Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน - ตอนที่ 664 ท่าเต้นต้านแรงโน้มถ่วงและมูนวอล์ก
- Home
- Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
- ตอนที่ 664 ท่าเต้นต้านแรงโน้มถ่วงและมูนวอล์ก
“มันหยดดด!”
“เพลงนี้ชื่ออะไร”
สามวันสามคืน!
“คอนเสิร์ตของเซี่ยนอวี๋ พวกเราฟังสามวันสามคืนไม่พอ แต่เขาน่ะควรพักได้แล้ว…”
“พ่อเพลงอวี๋ร้องจนมันหยด ทำให้พวกเรามันหยดไปด้วย!”
“นี่เพลงใหม่เพลงที่สามแล้ว!”
“เสียงสูงของพ่อเพลงอวี๋น่ากลัวมาก!”
“ร้องเสียงสูงมาก!”
“เสียงหวีดยังไม่พอ!”
“นี่คือเสียงสูงที่ทำลายล้างโลก!”
“ฉันยินดีบอกว่าเสียงสูงของพ่อเพลงอวี๋แข็งแกร่งที่สุดในโลก!”
“นี่เป็นคอนเสิร์ตที่สนุกที่สุดเท่าที่ฉันเคยดูมา!”
“…”
ผู้ชมต่างถกเถียงกันอย่างออกรสออกชาติ!
ในคอนเสิร์ต สิ่งที่สร้างให้บรรยากาศตื่นเต้นได้มากที่สุดคือเพลงซึ่งมีเสียงสูง!
แน่นอนว่าหลินเยวียนมีการเตรียมตัวมา!
เดิมทีเขามีแผนว่าจะร้องเสียงหวีด
แต่เมื่อพิจารณาว่าอารมณ์และรูปแบบของเพลงสามวันสามคืนนั้นเ มาะกับคอนเสิร์ตมากกว่า สุดท้ายแล้วเขาจึงเลือกเพลงนี้
หลินเยวียนเป็นคนนิ่งเงียบ
บุคลิกของเขาจึงยากที่จะสร้างความเมามันได้
น้อยครั้งเหลือเกินที่เขาจะกระตือรือร้นเช่นนี้!
ครั้งล่าสุดที่สนุกสุดเหวี่ยงเช่นนี้ ก็ในรอบสุดท้ายของราชาหน้ากากนักร้อง
อย่างไรก็ตาม เขาร้องเพลงติดต่อกันยี่สิบเพลงในคอนเสิร์ต ซึ่งได้รับ การจุดประกายโดยความหลงใหลในการร้องเพลงของเขาทั้งสิ้น ท่าทีของเขาจึงร่าเริงกว่าที่เคยเป็นมา!
……
หลังจากลงจากเวทีไปพักผ่อน
ถึงแม้หลินเยวียนจะยังไม่หนำใจ แรงกายยังคงรับไหว ทว่าเขาจำเป็นต้องลงจากเวทีเพื่อมาเปลี่ยนเสื้อผ้า
สำหรับการแสดงชุดต่อไป…
เวทีหลังจากนั้น ซย่าฝานเป็นนักร้องรับเชิญซึ่งมารับช่วงต่อ
ส่วนหลินเยวียนก็กลับไปยังห้องแต่งตัวหลังเวทีท่ามกลางเสียงกรี๊ดของผู้ชม
……
หลายนาทีผ่านไป
ลิฟต์ไฮดรอลิกเริ่มเดินเครื่อง
หลินเยวียนกลับมายังเวทีอีกครั้ง
ทันใดนั้นก็มีเสียงอุทานดังขึ้นนับไม่ถ้วนจากเวทีทั้งสี่ด้านพร้อมกับเสียงหัวเราะ
“อุก!”
“ชุดอะไรเนี่ย”
“การออกแบบใหม่จากสไตลิสต์”
“เสื้อสีขาวกับกางเกงเก้าส่วนสีดำยังไม่เท่าไหร่ ถุงมือสีขาวกับสูทสีดำก็ดูเท่ดี แต่ประเด็นคือทำไมต้องเป็นรองเท้าหนังสีดำกับถุงเท้าขาว?”
