Genius Doctor Black Belly Miss - ตอนที่ 1689 เวทีประลอง (1)
ตอนที่ 1689 เวทีประลอง (1)
ศิษย์ของวิหารจิงหงพาเหล่าผู้เยาว์จากสิบสองวิหารไปท่องเที่ยวชมดอกไม้ ส่วนแขกคนอื่นที่ไม่ได้มาจากสิบสองวิหารทําได้แค่อยู่แต่ในห้องพักและไม่กล้าเดินเตร่ไปทั่ว
แต่การไปเดินดูภูเขาทะเลสาบชมดอกไม้ใบหญ้านั้นเป็นเรื่องที่น่าเบื่อเกินไปสําหรับผู้เยาว์จากสิบสองวิหาร เพียงไม่นานก็มีคนโอดครวญว่าเหนื่อยและอยากกลับแล้ว
ศิษย์วิหารจิงหงรายงานเรื่องนี้ให้กับผู้อาวุโสของวิหารจิงหงทันที
และนี่ไม่ใช่สิ่งที่ผู้อาวุโสของวิหารจิงหงอยากได้ยิน
“ยังมีเวลาอีกหลายวัน การปล่อยให้คนกลุ่มใหญ่อยู่ในวิหารจิงหงเราเป็นเรื่องอันตราย อาจมีสายลับที่วิหารอื่นส่งมาอยู่ในหมู่พวกเขาก็ได้” ผู้อาวุโสคนหนึ่งกล่าวด้วยใบหน้าเคร่งขรึม
ทุกคนคิดว่างานวันเกิดของประมุขพวกเขามีแขกมาร่วมอวยพรมากมายเป็นเรื่องที่น่ายินดี แต่ความจริงแล้ว วิหารจิงหงไม่ได้รู้สึกยินดีเลยแม้แต่น้อย ของขวัญที่คนพวกนั้นนํามา ไม่ว่าจะดีเลิศสักเพียงใด สําหรับอํานาจของวิหารจิงหงแล้วมันก็ไม่ใช่สิ่งที่หายากมากขนาดนั้น แต่พวกผู้เยาว์ที่มาจากวิหารอื่นๆที่นําของขวัญมาให้นี่ซิที่ทําให้วิหารจิงหงกังวลมากที่สุด พวกเขากลัวมากว่าจะมีคนที่มีเจตนาซ่อนเร้นแฝงตัวอยู่ในกลุ่มผู้เยาว์พวกนี้
ช่วงนี้ความสัมพันธ์ระหว่างสิบสองวิหารค่อนข้างตึงเครียด ไม่มีใครกล้าหงายไพ่ของตัวเองให้วิหารอื่นเห็น แต่งานฉลองวันเกิดไม่ใช่งานทั่วไปที่สามารถหลีกเลี่ยงได้ และยังเป็นกฎของสิบสองวิหารด้วย วิหารจิงหงย่อมไม่สามารถปฏิเสธได้ ทําได้เพียงเปิดประตูรับกลุ่มคนที่มีเจตนาไม่ดีเข้ามา
การยอมให้เข้ามาในวิหารจิงหงก็เป็นขีดจํากัดของพวกเขาแล้ว ถ้าพวกเขาไม่ออกมาตรการควบคุมและปล่อยให้ทุกคนเดินเพ่นพ่านในวิหารจิงหงได้ตามใจชอบล่ะก็ นั่นจะอันตรายเกินไป
“เมื่อคืน หลังงานเลี้ยงจบ เรื่องที่ว่าเห็นเงาคนน่าสงสัยนั่น ตรวจสอบได้รึยังว่าเป็นคนของวิหารไหน?” ผู้อาวุโสของวิหารจึงหงถามอย่างเป็นกังวล หลังงานเลี้ยงเมื่อคืนจบลง ทุกคนควรกลับไปที่ห้องของตัวเอง แต่หน่วยลาดตระเวนของวิหารจิงหงพบใครบางคนแอบซุ่มอยู่ น่าเสียดายที่จับคนผู้นั้นไม่ได้
แค่วันที่สองก็มีใครบางคนจากสิบสองวิหารพยายามลงมือเคลื่อนไหวแล้ว ถ้าเป็นแบบ นี้ต่อไป พวกเขาควรทําอย่างไรดี?
“ยังขอรับ” ศิษย์คนหนึ่งของวิหารจึงหงตอบ
ใบหน้าของผู้อาวุโสมืดครื้มลงทันที พร้อมกับด่าว่า “ไอ้พวกโง่ไร้ประโยชน์!”
“ท่านผู้อาวุโส พวกเราควรจัดการกับเรื่องนี้ยังไงดีขอรับ? แขกทุกคนเริ่มหงุดหงิดแล้ว” ศิษย์คนนั้นถามอย่างลําบากใจ
ผู้อาวุโสขมวดคิ้ว “ในเมื่อพวกนั้นเริ่มเบื่อกันแล้ว งั้นก็จัดเวทีประลองให้ระบายพลังกันหน่อย จะได้ช่วยเบี่ยงเบนความสนใจพวกนั้นด้วย ยังไงซะไอ้แก่ที่นั่งอยู่ในวิหารพวกนั้นก็อยากอวดอยู่แล้วว่าศิษย์รุ่นใหม่ของพวกเขาแข็งแกร่งขนาดไหน เราก็ให้โอกาสที่พวกเขาอยากได้ซะเลย ไปบอกพวกเขาว่าผู้ชนะที่ยืนหยัดได้เป็นคนสุดท้ายจะได้รับรางวัลที่วิหารจึงหงจัดเตรียมไว้ให้”
“ท่านผู้อาวุโสพวกเขาจะยอมก้าวเข้าสู่เวทีประลองจริงๆหรือขอรับ?” ศิษย์คนนั้นสงสัยเล็กน้อย สิ่งที่วิหารจิงหงสามารถให้เป็นรางวัลได้ย่อมเป็นของเล็กน้อยและวิหารอื่นก็คงมีเหมือนกันอยู่แล้ว การใช้ของเล็กน้อยนั้นเป็นเหยื่อล่อจะสามารถโน้มน้าวใจให้ผู้เยาว์พวกนั้นก้าวเข้าสู่เวทีประลองได้อย่างไร?
ผู้อาวุโสพูดเย้ยหยันว่า “เจ้าจะรู้อะไร? นั่นเป็นแค่ข้ออ้างเท่านั้น คนที่มาที่นี่ไม่เพียงพยายามตรวจสอบสถานการณ์ที่แท้จริงในวิหารจิงหงของเรา แต่ยังอยากประเมินวิหารอื่นๆด้วย เรามอบโอกาสทองให้ขนาดนี้แล้ว ต่อให้ไม่มีรางวัล พวกเขาก็ยังลงประลองอยู่ดี”
วิหารไหนจะอยากถูกจัดให้เป็นอันดับล่างสุดบ้าง? มีใครบ้างที่จะไม่ต่อสู้อย่างสุดกําลังเพื่อไต่อันดับขึ้นไป?
งานเลี้ยงที่วิหารจิงหงจัดขึ้นครั้งนี้ แค่ดูคนที่วิหารต่างๆเลือกส่งมาที่นี่ ก็เห็นได้ชัดแล้วว่าทุกวิหารต้องการอวดความแข็งแกร่งของตน
น่าเสียดายที่วิหารจิงหงไม่มีศิษย์ที่มีพรสวรรค์ในรุ่นใหม่นี้เลยสักคน ทําให้พวกเขาโกรธมากจนแทบกระอักเลือดเลยทีเดียว