Genius Doctor Black Belly Miss - ตอนที่ 1834-1836
ตอนที่ 1834 เจ้ายังขาดลูกศิษย์อยู่รึเปล่า (1)
“เจ้าน่าจะอยู่ดูปฏิกิริยาของผู้อาวุโสเยว่ตอนนั้นว่าสุดยอดแค่ไหน”เยว่เย่ที่นั่งยองๆอยู่ในแปลงดอกไม้เอ่ยปากพูดโดยที่ไม่ได้หันหน้ากลับไป
จวินอู๋เสียก้าวเข้ามาภายใต้แสงจันทร์นางมองเรือนหลังเล็กที่เงียบสงบ จากนั้นก็มองเยว่เย่ที่นั่งยองๆอยู่ในแปลงดอกไม้ มือของนางเปื้อนดิน แต่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา
“ไม่ต้องดูข้าก็รู้ว่าเขาจะมีปฏิกิริยาแบบไหน”จวินอู๋เสียกล่าวอย่างเฉยเมย นางเดินไปข้างแปลงดอกไม้และลงนั่งยองๆพร้อมกับหยิบพลั่วเล็กขึ้นมาช่วยเยว่เย่ขุดดอกไม้ไร้ประโยชน์เหล่านั้น
เยว่เย่หันหน้าไปมองใบหน้าด้านข้างของจวินอู๋เสียใบหน้าขาวเนียนของนางเปื้อนดินแต่รอยยิ้มสวยหวานปรากฏขึ้นที่ริมฝีปากนาง ไร้เดียงสาและเจิดจ้าสดใส
“หลายปีมานี้นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าเห็นเขาทำหน้าตกใจตะลึงงันขนาดนั้น สุดยอดไปเลย บอกข้าซิ ถ้าเขารู้ว่าเจ้ากับข้าสมรู้ร่วมคิดกันและเตรียมแผนตอบโต้เขาไว้แล้วก่อนที่เขาจะส่งข้าไปเล่นงานเจ้า เขาจะโกรธจนคลั่งแล้วพุ่งเข้ามาฆ่าเราสองคนรึเปล่า?” รอยยิ้มของเยว่เย่ยิ่งกว้างขึ้น เสียงที่ยังไร้เดียงสาของนางแสดงถึงความเบิกบานใจ
เสียงที่ชัดเจนแจ่มใสนั้นสะท้อนถึงอารมณ์ของนางในตอนนี้
ความจริงหลังจากที่จวินอู๋เสียและเยว่เย่บรรลุข้อตกลงร่วมกันแล้ว ทั้งสองก็มั่นใจแล้วว่าวันนี้จะมาถึง ผู้อาวุโสเยว่จะไม่ลังเลที่จะใช้เยว่เย่เล่นงานจวินอู๋เสีย
และทั้งหมดนั่นอยู่ภายใต้การควบคุมของจวินอู๋เสียและเยว่เย่แล้ว
ขณะที่แผนการของผู้อาวุโสเยว่ดำเนินไปเขาไม่รู้ตัวเลยว่าได้ตกหลุมพรางที่เด็กสาวทั้งสองขุดเอาไว้ให้เขาแล้ว
“เป็นความโง่ของเขาเองที่มองไม่เห็นตัวตนแท้จริงของเจ้า”จวินอู๋เสียกล่าวอย่างไม่แยแส ขณะที่พูดนางก็ปลูกสมุนไพรหนึ่งต้นลงในแปลงดอกไม้ และเอาดินกลบรากของมันอย่างระมัดระวัง
ถ้าเยว่เย่เป็นเด็กหญิงตัวเล็กๆที่ใสซื่อไร้เดียงสาจริงๆนางจะแสดงบทบาทของนางได้อย่างยอดเยี่ยมในการจัดฉากเล่นงานจวินอู๋เสียตามคำสั่งของผู้อาวุโสเยว่ได้อย่างไร? ผู้อาวุโสเยว่ตั้งใจที่จะกำจัดจวินอู๋เสีย แต่มองข้ามความสามารถในการแสดงของเยว่เย่ที่สามารถรับบทเด็กน้อยผู้ตกเป็นเหยื่อได้อย่างไร้ที่ติ ใครจะมั่นใจได้ว่านางไม่ได้แสดงละครอยู่ทุกวัน?