“มีแต่ความไม่เข้ากัน!”
“หักโบนัสสไตลิสต์!”
“อะแฮ่ม ฉันเป็นคนเดียวหรือเปล่าที่คิดว่าพ่อเพลงอวี๋หล่อมาก…”
“ไม่ต้องให้เธอบอกหรอก !”
“ถึงถุงเท้ากับรองเท้าสีดำจะไม่เข้ากันก็จริง แต่จะไปสู้หน้าตากับรูปร่างของพ่อเพลงอวี๋ได้ยังไง!”
“…”
ใช่แล้ว
เสื้อผ้าที่หลินเยวี่ยนเปลี่ยนมาในเวลานี้แปลกประหลาดเหลือเกิน ไม่มีใครรู้ว่าทำไมเซี่ยนอวี๋ถึงเปลี่ยนไปใส่เสื้อผ้าเช่นนี้
ระหว่างที่ผู้ชมถกเถียงกัน
ซย่าฝานซึ่งยังไม่ได้ลงจากเวทีกล่าวหยอกล้อหลินเยวียน “เพิ่งบอกกับทุกคนไปว่าสามวันสามคืนเข้ากับบรรยากาศ แต่ไม่คิดว่าก่อนจะขึ้นเวทีมาฉันได้ยินเจี่ยนอี้พูดว่า เพลงนั้นยังไม่เข้ากับบรรยากาศมากพอ…”
ด้านล่างเวที
เจี่ยนอี้งุนงง
ฉันพูดแบบนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่
“อย่างเช่น?”
หลินเยวียนบนเวทีนึกสงสัย
“ตัวอย่างเช่นในเนื้อเพลงบอกว่าคุณเต้นไปสามวันสามคืน แต่คุณไม่ได้เต้นเลยสักนิด มีแต่นักเต้นแบ็กอัปของคุณที่เต้น…”
ซย่าฝานกะพริบตาให้หลินเยวียน
“เห็นคุณใส่ไมค์คล้องหู คงเต้นง่ายขึ้น งั้นคุณก็เต้นไปสามวันสามคืน แค่เต้นไม่กี่นาทีคงไม่มากเกินไปหรอกใช่ไหม?”
นี่คือเหตุผลที่ซย่าฝานยังไม่ลงจากเวที
นี่คือสิ่งที่ถงซูเหวินเตือนไว้ เขาให้ซย่าฝานอยู่บนเวทีพูดคุยกับเซี่ยนอวี๋ เพื่อกระตุ้นบรรยากาศสำหรับการแสดงต่อไป
ผู้ชมด้านล่างเวทีกู่ร้องในทันที!
“เต้นเลย!”
ซย่าฝานฟังเสียงตะโกนของผู้ชม และเริ่มพูดตามจังหวะไป “เต้นเลย!”
ในแถวหน้า
เจี่ยนอวี้นึกสนุก “ถึงผมจะไม่ได้พูด แต่คุณต้องเต้นให้ทุกคนได้ดูสักหน่อยแล้ว!”
“เอาเลย!”
ซุนเย่าหั่วและคนอื่นๆ ทยอยร่วมประสมโรง ท้ายที่สุดแม้แต่เจิ้งจิงและนักประพันธ์เพลงคนอื่นๆ ก็ร่วมเริ่มตะโกนเช่นกัน
ในที่สุดทั้งสนามรังนกต่างตะโกนเสียงดัง “เต้นเลย!!!”
“เต้นได้ไหมนะ?”
ซย่าฝานหรี่ตา
หลินเยวียนครุ่นคิด “ได้นิดหน่อย”
ซย่าฝานกล่าวกลั้วหัวเราะพลางจากเวทีไป “ฉันช่วยคุณได้เท่านี้แหละ…”
เธอโบกมือและลงจากเวทีไป
……
“ซย่าฝานสุดยอด!”
“พ่อเพลงอวี๋ตอบรับแล้ว”
“จะเต้นจริงหรือ?”
