Genius Doctor Black Belly Miss - ตอนที่ 1407
ตอนที่ 1407 ขอเงินสนับสนุน (1)
พอรู้เช่นนั้น เหวินหยูก็เดาได้ทันที
เป็นไปได้ไหมว่าจวินอู๋เสียพบสุสานจักรพรรดิแห่งความมืดแล้ว?
เหวินหยูระงับความตกใจลงและสังเกตพวกของเฉียวฉู่ที่เดินทางไปพร้อมจวินอู๋เสียอย่างเงียบๆ แล้วเขาก็รู้ได้ทันทีว่าผู้เยาว์ทุกคนได้ทะลวงถึงขั้นสีม่วงแล้วเช่นกัน! แต่ที่ทำให้เหวินหยูสั่นได้จริงๆก็คือคนที่ยืนอยู่ข้างบัลลังก์ของจวินอู๋เสีย ชายที่ใบหน้าหล่อเหลาอย่างร้ายกาจ
ขนาดพลังระดับเขาก็ยังไม่สามารถตรวจจับพลังของผู้ชายคนนั้นได้!
สถานการณ์เช่นนี้ หมายความได้อย่างเดียวว่า พลังของชายคนนั้นสูงกว่าเขาหลายเท่า!
ข้างกายจวินอู๋เสียมียอดฝีมือเช่นนี้ซ่อนอยู่จริงๆ!
“ไม่ได้เจอฝ่าบาทมานาน สบายดีไหมพะย่ะค่ะ?” เล่ยเฉินถามด้วยรอยยิ้ม ไม่ได้รู้ถึงพลังที่เปลี่ยนแปลงไปของจวินอู๋เสียเลย
จวินอู๋เสียพยักหน้า
“ท่านมหาอำมาตย์ ท่านอ๋อง ฝ่าบาทกลับมาด้วยเรื่องสัตว์ประหลาดพวกนั้น พวกท่านบอกสิ่งที่รู้ทั้งหมดให้ฝ่าบาททราบด้วย” ฉูหลิงเย่กล่าวจากด้านข้าง น้ำเสียงของนางแตกต่างจากตอนที่พูดกับจวินอู๋เสีย
เล่ยเฉินพยักหน้าและแอบมองไปที่ฉูหลิงเย่ซึ่งบุคลิกเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ใครจะคิดว่าเด็กสาวที่เมื่อก่อนเคยไร้เดียงสาจะเปลี่ยนเป็นแบบนี้ได้? ในใจเกิดความรู้สึกหลากหลาย แต่เขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้เลย
เล่ยเฉินรับผิดชอบดูแลเรื่องการแจกจ่ายทรัพยากรและเสบียง ในสงครามจำเป็นต้องมีเงินทุน และเงินทุนที่ต้องใช้ในสงครามก็เรียกได้ว่ามหาศาล ถ้าแคว้นเหยียนปกป้องแค่ตัวเอง ด้วยความร่ำรวยของแคว้นเหยียน มันก็จะเป็นแค่น้ำหนึ่งหยดในมหาสมุทรเท่านั้น แต่แคว้นเหยียนได้ส่งทหารของตัวเองออกไปเป็นกำลังเสริมให้กับแคว้นอื่นๆอย่างต่อเนื่อง พวกอาวุธยุทธภัณฑ์ ยา เสบียงอาหารที่จำเป็นในการสนับสนุนกองกำลังเสริมจึงเพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณ
เลือดของคนพิษมีพิษรุนแรง ดินแดนที่แปดเปื้อนไปด้วยเลือดของพวกคนพิษจะกลายเป็นดินแดนแห้งแล้งปราศจากพืช มันได้ทำลายพื้นที่เพาะปลูกไปเป็นจำนวนมาก แหล่งอาหารจึงเสียไปเยอะ สงครามดำเนินติดต่อกันมาตลอดทั้งปี ในหนึ่งปีนี้ ความมั่งคั่งที่แคว้นเหยียนสะสมมาตลอดหลายปีก็ลดลงในอัตราที่น่าตกใจ
แม้ว่าแคว้นฉีและแคว้นเฉียวจะได้รับความมั่งคั่งของแคว้นจิ้วมา แต่เนื่องจากแคว้นจิ้วชื่นชอบการรบ พวกเขาเป็นแคว้นที่เปลี่ยนผลกำไรที่ได้จากการรบหนึ่งไปสู่การรบอีกหนึ่ง สมบัติในท้องพระคลังจึงร่อยหรอ พวกเขาจึงไม่มีผลประโยชน์อะไรให้เก็บเกี่ยวได้มากนัก
ดังนั้นแคว้นเหยียนไม่เพียงต้องจัดการเรื่องเสบียงให้กับกองทัพแคว้นเหยียนเท่านั้น แต่พวกเขายังต้องคำนึงถึงแคว้นฉีและแคว้นเฉียวด้วย
นั่นยิ่งทำให้สมบัติท้องพระคลังของแคว้นเหยียนถูกสูบออกไปเป็นจำนวนมาก จนตอนนี้มันว่างเปล่าแล้ว เล่ยเฉินกำลังกังวลว่าเขาจะหาเสบียงมาเพิ่มได้ยังไง
นี่เป็นครั้งแรกที่แคว้นเหยียนต้องกังวลเรื่องเงินนับตั้งแต่ก่อตั้งแคว้นขึ้นมา
แต่ในปัจจุบัน โลกกำลังเกิดกลียุคขึ้น ไม่มีแคว้นไหนที่มีสมบัติมากมายในท้องพระคลัง ดังนั้น ต่อให้เขาอยากกู้ฉุกเฉินก่อน ก็ไม่มีใครมีให้กู้
พลังในการต่อสู้ พวกเขามีแล้ว แต่ตอนนี้พวกเขาต้องการเงิน เล่ยเฉินอยากจะร้องไห้แต่ก็ไม่มีน้ำตาไหลออกมา
“ข้าได้สั่งให้คนระดมทุนจากพวกคนรวยในแคว้นแล้ว หวังว่าเราจะสามารถยื้อไว้ได้อีกสักพัก สถานการณ์ของแคว้นเหยียนเรายังไม่ถึงกับเลวร้าย แต่แคว้นฉีและแคว้นเฉียวกำลังแย่ ไม่รู้ว่าจะอยู่ได้นานแค่ไหน” ในช่วงสงคราม การทำให้ประชาชนรู้สึกมั่นคงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด แคว้นเหยียนไม่เพียงต้องเลี้ยงดูประชาชนของตัวเอง พวกเขายังต้องดูแลผู้ลี้ภัยจากแคว้นอื่นๆด้วย
โชคดีที่แคว้นเหยียนร่ำรวยมั่งคั่ง และประชาชนก็เข้มแข็ง ไม่อย่างนั้นพวกเขาคงไม่สามารถรับภาระได้
“ไม่ต้องทำอะไรให้ยุ่งยากแล้ว” จวินอู๋เสียพูดขึ้นทันที
เล่ยเฉินมองจวินอู๋เสียอย่างประหลาดใจ
“แต่ฝ่าบาท……” พวกเขาไม่มีเงินแล้วจริงๆ……
“เย่เจี๋ย” จวินอู๋เสียหันหน้าไปเรียกเด็กหญิงที่ซ่อนตัวอยู่มุมหนึ่ง ซึ่งกำลังอุ้มหนูแฮมสเตอร์ตัวน้อยเอาไว้ในมือ
เย่เจี๋ยที่ได้ยินชื่อตัวเองถูกเรียก ก็เงยหน้าขึ้นอย่างประหม่า