Genius Doctor Black Belly Miss - ตอนที่ 1858-1860
ตอนที่ 1858 การแก้แค้นของจวินอู๋เสีย (7)
วันนั้นผู้อาวุโสอิ่งไปเข้าพบประมุขวิหารเงาจันทราเรื่องการทำลายที่เมืองหลิง พูดอย่างตรงไปตรงมาถึงความตกใจและความโกรธของเขา และยังกล่าวต่อไปว่าเขาอยากจะทำการตรวจสอบเหตุการณ์ทั้งหมด แถมยังกล่าวว่าการที่เยว่อี้หายตัวไป ผู้อาวุโสเยว่ที่เป็น “ปู่” ของเขาย่อมมีอารมณ์หวั่นไหวไม่มั่นคง จึงขอให้ประมุขมอบหมายให้เขาจัดการเรื่องนี้
ตอนแรกประมุขวิหารเงาจันทราลังเลเล็กน้อย แต่พอได้ยินว่าเยว่เย่ตรอมใจจนล้มป่วยและถูกส่งไปที่พำนักของจวินอู๋เสียเพื่อให้เยว่เย่ฟื้นคืนมา ประมุขก็ตัดสินใจเด็ดขาดทันที
เขาตัดสินใจมอบหมายเรื่องที่เมืองหลิงให้ผู้อาวุโสอิ่งจัดการทั้งหมด และมอบอำนาจให้ผู้อาวุโสอิ่งจัดการได้อย่างอิสระในระดับหนึ่ง
เมื่อผู้อาวุโสเยว่รู้เข้า เขาก็ตกใจมาก
เหตุการณ์ที่เมืองหลิงเกี่ยวข้องกับหลายๆอย่าง เมื่อส่งมอบให้ผู้อาวุโสอิ่งแล้ว ก็แน่นอนว่าอำนาจส่วนหนึ่งที่เขาถือครองอยู่จะถูกยึดไป ผู้อาวุโสเยว่ร้อนรนราวกับมดบนกระทะร้อน เขาอยากจัดการกับเรื่องนี้ แต่ไม่สามารถทำได้เนื่องจากประมุขไม่พอใจเขาอยู่
“เวรเอ๊ย ผู้อาวุโสอิ่งพยายามจะทำอะไรกันแน่?” ผู้อาวุโสเยว่นั่งหน้าบึ้งอยู่ในห้อง
“ผู้อาวุโสเยว่ ท่านประมุขได้ตัดสินใจแล้วที่จะมอบหมายเรื่องในเมืองหลิงให้ผู้อาวุโสอิ่งพร้อมกับการควบคุมสาขารอบๆเมืองหลิงด้วย ท่านคิดว่าเราควรจะทำยังไงกันดี?” ผู้ช่วยที่ไว้ใจได้ของผู้อาวุโสเยว่อดกังวลไม่ได้
“ข้าอยากเห็นนักว่าเขาจะทำอะไรได้” ผู้อาวุโสเยว่พูดพร้อมหัวเราะเย็นชา เหตุการณ์ในเมืองหลิงทั้งหมดเป็นแผนการของเขาเอง ไม่ได้มีผู้ก่อการร้ายใดๆทั้งสิ้น เขาไม่เชื่อว่าผู้อาวุโสอิ่งจะแก้ไขเรื่องนี้ได้
“ดูเหมือนเยว่เย่จะตกใจจนล้มป่วย นางถูกส่งไปที่เรือนของฉางฮวนแล้ว……”
ผู้อาวุโสเยว่ขมวดคิ้ว “ข้าดูถูกนังเด็กนั่นเกินไป ไม่คิดว่านางจะสมคบคิดกับฉางฮวน ข้าน่าจะสังเกตได้ตอนที่นางแว้งกัดข้าแล้ว ฉางฮวนเป็นศิษย์ของผู้อาวุโสอิ่ง นังเด็กนั่นรู้จักใช้คนจริงๆ รู้ว่าคนเดียวที่สามารถสู้กับข้าได้ก็คือผู้อาวุโสอิ่ง แต่นางยังอ่อนหัดนัก นางอาจจะซ่อนตัวได้ชั่วครั้งชั่วคราว แต่ไม่ตลอดไปหรอก ข้าจะรอดูว่านางจะทนได้นานสักแค่ไหน เว้นแต่ว่านางไม่คิดจะช่วยพี่ชายของตัวเอง”
“แต่ตอนนี้นางไปซ่อนตัวอยู่ในเรือนของฉางฮวนแล้ว เราก็ไม่มีทางที่จะให้นางออกมาได้ แล้วเรื่องเยว่อี้……”
