Genius Doctor Black Belly Miss - ตอนที่ 1967 -1969
ตอนที่ 1967 วิญญาณใหม่ (1)
ภายในรถม้า เฉียวฉู่หันหน้าไปมองจวินอู๋เสีย แล้วชี้ไปที่บัวน้อยซึ่งโดดเข้าไปหาชายเจ้าเสน่ห์โดยไม่รู้สึกละอายใจใดๆ เขาพูดขึ้นว่า “เจ้าหมอนั่นปากร้ายจริงๆ”
เจ้านายของบัวน้อยคือจวินอู๋เสียเชียวนะ!
“ช่างเถอะ” จวินอู๋เสียไม่คิดอะไร แค่รู้ว่าบัวน้อยกับชายคนนั้นรู้จักกัน และความสัมพันธ์ก็ดูเหมือนจะค่อนข้างดีทีเดียว
“เปล่านะ! เจ้านายข้ายังมีชีวิตอยู่ดี ท่านห้ามแช่งนางนะ!” บัวน้อยทำเสียงฮึดฮัดพร้อมย่นจมูก
ชายเจ้าเสน่ห์กลอกตา แล้วสายตาของเขาก็เหลือบไปเห็นรถม้าที่อยู่ข้างหลังบัวน้อย ดวงตาของเขาจึงหรี่ลงเล็กน้อย
“ดูเหมือนเราจะโดนเจอซะแล้ว” เฉียวฉู่เกาหัว
จวินอู๋เสียลุกขึ้นและปีนออกจากรถม้า ขณะที่นางก้าวออกไป สายตาของนางก็หันไปมองจวินอู๋เหยา จวินอู๋เหยาไม่ได้ดึงวิญญาณของตนออกจากร่างและมาที่โลกวิญญาณด้วยร่างที่สมบูรณ์
จวินอู๋เหยาพยักหน้าให้นาง ไม่คิดที่จะออกไปจากรถม้า
จวินอู๋เสียและเพื่อนๆปีนลงจากรถม้า ร่างวิญญาณโปร่งแสงของพวกเขาดึงความสนใจของชายเจ้าเสน่ห์คนนั้นทันที
“คนใหม่หรือ?” ชายเจ้าเสน่ห์เลิกคิ้วมองวิญญาณที่สวมเสื้อผ้าสดใสแต่มีพลังวิญญาณอ่อนแอ
บัวน้อยกำลังจะอ้าปาก แต่พอเห็นสายตาของจวินอู๋เสียก็หยุดทันที เขาทำได้แค่เอามือปิดปากมองเจ้านายของตนตาแป๋ว
“ใช่แล้ว ฮ่าๆ……พวกเราเป็นคนใหม่ที่นี่” เฉียวฉู่หัวเราะขณะมองวิญญาณตนนั้น
ชายเจ้าเสน่ห์มองพวกจวินอู๋เสียด้วยสายตาประเมิน ก่อนจะถามอย่างเฉื่อยชาว่า “มนุษย์?”
“………” เฉียวฉู่รู้สึกเคืองกับสายตาของวิญญาณตนนั้น [สายตาเจ้านี่มันชวนหาเรื่องเกินไปไหม! ดูถูกเหยียดหยามกันสุดๆเลยนี่!]
[มนุษย์แล้วมันทำไม? วิญญาณมนุษย์ไปหาเรื่องเจ้าเรอะ! วิญญาณมนุษย์ก็เป็นวิญญาณไม่ใช่รึไง? เลือกปฏิบัตินี่หว่า!]
