Genius Doctor Black Belly Miss - ตอนที่ 1637 การจากที่เจ็บปวดที่สุด (5)
ตอนที่ 1637 การจากที่เจ็บปวดที่สุด (5)
“ไม่พูดถึงเรื่องนี้แล้ว ไอ้เวรนั่นไม่มีอะไรดีเทียบเจ้าได้ มาๆๆ อาจารย์มีอะไรจะให้เจ้า” ซูหย่าบัดความหดหูในใจออกไป นางดึงกําไลออกมาจากกระเป๋ามิติของนาง กําไลนั่นทําจากทองคําและฝังด้วยอัญมณีหลากชนิด งามจับตาอย่างมาก
“ถ้าวันหน้าเจ้ามีโอกาสได้ไปที่โลกวิญญาณ และคนที่นั่นกล้ามาขวางเจ้า เจ้าเอาสิ่งนี้ให้พวกเขาดู แล้วพวกเขาจะปล่อยเจ้าเข้าไปทันที ข้าไม่มีอะไรจะให้เจ้ามากนัก ถือซะว่านี่เป็นของขวัญชิ้นสุดท้ายจากอาจารย์” ซูหย่าดึงมือจวินเสียใส่กําไลทองให้ กําไลทองนั้นไม่เล็กแต่เมื่ออยู่บนข้อมือของจวินอู๋เสีย มันก็หดลงจนได้ขนาดที่พอดี
“เจ้าหนู ถ้ามีโอกาส อาจารย์จะไปหาเจ้า แต่อย่ากลับมาที่สํานักธาราเมฆอีก ไม่งั้นเจ้าจะถูกโยนออกไป” ซูหย่าพูดพลางหัวเราะ
จวินอู๋เสียมองกําไลที่ข้อมือด้วยความรู้สึกอบอุ่นในหัวใจ
นางลุกขึ้นและเดินไปตรงหน้าซูหย่า จากนั้นก็คุกเข่าลงและโขกศีรษะคํานับ 3 ครั้งต่อหน้าซูหย่า ทุกครั้งที่คํานับ เสียงกระแทกดังก้องชัดเจน
ซูหย่ามองดูด้วยรอยยิ้มกว้าง ดวงตามีน้ําตาคลอ
ก่อนจวินอู๋เสียจากไป นางได้ทิ้งยาไว้ให้ซูหย่า 1 ขวด นั่นเป็นยาที่ทําจากเมล็ดบัวของบัวน้อย มันสามารถใช้รักษาชีวิตหนึ่งเอาไว้ในช่วงเวลาที่วิกฤตที่สุดได้ ยานั้นทํายากมาก ยาแต่ละเม็ดต้องใช้เมล็ดบัวทําถึง 5 เมล็ด จนถึงตอนนี้จวินอู๋เสียสามารถทํายานี้ได้แค่ 5 เม็ดเท่านั้นนางให้จวินเสี่ยนกับจวินชิงไว้ 2 เม็ด ส่วนที่เหลืออีก 3 เม็ดนางให้กับซูหย่า
หลังจากกล่าวคําอําลาครั้งสุดท้าย จวินอู๋เสียก็กลับไปที่ห้องของนาง เหล่าเด็กใหม่ในหอพักลุกลี้ลุกลนกันเล็กน้อย พวกเขาไม่อยากจากไปเร็วขนาดนี้ พวกเขารู้สึกว่ายังฝึกฝนได้ไม่มากพอก็ไม่มีโอกาสอยู่ที่นี่ต่อแล้ว
เมื่อมาถึงหน้าประตูห้องของนาง จวินอูเสียก็เห็นคู่ซินเยียนยืนอยู่ตรงข้าม นางยืนอยู่เงียบๆที่หน้าห้องท่ามกลางเสียงเอะอะโวยวายรอบๆตัว สายตาของนางจับจ้องอยู่ที่ร่างของจวินอู๋เสียดูเหมือนว่านางมีอะไรบางอย่างที่อยากจะพูดกับจวินอู๋เสีย
จวินอู๋เสียไม่ได้รีบไป แต่ยืนมองหน้ากันกับคู่ชินเยียนอยู่อย่างนั้น
พูดกันตามจริง ถ้าเอาเรื่องที่จวินอู๋เสียเป็นศัตรูกับสิบสองวิหารออกไป และยึดตามตัวของซินเยียนเอง จวินอู๋เสียจะรู้สึกว่าคู่ชินเยียนก็ไม่ใช่คนเลวร้ายไปซะทั้งหมด ถ้าเรื่องทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในเวลาอื่น และพวกเขาเป็นคนอื่น ทั้งสองคงเป็นเพื่อนกันได้
น่าเสียดาย
คู่ซินเยียนมองจวินอู๋เสียอยู่นานราวกับอยากจะประทับภาพของจวินอู๋เสียให้ลึกลงไปในจิตวิญญาณของนาง จากนั้นนางก็ก้มหน้าและหันหลังกลับเข้าห้องของตัวเองอย่างเงียบๆเพื่อไปเก็บข้าวของของตน
จวินอู๋เสียก็กลับเข้าห้องของตัวเองเช่นกัน
จนกระทั่งประตูห้องปิดลง ก่ซินเยียนก็เอนหลังพิงประตูและเริ่มสะอื้นออกมาอย่างเงียบๆนางเลื่อนตัวลงไปนั่งบนพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง สองมือปิดปากแน่นไม่ยอมให้เสียงสะอื้นเล็ดลอดออกมา
ก่ซินเยียนรู้อย่างชัดเจนว่า ตอนที่อยู่ในสํานักธาราเมฆ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นระหว่างวิหารมารโลหิตกับจวินอู๋ พวกเขาก็ยังสามารถเห็นหน้ากันได้บ้างเป็นครั้งคราว แม้ว่านางจะได้แต่แอบมองเขาจากระยะไกลเท่านั้นก็ตาม แต่เมื่อพวกเขาออกจากสํานักธาราเมฆ ด้วยความที่นางเป็นลูกสาวของประมุขวิหารมารโลหิต ก็มีแต่จะต้องเป็นศัตรูกับจวินอู๋เท่านั้น ไม่มีวันจะเสียบสงบเช่นนี้อีกแล้ว
แม้ว่านางจะไม่ได้พูดอะไรกับจวินอู๋เลยในช่วงนี้ แต่มันก็ยังดีกว่าให้พวกเขาต่อสู้กัน
การจากกันเป็นเรื่องที่เจ็บปวดที่สุด ไม่มีใครรู้ว่าภายในสํานักธาราเมฆนั้น มีความเสียใจและเจ็บปวดมากแค่ไหน
ในตอนที่พระอาทิตย์กําลังตกดิน ศิษย์ทุกคนของสํานักธาราเมฆไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเก็บข้าวของออกจากภูเขาที่คุ้นเคยแห่งนี้ และก้าวออกไปสู่อนาคตที่เป็นของตัวเองอย่างแท้จริง