“ไม่ต้องกังวล ผู้อาวุโสอิ่งคิดจะใช้ความผิดพลาดของข้ามารุกฆาตข้าในครั้งนี้ แต่น่าเสียดาย เขาไม่รู้ว่าข้าเป็นคนวางแผนเรื่องทั้งหมอในเมืองหลิงเอง ไม่มีทางที่เขาจะทำผลงานได้ ตัวเขาเป็นคนไปขอท่านประมุขจัดการเรื่องนี้เอง ถ้าเขากลับมามือเปล่า ข้าอยากจะเห็นนักว่าเขาจะตอบท่านประมุขยังไง เจ้าไปสั่งให้คนพวกนั้นในเมืองหลิงถอนตัวซะ อย่าเปิดโอกาสให้เขาแม้แต่ครั้งเดียว พอจัดการเรื่องนี้ไม่ได้ เขาย่อมเสียหน้าต่อหน้าท่านประมุข หลังจากนั้นข้าจะเข้ารับช่วงต่อ ให้คำตอบแก่ท่านประมุข ทีนี้ช่องว่างระหว่างข้ากับเขาก็จะกว้างขึ้น เขาจะไม่สามารถปกป้องเยว่เย่ได้อีกต่อไป” ผู้อาวุโสเยว่หรี่ตาเล็กน้อย ดวงตาของเขาส่องประกายชั่วร้ายน่ากลัว
“เขาอยากปกป้องนังเด็กแพศยานั่น ไม่รู้หรือไงว่านังนั่นมันเป็นหมาป่าตาขาวเลี้ยงไม่เชื่อง? เยว่อี้อยู่ในกำมือข้า เยว่เย่ก็ไม่สามารถหลบหนีได้ พอถึงเวลา ข้าจะให้ผู้อาวุโสอิ่งรู้ว่าการเก็บหมาป่าตาขาวไว้ข้างกายมันอันตรายมากแค่ไหน”
“ผู้อาวุโสเป็นเทพแห่งกลยุทธ์ ผู้อาวุโสอิ่งไม่มีทางต่อกรกับท่านได้” ศิษย์คนนั้นรีบประจบประแจงทันที
ผู้อาวุโสเยว่หัวเราะ รู้สึกพอใจในตัวเองอย่างมาก เขาพูดว่า “เอาล่ะ เจ้าไม่ต้องกังวลเรื่องนี้มากเกินไป ข้าอยากให้เจ้าไปดูเยว่อี้ และเตรียม “ของขวัญเล็กๆน้อยๆ” ไว้ให้เยว่เย่ด้วย เผื่อนางจะลืมพี่ชายของตัวเอง”
ตอนที่ 1859 การแก้แค้นของจวินอู๋เสีย (8)
ศิษย์คนนั้นได้ฟังคำพูดของผู้อาวุโสเยว่แล้วไปปฏิบัติตามทันที
เงาร่างสีดำสะกดรอยตามหลังศิษย์คนนั้นไปอย่างเงียบๆ
ผู้อาวุโสอิ่งยืนอยู่นอกห้องของจวินอู๋เสีย มองดูเยว่เย่ที่จ้องมองไปที่กระจกอย่างเหม่อลอยผ่านหน้าต่างที่เปิดกว้าง ในแววตาท่วมท้นไปด้วยความเศร้าอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
“ข้าน่าจะคิดได้มาตั้งนานแล้ว เจ้าทั้งสองเหมือนนางมาก แต่ข้าเกือบจะลืมหน้าตาของผู้หญิงคนนั้นไปแล้ว ทั้งๆที่ควรจะจำได้” เสียงของผู้อาวุโสอิ่งแหบพร่าเล็กน้อย เห็นใบหน้าเล็กๆอมทุกข์ของเยว่เย่ เขาก็อดขอบตาแดงไม่ได้
จวินอู๋เสียยืนอยู่ข้างๆผู้อาวุโสอิ่ง และมองตามสายตาของเขาเข้าไปข้างใน
“บอกข้าซิ ถ้าข้าสังเกตเห็นว่าพวกเขาดูเหมือนแม่มากขนาดนี้ พวกเขาจะ……ไม่ต้องทนทุกข์ทรมานมาตลอดหลายปีนี้ใช่รึเปล่า?” ผู้อาวุโสอิ่งไม่เคยเกลียดตัวเองมากเท่าตอนนี้มาก่อนเลย
จวินอู๋เสียไม่พูด และไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรในตอนนี้ดี
ผู้อาวุโสอิ่งสูดหายใจเข้าลึกๆ และก้าวถอยหลังจากหน้าต่างเข้าไปในสนาม ไม่พูดอะไรสักคำอยู่เป็นเวลานาน หลังจากเงียบอยู่พักใหญ่ เขาก็ก้มหน้าพูดเสียงเบาว่า “ข้าจะให้วิหารเงาจันทราต้องชดใช้ ข้ากำลังรอให้เจ้าเริ่มแผนการ ข้าต้องให้พวกมันชดใช้ด้วยเลือด!”