ผู้อาวุโสเยว่ภูมิใจในความฉลาดของเขามาโดยตลอดแต่เขาไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะถูกเยว่เย่ผู้ที่เขาเลี้ยงดูมาเองเล่นงานจนย่ำแย่ขนาดนี้
เยว่เย่ย่นจมูกนางจ้องจวินอู๋เสียและถามว่า “นั่นเจ้าชมข้าหรือด่าข้ากันแน่?” พูดอย่างนั้นแล้ว เยว่เย่ก็ยกมือที่เปื้อนดินขึ้นมางอนิ้วเป็นกรงเล็บทำท่าข่วนอยู่ตรงหน้าจวินอู๋เสียอย่างดุร้าย
“เชื่อไหมล่ะว่าข้าจะข่วนหน้าเจ้า?”
“……….”จวินอู๋เสียมองเยว่เย่ แล้วจู่ๆก็รู้สึกขึ้นมาว่านางกำลังมองดูเจ้าแมวดำในร่างมนุษย์ที่มักจะชอบขู่แบบนี้อยู่เสมอ……
“ช่างเถอะครั้งนี้เจ้าช่วยข้าได้มาก ข้าจะถือว่าข้าเป็นหนี้บุญคุณเจ้า และเจ้ายังเป็นผู้มีพระคุณของพี่ชายข้า ก็เท่ากับข้าติดหนี้บุญคุณเจ้าสองครั้ง แต่ไม่ต้องห่วง วันหน้าข้าจะตอบแทนเจ้าอย่างแน่นอน ข้าพูดแล้วรักษาคำพูด” เยว่เย่ย่นจมูก น้ำเสียงหยิ่งอวดดีเล็กน้อย แต่ฟังออกได้ไม่ยากถึงความรู้สึกขอบคุณในน้ำเสียงของนาง
ยัยเด็กตัวร้ายที่แสดงความขอบคุณไม่เก่ง
“เรื่องนั้น……ข้ายังต้องขอบคุณเจ้า……หากไม่มีเจ้าข้าคงไม่สามารถเป็นอิสระจากผู้อาวุโสเยว่ได้เร็วขนาดนี้” เสียงของเยว่เย่เบาลงอย่างฉับพลัน นางก้มหน้าลงอย่างเขินอาย
ไม่ว่านางจะฉลาดขนาดไหนนางก็ยังเป็นแค่เด็กอายุ 12 ปี เยว่อี้กับตัวนางถูกผู้อาวุโสเยว่ควบคุมเอาไว้อย่างแน่นหนาอยู่ในกำมือของเขา การจะเป็นอิสระไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย
ตอนที่ 1835 เจ้ายังขาดลูกศิษย์อยู่รึเปล่า (2)
แผนของจวินอู๋เสียเปิดโอกาสให้นางหลุดพ้นจากผู้อาวุโสเยว่ได้ในที่สุด
“ไม่ต้องขอบคุณข้าพวกเราแค่ร่วมมือกันเท่านั้น” จวินอู๋เสียกล่าวอย่างเฉยเมย
การตอบสนองอย่างสงบของจวินอู๋เสียทำให้หัวใจของเยว่เย่รู้สึกมั่นคงมากขึ้นนางยิ้มจนตาหยีเหมือนเด็กทั่วๆไป แล้วทำงานในแปลงดอกไม้ต่อ
ทั้งสองคนนั่งยองๆอยู่ข้างแปลงดอกไม้ใต้แสงจันทร์และจัดการกับต้นไม้ดอกไม้พวกนั้นไม่มีใครพูดอะไร มันเงียบแต่ก็สบายใจ
เยว่เย่ชอบความเงียบสงบในตอนนี้มากไม่ต้องกลัวอกสั่นขวัญแขวน ไม่ต้องพยายามหลอกลวงกัน แค่ทำสิ่งที่นางชอบ ขุดดอกไม้ทั้งหมดในแปลงดอกไม้ออกมา แล้วเยว่เย่ก็หันกลับไปจัดการกับต้นสมุนไพรที่นางเคยปลูกไว้ก่อนหน้านี้
