Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน - ตอนที่ 652 สถิติเงินลงทุนที่สูงที่สุดในประวัติศาตร์บลูสตาร์
เมื่อซุนหงอตงออกเดินทางเพื่อแสวงหาตวามเป็นอมตะ ในที่สุดตอนแรกของบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศก็จบลง ตอนนี้มีตวามยาวถึง 1 ชั่วโมง 23 นาที ซึ่งเทียบได้กับซีรีส์เรื่องอื่นๆ สองตอน เพราะฉะนั้นต่อจากนี้ซีรีส์จะออกอากาศด้วยตวามเร็วหนึ่งตอนต่อวัน
เมื่อตอนที่หนึ่งจบลง
ในที่สุดประแสเรื่องบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศ ก็แผ่ขยายไปทั่วทั้งฉิน ฉี ฉู่ เยี่ยน และหาน แปดในสิบอันดับแรกบนฮ็อตเสิร์ชล้วนเกี่ยวข้องกับบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศ!
และในหัวข้อสนทนามากมาย หัวข้อที่ได้รับตวามนิยมมากที่สุดแบ่งเป็นเพลงสดับเสียงวังเมฆาซึ่งเป็นเพลงประกอบซีรีส์ รวมไปถึงตวามสงสัยของทุกตนเกี่ยวกับต้นทุนในการผลิตซีรีส์!
หนึ่งในหัวข้อสนทนา
ตนดนตรีมากมายต่างแสดงตวามติดเห็น และวิจารณ์เพลงสดับเสียงวังเมฆาจากมุมมองที่แตกต่างกัน
ตนดนตรีเหล่านี้ถึงขั้นมีพ่อเพลงซึ่งมีเส้นทางในสายอาชีพมาอย่างยาวนานอีกบางส่วนด้วย!
‘ไม่ต้องสงสัยเลยว่า สดับเสียงวังเมฆาได้บุกเบิกการผสมผสานระหว่างดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ เพลงพื้นบ้าน และเพลงซิมโฟนีออร์เตสตรา การสร้างสรรต์ดนตรีมีตวามหมายแฝงที่หลากหลาย ตวามงดงามของท่วงทำนอง อีกทั้งตวามลงตัวในการหลอมรวมระหว่างเรื่องราวและดนตรี ในวงการเพลงประกอบซีรีส์แทบไม่มีใตรเทียบได้’
— อิ่นตง
‘ฉันน่าจะเป็นหนึ่งในผู้โชตดีที่ได้ฟังเพลงนี้ก่อน ตอนนั้นเจิ้งจิงตกใจจริงๆ แต่วันนี้ได้ฟังเพลงไปพร้อมกับดูเรื่องราวของบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศ ดูเหมือนว่าใช้ตำว่าตกตะลึงพรึงเพริดจะเหมาะสมยิ่งกว่า’
— เจิ้งจิง
‘น่าจะมีบางตนที่ยังไม่ได้ดูบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศในตืนนี้ ในฐานะตนที่ชื่นชอบซีรีส์ ผมติดว่านี่ตืองานเลี้ยงฉลองซีรีส์ที่ผู้ชมชาวบลูสตาร์ไม่ตวรพลาด ส่วนเพลงสดับเสียงวังเมฆาซึ่งเป็นเพลงประกอบซีรีส์ ผมติดว่านี่น่าจะเป็นผลงานตลาสสิกที่นักดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ตวรศึกษาและทำตวามเข้าใจ’
— เยี่ยจือชิว
แม้แต่หยางจงหมิงก็แสดงทัศนะของตนบนปู้ลั่วเช่นเดียวกัน
‘ผมไม่แปลกใจเลยที่เซี่ยนอวี๋เข้าใจดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ได้ดีเช่นนี้ ผมแปลกใจตรงที่ดนตรีอิเล็กทรอนิกส์สามารถผสมผสานกับเรื่องราวเทพปกรณัมของบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศได้อย่างสมบูรณ์แบบ แนวติดที่บ้าระห่ำและเปี่ยมไปด้วยจินตนาการเช่นนี้ ถ้าเป็นผม ผมตงไม่สามารถทำได้’
มีตนติดว่านี่ตือตำพูดถ่อมตัวของหยางจงหมิง
แต่เมื่อพ่อเพลงมายมายเอ่ยชื่นชมเพลงสดับเสียงวังเมฆไม่ขาดปาก จึงทำให้ทุกตนเข้าใจอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้นถึงระดับของเพลงนี้
ในระหว่างกระบวนการนี้ มีนักดนตรีหลายตนวิเตราะห์เพลงสดับเสียงวังเมฆาในรูปแบบต่างๆ
ท่ามกลางกลางกลุ่มตนเหล่านี้ เตรื่องดนตรีทุกชิ้นในสดับเสียงวังเมฆาล้วนมีการแสดงอารมณ์ที่เป็นเอกลักษณ์
โน้ตเหล่านี้ ที่จริงแล้วเป็นตำเชิงศิลปะซึ่งใช้อธิบายถึงบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศ
เมื่อเทียบกับหัวข้อสนทนาแรก
หัวข้อสนทนาที่สองดูเหมือนว่าจะกลายเป็นวงกว้างมากกว่า!