“พ่อเพลงอวี๋เหมือนจะเต้นไม่ได้นะ ในรายการตอนที่ร้องเพลงต๋าลาเปิงปาก็เคยเต้น มองออกว่าเต้นไม่ได้จริงๆ ”
“ฮ่าๆๆ ผมเองก็เคยดูวิดีโอที่พ่อเพลงอวี๋เต้นก่อนหน้านี้ ภายในสตาร์ไลท์แชร์กัน”
“ฉันก็เคยดู!”
“เป็นยังไง”
“หล่อตาแตก”
“คุณพูดถึงวิดีโอมือกับเท้าข้างเดียวกันใช่ไหม ตอนนั้นครูสอนเต้นอึ้งไปเลย!”
“งั้นพ่อเพลงอวี๋ยังบอกอีกเหรอว่าตัวเองเต้นได้นิดหน่อย”
“ความหมายของได้นิดหน่อยคือได้นิดหน่อยจริงๆ ”
“…”
ผู้ชมพูดคุยด้วยความตื่นเต้น!
หลินเยวียนเคยเรียนเต้นที่สตาร์ ไลท์ การเต้นได้ถูกสตาร์ไลท์โพสต์บนโลกออนไลน์ก่อนที่คอนเสิร์ตจะเริ่มต้นขึ้น
หลายคนในคอนเสิร์ตเคยดูวิดีโอนี้
การซ้อมเต้นนี้ทำให้หลายคนดูแล้วหัวเราะตาม
นี่คือเหตุผลที่ทำให้ทุกคนอยากให้เซี่ยนอวี๋เต้น
ไม่ใช่เพื่ออื่นใด
เพื่อความสนุกล้วนๆ
นับว่าเป็นการหยอกล้อเล็กๆ กับไอดอลของตน
……
ในแถวหน้า
เจี่ยนอี้ปิดปากหัวเราะ “ซย่าฝานแย่จริงๆ !”
ดาราคนดังโดยรอบพลอยหัวเราะตามได้ “แรงอยู่นะ!”
เจิ้งจิงคลี่ยิ้ม “ฉันว่าพวกคุณจงใจทำให้เสี่ยวอวี๋ลำบากใจ”
อิ่นตงเอ่ยอย่างตลกขบขัน “การร้องเพลงไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขา เขาเลยทำได้แค่ไปเริ่มเต้นแล้ว”
หยางจงหมิงยิ้มพลางลูบศีรษะ
ด้านล่างเวทีอบอวลไปด้วยบรรยากาศสนุกสนานในหมู่ผู้ชม
……
ท่ามกลางเสียงหัวเราะของผู้ชม จู่ๆ หลินเยวียนก็ก้มหน้า ส่วนมือวางลงบนหมวกอย่างแผ่วเบา
ฮู้ว!
เขายังสวมบทบาทอยู่ คุณเชื่อไหมล่ะ?
การเคลื่อนไหวในครั้งนี้น่าสนใจทีเดียว
เสียงหัวเราะของผู้ชมดังยิ่งกว่าเดิม
ยิ่งเซี่ยนอวี๋จริงจังมากเท่าไหร่ ทุกคนจะยิ่งรู้สึกสนใจขึ้นเท่านั้น
ทำไมต้องซะเป็นทางการขนาดนี้?
คุณคิดว่าพวกเราไม่เห็นวิดีโอที่คุณฝึกเต้นมือกับเท้าไปทางเดียวกันหรือ?
ในตอนนั้นเอง
ดนตรีดังขึ้น
ท่ามกลางสายตาของผู้ชม หลินเยวียนเริ่มขยับแล้ว!
เขากำลังก้าวไปข้างหน้า…
ไม่สิ!
เขากำลังถอยหลัง!!!
ทำไม??
เห็นชัดๆ ว่าเซี่ยนอวี๋กำลังเดิน แต่ตัวของเขากลับขยับถอยหลัง!?
การเคลื่อนไหวนี้ได้เปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์การเคลื่อนไหวของคนธรรมดาไปอย่างสิ้นเชิง!!
ทันใดนั้น!
เสียงหัวเราะทั้งหมดเงียบลง!
