Genius Doctor Black Belly Miss - ตอนที่ 1765
ตอนที่ 1765 คนบาปไม่อาจอยู่ (4)
“เป็นไปไม่ได้……เป็นไปไม่ได้……ท่านประมุขท่านโกหกข้าใช่ไหม? ศิษย์พี่หมิงซิน……นางจะถูกคุณชายกู่ฆ่าได้ยังไง……เป็นไปไม่ได้……นี่ต้องไม่ใช่ความจริง……ไม่จริง……” จื่อจินทำราวกับสูญเสียจิตวิญญาณไปแล้ว นางส่ายหน้า น้ำตาเม็ดโตร่วงหล่นลงมาจากดวงตาไม่หยุด
นางไม่อยากจะเชื่อเลยว่าหมิงซินที่เป็นเหมือนพี่สาวของนางถูกกู่อิ่งฆ่าตายจริงๆ……
ประมุขวิหารหยกวิญญาณมองจื่อจินด้วยความเจ็บปวดอย่างมากเขาก้มหน้าลงและยกนิ้วขึ้นชี้ไปยังศิษย์ของวิหารหยกวิญญาณที่นิ่งเงียบพูดไม่ออกอยู่ด้านข้าง
“พวกเจ้าบอกนาง……หมิงซินตายยังไง!”
ชั่วพริบตาเหล่าเด็กสาวของวิหารหยกวิญญาณก็พากันคุกเข่าลง สีหน้าไม่เต็มใจ พลางปิดหน้าสะอื้นเบาๆ
ปฏิกิริยาของพวกนางทำให้จื่อจินยิ่งร้อนรนนางเงยหน้าขึ้นมองเหล่าพี่น้องที่ปกติจะเต็มไปด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ
“หมิงซินตายได้ยังไง……นาง……ตายยังไง?”เสียงของนางสั่น กลัวว่าคำตอบที่จะได้ยินจะทำให้นางสิ้นหวัง
“จื่อจิน……ท่านประมุข……ท่านประมุขพูดความจริง……หมิงซินนาง……ถูกกู่อิ่งฆ่าตายตอนเราพบศพนาง ดวงตาของนาง……” หญิงสาวที่พูดขึ้นไม่สามารถพูดต่อไปได้
การตายของหมิงซินไม่ใช่ความลับในวิหารหยกวิญญาณคนเดียวที่ถูกปิดไม่ให้รู้เรื่องมีเพียงจื่อจินที่สนิทสนมกับหมิงซินราวกับพี่น้องจริงๆ
จื่อจินล้มลงไปกองกับพื้นอย่างสิ้นหวังดวงตาเบิกกว้างแดงก่ำ น้ำตาหยดลงบนพื้นตรงหน้าทำให้พื้นเปียก จื่อจินเห็นเงาสะท้อนของตนเองบนพื้นที่ใสสว่าง ดูน่าสมเพช ทรุดโทรมและซีดเซียว ช่างโง่เขลานัก……
ทันใดนั้นนางก็นึกถึงคำพูดของจวินอู๋เสียก่อนหน้านี้
ตอนที่กู่อิ่งอยู่ในสำนักธาราเมฆเพียงเพราะเขาคิดว่าเด็กสาวคนหนึ่งมีดวงตาที่สวยงาม จึงได้ควักตาของนางออก นางคิดว่าจวินอู๋เสียแค่หาข้ออ้างให้กับการกระทำของตัวเองและตั้งใจทำให้ชื่อของกู่อิ่งแปดเปื้อน แต่ตอนนี้นางรู้แล้ว
ทั้งหมดนั่นคือความจริง!