จวินอู๋เสียมองสายตาที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังของผู้อาวุโสอิ่ง แล้วถอนหายใจเบาๆ
นางไม่สามารถเข้าใจได้อย่างถ่องแท้ถึงความเศร้าโศกเสียใจของผู้อาวุโสอิ่ง แต่นางรู้ว่าเขาต้องเจ็บปวดอย่างมากแน่นอน
งูดำตัวหนึ่งเลื้อยเข้ามาอย่างไร้เสียงจากนอกสนาม ร่างกายที่ยืดหยุ่นของมันเลื้อยไปที่ข้างเท้าของจวินอู๋เสีย จวินอู๋เสียย่อตัวลงและเอื้อมมือไปอุ้มงูดำตัวนั้นขึ้นมาไว้ในอุ้งมือ จากนั้นนางก็จิ้มไปที่ท้องป่องๆของมัน แล้วงูดำตัวนั้นก็คายลูกบอลขี้ผึ้งออกจากปากมัน
จวินอู๋เสียใช้นิ้วขยี้ลูกบอลขี้ผึ้ง จดหมายที่เขียนด้วยลายมือปรากฏต่อหน้าจวินอู๋เสีย นางอ่านข้อความในจดหมายอย่างรวดเร็ว แล้วรอยยิ้มเย็นชาก็ปรากฏขึ้นที่ริมฝีปากนาง
“เจอตัวเยว่อี้แล้ว เริ่มแผนของเราได้” ไฟพลังวิญญาณถูกจุดขึ้นในมือของจวินอู๋เสีย เผาจดหมายจนไหม้เกรียม
ผู้อาวุโสอิ่งเงยหน้าขึ้นทันที ใบหน้าตื่นเต้นกังวลแต่แฝงด้วยความดีใจขณะมองไปที่จวินอู๋เสีย
“เจอแล้วหรือ? เขา……ตอนนี้เขาเป็นอย่างไรบ้าง?”
