Galactic Garbage Station หลังบ้านผมเป็นที่ทิ้งขยะ - ตอนที่ 731
การประชุมผงแป้งเสริมทรวงอก
“ตอนนี้ 10 โมงเช้าแล้วหรอเนี่ย ฉันต้องไปประชุมเรื่องผงแป้งเสริมทรวงอกตอนเที่ยงสินะ” ซูจิ้งหยุดการจัดการขยะของเขาในทันที
เขาหยิบโทรศัพท์ออกมาเพื่อเช็คเวลาอีกครั้งเพราะเมื่อวานเขาดันไปรับปากซือหยาไว้จะไปร่วมประชุมด้วย เขาเองก็ไม่อยากจะผิดสัญญากับเรื่องแต่นี้เลยต้องไป
ซูจิ้งได้พบว่ามีข้อความเข้ามา เมื่อเขาเปิดออกมาอ่านก็พบว่ามันเป็นข้อความของซือหยา เธอส่งลิ้งมาให้เขา
เมื่อกดไปตามลิ้งค์ถึงกับทำให้เขาต้องตกตะลึง นั่นก็เพราะว่ามันเป็นข่าวเกี่ยวกับผงเสริมทรวงอกของซือหยาที่ทำให้นักแสดงหญิงหลายคนที่มีปัญหาเรื่องหน้าอกได้รับการแก้ไขด้วยผงนี้
เห็นได้ชัดว่าเธอได้วางแผนการตลาดนี้มานานแล้วแถมยังทำได้ดีซะด้วย
ยิ่งไปกว่านั้นยังมีภาพข้อความที่เหล่าดาราเหล่านั้นติดแฮ็ชแท็กขอบคุณซือหยา และคนอื่นๆอยู่ด้วย
หลินฉีหยูและนาลันเฟยเองก็อยู่ด้วยเช่นกัน พวกเธอคือดาราในสังกัดกลุ่มเจียนเซียนโอปาร่า
แต่พวกเธอก็ยังจำสัญญาทีเคยคุยกับซือหยาไว้ได้อย่างดีว่าหลังจากกินอาหารฝีมือซูจิ้งแล้วพวกเธอจะต้องโฆษณาให้กับบริษัทซือหยาเวชสำอางด้วย
เรื่องนี้ทำให้ชาวเน็ตที่ไม่รู้ที่มาที่ไปถึงกับงงจนไปกันไม่ถูก พวกเขาแค่คิดว่าแบรนด์ซือหยากำลังจะเป็นแบรนด์ที่ครองตลาดในไม่ช้าแค่นั้นเองเพราะทุกครั้งที่มีสินค้าตัวใหม่ออกมา
ก็จะมีเหล่าอดีตดารากลับมาแสดงหน้าค่าตาให้เห็นตามงานแสดงต่างๆ แต่เมื่อทุกคนได้รู้ว่าหุ้นส่วนใหญ่ของบริษัทซือหยาเวชสำอางคือซูจิ้ง พวกเขาก็ไม่ได้แปลกใจอะไรอีกเลย
แทบจะบอกได้ว่าทุกคนเริ่มชาชินกับความสุดยอดไปแล้ว เรื่องแค่นี้จะไปเทียบกับการที่เข้าไปช่วยคนในกองเพลิง ช่วยตัวประกันบินเครื่องบิน และจับฉลามขาวยักษ์ด้วยมือเปล่าได้ยังไง
“ดูเหมือนว่าการเตรียมการจะเป็นไปได้ด้วยดีนะ ฉันก็คงแต่ไปให้เห็นหน้าเฉยๆคงพอ” ซูจิ้งยิ้มก่อนที่จะหันไปบอกกับเหล่าสัตว์เลี้ยงว่าให้คอยเฝ้ากองขยะของเขาเอาไว้
เขายังบอกเสี่ยวหลี่(นกแก้วตัวเล็ก)อีกด้วยว่าให้บอกเขาทันทีถ้ามีอะไรเกิดขึ้นในระหว่างที่เขาไม่อยู่
ซูจิ้งได้ขึ้นไปอาบน้ำที่ชั้นสี่พร้อมกับเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วก็ได้ขับปอเช่ของเขาไปยังพื้นที่ดาวน์ทาวน์
เมื่อไปถึงบริษัทก็ได้เห็นว่าในตอนนี้ทุกคนกำลังยุ่งมาก มีผู้คนมากมายรวมถึงนักข่าว โจวเสวี่ยเองเมื่อเห็นเขาก็ได้รีบเข้ามาหาเขาทันที ซูจิ้งจึงรีบถามออกไปว่า “เกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงดูร้อนลนกันขนาดนี้”
“ไม่ ไม่เชิงหรอกแต่มีบางอย่างเกิดขึ้น” โจวเสวี่ยพูดออกมาด้วยท่าทีกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