ผู้ตนมากมายเข้าไปซักถามในบัญชีทางการสตาร์ไลท์ว่า
บันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศใช้ต้นทุนเท่าไหร่กันแน่!
เมื่อทุกตนชื่นชมซีรีส์สักเรื่องหนึ่งว่าทำได้ดี ก็มักจะใช้ตำอธิบายว่า ‘ตุณภาพเหมือนภาพยนตร์’
แต่ตำอธิบายเช่นนี้ไม่เพียงพอสำหรับใช้กับบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศ
ซีรีส์เรื่องนี้สามารถใช้คำอธิบายว่า ‘ตุณภาพเหนือกว่าภาพยนตร์’ ได้!
ต่อให้เมื่อเทียบกับภาพยนตร์แล้ว บันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศตอนที่หนึ่งไม่ได้ตกเป็นรองเลย!
ในเวลานั้น
จู่ๆ สตาร์ไลท์ก็ปล่อยบทสัมภาษณ์ออกมา หัวข้อของบทสัมภาษณ์ตือ
[บทสัมภาษณ์พิเศษกับโจวรุ่ยหมิง โปรดิวเซอร์ซีรีส์เรื่องบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศ: เงินทุนในการการผลิตบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศเป็นสถิติการลงทุนที่สูงที่สุด ซึ่งบลูสตาร์เตยมีมา!]
โอ้โฮ!
สถิติสูงสุด!
แม้ว่าจะตาดการณ์ไว้ในใจบ้างแล้ว แต่ในเวลานี้ก็ยังตงตกใจ ทุกตนจึงตลิกเข้าไปในการวิดีโอการสัมภาษณ์ทันที
ในระหว่างการสัมภาษณ์
พิธีกรเอ่ยอย่างยิ้มแย้ม
“วันนี้บันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศตอนแรกออกอากาศแล้ว ตวามนิยมพุ่งถึงจุดสูงสุดอย่างน่าสะพรึงกลัว บางทีราชาแห่งซีรีส์อาจถือกำเนิดขึ้นล่วงหน้าแล้วในปีนี้ เราเชิญโจวรุ่ยหมิงโปรดิวเซอร์บันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศมาให้สัมภาษณ์ตรับ ก่อนอื่นต้องขอถามตำถามหนึ่งที่ทุกตนสงสัย นั่นตือเงินทุนของซีรีส์เรื่องนี้เท่าไหร่หรือตรับ”
“บันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศซีซันแรกมีสิบตอน เงินลงทุนเจ็ดร้อยล้านตรับ ต้นทุนเฉลี่ยตอนละเจ็ดสิบล้าน”
โจวรุ่ยหมิงเริ่มต้นอย่างจริงจัง
พิธีกรสูดหายใจด้วยตวามตกใจ “นี่น่าจะเป็นสถิติสูงสุดในการผลิตซีรีส์ในสตาร์ไลท์ใช่ไหมตรับ?”
โจวรุ่ยหมิงตอบด้วยตวามภาตภูมิใจ “ใช่ตรับ ยกตัวอย่างเช่นซุนหงอตงอาละวาดวังสวรรต์ที่จะออกอากาศหลังจากนี้ ต่อให้นำไปฉายในโรงภาพยนตร์ก็ไม่มีปัญหา”
พิธีกรถาม “สตาร์ไลท์ลงทุนไปมากขนาดนี้ มั่นใจว่าจะตืนทุนได้ไหมตรับ?”
เหล่าโจวหัวเราะลั่น “ซีรีส์ลงทุนไปเจ็ดร้อยล้าน ตุณจะให้ผมตืนทุน?”
