแก่เปลี่ยนช่อง!”
ลูกค้าโต๊ะหมายเลขสองตะโกนอย่างไม่สบอารมณ์ “ดูบรรพกาล วันนี้บรรพกาลก็ออนแอร์!”
ดูก็รู้ว่าลูกค้าคนนี้เป็นแฟนบรรพกาล
เถ้าแก่ลังเลชั่วขณะ “ช่องไหนฉายบรรพกาล?”
ขณะที่ลูกค้าโต๊ะหมายเลขสองกำลังจะตอบ ลูกค้าโต๊ะหมายเลขสามก็ไม่พอใจ
“เปลี่ยนช่องอะไร จะดูบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศ!”
เอาละ
ลูกค้าคนนี้คือแฟนคลับบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศ
ลูกค้าโต๊ะหมายเลขสองถลึงตาใส่ “มีแค่คุณคนเดียวน่ะสิที่อยากดูบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศ…”
“ผมก็อยากดู”
ลูกค้าโต๊ะหมายเลขหนึ่งเอ่ยขึ้น
เสียงของลูกค้าโต๊ะหมายเลขหกดังมา “ฉันก็อยากดูบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศ ฉันชอบเซี่ยนอวี๋!”
ครั้งนี้เป็นหญิงสาวคนหนึ่ง
โต๊ะหมายเลขสี่จึงพูดขึ้น “ดูบรรพกาลดีกว่า บรรพกาลสนุก”
โต๊ะหมายเลขสาม “ต้องดูการเดินทางสู่ประจิมทิศ”
โต๊ะหมายเลขห้า “บรรพกาลไม่น่าดูหรือไง”
ราวกับปฏิกิริยาลูกโซ่
ทั้งร้านปิ้งย่างเริ่มคึกคักขึ้นมา
บ้างก็ตะโกนว่าจะดูบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศ บ้างก็จะโกนว่าจะดูบรรพกาล ดูเหมือนว่าลูกค้าที่นั่งอยู่ที่นี่หลายคนเป็นแฟนคลับบรรพกาลและบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศ
การปะทะฝีปากของทั้งสองฝั่ง นั้นแผ่ขยายจากบนอินเทอร์เน็ตไปสู่โลกความจริง
แน่นอน
คนส่วนใหญ่เพียงแค่ตะโกนโหวกเหวกและเข้าร่วมสนุก
ถึงอย่างไรก็ไม่ใช่ทุกคนที่ชอบดูซีรีส์ และไม่ใช่ทุกคนที่ชื่นชอบบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศหรือบรรพกาล
เรื่องนี้ยังเป็นผลมาจากหลายคนในร้านปิ้งย่างดื่มสุรา
คนเราทันทีที่เหล้าเข้าปาก โดยมากมักรู้สึกคึกคักขึ้นมาบ้าง
ต่อให้ปกติแล้วเป็นคนเงียบขรึม ในเวลาเช่นนี้ก็กลายเป็นคนเฮฮาร่าเริงได้อย่างง่ายดาย
“…”
เถ้าแก่จนปัญญา “ก็แค่โทรทัศน์เครื่องเดียว”
แจ็ครู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย “ดูเหมือนว่าบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศจะเป็นซีรีส์ของเซี่ยนอวี๋”
ผู้จัดการพยักหน้า “ก่อนหน้านี้ผมเคยอ่านนิยาย ไม่เลวเลย”
“งั้นผมดูบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศ!”
แจ็คตะโกนจนสุดเสียง
ผู้จัดการ “…”
คุณอยากร่วมสนุกด้วยอีกคน?
แจ็คหัวเราะ “เซี่ยนอวี๋ไม่ปล่อยเพลงในเดือนเมษา ต้องขอบคุณเขานะ”
ผู้จัดการคิดว่าสมเหตุสมผล
“อืม เดือนกุมภาเขาก็ออมมือให้เรา ถ้าปล่อยเพลงพระเจ้าคือผู้หญิงเดือนกุมภา คนหานเราล้มระเนระนาดแน่”
ร้านปิ้งย่างยังคนเสียงดังอื้ออึง
ทั้งผู้ที่ตะโกนว่าบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศ และผู้ที่จะโกนว่าบรรพกาลต่างไม่มีใครยอมใคร
และท่ามกลางภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
ในที่สุดซีรีส์ก็ออกอากาศ
ไม่รู้ว่าลูกค้าโต๊ะหมายสองซึ่งตะโกนว่าจะดูบรรพกาลดื่มสุรามากแค่ไหน เขาลุกขึ้นยืนอย่างโงนเงน
“ผมว่านะ!”