“แล้วอะไรกันล่ะ” ซูจิ้งถามย้ำไปอีกครั้ง
“มีดาราหญิงคนหนึ่งออกมาพูดว่าเธอได้ลองใช้ผงเสริมทรวงอกดูแล้วปรากฎว่าหน้าของเธอเป็นจุดแดงเต็มหน้าของเธอ เหมือนเธอจะแพ้มัน
เธอทำไม่ได้แม้แต่จะแต่งหน้ากลบรอยแดงพวกนั้นเลยด้วยซ้ำ เธอบอกว่าถ้าเราหาคนมาเปลี่ยนแทนเธอไม่ได้เธอยอมตายดีกว่า เธอไม่กล้าออกหน้ากล้องด้วยสภาพนี้แน่นอน” โจวเสวี่ยพูดด้วยท่าทางจนปัญญา
“เดี๋ยวนะ ทำไมอยู่ๆก็เกิดเรื่องล่ะ แล้วที่ฟังๆดูฉันยังไม่รู้เลยว่าเธอใช้อะไรกันแน่ระหว่างผงเหม่ยหยานหรือผงเสริมทรวงอก จะเป็นพวกแอบอ้างก่อเรื่องรึเปล่า” ซูจิ้งถามด้วยความสงสัย
“ไม่น่าใช่นะ เธอเป็นดาราในสังกัดของซือหยาชื่อว่าบริษัทหยุนหยินเอ็นเตอร์เทนเมนต์น่ะ
เธอเองก็ได้ใช้แป้งเม่ยหยานและโฆษณาแป้งบนเว่ยป๋อไปแล้ว การที่อยู่ๆจะให้คนเห็นหน้าเธอตอนนี้
ลองคิดดูสิว่าคนอื่นที่เห็นจะรู้สึกยังไง มันมีทางหรอกที่จะแยกการเปิดตัวสินค้าตัวหนึ่งโดยไม่สนใจผลจากสินค้าตัวอื่นของบริษัทที่เคยใช้มาก่อนหน้านี้หรอกใช่รึเปล่าหล่ะ” โจวเสวี่ยพูดอธิบายออกมา
“แล้วเธอได้ลองใช้ซุปเปอร์ผงเสริมความงามกับผงลบเลือนริ้วรอยรึยัง” ซูจิ้งถามเพราะว่าสินค้าตัวอื่นที่พวกเขาวางแผนจะขายนั้นก็มีประสิทธิภาพดีมากๆ และเขาเชื่อว่ามันน่าจะพอต่อการแก้ปํญหาได้แล้ว
“ลองแล้วสิ แต่ผลของมันอยู่แค่ชั่วโมงไม่เกินสองชั่วโมงเลยอย่างมาก” โจวเสวี่ยพูดออกมา
“งั้นลองพาฉันไปดูหน่อยสิ” ซูจิ้งพูดกับโจวเสวี่ย โจวเสวี่ยได้รีบพาซูจิ้งไปยังห้องแต่งตัวทันที
ที่นั่นทั้งหวังซือหยาและดงซุ่นก็อยู่ได้ ช่างแต่งหน้าทั้งหลายกำลังช่วยกันกลบรอยแดงบนใบหน้าของหญิงสาวคนหนึ่งอยู่
รอยแดงบนใบหน้าของเธอในตอนนี้ดูเลวร้ายมากๆ มันไม่ใช่การแพ้เลยแต่มันเหมือนกำลังทำลายใบหน้าของเธอมากกว่า
ไม่แปลกใจเลยที่ตอนนี้ตาของเธอได้แดงกล่ำพอๆกับใบหน้าของเธอ การที่ผู้หญิงสวยๆคนหนึ่ง อยู่ๆหน้าก็เปลี่ยนไปกลายเป็นแบบนี้ เป็นใครก็รับไม่ได้ทั้งนั้น
“เป็นยังไงบ้าง การแพ้รุนแรงมากเลยหรอ” ซูจิ้งตกใจที่เห็นทุกคนกำลังร้อนรน
“อาจิ้ง นายมาแล้ว” หวังซือหยาถอนหายใจพร้อมพูดออกมาว่า “พวกเราจนปัญญาที่จะช่วยเธอแล้ว
เธอใช้แต่แป้งเม่ยหยานเท่านั้นเองนะ ในระหว่างนั้นเธอก็ไม่เคยแพ้มาก่อนเลย
แถมตอนที่ทดลองการแพ้ในห้องวิจัยก็ไม่เคยมีผลข้างเคียงเลยซักหนเดียว ถึงจะมีข่าวมาบ้างว่ามีคนแพ้แป้งนี้ในเน็ต แต่ก็ไม่เคยเห็นของจริงเลยสักครั้งซึ่งก็น่าจะเป็นการกลั่นแกล้งทางการตลาดเท่านั้น”
“หรือว่าเจ้าแป้งขวดนี้จะหมดอายุกัน” ดงซุ่นหยิบแป้งเหม่ยหยานออกมา
“ขอดูหน่อยนะ” ซูจิ้งดูที่ขวดแป้งพร้อมดงเล็กน้อยก่อนจะทำคิ้วขมวดเล็กน้อย