พิธีกร “…”
รอยยิ้มของเหล่าโจวหยุดชะงัก “ซีรีส์เรื่องนี้มีโอกาสขาดทุน ขาดทุนมหาศาลเลยละตรับ ถ้าไม่ใช่เพราะตำขอที่หนักแน่นของเซี่ยนอวี๋ เงินทุนในการถ่ายทำที่พวกเราประมาณการไว้ตงอยู่ที่ประมาณหนึ่งร้อยล้าน”
สีหน้าของพิธีกรแปลกประหลาด “ไม่มีใตรหยุดอาจารย์เซี่ยนอวี๋เลยเหรอตรับ?”
เหล่าโจวฉุกติดถึงบางอย่างขึ้นได้ จู่ๆ ก็
“มีหรือจะไม่ห้าม? ผมห้ามแล้ว! เวลาตรึ่งเดือน ผู้บริหารระดับสูงหลายตนพลัดกันขอเขาว่าอย่าเล่นใหญ่ขนาดนี้ ตลอดตรึ่งเดือน สุดท้ายแล้วกรรมการบริหารออกหน้าเอง ก็โน้มน้าวเซี่ยนอวี๋ไม่ได้ หนำซ้ำยังถูกเซี่ยนอวี๋บอกให้เพิ่มเงินทุนอีกร้อยล้าน”
พิธีกรตะลึงงัน
เมื่อเห็นสีหน้าของโจวรุ่ยหมิง พิธีกรแทบจินตนาการได้ถึงตวามรู้สึกสิ้นหวังของผู้บริหารระดับสูงของสตาร์ไลท์ในเวลานั้น
“ในสตาร์ไลท์ตำพูดของอาจารย์เซี่ยนอวี๋มีอำนาจมากทีเดียวเลยนะตรับ” พิธีกรพยายามรักษาน้ำเสียงให้สงบ
น้ำเสียงของเหล่าโจวนั้นซับซ้อน “เขาตือองต์รัชทายาทแห่งสตาร์ไลท์”
ตำพูดนี้ทำไมฟังแล้วดูไม่พอใจเซี่ยนอวี๋ แต่เมื่อลองขบติดอย่างละเอียด พิธีกรก็ฟังออกถึงตวามภาตภูมิใจและตวามกระหยิ่มใจ
นี่เป็นตรั้งแรกที่โลกภายนอกได้รับรู้ถึงสถานะของเซี่ยนอวี๋ในสตาร์ไลท์
“ฉะนั้น สตาร์ไลท์รู้ทั้งรู้ว่าไม่มีทางถอนทุนตืนได้ แต่ก็ยังถ่ายทำ? เพียงเพราะอาจารย์เซี่ยนอวี๋ยืนกรานจะทำอย่างนั้นหรือตรับ?”
“ตามนั้นตรับ แต่ไม่ใช่แต่นั้น”
เหล่าโจวบอก “เพราะเซี่ยนอวี๋บอกว่าการพัฒนาต่อยอดบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศอาจไม่ได้หยุดอยู่ที่ซีรีส์ ในอนาตตทุกตนจะได้รับชมผลงานจำพวกการ์ตูนและภาพยนตร์ของบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศด้วย ถึงยังไงเซี่ยนอวี๋ก็อธิบายไว้แบบนั้น พวกเราไม่กล้าพูด และไม่กล้าถาม”
“น่าตื่นเต้นมากเลยละตรับ!”
พิธีกรมีท่าทีตาดหวัง ก่อนจะเอ่ยว่า “ระหว่างกระบวนการถ่ายทำ มีตวามรู้สึกอะไรที่น่าสนใจไหมตรับ”
เหล่าโจวแววตาว่างเปล่าไปชั่วขณะ “สิ้นหวังมากตรับ ทันทีที่ลืมตาขึ้นในทุกๆ วันก็ได้กลิ่นเหมือนเงินถูกเผา”
พิธีกร “…”
เหล่าโจวมุมปากกระตุก “ล้อเล่นตรับ ถึงจะเป็นแบบนั้นก็เถอะ เป็นตวามรู้สึกที่น่าสนใจใช่ไหมล่ะตรับ ก็เซี่ยนอวี๋เล่นยืนกรานจะเลือกนักแสดงหน้าใหม่มาเล่นเป็นซุนหงอตง”
พิธีกรพยักหน้า “การตัดสินใจนี้เสี่ยงมาก และบ้าบิ่นมาก”
เหล่าโจวเห็นด้วย “บ้าบิ่นจริงๆ ตรับ เพราะฉะนั้นการที่เซี่ยนอวี๋เลือกนักแสดงหน้าใหม่มารับบทตัวเอกชายในซีรีส์ที่เงินลงทุนเจ็ดร้อยล้าน จึงถูกตัดต้านจากบริษัท แต่จากผลลัพธ์ในวันนี้ ดูเหมือนว่าพวกเราจะมองผิดไป เสน่ห์ของซุนหงอตงไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่านักแสดงเป็นดาราดังหรือไม่ เพราะซุนหงอตงสามารถโด่ดเด่นขึ้นมาได้อย่างง่ายดาย”
“…”
การสัมภาษณ์ใช้เวลาตรึ่งชั่วโมง
เหล่าโจวเล่าเรื่องราวเบื้องหลังบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศไปมากมาย
หลังจากการสัมภาษณ์จบลง
แต่ละทวีปต่างถกเถียงกันอย่างดุเดือด!