จวินอู๋เสียเฝ้ามองเยว่เย่ทำงานอย่างมีความสุขอยู่เงียบๆหลังจากเงียบอยู่พักหนึ่ง นางก็พูดขึ้นว่า “ถ้าข้าเป็นเจ้า ข้าจะไม่ปลูกหญ้าจันทร์ดาวกับฉีฮวาไว้ด้วยกันหรอกนะ”
เยว่เย่ชะงักยังถือฉีฮวาต้นเล็กอยู่ในมือด้วยสีหน้างุนงง
“ทำไมล่ะ?”นางมักจะปลูกพวกมันไว้ด้วยกันตลอดเวลา
“พวกมันต้องการน้ำมากถ้าปลูกไว้ใกล้กันมากเกินไป พวกมันจะแย่งน้ำกันเอง ทำให้เติบโตได้ยากขึ้น” จวินอู๋เสียอธิบายง่ายๆ
เยว่เย่มองฉีฮวาในมือจากนั้นก็มองหญ้าจันทร์ดาวที่ปลูกลงดินไปแล้ว ก่อนที่สายตาของนางจะมองไปที่จวินอู๋เสียด้วยแววตาประหลาดใจ
“เจ้ารู้เรื่องสมุนไพรดีมากเลยใช่ไหม?”
“ก็พอได้”จวินอู๋เสียพูดด้วยเสียงที่สงบนิ่งเป็นพิเศษ
“โกหกเจ้ารู้ดีมากๆชัดๆเลย ข้าก็คิดอยู่แล้วว่ามันแปลก ทำไมเจ้าค้นพบยาที่ข้าให้ไปได้เร็วนัก เจ้าปรุงยาพิษเป็นด้วยใช่ไหม?” เยว่เย่ทำราวกับได้ค้นพบสิ่งใหม่ๆ ดวงตากลมโตของนางส่องประกายขณะจ้องมองจวินอู๋เสีย
“ก็พอได้”จวินอู๋เสียยังคงตอบแบบนิ่งๆเช่นเดิม
“อ๊า!ไม่ทำมันแล้ว เจ้าบอกข้ามาเร็วๆเลย สมุนไพรพวกนี้มีฤทธิ์ยังไง?” เยว่เย่ตื่นเต้นขึ้นมาทันที นางเริ่มดึงจวินอู๋เสียเพื่อขอคำชี้แนะ
จวินอู๋เสียเลิกคิ้วมองเยว่เย่“เจ้าไม่รู้เกี่ยวกับสมุนไพรพวกนี้หรือ?”
เยว่เย่หน้าแดงแต่ยังฝืนทำหน้าหยิ่งพูดว่า “ข้ารู้! แค่ไม่รู้ทั้งหมด ผู้อาวุโสเยว่จับตาดูข้าเข้มงวดเกินไป ข้าไม่มีโอกาสหาหนังสือมาอ่านเลย ทุกอย่างที่ข้ารู้เกี่ยวกับสมุนไพรพวกนี้มาจากที่ข้าเห็นในตำราโบราณ”
“โอ้?”จวินอู๋เสียมองตรงไปที่เยว่เย่ นางเคยคิดว่าการที่เยว่เย่สามารถเข้าใจการปรุงยาได้ถึงระดับนั้นในสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวยเช่นนี้ก็นับว่าแปลกแล้ว
“เจ้า……เจ้าต้องเชื่อข้านะเดี๋ยวข้าจะเอาให้เจ้าดู เจ้าจะได้รู้ว่าข้าพูดความจริง” เยว่เย่ลุกขึ้นแล้วเอามือปัดกับกระโปรงอย่างลวกๆ ก่อนจะหยิบเอาหนังสือที่ห่อไว้ด้วยผ้าเช็ดหน้าออกมาจากในเสื้อของนางอย่างระมัดระวัง
หนังสือนั้นดูเหมือนอยู่มานานมากแล้วมีบางจุดที่เสียหายและขาดรุ่งริ่งเล็กน้อย จวินอู๋เสียหยิบหนังสือมาพลิกเปิดดู เสียงพลิกหน้ากระดาษดังชัดเจนในความเงียบยามค่ำคืน
จวินอู๋เสียอ่านเนื้อหาในหนังสือแบบเร็วๆทีละสิบบรรทัด
เมื่อได้อ่านนางก็รู้ทันทีว่าความรู้ที่ไม่ครบถ้วนของเยว่เย่มาจากไหน