“ทำไมทำท่าทางอย่างนั้นหล่ะ มีอะไรผิดปกติหรอ” หวังซือหยาถามทันทีเมื่อเห็นคิ้วซูจิ้งขมวด
“รู้สึกตงิดๆนิดหน่อยน่ะแต่ยังไม่แน่ใจ ไหนลองเอาแป้งเม่ยหยานขวดอื่นมาสิ” ซูจิ้งพูดออกมา ซือหยาจึงสิ่งขวดของเธอให้ไป ซูจิ้งรับไว้และเดินลงบันไดไป หวังซือหยา ดงซุ่น และโจวเสวี่ยก็ได้เดินตามไปด้วยความสงสัย
ซูจิ้งได้เดินไปที่ท่อระบายน้ำพร้อมทั้งหยิบเนื้อแห้งและเนื้อย่างที่เขาสำรองเอาไว้ออกมาก
ไม่นานนักก็มีสัตว์ท่อจำนวนมากมาวนเวียนรอบตัว ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาอาจจะกลัวอยู่บ้าง แต่ตอนนี้เขาไม่ต้องสนใจเรื่องพวกนั้นแล้ว เขาได้ส่งกระแสจิตบังคับสัตว์ท่อให้เชื่อฟังคำสั่งของเขา
หลังจากรออีกสักพักได้มีหนูจำนวนหนึ่งขึ้นมา เขานั้นได้ปล่อยเนื้อที่ได้จากห้วงเวลาฯวอคราฟท์ให้มันกินและทำการสะกดจิตหนูพวกนั้น
หลังจากนั้นให้หนูลองดมกลิ่นจากแป้งเม่ยหยานทั้งสองขวดเทียบกัน ความคิดของซูจิ้งนั้นถูกต้องที่สุดแล้วในโลกนี้ไม่มีอะไรที่ดมกลิ่นแยกแยะได้ดีเท่าหนูพวกนี้อีกแล้ว
ช่องว่างในการพัฒนาทักษะการดมกลิ่นของหนูนั้นนำหน้ามนุษย์ไปนับพันปีแล้วยากจะเลียนแบบได้
หลังจากหนูดมขวดทั้งสองแล้วซูจิ้งได้ถามพวกมันสองคำถาม ก่อนที่เจ้าหนูจะทำปากขยุกขยิกตามทุกครั้งที่เขาถามคำถามจบลงเหมือนกับมันกำลังคุยกับซูจิ้งจริงๆ ทุกคนที่ตามมาต่างงงกับภาพที่เกิดขึ้น
พวกเขาก็พอรู้มาบ้างว่าซูจิ้งเป็นปรมาจารย์นักฝึกสัตว์และได้เห็นวีดีโอที่ซูจิ้งจับฉลามขาวยักษ์มาแล้วแต่พวกเธอไม่คิดว่าซูจิ้งจะทำการจับหนูได้อย่างหน้าตาเฉยเพราะพวกทั้งสกปรกตัวเหม็นและหน้ารังเกียจ
แต่หลังจากที่ซูจิ้งจับมันพวกเธอกลับเห็นว่าเจ้าหนูนั่นดูน่ารักขึ้นมาซะอย่างนั้น มาน่ารักจนเห็นแล้วอยากกอดเลย
หลังจากซูจิ้งถามหนูเสร็จแล้วซักพักเขายยกมือไล่เจ้าหนูนั่น เจ้าหนูนั่นจึงค่อยๆเดินกลับท่อน้ำไป
ซูจิ้งหันกลับมาบอกคนอื่นๆ ว่า “แป้งเม่ยหยานไม่มีปัญหาอะไรหรอก แต่ปัญหาคือมีคนใส่บางอย่างเข้าไป
จมูกมนุษย์แยกแยะไม่ได้แต่ไม่มีทางซ่อนจากจมูกหนูได้หรอก”
“อาจิ้ง หมายความว่า” หวังซือหยาตอนนี้หน้าเปลี่ยนสีเล็กน้อย
“โดนจัดฉากสินะ” ดงชุนพูดออกมาอย่างเลือดเย็น
ไม่ใช่ว่าพวกเธอจะไม่เคยได้ยินเรื่องพวกนี้มาก่อนเพราะฉะนั้นไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับพวกเธอแลย
แต่ประเด็นคือตอนนี้เป็นงานเปิดตัวสินค้าครั้งแรกแถมอยู่ต่อหน้านักข่าวมากมาย ถ้าหากมีเรื่องผิดพลาดนั่นคือการขุดหลุมฝังตัวเองในทันที
ทุกคนให้ความสนใจแต่เรื่องผงกระชับทรวงอกทำให้เปิดช่วงโหว่เรื่องแป้งเม่ยหยานไปซะได้ นี่คือผลลัพธ์จากการประมาทมากเกินไป