“”เขาถูกพาไปที่ปลอดภัยแล้ว แต่ร่างกายยังค่อนข้างอ่อนแออยู่ อีกเดี๋ยวข้าจะไปรักษาเขา” จวินอู๋เสียพูดนิ่งๆ
“เช่นนั้น……ข้าไปพบเขาได้ไหม?” ผู้อาวุโสอิ่งถามด้วยน้ำเสียงกังวลและกระตือรือร้นเล็กน้อย
จวินอู๋เสียส่ายหน้า
“เมื่อพาเขากลับมา ไม่นานผู้อาวุโสเยว่จะรู้เรื่องอย่างแน่นอน สิ่งที่เจ้าต้องทำตอนนี้คือดำเนินการตามแผนของเราให้ได้โดยเร็ว ไม่งั้นเมื่อผู้อาวุโสเยว่ตั้งตัวได้ เราจะไม่มีโอกาสแบบนี้ได้ง่ายๆอีกแล้ว”
ผู้อาวุโสอิ่งลังเลเล็กน้อยในตอนแรก แต่หลังจากคิดดูแล้ว เขาก็มุ่งมั่นขึ้นอย่างมาก
“ได้! ข้าจะไปจัดการเดี๋ยวนี้ วางใจเถอะ คราวนี้ข้าจะไม่ยอมให้ไอ้สารเลวผู้อาวุโสเยว่พลิกสถานการณ์ได้อย่างแน่นอน!” ความเกลียดชังและความโกรธในใจเร่งให้ฝีเท้าของผู้อาวุโสอิ่งเร็วขึ้นขณะเดินออกจากเรือนของจวินอู๋เสียทันทีหลังจากพูดจบ
จวินอู๋เสียมองด้านหลังของผู้อาวุโสอิ่งขณะจากไปอย่างเร่งรีบ แววตาของนางเคร่งขรึมลงขณะเดินไปทางบ้านหลังเล็กในสนาม
ในทันทีที่นางก้าวเข้ามาในห้อง กลิ่นคาวเลือดก็พุ่งเข้าปะทะจมูกของนาง
เย่ฉายืนอยู่ข้างเตียง เสื้อผ้าของเขาชุ่มไปด้วยเลือด เขามองจวินอู๋เสียแล้วพยักหน้าเล็กน้อย
เยว่อี้นอนนิ่งเงียบอยู่บนเตียง ผ้าปูเตียงใต้ร่างเขาเปื้อนสีแดงสดไปแล้ว ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยบาดแผล บาดแผลจากแส้มีอยู่เต็มตัวดูน่ากลัวมาก
ตอนที่ 1860 ยื่นหน้าเจ้ามา (1)
เยว่อี้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ไม่ได้เบาๆเหมือนที่จวินอู๋เสียพูดกับผู้อาวุโสอิ่งเลย แต่เรื่องนี้มีแค่จวินอู๋เสียที่รู้
“ต้มน้ำร้อน” จวินอู๋เสียสั่งเย่ฉา แล้วเริ่มลงมือรักษาเยว่อี้ทันที
อาการบาดเจ็บของเยว่อี้รุนแรงมาก เขาเสียเลือดมากและมีภาวะขาดน้ำ บาดแผลบนร่างกายของเขาเริ่มอักเสบและเน่าเปื่อย เลือดไหลออกจำนวนมากจากรูที่หน้าอกของเขา บาดแผลนั้นเริ่มเน่าและค่อนข้างแย่ มันกลายเป็นสีดำแล้ว
ห้ามเลือด, รักษาอาการอักเสบ, และกำจัดส่วนที่เน่า มือของจวินอู๋เสียเคลื่อนไหวเร็วมากจนเป็นภาพเบลอ นางรักษาบาดแผลบนร่างกายของเยว่อี้ไปทีละส่วน
แม้แต่บัวน้อยก็ถูกจวินอู๋เสียเรียกออกมาเพื่อเอาเมล็ดบัวให้เยว่อี้กิน ไม่เช่นนั้นเยว่อี้จะมีอาการเรื้อรังแม้ว่าจะรักษาจนฟื้นขึ้นมาแล้วก็ตาม
เย่ฉายืนมองจวินอู๋เสียทำการรักษาอยู่ด้านข้างอย่างเงียบๆ
อีกด้านหนึ่ง ผู้อาวุโสอิ่งได้ออกคำสั่งให้ศิษย์ทุกคนในเมืองหลิงโจมตีทันทีโดยไม่เปิดโอกาสให้ผู้อาวุโสเยว่ได้จัดการเรื่องต่างๆให้เรียบร้อย คนกลุ่มใหญ่บุกจับทุกคนที่ไม่สามารถออกจากเมืองหลิงได้ทันเวลา