ยังไม่ทันพูดจบ เพลงประกอบบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศก็ดังขึ้น และกลบเสียงของเขาหลังจากนั้น
“สวบ!”
“ตึงๆ !”
“ตึ่งตึงตึ๊งตึง…”
เสียงจากโต๊ะหมายเลขสองชะงักไป ราวกับสร่างเมาขึ้นทันใด
ผู้ชมพลันตื่นเต้นขึ้นมาทันใด แววตาของพวกเขาถูกบทเพลงอันแสนพิเศษนี้ดึงดูด พลางจับจ้องไปยังหน้าจอโทรทัศน์
ในฉาก
ระลอกคลื่นซัดหาชายฝั่ง !
เทือกเขาสลับซับซ้อน!
ท่ามกลางภาพตระการตา ยอดเขาขนาดมหึมาแยกออก เกลียวคลื่นพิโรธ แปรเปลี่ยนเป็นลมพายุทั่วผืนฟ้า เสียงกลองดังขึ้นเรื่อยๆ ประหนึ่งฟ้าคำรามซึ่งเคลื่อนเข้ามาใกล้!
ฟ้าดินสะเทือนลั่น!
ท่ามกลางเศษหินกระจัดกระจายและเม็ดทรายปลิวว่อน แสงสีทองส่องขึ้นสู่ฟ้า ร่างของวานรตัวหนึ่งกึ่งกลิ้งกึ่งเหาะขึ้นกลางอากาศ หายเข้าไปส่วนลึกที่สุดของชั้นเมฆ
เสียงเบสดังขึ้นตามมา
ดนตรีออร์เคสตราประสานกับทำนองเครื่องเพอร์คัชชันดูเหมือนว่าจะกระทบจิตใจของผู้คน และรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
ผู้คนแทบเคี้ยวปิ้งย่างในปากตามสัญชาตญาณ
ดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ดังกระหึ่ม
มาพร้อมกับสีสันละลายตา
ก้อนหินร่วงหล่นลงสู่พื้น ขุนเขาและสายน้ำพังทลาย ภาพทั้งหมดถูกนำเสนอในรูปแบบดนตรีซึ่งเข้าถึงได้ง่าย ดนตรีสังเคราะห์ยังผสมผสานกับดนตรีโบราณหลายชุด โดยปราศจากความยุ่งเหยิงไม่ลงตัว
กู่เจิง ผีผา ระฆังราว!
ดนตรีสอดรับ เติมเต็มซึ่งกันและกัน!
ไม่รู้ว่าพวกเขาตกใจกับสเปเชียงเอฟเฟ็กต์ชั้นยอด หรือถูกกระตุ้นอย่างกะทันหันด้วยเสียงดนตรี หลายคนพยายามกลืนอาหาร แต่กลับหลงลืมรสชาติในปาก
อลังการ!
หุบเขาห้านิ้วทลายเป็นผุยผง!
ยันต์สีเหลืองปลิวไปไกล ในเมฆหมอกราวห้วงนิมิต พระยูไลชี้ดรรชนีขึ้นฟ้า พระวัชรธรแห่งพุทธศาสนาแดนประจิมตั้งตระหง่านอย่างขึงขัง ความศักดิ์สิทธิ์ปกคลุมไปทั่วทุกพื้นที่!
ดอกบัวบานสะพรั่ง!
พระโพธิสัตว์กวนอิมใบหน้าเปี่ยมเมตตา
ร่างทั้งสี่เดินอยู่ท่ามกลางหุบเขาทุรกันดาร แวดล้อมไปด้วยเหล่าสัตว์ร้าย แสงอาทิตย์อัสดงส่องจนเกิดเงาไม้เป็นจุดกระจัดกระทายบนเท้าของพวกเขา สิ่ง มีชีวิตไร้นามเร้นกายอยู่ในสุมทุมพุ่มไม้
“ตึ่งตึงตึ๊งตึงตึ่งตึงตึ๊งตึ๊ง!”!
“ตึ่งตึงตึ๊งตึงตึ่งตึงตึ๊งตึ๊ง!”!
ทันใดนั้นดนตรีก็เปลี่ยนไป เป็นดนตรีอิเล็กทรอนิกส์และเสียงกลอง เสียงกู่เจิงคลอกระทบโสตประสาทของผู้คน การผสมผสานระหว่างความแข็งแกร่งและความอ่อนโยน เป็นระเบียบประดุจทิวเขาทอดยาว!