ชายเจ้าเสน่ห์ดูเหมือนไม่คิดที่จะพูดกับพวกเขาอีก เขาเงยหน้าขึ้นมองสัตว์อสูรตัวมหึมาที่ถูกเขาจับเอาไว้ แล้วลุกขึ้นพูดว่า “วันนี้ข้าจะยอมให้เจ้าเบี้ยวไปก่อนก็ได้ ไปทำหน้าที่ของเจ้าให้ดีซะ” พูดจบ ชายเจ้าเสน่ห์ก็ดึงเถาวัลย์กลับทันที
พอถูกปล่อยกะทันหัน สัตว์อสูรขนาดยักษ์ที่กำลังขัดขืนอย่างสุดกำลังก็ล้มลงไปที่โต๊ะไม้ตรงหน้าทันที
โต๊ะไม้เล็กๆแตกเป็นเสี่ยงๆ
“ตู๋เถิง ไอ้สารเลว!!” สัตว์อสูรตัวนั้นล้มหน้าทิ่ม มันชูหมัดใส่ตู๋เถิงด้วยความโกรธ
ตู๋เถิงเลิกคิ้วเล็กน้อย เถาวัลย์บนร่างเริ่มเคลื่อนไหว
“กล้าดีก็พูดอีกทีสิ ข้าจะดึงเขี้ยวเจ้าออกมาทำตะเกียบซะเลย”
“………..” สัตว์อสูรตัวนั้นเงียบกริบทันที
ใครจะไปคิดว่าสัตว์อสูรตัวมหึมาที่ใหญ่เท่ากับภูเขาลูกย่อมๆ จะถูกคนร่างบางอย่างตู๋เถิงทำให้หุบปากเงียบไม่กล้าส่งเสียงได้
ตู๋เถิงมองสัตว์อสูรอีกรอบ จากนั้นก็หันไปมองบัวน้อยที่อยู่ข้างๆ
“เจ้ารู้จักพวกเขาหรือ?”
บัวน้อยพยักหน้า
“งั้นข้าก็จะปล่อยให้เจ้านำทางพวกเขา เจ้าจากไปพักนึง ช่วงนี้โลกวิญญาณไม่สงบสุข ระวังตัวเองด้วย อย่าเที่ยวเดินเตร่ออกไปข้างนอก” ตู๋เถิงเตือนเสร็จก็เดินจากไป
เมื่อเห็นว่าตู๋เถิงไปแล้ว สัตว์อสูรตัวมหึมาก็ลุกขึ้นนั่ง ความกลัวที่มีต่อตู๋เถิงหายไปแบบไม่เหลือร่องรอย มันนั่งอยู่บนเศษโต๊ะไม้ พลางหรี่ตามองพวกจวินอู๋เสีย
“เจ้าคนใหม่ ข้าคือวิญญาณที่รับผิดชอบเขตนี้ ตามข้ามา ข้าจะจัดหาที่อยู่ให้พวกเจ้า” สัตว์อสูรตัวนั้นไม่ถามคำถามใดๆ มันนำพวกเขาเข้าไปในป่าอย่างง่ายดายและจัดหาที่พักให้พวกเขา
โลกวิญญาณสามารถรองรับสมาชิกที่สามารถมาที่นี่ได้มาก ส่วนวิญญาณจะมาได้หรือไม่นั้นก็เป็นบททดสอบของวิญญาณเหล่านั้นเอง
ตอนที่ 1968 วิญญาณใหม่ (2)
สัตว์อสูรขนาดมหึมาก้าวอย่างช้าๆ ขณะนำพวกจวินอู๋เสียเดินเข้าไปในป่า ภายในป่าทึบสามารถพบเห็นบ้านต้นไม้ขนาดต่างๆกัน รูปทรงของบ้านพวกนั้นมีหลากหลายแบบ บางหลังมีโคมไฟสีส้มส่องสว่างที่ด้านบน แต่แทนที่จะบอกว่าเป็นโคมไฟ มันเหมือนบอลไฟวิญญาณมากกว่า
“พวกเจ้าอยู่ห้องพวกนี้ได้ จำไว้ว่าพอเข้าไปในห้องแล้ว เปิดกล่องไฟวิญญาณด้วย” สัตว์อสูรตัวนั้นพูดงึมงำ การขยับตัวเชื่องช้า น้ำเสียงเฉื่อยชา และไม่มีคำแนะนำอื่นใดอีก