คำพูดของจวินอู๋อาจจะไม่เป็นความจริงได้แต่ท่านประมุขและศิษย์พี่น้องของนางไม่มีวันโกหกนางเรื่องการตายของหมิงซิน
ความเชื่อมั่นศรัทธาและความไร้เดียงสาที่จื่อจินยึดมั่นมาโดยตลอดก็พังทลายลงในตอนนั้นเองนางนอนสะอื้นไห้คร่ำครวญอยู่บนพื้น สำนึกเสียใจในความโง่เขลาของตัวเอง
เมื่อประมุขวิหารหยกวิญญาณเห็นจื่อจินในสภาพเช่นนั้นหัวใจของเขาก็เจ็บปวด เขาอดทนข่มกลั้นความเสียใจและเงยหน้าขึ้นมองจวินอู๋เสีย ใบหน้าหล่อเหลาของเขาดูเหน็ดเหนื่อยและอ่อนล้า
“คุณชายจวินเจ้าไม่ได้ทำผิด เจ้าได้ทำตามข้อตกลงแล้ว เจ้าคือเด็กหนุ่มที่ฉลาดที่สุดที่ข้าเคยเจอ” ประมุขวิหารหยกวิญญาณพูดอย่างจริงใจ เขาคิดว่าจวินอู๋เสียไปที่วิหารจิงหงเพื่อดูว่าจะหาโอกาสได้รึเปล่าเท่านั้น ไม่ได้คาดคิดเลยว่าเด็กคนนี้จะสามารถรักษาคำพูดและก่อความโกลาหลวุ่นวายขึ้นในสิบสองวิหารได้จริงๆ
แค่ได้ยินคำร้องเรียนของจื่อจินเมื่อครู่ประมุขวิหารหยกวิญญาณก็เดาได้ถึงความวุ่นวายที่ปะทุขึ้นในวิหารจิงหง
การที่ประมุขน้อยของวิหารมารโลหิตสังหารประมุขน้อยของวิหารมังกรและเหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นระหว่างงานฉลองวันเกิดของประมุขวิหารจิงหงก็สามารถจินตนาการได้เลยว่า ไม่ว่าจะเป็นวิหารมารโลหิตที่เป็นคนร้าย หรือวิหารมังกรที่เป็นเหยื่อ กระทั่งวิหารจิงหงที่เป็นเจ้าภาพงานวันเกิด ทั้งหมดต้องประสบกับความโกลาหลอลหม่านด้วยการลงมือเพียงครั้งเดียวของจวินอู๋เสีย
การตายของจูเก๋ออินจะกลายเป็นความแค้นที่ไม่มีวันจบสิ้นระหว่างสามวิหารความตายเท่านั้นที่จะหยุดพวกเขาได้!
จากนี้ไปวิหารมังกรจะไม่ปล่อยให้วิหารมารโลหิตได้อยู่อย่างสงบและทั้งสองวิหารที่จะเป็นพันธมิตรกันก็กลายเป็นศัตรูคู่อาฆาต
ใครจะคิดว่าทั้งหมดนี้เกิดขึ้นด้วยน้ำมือของจวินอู๋เสียเพียงคนเดียว?
ประมุขวิหารหยกวิญญาณยอมรับนับถือจวินอู๋เสียจนหมดใจ
ตอนที่ 1766 คนบาปไม่อาจอยู่ (5)
ใครจะคิดว่าทั้งหมดนี้เกิดขึ้นด้วยน้ำมือของจวินอู๋เสียเพียงคนเดียว?
ประมุขวิหารหยกวิญญาณยอมรับนับถือจวินอู๋เสียจนหมดใจ
จวินอู๋เสียไม่ได้แสดงอาการดีใจใดๆเนื่องจากคำชมเชยของประมุขวิหารหยกวิญญาณไม่ได้ทำให้นางรู้สึกว่ามีอะไรน่ายินดี ตรงกันข้าม……
“ในเมื่อเราเป็นพันธมิตรกันงั้นวันนี้ข้าจะมอบให้ท่านอีกสักประโยค” จวินอู๋เสียพูด
“เชิญพูด”ประมุขวิหารหยกวิญญาณกล่าว
“ระวังวิหารมารโลหิตเอาไว้กู่อิ่งรู้แล้วว่าจื่อจินมาจากวิหารหยกวิญญาณ” จวินอู๋เสียทิ้งประโยคนั้นเอาไว้อย่างไม่แยแส นางไม่อยากอยู่ในวิหารหยกวิญญาณต่ออีกแม้แต่นาทีเดียว ประมุขวิหารหยกวิญญาณฉลาดมากและสามารถเข้าใจสถานการณ์ได้ แต่เขาก็ไม่ได้พูดเรื่องการลงโทษจื่อจินเลย และจวินอู๋เสียก็สัมผัสได้ว่าเขาทนทำไม่ได้ที่จะทำเช่นนั้น
ถึงจะโกรธแต่จื่อจินก็เป็นเด็กที่เขาเลี้ยงมาเอง เขาจะทำใจลงโทษนางอย่างเข้มงวดได้อย่างไร?
จวินอู๋เสียเข้าใจและไม่คิดจะไปไกลถึงขั้นอยากให้จื่อจินตาย
แต่……
ในเมื่อประมุขวิหารหยกวิญญาณอยากปกป้องจื่อจินเช่นนั้นทุกสิ่งที่จื่อจินได้ทำลงไป วิหารหยกวิญญาณก็ต้องแบกรับผลที่ตามมาด้วย
ประมุขวิหารหยกวิญญาณตกตะลึงกับคำพูดอย่างกะทันหันของจวินอู๋เสียเขาจ้องมองอย่างไม่อยากจะเชื่อไปที่จื่อจินซึ่งหมอบอยู่บนพื้นและร้องไห้คร่ำครวญด้วยความเสียใจ ดวงตาของเขาลุกโชนด้วยไฟโทสะทันที!