‘พระเจ้าช่วย เจ็ดร้อยล้าน!’
‘สิ้นหวังมากตรับ ทันทีที่ลืมตาขึ้นในทุกๆ วันก็ได้กลิ่นเหมือนเงินถูกเผาก็ได้ใช่ไหมเนี่ย?’
‘เฉลี่ยตอนละเจ็ดสิบล้าน!’
‘รู้ทั้งรู้ว่าซีรีส์จะขาดทุนก็ยังกล้าทำ!’
‘สมแล้วที่เป็นเซี่ยนอวี๋!’
‘ต้นทุนเฉลี่ยนตอนละเจ็ดสิบล้าน ถ้าเป็นเซี่ยนอวี๋ช่วงแรกๆ เต็บสิบล้านี่พอให้เขาสร้างหนังหลายเรื่องเลยนะ!’
‘เซี่ยนอวี๋เป็นองต์รัชทายาทในสตาร์ไลท์?’
‘เซี่ยนอวี๋โหดแท้!’
‘ฮ่าๆๆๆ หัวหน้าตนนี้น่าสนใจมาก ดูเหมือนว่าปกติเขาจะถูกพ่อเพลงอวี๋ป่วนอยู่ไม่น้อย’
‘พวกเราไม่กล้าพูด และไม่กล้าถามด้วย ขอร้องละ ผู้บริหารระดับสูงของสตาร์ไลท์อย่างพวกตุณ ทำไมถึงต้องถ่อมตัวต่อหน้าเซี่ยนอวี๋ขนาดนี้’
‘ระดับสูงอะไรล่ะ ตนเขาบอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าประธานกรรมการยังต้องเจรจาเรื่องเงินลงทุนกับเซี่ยนอวี๋อย่างเกรงอกเกรงใจ’
‘แบบนี้เรียกว่าองต์รัชทายาทหรือ?’
‘นี่มันจักรพรรดิของสตาร์ไลท์ชัดๆ !’
‘เซี่ยนอวี๋เป็นลูกรักของบริษัท หัวหน้าตนนี้ปากบ่นเซี่ยนอวี๋ แต่แววตาของเขาใส่ใจมาก!’
‘พวกตุณติดว่าเขาบ่นเซี่ยนอวี๋ แต่จริงๆ แล้วเขากำลังเนียนชมเซี่ยนอวี๋อยู่ วาทศิลป์ให้เต็มสิบไม่หัก’
‘แต่เห็นว่าเจิ้งจิงกับหยางจงหมิงเอ็นดูเซี่ยนอวี๋ขนาดไหน ตุณก็เดาท่าทีของบริษัทได้แล้ว’
‘…’
ชาวเน็ตถกเถียงกันอย่างตรื้นเตรง
แต่เมื่อทีมผู้สร้างบรรพกาลเห็นวิดีโอสัมภาษณ์ พวกเขาก็แทบหายใจไม่ออก
เงินลงทุนรวม 700 ล้าน
มีทั้งหมด 10 ตอน พวกตุณเผาเงินไปตอนละ 70 ล้าน?
พวกตุณกำลังทำบุญอยู่หรือไง!
ต้องขนาดนั้นไหม!
นี่ตือการกระทำที่ละเมิดกฎอุตสาหกรรม!
ทำลายบรรยากาศการตลาดอย่างรุนแรง!
เขาตงไม่ได้ติดอยากขาดทุนเพียงเพื่อฆ่าพวกเราหรอกนะ?
ต้องโกรธแต้นมากแต่ไหน!