เมื่อเตรียมการทั้งหมดเสร็จสมบูรณ์แล้ว ผู้อาวุโสอิ่งก็จัดการปิดข่าวทุกอย่าง และส่งคนกลับไปที่วิหารเพื่อบอกข่าวความสำเร็จของพวกเขาแก่จวินอู๋เสีย
หลังจากจวินอู๋เสียได้รับข่าวจากผู้อาวุโสอิ่ง นางยืนอยู่ข้างเตียงของเยว่อี้ มองดูเยว่อี้ที่นอนหน้าซีดปราศจากสีเลือดอยู่บนเตียง ก่อนจะเผาจดหมายในมือจนไม่เหลือซาก
“คุณหนู” เย่ฉาก้าวเข้ามา
จวินอู๋เสียสูดหายใจเข้าลึกและพูดว่า “ได้เวลาแล้ว ให้เย่กูถอนตัวจากผู้อาวุโสเยว่ ถึงเวลาที่ผู้อาวุโสเยว่จะได้ลิ้มรส “การตอบแทน” ของข้าแล้ว”
“ขอรับ!” เย่ฉาตอบรับทันที
ในวิหารเงาจันทราเงียบผิดปกติ ไม่มีใครสัมผัสได้ถึงพายุที่กำลังจะมา
ผู้อาวุโสอิ่งกลับไปที่วิหารพร้อมชัยชนะ ประมุขออกต้อนรับเขาด้วยตัวเอง ไม่ถึงสิบห้านาที ก็มีข่าวออกมาว่าประมุขเรียกผู้อาวุโสเยว่ไปคุยที่ห้องโถงใหญ่
ในขณะนั้น ผู้อาวุโสเยว่ยังจมอยู่กับความสุขที่ได้แก้แค้น ตอนที่ถูกประมุขเรียก เขาได้ยินว่าผู้อาวุโสอิ่งก็อยู่ที่นั่นด้วย เขาจึงจงใจแต่งตัวให้ดี เปลี่ยนเสื้อผ้าให้หรูหราสง่างามก่อนจะเดินทางไปที่ห้องโถงใหญ่ของวิหารด้วยความกระตือรือร้นที่จะเก็บเกี่ยวผลจากแผนการของเขา
ภายในห้องโถงใหญ่วิหารเงาจันทรา ประมุขวิหารนั่งอยู่บนเก้าอี้ประมุข ขณะที่ผู้อาวุโสอิ่งยืนอยู่ในห้องโถง บรรยากาศค่อนข้างแปลกเล็กน้อย
ผู้อาวุโสเยว่มาถึงในเวลาต่อมา รอยยิ้มอ่อนโยนประดับอยู่บนใบหน้าของเขา เขาเดินเข้าไปในห้องโถงใหญ่ เผชิญหน้ากับประมุขวิหารเงาจันทรา ยิ้มและพูดว่า “ท่านประมุข ไม่ทราบว่าเรียกข้ามาทำไมหรือขอรับ?”
ใบหน้าของประมุขวิหารเงาจันทราถมึงทึงไม่น่าดู เมื่อเขาเห็นผู้อาวุโสเยว่ปรากฏตัว เขาก็ไม่ได้ยิ้มออกมาแม้แต่น้อย แต่กลับโยนกองจดหมายไปตรงหน้าผู้อาวุโสเยว่
“เจ้าก็ดูเอาสิ!”
ผู้อาวุโสเยว่ชะงักไปเล็กน้อย น้ำเสียงของประมุขแฝงความโกรธเอาไว้ซึ่งเขาไม่เข้าใจเอาซะเลย เขามองไปที่กองจดหมายแล้วขมวดคิ้ว จากนั้นก็แอบชำเลืองมองไปที่ผู้อาวุโสอิ่งซึ่งยืนอยู่ด้านข้าง
ผู้อาวุโสอิ่งยืนอยู่เงียบๆในห้องโถง ไม่มองผู้อาวุโสเยว่เลยสักนิด
ความสงสัยผุดขึ้นในใจผู้อาวุโสเยว่ เขาไม่มีทางเลือกนอกจากหยิบกองจดหมายขึ้นมาดู
มองปราดเดียว หัวใจของผู้อาวุโสเยว่ก็หล่นไปอยู่ที่ตาตุ่มทันที รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาหายไปสิ้น ใบหน้ากลายเป็นซีดขาว
“เจ้ายังมีอะไรจะแก้ตัวอีก!” ประมุขวิหารเงาจันทราฟาดฝ่ามือลงบนโต๊ะและจ้องผู้อาวุโสเยว่อย่างเกรี้ยวกราด
ผู้อาวุโสเยว่คุกเข่าลงทันที เหงื่อแตกชุ่มหลัง เขารีบพูดว่า “ท่านประมุข! นี่……ที่เขียนนี่ไม่เป็นความจริงเลย! ข้าภักดีต่อวิหารเงาจันทราตะวันจันทราเป็นประจักษ์พยาน! มีคนจงใจใส่ร้ายข้าอย่างแน่นอน! ท่านประมุขต้องเชื่อข้านะขอรับ!”