แทนที่จะบอกว่าหนังสือเล่มนี้เป็นตำราคู่มือมันเป็นเหมือนบันทึกประสบการณ์ซะมากกว่า ในนั้นเขียนด้วยลายมือที่งดงามดั่งหงส์ร่อนมังกรรำเกี่ยวกับมุมมองความคิดเห็นและผลของสมุนไพร และยังทำการอนุมานและข้อสรุปเอาไว้เป็นจำนวนมาก พื้นฐานของข้อสรุปพวกนี้คือวิธีปรุงยาพิษร้ายแรงโดยใช้สมุนไพรปลอดสารพิษเป็นวัตถุดิบพื้นฐาน
ตอนที่ 1836 เจ้ายังขาดลูกศิษย์อยู่รึเปล่า (3)
สมุนไพรหลายชนิดถูกบันทึกไว้ในหนังสือเล่มนั้น แต่ส่วนใหญ่อธิบายถึงคุณสมบัติเฉพาะที่จำเป็นในการปรุงยาพิษ ไม่ได้ระบุถึงผลกระทบขั้นพื้นฐานที่สุดของสมุนไพรเหล่านั้น
มิน่าล่ะ เยว่เย่ถึงได้ถามคำถามแบบนั้น
จวินอู๋เสียคืนบันทึกเล่มนั้นให้เยว่เย่ ดวงตาที่มองเยว่เย่ฉายแววสนใจอย่างมาก
บันทึกเล่มนั้นไม่สมบูรณ์ ข้อมูลก็กระจัดกระจาย ทำให้คนไม่เข้าใจได้ง่ายๆ ถ้าไม่มีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับสมุนไพรในระดับหนึ่ง จะไม่สามารถเข้าใจสิ่งที่เขียนไว้ได้เลยแม้ว่าจะมีบันทึกอยู่ในมือก็ตาม แต่เมื่อมองไปที่เยว่เย่ ดูเหมือนว่าเยว่เย่จะไม่สามารถเรียนอะไรที่เกี่ยวกับยาได้เลยก่อนที่จะบังเอิญไปเจอบันทึกเล่มนี้เข้า ตามหลักเหตุผลแล้ว นางไม่น่าจะเข้าใจข้อมูลที่เขียนเอาไว้ในนั้น
แต่เยว่เย่ดันเรียนรู้สิ่งที่นางต้องการได้จากบันทึกเล่มนั้นจริงๆ
แต่รูปแบบการเรียนรู้ผิดไปจากวิธีการปกติทั่วไป ซึ่งก็เท่ากับการบอกว่า คนๆหนึ่งยังจำคำศัพท์ไม่ได้ แต่ก็เริ่มใช้คำแต่งบทสวดมนต์แล้ว
นี่เป็นความสำเร็จที่น่าทึ่งมาก แม้แต่จวินอู๋เสียก็ยังประหลาดใจ
บางทีการติดอยู่ในสถานการณ์ที่สิ้นหวังได้กระตุ้นศักยภาพของเยว่เย่ และยังให้โอกาสเดียวนี้กับนาง ราวกับคนที่ตกลงไปในน้ำลึกอันเย็นเฉียบ แล้วคว้าฟางช่วยชีวิตเส้นสุดท้ายไว้ได้ ไม่ว่ายังไง นางก็จะพยายามสู้สุดชีวิตเพื่อให้อยู่รอด
“สิ่งที่เขียนไว้ในนี้ เจ้าเข้าใจหรือไม่?” เยว่เย่มองจวินอู๋เสียด้วยสายตาคาดหวัง
“อืม” จวินอู๋เสียพยักหน้า
“งั้น……ดอกไม้นี่คือฉีฮวาหรือ?” เยว่เย่พลิกไปหน้าที่กล่าวถึงฉีฮวา มันเป็นเพียงภาพร่างของฉีฮวาโดยไม่ได้ระบุชื่อของมันเอาไว้
เห็นได้ชัดว่าก่อนที่จวินอู๋เสียจะพูดถึงมัน เยว่เย่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่านางกำลังถืออะไรอยู่ในมือ……
“ใช่” จวินอู๋เสียตอบอย่างอดทน
“ดอกนี่มีผลยังไง?” เยว่เย่กระพริบตามองจวินอู๋เสีย
“ระงับประสาท”
“งั้นนี่ล่ะ?”
