Genius Doctor Black Belly Miss - ตอนที่ 1633 การจากที่เจ็บปวดที่สุด (1)
ตอนที่ 1633 การจากที่เจ็บปวดที่สุด (1)
แม้ว่าการฝึกฝนของสํานักธาราเมฆจะทั้งโหดและน่าเบื่อ แต่พวกเขาพัฒนาได้เร็วกว่าสถิติ เมื่อก่อนของตัวเอง พวกเขาเพิ่งปรับตัวให้เข้ากับความโหดของสํานักธาราเมฆได้และเตรียมใจฝึกหนักเอาไว้แล้ว แล้วจู่ๆสํานักธาราเมฆก็บอกว่าพวกเขาไปได้แล้วเนี่ยนะ?
ในตอนนั้น เหล่าศิษย์ใหม่ทุกคนไม่สามารถยอมรับการตัดสินใจนี้ได้เสียงถกเถียงดังขึ้นเป็นระลอก
สําหรับพวกรุ่นพี่ที่อยู่ที่นี่มาหลายปีหรือมากกว่าสิบปีล้วนถอนหายใจอย่างโล่งอก เทียบกับความเสียใจของพวกเด็กใหม่แล้ว พวกรุ่นพี่ฝึกมามากพอจนมองไม่เห็นหนทางข้างหน้า พวกเขารู้สึกว่าตัวเองค่อนข้างเก่งพอตัว และคิดว่าเก่งมากพอที่จะกลับไปรายงานตัวต่อวิหารของ พวกเขาเพื่อสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองได้แล้ว
ในสํานักธาราเมฆ ปฏิกิริยาของเหล่าผู้เยาว์จึงแบ่งออกเป็น 2 แบบ
หนึ่งคือน้ําตาแห่งความดีใจจากพวกรุ่นพี่ และอีกหนึ่งคือการขบเขี้ยวเคี้ยวฟันของพวกเด็กใหม่
แต่ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน พวกเขาก็ไม่สามารถเปลี่ยนการตัดสินใจของสํานักธาราเมฆได้
หลังจากจวินอู๋เสียรู้ข่าวก็ตกตะลึงไปเล็กน้อย นางมองซูหย่าที่นั่งอยู่โซฟานุ่มด้วยแววตาชับซ้อน
วันนี้เป็นโอกาสหายากที่ซูหย่าไม่ดื่มเหล้า นางนั่งอยู่เงียบๆ ไม่รู้ว่ากําลังคิดอะไรอยู่ หลังจากนั้นพักใหญ่ นางก็ตบที่นั่งข้างตัวและพูดว่า “มานั่งนี้”
จวินอู๋เสียนั่งลงอย่างเชื่อฟัง
“มาคิดดูแล้ว เจ้าอยู่ที่นี่มาเกือบปีแล้วซินะ ข้านึกว่าจะได้เห็นเจ้าขอี้เด็กเวรพวกนั้นหลังจากผ่านไปหนึ่งปี น่าเสียดายดูเหมือนจะไม่มีโอกาสนั้นแล้ว” น้ําเสียงของซูหย่าแฝงความเสียใจพูดตามตรง จวินอู๋ไม่ใช่ศิษย์ที่ช่างพูด เขาไม่ค่อยพูดและไม่โวยวาย เอาแต่เงียบทุกวันจนทําให้คนมองข้ามได้ง่ายๆ
แต่สิ่งที่นางทําในความเงียบนั้นมากกว่าที่คนอื่นทํา
สาขาจ้าววิญญาณทุกชั้นถูกจวินอู๋เสียทําความสะอาดเป็นระยะ ตอนที่ซูหย่าดื่มจนหลับไป จวินอู๋เสียก็จะเอาผ้าห่มผืนเล็กๆที่เตรียมไว้เป็นพิเศษมาห่มให้นาง และทุกครั้งที่ซูหย่าตื่นขึ้นมาพร้อมกับอาการเมาค้าง นางก็มักจะพบชามใส่ซุปแก้เมาค้างวางอยู่ข้างโซฟารสชาติเบาๆพร้อม กับความหวานจางๆทําให้กินง่ายขึ้น
บางครั้งซูหย่าก็อดคิดไม่ได้ว่าการมีศิษย์เช่นนี้อาจเป็นการชดเชยรูปแบบหนึ่งที่สวรรค์มอบให้กับนาง จวินอู๋เสียไม่เคยทําให้นางต้องกังวล แต่จะคอยดูแลนางที่เป็นอาจารย์แทน แม้ว่านางจะดื่มมากเกินไปจนอาละวาด จวินอู๋เสียก็ยังเดินตามหลังนางอย่างเงียบๆ คอยเก็บกวาดให้นางโดยไม่ปริปากบ่นสักคํา
ซูหย่ามองไปที่จวินอู๋เสีย หน้าตาเขาดูธรรมดาอย่างเห็นได้ชัด แต่ยิ่งนางมองใบหน้านั้นเท่าไร นางก็ยิ่งรู้สึกว่าศิษย์ตัวน้อยของนางน่ารักน่ามองมากกว่าใครทั้งนั้น
นางอยากคอยชี้แนะสั่งสอนศิษย์คนนี้ของนางต่อ
นางยังไม่ได้สอนทุกอย่างให้กับจวินอู๋เลย ทําไมพวกเขาต้องแยกจากกันแล้วล่ะ?
จวินอู๋เสียนั่งมองซูหย่าเงียบๆ อาจเป็นเพราะเพื่อนส่วนใหญ่รอบตัวนางเป็นผู้ชายและคนในครอบครัวของนางก็ไม่มีผู้หญิง ซูหย่าจึงให้ความรู้สึกที่แตกต่าง เป็นทั้งอาจารย์และเป็นยิ่งกว่าแม่
ซูหย่าอาจแสดงความรู้สึกไม่เก่งและดูแลคนได้ไม่ดี แต่นางก็มีวิธีของตัวเองในการปกป้องจวินอู๋เสีย
อย่างที่ซูหย่าเคยบอกไว้ ศิษย์ของนางต้องไม่ถูกใครรังแก
การปกป้องนางอย่างดุเดือดเช่นนี้ สําหรับจวินอู๋เสียที่เคยชินกับการแก้ปัญหาด้วยตัวเองนี้ เป็นสิ่งที่ให้ความรู้สึกแปลกใหม่และอบอุ่นในหัวใจ
“เด็กโง่ ไปแล้วก็อย่าลืมอาจารย์ล่ะ! ไม่งั้นต่อให้ไกลจนสุดหล้าฟ้าเขียว แม่จะตามไปอัดเจ้าให้กระอักเลือดเลย!” ซูหย่ายกมือขึ้นลูบหัวจวินอู๋เสีย แม้ว่าจะหัวเราะ แต่นางไม่มีความสุขเลยสักนิด