Genius Doctor Black Belly Miss - ตอนที่ 1650 ทั้งหมดเป็นการแสดง (2)
ตอนที่ 1650 ทั้งหมดเป็นการแสดง (2)
ผู้อาวุโสของวิหารมังกรตะลึงไปเล็กน้อย เขามองเฟยเหยียนที่กําลังร้องไห้สะอึกสะ อื่นพลางเช็ดน้ําตา คําถามทั้งหมดที่เตรียมไว้สลายไปอย่างรวดเร็ว
[แม่หนูนี่จะอารมณ์อ่อนไหวเกินไปไหม?]
เพียงแค่มองดูเฟยเหยียนสะอึกสะอื้นอย่างหนักจนแทบหายใจไม่ทัน มันดูเหมือนเขาได้รับค วามคับแค้นใจอย่างใหญ่หลวง ทําให้คนรู้สึกสงสารและเห็นใจเขาทันที และไม่สามารถใช้คําพูด ที่รุนแรงกับเขาได้เลยแม้แต่คําเดียว
“โธ่ อย่าเพิ่งร้องไห้ซิ ถ้ามีเรื่องคับข้องใจอะไรก็บอกข้า เจ้าเป็นคนของวิหารมังกรแล้ว วิ หารมังกรจะไม่ยอมให้ศิษย์ของตัวเองโดนรังแกอยู่ข้างนอกนั่นหรอก” ผู้อาวุโสไม่มีทางเลือกนอก จากทําเสียงอ่อนลงเล็กน้อย
เฟยเหยียนกระพริบตาที่มีน้ําตาคลออยู่เต็มและสูดน้ํามูกอย่างน่าสงสารขณะมองไปที่ผู้อาวุโส
“จริง…จริงหรือ? วิหารไม่ได้ไม่ต้องการข้าเพราะข้าสร้างปัญหาให้หรอกหรือ? ฮือๆๆ ข้าไม่ได้ตั้งใจจริงๆ เจ้าคนนั้นต่างหากที่เลว ข้าอยากจะหนีแต่เขาดึงเสื้อผ้าข้า ไม่ให้ข้าขยับ ได้เลย ข้าไม่มีทางเลือก ต้องเรียกภูติประจําตัวออกมา ข้าไม่ได้อยากทําร้ายเขา ข้าแค่ แค่…” เฟยเหยียนพูดไปได้ไม่กี่คําก็เริ่มร้องไห้อีก หยดน้ําตาเท่าเม็ดถั่วร่วงหล่นลงมาอย่างต่อ เนื่อง ใบหน้าเล็กของเขาแดงจากการร้องไห้
เฟยเหยียนนั้นงดงามมากอยู่แล้ว ยามนี้ดอกสาลี่ต้องหยาดฝนก็ยิ่งดูน่าสงสารน่าทะนุถนอม เข้าไปอีก ศิษย์ของวิหารมังกรหลายคนที่ยืนอยู่ด้านข้างเห็นหญิงงามต้องเศร้าเสียใจก็พา กันใจสลาย ในใจของพวกเขาคิดขึ้นมาทันที่ว่าไอ้คนสารเลวจากวิหารจิงหงต้องชั่วร้ายและไร้หัว ใจเพียงใด พวกเขาอยากจะลากสัตว์นรกตัวนั้นมากระทืบเต็มที่!
“ไม่ๆ เจ้าเป็นคนของวิหารมังกรเรา เราต้องปกป้องเจ้าอยู่แล้ว” ผู้อาวุโสรีบพูด เขาไม่ ได้หลงเสน่ห์ “ความงาม” ของเฟยเหยียน แต่คําพูดที่เฟยเหยียนพูดพลางร้องไห้สะอึกสะอื้นนั้น มีจุดที่น่าสังเกตอยู่จุดหนึ่ง
นั่นคือภูติประจําตัวของนาง!
เฟยเหยียนเข้าร่วมงานชุมนุมเทพยุทธ์ในส่วนของการแข่งภูติประจําตัว และการแข่งภูติป ระจําตัวนี้ให้ความสําคัญกับความแข็งแกร่งของภูติประจําตัวมากกว่า แต่พลังวิญญาณของตัวผู้ แข่งขันเองนั้นไม่ได้สําคัญอะไร
เฟยเหยียนมาจากเผ่าลิงยักษ์ แม้ว่าคนจากเผ่าลิงยักษ์จะเกิดมาพร้อมกับความแข็งแกร่งที่ไม่ มีใครเทียบได้ แต่ก็มีข้อจํากัดอยู่
นั่นคือผู้ชายของเผ่าลิงยักษ์มักจะเกิดมาพร้อมพละกําลังอันยิ่งใหญ่ แต่ผู้หญิงของเผ่านั้นจะ อ่อนแอกว่าผู้หญิงทั่วไปเล็กน้อย
พอนึกถึงเรื่องนั้นขึ้นมาได้ การที่เฟยเหยียนไม่สามารถขัดขืนคนจากวิหารจิงหงก็ดูเหมือน จะเป็นไปได้ขึ้นมา ยิ่งกว่านั้น ความแข็งแกร่งของเฟยเหยียนก็มาจากภูติประจําตัวของนาง เป็นหลัก ไม่ได้มาจากพลังวิญญาณของตัวนางเอง แม้ว่านางจะมีพลังที่แข็งแกร่งอยู่ไม่น้อย แต่ เจ้าคนจากวิหารจิงหงก็เป็นหนึ่งในสามอันดับแรกที่มีพลังวิญญาณแข็งแกร่งที่สุด เมื่อประเมินข้อ เท็จจริงอีกครั้ง การที่เฟยเหยียนจะถูกเจ้าคนนั้นควบคุมตัวไว้ได้ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เลย
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
ผู้อาวุโสมองเฟยเหยียนที่ยังคงร้องไห้น้ําตาร่วงเป็นสายฝน ด้วยรูปลักษณ์ที่โดดเด่นของเฟย เหยียนและบุคลิกที่ “อ่อนแอบอบบาง” ของนาง คงเป็นเรื่องยากสําหรับเด็กหนุ่มกลัด มันพวกนั้นจะควบคุมแรงกระตุ้นของตัวเองที่มีต่อเฟยเหยียนได้
ผู้อาวุโสค่อนข้างเชื่อไปหลายส่วนแล้ว ก่อนที่เขาจะเรียกเฟยเหยียนออกมา เขาได้สอบถา มพวกผู้เยาว์ที่เข้าสํานักธาราเมฆพร้อมกับเฟยเหยียนเกี่ยวกับเรื่องของเฟยเหยียน เช่น ลักษณะ นิสัยและอารมณ์ของนางตอนอยู่ในสํานักว่าเป็นอย่างไร เป็นต้น
และสิ่งที่ผู้เยาว์พวกนั้นบอกเขาก็ตรงกับสิ่งที่ผู้อาวุโสได้เห็นในตอนนี้
พูดกันว่าตอนที่เฟยเหยียนอยู่ในสํานัก นางก็ “อ่อนแอบอบบาง” เช่นนี้อยู่แล้ว ไม่เคย เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับความขัดแย้งใดๆ เป็น “เด็กสาว” ที่น่ารักเฉลียวฉลาดและว่านอนสอนง่าย