“หญ้าชมจันทร์”
“มันทำอะไรได้?”
“ห้ามเลือด”
“งั้น……” เยว่เย่เหมือนเด็กที่กระหายความรู้อย่างมาก นางนั่งยองๆอยู่ข้างๆจวินอู๋เสีย เปิดสมุดบันทึกทุกหน้าและตั้งคำถามถามจวินอู๋เสียอย่างขยันขันแข็ง หลังจากที่จวินอู๋เสียตอบ นางก็จะจดจำมันไว้ในใจเป็นอย่างดี
จวินอู๋เสียมีความอดทนกับเยว่เย่อย่างที่หาได้ยากขณะวิเคราะห์ทุกอย่างในสมุดบันทึกเล่มนั้น ทันใดนั้นนางก็เกิดความรู้สึกขึ้นมาว่าตนเองกำลังสอนเด็กน้อยอยู่
ตั้งแต่เยว่เย่ได้บันทึกเล่มนั้นมา นางก็ค้นคว้าด้วยตัวเองอย่างลับๆมาโดยตลอด นางไม่กล้าถามใครและไม่กล้าให้ผู้อาวุโสเยว่รู้ถึงการมีอยู่ของหนังสือเล่มนี้ จึงได้แต่พึ่งสมองของตัวเองค่อยๆทำความเข้าใจสิ่งที่เขียนเอาไว้เกี่ยวกับสมุนไพรทุกชนิดในบันทึกเล่มนั้นอย่างช้าๆ แม้ว่าบันทึกจะกระจัดกระจายไม่สมบูรณ์ แต่สำหรับนางมันคือสิ่งที่มีค่ามากที่สุด
ถ้าไม่ใช่เพราะบันทึกนี้ นางอาจจะไม่สามารถรอดพ้นจากกรงเล็บอันชั่วร้ายของประมุขวิหารเงาจันทราได้
ภายใต้แสงจันทร์ ภาพด้านหลังของเยว่เย่และจวินอู๋เสียนั่งยองๆเคียงข้างกันอยู่ข้างแปลงดอกไม้ ร่างเล็กทั้งสองดูสมานฉันท์กลมเกลียวกันเป็นอย่างดี
“เจ้ารู้เยอะเลย เจ้าปรุงยาได้ใช่ไหม?” เยว่เย่ฟังอยู่นานจนขาของนางเริ่มชาจากการนั่งยองๆ แต่นางก็ยังไม่อยากหยุด จนกระทั่งพลิกถึงหน้าสุดท้ายนางถึงเงยหน้าขึ้นมองจวินอู๋เสียด้วยความที่ยังไม่หายอยาก
“อืม”
“เจ้าปรุงยาเก่งมากเลยใช่ไหม? อย่าโกหกข้า สิ่งที่ข้าเรียนจากบันทึกเล่มนี้ ขนาดพวกผู้รักษาในวิหารเงาจันทรายังมองไม่ออก แต่เจ้ามองแวบเดียวก็รู้ว่าข้าวางยาพิษประมุข เจ้าต้องเก่งมากแน่ๆ” เยว่เย่มองจวินอู๋เสียด้วยความมั่นใจ
จวินอู๋เสียไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากพยักหน้า
เยว่เย่กลืนน้ำลาย และมองไปที่จวินอู๋เสียด้วยสายตาเร่าร้อน
“เช่นนั้น เจ้า……ยังขาดลูกศิษย์อยู่รึเปล่า?”