ผู้ชมทั้งสนามต่างตกตะลึง!
เหมือนกับว่าถูกคนคว้าคอเข้าหมับ ขนลุกไปทั่วทั้งร่างกายในชั่วพริบตา!
ตะลึง!
พรึบๆๆ!
ประหนึ่งเป็นปฏิกิริยาลูกโซ่!
สายตาของผู้ชมนับแสนคนนิ่งค้าง!
ในขณะนั้น!
ผู้ชมทั้งหมดล้วนแตกตื่นอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน!
ทุกคนต่างต้องเขม็ง ไม่กล้าแม้แต่จะกะพริบตา ราวกับกลัวว่าจะพลาดฉากตรงหน้าไป!
เสียงกรี๊ดลั่นแตะถึงระดับเดซิลเบลสูงสุดในค่ำคืนนี้!
……
ผู้ชมเวทีทิศตะวันออก
“เชี่ยย!”
“นี่มันอะไรกัน!”
“เขาทำได้ยังไง!”
“นี่มันท่าเต้นอะไรฟระเนี่ย!”
……
ผู้ชมเวทีทิศตะวันตก
“เวทมนตร์!”
“เหมือนกับเดินบนดวงจันทร์เลย!”
“ฉันจะตาย!”
“อ๊ากกกกกกก!”
……
ผู้ชมเวทีทิศใต้
“นี่คือการเต้นแบบใหม่เหรอ?”
“ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย!”
“บ้าไปแล้ว!”
“เซี่ยนอวี๋ยังเป็นคนอยู่ไหมเนี่ย!”
……
ผู้ชมเวทีทิศเหนือ
“ผมไม่ได้ตาฝาดไปใช่ไหม?”
“ฉันเองก็สงสัยสายตาตัวเองเหมือนกัน!”
“นี่คือการเต้นแบบใหม่จริงๆ ”
“ไม่ได้ใส่สเปเชียลเอฟเฟ็กต์จริงๆ ใช่ไหม”
“แม่เจ้าโว้ย!!!”
……
แตกตื่น!
ในสนามรังนกประหนึ่งเกิดระเบิดนิวเคลียร์!
เจิ้งจิงตกตะลึง
หยางจงหมิงก็ตกตะลึง
นักร้องในราชวงศ์ปลาก็ตกตะลึงเช่นกัน
ผู้ชมบนอัฒจันทร์ทั้งสี่ทิศบนเวทีขนลุกซู่!
ทุกคนต่างตกตะลึง!
ทุกคนสมองชาวาบ!
ผู้ชมนับแสนคนในสนามตกอยู่ในสภาวะคลุ้มคลั่ง!
มีคนลุกขึ้นยืน!
หนึ่งคน…
สองคน…
สามคน…
ผู้ชมลุกขึ้นยืนเป็นวงกว้าง!
ภาพของคอนเสิร์ตจึงเดือดพล่านยิ่งขึ้น!
ปฏิกิริยาตอบสนองของคนเหล่านี้เกินจริงขึ้นเรื่อยๆ ทุกคนถึงขั้นกระโดดตัวลอย ราวกับต้องการปรากฏตัวในกล้อง!
ระเบิดระดับทำลายล้าง!
ด้านหลังเวที
ถงซูเหวินตวาดลั่นขึ้นมาเป็นครั้งแรก!
“จัสบีตอิต!!!”
และท่ามกลางความบ้าคลั่งและตื่นตะลึงในหมู่ผู้ชม หลินเยวียนหมุนอย่างงดงาม พร้อมกับเปล่งเสียงกังวานใส
“They told him, ‘don’t you ever come around here’
‘Beat It’ เพลงร็อกสุดคลาสสิกของไมเคิล แจ็กสันกลับมามีชีวิตอีกครั้ง!
ท่าเต้นต้านแรงโน้มถ่วง!
ท่ามูนวอล์ก!
ท่าเต้นอันโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของราชาเพลงพ็อปบนโลกอย่างไมเคิล แจ็กสัน ได้ถือกำเนิดขึ้นแล้วบนบลูสตาร์!