การที่วิหารหยกวิญญาณสามารถอยู่อย่างสงบมาได้จนถึงตอนนี้ก็เพราะพวกเขาเก็บตัวเงียบมาโดยตลอดแต่เขาคิดไม่ถึงเลยว่าการให้จื่อจินเดินทางไปวิหารจิงหงนั้นจะทำให้นางเปิดเผยสถานะและที่มาของตัวเองต่อหน้ากู่อิ่ง!
เขาไม่กล้าคิดเลยว่าด้วยความไว้วางใจที่จื่อจินมีให้กู่อิ่งในเวลานั้น นางจะเปิดเผยความลับของวิหารหยกวิญญาณให้เขารู้มากกว่านี้หรือไม่
ถ้าวิหารมารโลหิตรู้ว่าวิหารหยกวิญญาณอยู่ที่ไหนขึ้นมาล่ะก็……
หายนะของวิหารหยกวิญญาณคงมาถึงในไม่ช้านี้!
ศิษย์วิหารหยกวิญญาณคนอื่นพากันตะลึงตัวแข็งเป็นหินจากข่าวนี้พวกนางจ้องมองจื่อจินอย่างไม่อยากจะเชื่อ ไม่มีใครสักคนกล้าเชื่อว่าจื่อจินจะทำผิดพลาดอย่างโง่เขลาเช่นนี้จริงๆ!
“จื่อจิน……เจ้า……เจ้าบอกกู่อิ่งจริงๆหรือ……ว่าเจ้าคือศิษย์ของวิหารหยกวิญญาณ?”ประมุขวิหารหยกวิญญาณพูดเสียงสั่น
จื่อจินเงยหน้าขึ้นอย่างหวาดกลัวแล้วพยักหน้าพลางสะอึกสะอื้น
ประมุขวิหารหยกวิญญาณทิ้งตัวจมอยู่ในเก้าอี้ยาวแสนนุ่มสบายของเขาดูเหมือนหมดสิ้นเรี่ยวแรง
“เจ้า……เจ้าบอกเขารึเปล่าว่าวิหารหยกวิญญาณอยู่ที่ไหน?”
จื่อจินมองใบหน้าซีดขาวของประมุขวิหารหยกวิญญาณและหันไปมองศิษย์พี่น้องที่อยู่รอบๆซึ่งกำลังมองนางด้วยสายตาหวาดกลัว ความรู้สึกผิดและเสียใจอย่างไม่มีที่สิ้นสุดท่วมท้นอัดแน่นอยู่ทุกซอกทุกมุมในหัวใจนาง นางฝืนบังคับตัวเองให้ลุกขึ้นยืน
“ท่านประมุข……ข้าไม่ได้……ข้าไม่ได้บอกเขา……”
ประมุขวิหารหยกวิญญาณถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
“ท่านประมุขจื่อจินผิดไปแล้ว……ข้ามันโง่……ซื่อบื้อ……หลงไว้ใจคนชั่ว……” จื่อจินสูดหายใจเข้าลึกและหันไปมองจวินอู๋เสียที่เดินไปถึงประตูของวิหารหยกวิญญาณแล้ว นางมองร่างเล็กๆนั้น ความรู้สึกรังเกียจเหยียดหยามและต่อต้านได้หายไปจากหัวใจนางโดยไม่เหลือร่องรอย
ดูเหมือนนางจะย้อนกลับไปในวันที่นางถูกล้อมโจมตีบนยอดเขาฝูเหยาคนผู้นี้ได้ลงมาจากสวรรค์เพื่อช่วยนางจากสถานการณ์ที่สิ้นหวัง
นางไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองในวิหารจิงหงทำไมนางถึงได้สงสัยผู้มีพระคุณของตัวเอง……ทำไมนางถึงได้ไว้ใจฆาตกรที่ฆ่าหมิงซินมากกว่าจวินอู๋เสีย ไม่เชื่อในตัวผู้มีพระคุณของตน……
“คุณชายจวิน!”จื่อจินรวบรวมกำลังทั้งหมดที่มีตะโกนไปทางด้านหลังของจวินอู๋เสีย
จวินอู๋เสียชะงักฝีเท้าแต่ไม่ได้หันกลับมา