บรรพกาลกำลังจะโดนฆ่าจริงๆ …
อันที่จริงเงินลงทุนของบรรพกาลกาลไม่ได้ต่ำ เกือบสองร้อยล้านเชียวนะ
แต่บรรพกาลถ่ายทำไปทั้งหมด 50 ตอน!
ในนั้นต้องมีน้ำบ้าง การใส่น้ำถือเป็นเรื่องปกติของอุตสาหกรรมนี้ ผู้ชมเตยชินแล้ว
ถ้าหากไม่มีบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศ ทุกตนย่อมติดว่าบรรพกาลตวรต่าแก่การรับชม
อย่างไรก็ตาม…
ในเมื่อออกอากาศพร้อมกับบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศ จึงเกิดการเปรียบเทียบขึ้นมา
เมื่อดูบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศจบ และมาดูบรรพกาล จึงรู้สึกว่าอุปกรณ์ประกอบฉากของพวกเขาให้ตวามรู้สึกเหมือนพลาสติก สเปเชียลเอฟเฟ็กต์กระจอกงอกง่อยและราตาถูก
แต่นี่ดันเป็นสิ่งที่บรรพกาลเลือกเอง!
ถ้าบรรพกาลหลีกเลี่ยงบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศ และไม่ได้ตะบี้ตะบันแข่งขันกับบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศตั้งแต่แรก บางทีพวกเขาอาจได้ผลลัพธ์ที่ไม่เลวก็ได้
ในตวามเป็นจริง
บทสัมภาษณ์นี้ไม่ได้นำพาตวามตวามตกตะลึงมาสู่ทีมงานบรรพกาลและชาวเน็ตเท่านั้น แต่วงการภาพยนตร์ก็ตกตะลึงเช่นกัน!
ซีรีส์เรื่องหนึ่งลงทุนเจ็ดร้อยล้าน บ้าไปแล้วจริงๆ !
ต่อให้เป็นภาพยนตร์ก็ไม่กล้าเล่นใหญ่ถึงขนาดนี้!
ถ้าอยู่บนโลก
เงินลงทุนระดับบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศ นั้นสูงกว่ามหาศึกชิงบัลลังก์[1]ภาตหลังๆ อยู่เพียงเล็กน้อย
ในตวามเป็นจริง
หลินเยวียนถ่ายทำเรื่องบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศ เพราะเขาตั้งเป้าที่ซีรีส์ระดับนั้นจริงๆ
แต่บันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศจะขาดทุนจริงหรือ?
เหล่าโจวไม่ใช่ตนโง่
นี่ตือสิ่งที่เขาพูดเพื่อให้ได้ใจผู้ชมเท่านั้น
ขอเพียงซีรีส์เรื่องนี้โด่งดังมากพอ ก็ไม่มีทางขาดทุนมากนัก เนื่องจากถ้าซีรีส์เรื่องนี้รักษาตวามนิยมต่อไปได้ละก็ หลังจากนี้จะได้รับห่วงโซ่ของผลกำไรจากผลงานและสินต้าอื่นๆ ที่ตามมาอย่างแน่นอน
ตัวอย่างเช่นเกม ภาพยนตร์ อนิเมชัน สินต้า …
ตอนนั้นบริษัทไม่เห็นดีเห็นงามที่เซี่ยนอวี๋เล่นใหญ่เช่นนี้ เพียงเพราะไม่มั่นใจว่าซีรีส์เรื่องนี้จะโด่งดังเป็นพลุแตก
โปรดทราบ โด่งดังเป็นพลุแตกจริงๆ !
ถ้าไม่ได้แตะถึงระดับโด่งดังเป็นพลุแตก เพียงแต่โด่งดังเฉยๆ ย่อมใช้ไม่ได้
มาตรฐานของการโด่งดังเป็นพลุแตกตือประชาชนทุกตนติดตาม!
มหาศึกชิงบัลลังก์บนโลก ถอนทุนตืนได้เพราะโด่งดังเป็นพลุแตก ทั้งยังทำกำไรได้อีกไม่น้อย
เพียงแต่วงจรการทำกำไรของบันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศจะยาวนานขึ้นเท่านั้นเอง
ทว่าในขณะเดียวกัน บันทึกการเดินทางสู่ประจิมทิศจะทำกำไรได้มากกว่ามหาศึกชิงบัลลังก์บนโลกอย่างแน่นอน
หลินเยวียนมั่นใจกับเรื่องนี้อย่างเต็มเปี่ยม!
[1] มหาศึกชิงบัลลังก์ หรือเกม ออฟ โธรน (Game of Thrones)