วิญญาณนรกร่อนเร่!
พญาวานรควงกระบองทองคำ!
เทพเซียนและปีศาจล่าถอย ขุนเขาและปฐพีสะเทือน!
ทหารและขุนพลสวรรค์คราคร่ำ สวมชุดเกราะสีเงิน จ้องเขม็งไปยังเขาฮวากั่ว เทพจวี้หลิงซึ่งมีร่างกายมหึมาและกำยำตีกลองอย่างดุเดือด บนยอดเขามีวานรตัวหนึ่งนั่งนิ่ง ผ้าคลุมสีแดงปลิวไสวตามแรงลม!
“อ๊าอ่าอ๊าอาา…”
“อ๊าอ่าอ๊าอาา…”
“อ๊าอาอาอ่าอาา…”
เสียงผู้หญิงกังวานใสประหนึ่งเสียงสวรรค์ เอื้อนครวญด้วยความเจ็บปวดและโศกศัลย์ ท่ามกลางแสงเจิดจ้าของอาวุธวิเศษที่ปะทะกัน สีสันของโลกพลันเปลี่ยนไปในมหาสงคราม กระบองทองคำขนาดมหึมากวาดไปทั่วจนสายฝนเทลงมาเป็นโลหิต!
“อ่าอาอ๊าา…”
ในร้านปิ้งย่างเหลือเพียงเสียงดนตรี
ทุกคนต่างลืมกินไปเสียสนิท ปากของพวกเขาเผยอออก แววตาราวกับนิ่งค้าง บางคนในปากมีอาหารอยู่ครึ่งชิ้น ไอร้อนยังคงหลงเหลืออยู่เบาบาง
“ตึง!”
“ตึง!”
“ตึงๆ !”
ทุกๆ ฉาก ล้วนมาพร้อมกับภาพการต่อสู้ซึ่งปรากฏอย่างฉับพลัน ดวงตาของวานรเทพส่องสะท้อนเปลวเพลงอันเป็นนิรันดร์ มรรคาดังกัมปนาทท่ามกลางการต่อสู้ นี่คือทุกหยดทุกอณูแห่งการเดินทางสู่ประจิมทิศ
ปีศาจเริงรำ!
วิญญาณร้ายเกลื่อนกลาด!
ท้ายที่สุด เครื่องดนตรีทั้งหมดจึงรวมกันราวกับถูกเนรมิตรขึ้น เสียงฮาร์ปดังขึ้นระคนความงดงามและหนักแน่นประหนึ่งสายธารรินไหล
2 นาที 53 วินาที
นี่คือเวลาของบทเพลง
เมื่อ 2 นาที 53 วินาทีที่แล้ว ร้านปิ้งย่างเต็มไปด้วยเสียงดังโหวกเหวกโวยวาย 2 นาที 53 วินาทีผ่านไป ร้านปิ้งย่างกลับเงียบสงบ ในร้านซึ่งเนืองแน่นไปด้วยผู้คน เวลานี้เงียบจนสามารถได้ยินเสียงเข็มหล่น
“นี่อะไรกัน”
ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่
ที่แจ็คลุกขึ้นยืน
ผู้จัดการซึ่งอยู่ด้านข้างกลืนน้ำลาย ชี้ไปยังข้อมูลซึ่งวิ่งผ่านบนหน้าจอด้วยปลายนิ้วสั่นเทิ้ม
“สดับเสียงวังเมฆา”
“ทำนอง: เซี่ยนอวี๋”
“กู่เจิงโดยหวังลี่ ผีผาโดยจางเสีย อำนวยการเพลงโดยหลิวหร่าน ระฆังราวโดย หลี่เคอฉี เบลคานโตโดยหนิงเหมยเหมย ฮาร์ปโดยหานหาน ไวโอลินโดยลาลา ทรัมเป็ตโดยเซียวกัง ฮาร์ปโดยโจวลี่ กีตาร์โดยผิงต้าไห่…”
ปังปังปัง!
ตัวอักษรสามมิติสีทองเข้ามาแทนที่รูปภาพ ทิ้งร่องรอยอันไม่อาจลบเลือนในความทรงจำของผู้คนไปตลอดกาล นี่คือความรู้สึกซึ่งคนมากมายยังคงผูกพันแม้วันเวลาจะผ่านไปหลายปี
บันทึก! การเดินทาง! สู่ประจิมทิศ!