ในตอนนี้เอง พวกจวินอู๋เสียก็สังเกตเห็นว่าที่พักของพวกเขาไม่มีแสงไฟสีส้มจุดไว้เลย นี่คงเป็นวิธีแยกแยะว่าบ้านหลังไหนมีเจ้าของแล้วจากการดูที่แสงไฟวิญญาณพวกนี้
จวินอู๋มองดูบ้านที่เล็กมากๆพวกนั้น นางเลือกบ้านเล็กๆหลังหนึ่ง จากนั้นก็เดินเข้าไปข้างใน พอเปิดประตู นางก็ถึงกับตะลึง
จากด้านนอก บ้านหลังเล็กนั้นดูเหมือนจะมีพื้นที่อย่างมากก็ประมาณ 20 ตารางเมตร แต่พอเปิดประตูเข้าไป พื้นที่ภายในกลับแตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง ห้องกว้างขวางใหญ่โตมาก มองแวบแรกอย่างน้อยคงมีพื้นที่ประมาณ 100 ตารางเมตร จวินอู๋เสียกระพริบตาและถอยกลับออกไปมองด้านนอกของบ้านต้นไม้อีกครั้ง
มันก็แค่บ้านหลังเล็กๆเอง……
จวินอู๋เสียไม่เข้าใจว่าบ้านเล็กๆที่กินพื้นที่ด้านนอกแค่น้อยนิดกลายเป็นพื้นที่กว้างขวางขนาดนี้เมื่อเดินเข้าไปได้อย่างไร……
“พื้นที่ภายในโลกวิญญาณสามารถขยายออกไปได้” เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นด้านหลังจวินอู๋เสีย
จวินอู๋เสียหันหน้าไปมองจวินอู๋เหยาที่มายืนอยู่ข้างๆนางตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ พร้อมกับแสดงสีหน้าสงสัย
รอยยิ้มบางประดับอยู่ที่ริมฝีปากของจวินอู๋เหยา เขาโอบไหล่จวินอู๋เสียพาเดินไปที่ห้องนอน ในบ้านต้นไม้มีอยู่ 3 ห้อง ห้องนั่งเล่น, ห้องนอน, และพื้นที่ที่คล้ายกับห้องหนังสือ แต่ของตกแต่งภายในเรียบง่ายมาก มีเพียงโต๊ะเก้าอี้ม้านั่งที่ธรรมดาที่สุดกับเตียงขนาดใหญ่หนึ่งเตียง
จวินอู๋เหยาปิดประตู แล้วพูดยิ้มๆว่า “ดูดีๆนะเสี่ยวเสียเอ๋อร์”
ดูอะไร? ก่อนที่จวินอู๋เสียจะเข้าใจว่าจวินอู๋เหยาหมายถึงอะไร เขาก็ยกมือขึ้น แล้วโต๊ะธรรมดาๆในห้องนั่งเล่นก็เปล่งแสงจางๆ จากสัมผัสปลายนิ้วเบาๆของจวินอู๋เหยา โต๊ะไม้กระดำกระด่างนั่นค่อยๆเปลี่ยนไปเป็นโต๊ะหินอ่อนหรูหรา
จวินอู๋เหยายกมือขึ้นเล็กน้อย แล้ววาดมือผ่านเหนือโต๊ะ ทันใดนั้น ผ้าปูโต๊ะที่มีลายปักอันวิจิตรงดงามก็วางอยู่บนโต๊ะอย่างเรียบร้อย พร้อมกับมีชุดถ้วยและเหยือกสีขาวบริสุทธิ์ฝังด้วยทองคำปรากฏขึ้นกลางโต๊ะ
จวินอู๋เสียเบิกตากว้าง ถ้าไม่ได้เห็นด้วยตาตนเอง นางคงไม่เชื่อว่าจวินอู๋เหยาสามารถเสกของออกมาจากอากาศที่ว่างเปล่าได้
“ท่านมีเวทมนตร์หรือ?” สายตาของจวินอู๋เสียที่มองจวินอู๋เหยาไม่ใช่แค่ความตกใจธรรมดาอีกต่อไป
จวินอู๋เหยามองจวินอู๋เสียที่แสดงความเขลาออกมาอย่างหาได้ยาก แล้วหัวเราะออกมาดังๆ เขาบีบแก้มนางอย่างอดใจไม่ไหว แล้วพูดว่า “ถึงข้าจะอยากตอบว่าใช่ แต่ข้าก็ต้องบอกว่าข้าไม่มีเวทมนตร์หรอก เป็นนี่คือหนึ่งในกฎของโลกวิญญาณ”
“หมายความว่ายังไง?” จวินอู๋เสียสับสนเล็กน้อย ทุกสิ่งที่อยู่ในโลกวิญญาณนี่ นางไม่เข้าใจอะไรสักอย่าง
จวินอู๋เหยาอธิบายต่อว่า “ทุกสิ่งที่อยู่ในโลกวิญญาณคือร่างวิญญาณ ร่างวิญญาณโดยตัวมันแล้วก็คือความว่างเปล่า โลกวิญญาณที่อยู่นี่ก็สร้างขึ้นจากความว่างเปล่าด้วยพลังวิญญาณ กล่าวได้ว่า การมีอยู่ของโลกวิญญาณเกิดจากความคิดของจ้าวแห่งโลกวิญญาณ ในโลกวิญญาณ ตราบใดที่เจ้ามีพลังวิญญาณมากพอ ก็สามารถสร้างอะไรก็ได้ตามที่จินตนาการ ที่นี่ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับพลังวิญญาณ อย่างเช่น……” ขณะที่พูด จวินอู๋เหยาก็จับมือเล็กๆของจวินอู๋เสีย โบกมือเบาๆเหนือแขนนาง แล้วทันใดนั้น ช่อดอกไม้อันงดงามก็บานสะพรั่งชูช่อบนแขนของจวินอู๋เสีย
ตอนที่ 1969 วิญญาณใหม่ (3)
“ชอบไหม?” จวินอู๋เหยาถามยิ้มๆ
จวินอู๋เสียอยากเอานิ้วลูบดอกไม้ แต่ปลายนิ้วของนางก็ทะลุผ่านมันไป
“ข้าจะฝึกยังไง?” โดนความไร้ประโยชน์ของร่างวิญญาณตนเล่นงานเข้าอีกรอบ จวินอู๋เสียเงยหน้าขึ้นถามทันที
จวินอู๋เหยาพูดว่า “ตามมา”
จวินอู๋เสียเดินตามไป ที่มุมห้องมีกล่องไม้เล็กๆอยู่หนึ่งกล่อง จวินอู๋เหยากระดิกนิ้ว แล้วกล่องไม้ก็ลอยไปอยู่ในมือของเขา
“นี่คือกล่องไฟวิญญาณ เปิดมัน แล้วมันจะบ่งบอกว่าบ้านหลังนี้มีเจ้าของแล้ว การฝึกขั้นต้นของเจ้าคือการใช้ไฟวิญญาณนี่”
พูดจบ จวินอู๋เหยาก็เปิดกล่องไฟวิญญาณ ภายในกล่องมีเปลวไฟสีส้มลุกโชนอยู่
จวินอู๋เหยาให้จวินอู๋เสียนั่งขัดสมาธิ จากนั้นเขาก็หยิบไฟวิญญาณออกจากกล่อง และค่อยๆวางไว้ในอ้อมแขนของจวินอู๋เสีย
เปลวไฟนั้นลอยอยู่เหนือมือของจวินอู๋เสีย นางเข้าใกล้มันเพียงเล็กน้อยก็รู้สึกได้ถึงความอบอุ่นแปลกๆ ต้องรู้ว่าหลังจากกลายเป็นร่างวิญญาณแล้ว อย่าว่าแต่ร้อนหรือหนาวเลย นางไม่รู้สึกอะไรเลยด้วยซ้ำ แต่ลูกไฟวิญญาณนี้ให้ความรู้สึกที่คุ้นเคยกับนาง
จวินอู๋เหยานั่งบนเก้าอี้ด้านข้าง เอามือเท้าคางมองจวินอู๋เสียและสอนนางถึงวิธีใช้ลูกไฟวิญญาณนั้นขัดเกลาวิญญาณของตัวเอง
ไฟวิญญาณไม่สามารถเผาไหม้อะไรได้ และมีผลกับวิญญาณเท่านั้น
นี่เป็นครั้งแรกที่จวินอู๋เสียเจอกับการฝึกแบบนี้ นางมาที่โลกวิญญาณในฐานะ “วิญญาณใหม่” ตามความหมายอย่างแท้จริง นางไม่รู้อะไรเกี่ยวกับที่นี่เลยสักอย่าง โชคดีที่จวินอู๋เหยาคอยชี้แนะนางอยู่ตลอดขณะที่นางกำลังทำความคุ้นเคยกับทุกอย่างที่นี่
จวินอู๋เสียสงบจิตใจและทำตามคำแนะนำของจวินอู๋เสีย และเริ่มใช้ไฟวิญญาณขัดเกลาวิญญาณของตน
จวินอู๋เหยาเฝ้ามองจวินอู๋เสียอาบแสงไฟวิญญาณขณะอยู่ในสภาวะฝึกฝน แล้วเขาก็อดยิ้มมุมปากไม่ได้
แล้วสายตาของเขาก็ค่อยๆเบนออกไปนอกหน้าต่าง ดวงตาฉายแววเย้ยหยันที่แทบสังเกตไม่เห็น
ในห้องโถงวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของโลกวิญญาณ วิญญาณมนุษย์ที่สวมชุดสีเทายืนอยู่หน้าลูกบอลคริสตัลที่ลอยอยู่กลางอากาศ เขาสวมเสื้อคลุมสีดำและหมวกปีกกว้างขนาดใหญ่ที่ห้อยต่ำปกปิดใบหน้า ทำให้ผู้คนไม่สามารถมองเห็นใบหน้าของเขาได้
มือสองข้างของเขาหมุนวนอยู่รอบลูกบอลคริสตัล แล้วทันใดนั้นลูกบอลคริสตัลก็เกิดรอยแตกเล็กน้อย เสียงแตกทำให้ชายคนนั้นสะดุ้งสุดตัว!
ก่อนที่เขาจะได้ตรวจสอบความผิดปกติของลูกบอลคริสตัล ก็เกิดเสียงระเบิดดังขึ้นพร้อมกับลูกบอลคริสตัลแตกระเบิดทั้งลูก แรงระเบิดที่รุนแรงทำให้ชายคนนั้นล้มลงกับพื้นทันที
“ท่านครู!” วิญญาณหลายดวงที่ยืนเฝ้าอยู่ด้านข้างรีบวิ่งเข้าไปหาชายคนนั้น
ตอนที่ล้มลงบนพื้น หมวกที่สวมอยู่บนศีรษะของชายคนนั้นก็หล่นลงไปด้วย ทำให้เห็นใบหน้าที่เหี่ยวย่นอย่างมาก ใบหน้านั้นมีแต่ความตกใจ ลูกบอลคริสตัลที่เคยสมบูรณ์ บัดนี้แตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยนับไม่ถ้วนกระจายอยู่รอบตัวเขา
“คนผู้นั้นกลับมาแล้ว……คนผู้นั้นกลับมาแล้ว……” เขาไม่สนสภาพที่น่าสังเวชของตัวเองในตอนนี้ และตะเกียกตะกายลุกขึ้นพร้อมกับปัดความช่วยเหลือจากวิญญาณดวงอื่นๆ
“ไปแจ้งท่านจ้าวเร็ว! ข้ามีเรื่องด่วนต้องรายงานเขา!” ชายคนนั้นพูดพร้อมกับกุมหน้าอก แม้ว่าร่างวิญญาณจะไม่มีหัวใจเต้น แต่ความกลัวที่แผ่ขยายอยู่ในอกก็ทำให้เขาเย็นยะเยือกไปทั้งตัว ชายคนนั้นมองเศษคริสตัลที่กระจายอยู่บนพื้น ดวงตาฉายแววตื่นตระหนกและกังวล